พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม – บทที่ 204 คำเชื้อเชิญของสวีเหมย

บทที่ 204 คำเชื้อเชิญของสวีเหมย

บทที่ 204 คำเชื้อเชิญของสวีเหมย

“ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันสองคนไปอยู่ที่ไหน ชายหญิงเลวร้ายคู่นั้นกล้ามาทำกับคุณชายเหอแบบนี้ ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด หลังจากนี้ถ้าฉันไปเจอพวกมันที่ไหน ฉันจะด่าให้ยับแน่นอนเลยค่ะ คุณชายเหอคุณใจเย็นลงก่อนเถอะนะ!”

โกจิ้งรีบแสดงความจริงใจของตัวเองออกไปทันที เหอเหรินเจ๋จึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย

“เมื่อคืนยังมีเหตุการณ์ที่คนอื่นไม่รู้อยู่อีกนิดหน่อย ฉันอยากจะคุยกับคุณชายเหอตามลำพังอย่างลับๆ”

หลังจากสวีเหมยพูดจบก็หันไปมองโกจิ้ง โกจิ้งรู้สึกกดดันทันที เธอจึงรีบแสดงตัวตนขึ้นมาต่อหน้าเหอเหรินเจ๋ หรือว่าสวีเหมยคิดที่เขี่ยตนทิ้งไปอย่างนั้นเหรอ?

“มีเรื่องอะไรที่พวกเราฟังไม่ได้เหรอ? คุณพูดมาตรงๆเลยก็ได้ ฉันจะรูดซิปปากเงียบเอาไว้ไม่บอกใคร ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันก็จะไม่เอาไปบอกคนอื่นแน่นอน!”

“ไม่ได้ นี่มันเป็นเรื่องของฉันกับคุณชายเหอ เกี่ยวอะไรกับคุณด้วยไม่ทราบ?”

สวีเหมยส่ายหัว สุดท้ายโกจิ้งก็ถูกไล่ออกมา หลังจากที่โกจิ้งออกไปแล้วสวีเหมยก็รีบบอกเรื่องที่ตัวเองได้ยินมาเมื่อคืนกับเหอเหรินเจ๋ทันที

“ว่าไงนะ?!ที่เธอพูดคือเรื่องจริงเหรอ?!ให้ตายสิ ไอ้หมาสองผัวเมียนี่พวกมันกล้ามาหลอกฉันอย่างนั้นเหรอ? ”

เหอเหรินเจ๋โกรธสุดๆ พอคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกโมโหไม่น้อย!

“คุณชายเหอ พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน ต่อให้คุณทำอะไรให้กับคางเมิ่ง คางเมิ่งก็ไม่สนใจคุณ กลับทั้งรักทั้งหลงไอ้หมอนั่นอยู่ดี ถึงยังไงก็ต้องให้บทเรียนพวกมันนะคะ”

“เธอพูดถูก ฉันจะเอาคืนทั้งหมดที่พวกมันทำกับฉันแน่นอน!”

เหอเหรินเจ๋กัดฟันกรอดๆ“เธอช่วยไปสืบดูให้หน่อย ดูว่าพวกมันจะทำอะไรต่อไป ถ้าเกิดเธอทำสำเร็จ นับจากนี้ไปยศถาบรรดาศักดิ์และความมั่งคั่งร่ำรวยแน่นอนก็จะตกเป็นของเธอแน่นอน!”

พอสวีเหมยรู้ว่าเหอเหรินเจ๋คิดที่จะร่วมมือกับตนเอง จึงพยักหน้าด้วยความดีใจ“คุณชายเหอวางใจได้ ในเมื่อคุณมอบหมายเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของฉันแล้ว ฉันก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ”

ในเวลานี้เองคางเมิ่งค่อยๆตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอลืมตาขึ้นมอง พบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในโรงแรม

เมื่อวานคางเมิ่งหลับเต็มอิ่มมาก

หลังจากที่เธอสวมชุดเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปหาเนี่ยเฟิงที่ห้องติดกัน

“พี่เจ็ด คุณตื่นแล้วเหรอ? จะออกไปกินอาหารเช้าไหม?”

“แน่นอนสิ อากาศดีขนาดนี้ พวกเราต้องออกไปกินอะไรอร่อยๆสักมื้ออยู่แล้ว อีกอย่างเมื่อคืนก็สั่งสอนบทเรียนให้กับเหอเหรินเจ๋ไปแล้ว ฉันรู้สึกสบายจิตสบายใจสุดๆ!เนื่องจากการกระทำที่ฉลาดและมีไหวพริบของนายเมื่อคืน วันนี้ฉันจะเลี้ยงแต่เตี๊ยมนายก็แล้วกัน!”

“ว้าว!พี่เจ็ดใจกว้างจัง ถ้าอย่างนั้นผมจะสั่งอะไรก็ได้เลยใช่ไหม?”

เนี่ยเฟิงยืนฉีกยิ้มกว้างอยู่ข้างๆคางเมิ่ง

คางเมิ่งพยักหน้า“แน่นอนอยู่แล้ว!อยากกินอะไรก็สั่งเลย กินไม่หมดค่อยห่อกลับบ้าน!”

เนี่ยเฟิงเห็นท่าทางแบบนี้ของคางเมิ่ง ก็ยิ้มๆอย่างอดไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นดาราดังคนไหนที่เวลาออกไปกินอาหารแล้วกินไม่หมดต้องห่อกลับบ้านมาก่อนเลยจริงๆ

แต่ว่าสิ่งนี้ของพี่เจ็ดนี่แหละที่น่ารักและน่าดึงดูดที่สุด!

ทั้งสองคนมาถึงร้านแต่เตี๊ยมร้านหนึ่งที่อยู่ละแวกใกล้เคียง ก่อนจะสั่งติ่มซำมาจำนวนหนึ่ง เพิ่งจะลิ้มรสไปได้ไม่นาน คางเมิ่งก็เหลือบไปเห็นว่ามีคนส่งข้อความมาหาเธอ เธอก้มหน้าลงดู ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

คางเมิ่งพิมพ์อยู่สักพักก่อนจะกดส่งกลับไป จากนั้นก็มีข้อความส่งกลับมาอีก

เนี่ยเฟิงเห็นแล้วก็รู้สึกแปลกไม่น้อย จึงเปิดปากถามขึ้น“พี่เจ็ด คุณขมวดคิ้วทำไมกัน?”

“สวีเหมยส่งข้อความมาหาฉันว่าวันนี้มีแผนจะไปทำอะไรไหม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอคิดจะทำอะไรกันแน่ เธออยากที่เชิญพวกเราไปงานประมูล”

คางเมิ่งกัดๆตะเกียบด้วยความกลัดกลุ้มใจ“ฉันไม่รู้ว่าต้องไปดีไหม เพราะกังวลว่าสวีเหมยจะวางแผนอะไรสักอย่าง”

คำพูดกดขี่ข่มเหงที่สวีเหมยพูดออกมาเมื่อคืน คางเมิ่งนึกถึงแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดใจไม่น้อย

“ไม่เป็นไร ถ้ามีคนคิดวางแผนจะมาจัดการคุณ ก็ให้ผมไปช่วยคุณก็ได้แล้วนี่!พาผมไปด้วยก็พอ เธอมีบอกไว้ไหมว่าไปงานประมูลงานไหน?”

เนี่ยเฟิงกระพริบตาหนึ่งที ดูน่าเชื่อถือพึ่งพาได้

“เธอบอกแล้ว ว่าเป็นงานประมูลที่จัดขึ้นที่หอที่หก ดูเหมือนว่างานประมูลนี้จะเกี่ยวข้องกับหินหยกนะ”

คางเมิ่งยังคงลังเล ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปดีไหม

เนี่ยเฟิงได้ยินแล้วก็คิดว่ามันบังเอิญมาก เพราะว่างานประมูลหินหยกที่จัดขึ้นที่หอที่หกนี้ ก็คืองานที่สำนักมังกรที่ได้ทำการซื้ออุตสาหกรรมหงต้าเป่าแล้วเป็นคนจัดขึ้น

ส่วนที่จัดการประมูลหินหยกในครั้งนี้ก็คือหยกหนานเฟิง หยกหนานเฟิงเป็นอุตสาหกรรมที่มีสำนักมังกรเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการ แล้วก็ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมของเนี่ยเฟิงด้วยเช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ ไม่แน่นะอาจจะมีของที่พี่เจ็ดชอบก็ได้ ผมเห็นคอ สองมือแล้วก็หูของพี่เจ็ดยังว่างๆอยู่เลยนะ”

เนี่ยเฟิงพูดพลางชี้ไปที่คอของคางเมิ่ง

“นายจะไปรู้อะไร ที่ฉันไม่สวมเครื่องประดับอะไรก็เพราะว่าเตรียมพร้อมที่สำหรับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หลังจากนี้ต่างหากล่ะ ถ้าต่อไปมีคนมาให้ฉันเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้ ฉันก็จะได้ให้ยืมคอที่ยาวระหงส์นี้ได้น่ะสิ!ได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำแน่นอน!แล้วต่อไปพวกเขาก็จะส่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มาให้ฉันใช้อีกด้วย!”

คางเมิ่งพูดพลางชูคอยาวๆของเธอ เรียกได้ว่าคางเมิ่งงดงามยันปลายนิ้วจริงๆ

คอของเธอราวกับหงส์จริงๆ ทั้งขาวทั้งเรียว แถมยังสวยมากๆอีกต่างหาก

“ฟังดูเท่มากๆเลย แต่ผมรู้สึกว่าคอของพี่เจ็ดไม่เหมือนกับหงส์นะ เหมือนกับคอของเป็ดมากกว่า แบบพวกเป็ดพะโล้น่ะ!แค่เห็นก็อร่อยแล้ว!”

พอเนี่ยเฟิงพูดคำพูดพวกนี้ออกมา สีหน้าของคางเมิ่งก็พังทลายลงทันที จากนั้นคางเมิ่งก็ยกมือขึ้นมา ฟาดลงไปที่เนี่ยเฟิง“พูดพล่ามไร้สาระ!กล้าดียังไงมาพูดให้ร้ายคอของฉัน!”

“พี่เจ็ดหยุดตีได้แล้ว ถ้าขืนตีผมต่อผมได้โง่แน่ๆ ผมสำนึกผิดแล้ว จากนี้ไปผมจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้วครับ!”

เนี่ยเฟิงเอามือกุมหัวด้วยท่าทางน่าสงสาร คางเมิ่งจึงได้เก็บมือกลับมา“เหอะ!ถือว่านายร้องขอความเมตตาเร็วหรอกนะ!ถ้างั้นพวกเราก็ลองไปดูหน่อยแล้วกันว่าที่สวีเหมยเรียกพวกเราไป เธอคิดที่จะทำอะไรกันแน่ จะได้เตรียมรับมือไว้ได้ทุกรูปแบบ ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าเธอจะกล้ารังแกฉันต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้น!”

คางเมิ่งตระหนักได้ถึงอันตราย หลังจากที่เธอกินติ่มซำเสร็จแล้ว ก็กลับไปอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็แต่งหน้าให้ดูสวยงาม ก่อนจะสวมรองเท้าส้นสูง

เนี่ยเฟิงหลุดปากพูดชมออกมาอย่างช่วยไม่ได้“ว้าว!พี่เจ็ด!ชุดนี้ของคุณสวยจริงๆ ราวกับนางฟ้าลงมาเลยนะเนี่ย!”

“แน่นอนอยู่แล้ว!ก็ชุดตัวนี้ของฉันเสียเงินซื้อไปไม่ใช่น้อยๆ!สวมใส่บนตัวของฉันแล้วก็ต้องดูสง่างามแน่นอนอยู่แล้ว!”

พอคางเมิ่งพูดจบ ก็หมุนตัวอย่างช้าๆ จากนั้นเธอก็กดๆหมวกที่สวมอยู่ที่หัวของเธอ“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราไปที่หอที่หกกันเถอะ!”

เนี่ยเฟิงอยู่ขนาบข้างเป็นบอดี้การ์ดให้กับเธอ เปิดร่มให้กับคางเมิ่ง ทั้งสองคนเรียกรถมาถึงยังหอที่หก ที่นี่มีคนมาถึงเต็มไปหมดแล้ว เพราะว่างานประมูลในวันนี้เป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มีของมีค่ามากมายที่จะถูกนำมาประมูล

ข้างในมีของจัดแสดงมากมายที่ถูกวางโชว์อยู่ในตู้กระจก ข้างบนมีป้ายราคาแสดงเอาไว้

เป็นอย่างที่คิดไว้ผู้หญิงไม่สามารถทนต่อความยั่วยวนของของที่ระยิบระยับแวววาวได้ หลังจากที่คางเมิ่งเข้าไปแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองราวกับโผล่มาโลกอีกโลกหนึ่งเลย

เธอถอดแว่นตาดำของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นถึงสองตาที่เปล่งประกาย

“ว้าว!ทำไมถึงไม่มีใครบอกฉันเลยว่าหินหยกพวกนี้ทำออกมาได้สวยงามขนาดนี้?”

คางเมิ่งเข้าไปดูๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

ผมมีพี่สาวเจ็ดคน ทุกคนสวยเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์พี่ใหญ่ชิวมู่เฉิงเป็นประธานหญิงของโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลพี่สองหยูจิงหงเป็นเทพเจ้าหญิงแห่งสงครามพี่สามหลินซูอินเป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมที่สวยที่สุดพี่สี่หมิงอี๋หานเป็นหมอที่สวยที่สุดพี่ห้าโจวลี่ซือเป็นแอร์โฮสเตสที่สวยที่สุดพี่หกเย่หรูเสว่เป็นตำรวจสาวที่สวยที่สุดพี่เจ็ดคังเมิ่งเป็นดาวโรงเรียน ยังเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังด้วยผมชื่อเนี่ยเฟิง ตอนนี้เป็นหัวหน้าของสำนักมังกร มีฉายาว่าเทพราชามังกร!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท