คางเมิ่งกับเย่หรูเสว่หลายคนอยากรู้อยากเห็นมากๆ ดังนั้นซุกเข้าไปใกล้สักหน่อย ผลสุดท้ายไม่ทันตั้งตัวถูกฝุ่นละอองพุ่งใส่เต็มหน้า
พวกเธอไอขึ้นมาอย่างรุนแรง “คุณตากล่องหลายใบนี้ของท่านล้วนวางไว้นานมากขนาดไหนแล้วล่ะ? ข้างในถึงขนาดมีฝุ่นมากมายขนาดนั้น!”
คุณตาฝุ่นเต็มใบหน้า ในตอนนี้ฝุ่นเต็มใบหน้าของเขาดูแล้วตลกขบขันเป็นพิเศษ
หลินซูอินเห็นลักษณะท่าทีคุณตายังมีน้องสาวหลายคนเป็นแบบนี้ อดไม่ไหวที่จะหัวเราะแล้วหัวเราะอีก เพียงเห็นเธอหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาหลายผืนส่งเข้าไป “เช็ดหน้าของพวกคุณสักหน่อยก่อนเถอะ คงยังต้องให้อาจารย์อย่างฉันคนนี้มาจัดระเบียบหนังสือเหล่านี้ออกมาเถอะ หนังสือเหล่านี้ถ้าหากวางไว้นานเกินไปแล้ว กระดาษจะยุ่ยเป็นพิเศษ”
คางเมิ่งรับผ้าเช็ดหน้ามา เช็ดใบหน้าที่เปรอะเปื้อนของตัวเธอเอง พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างรีบเร่งมาก
“พูดขึ้นมาแล้วกล่องหลายใบนี้ตอนเด็กๆฉันเคยเห็นมาก่อนแล้ว คุณตาเก็บไว้จนถึงปัจจุบันนี้โดยตลอดเลยเชียวเหรอ?”
ความจำของชิวมู่เฉิงดีมากมาโดยตลอด เห็นกล่องหลายใบนี้ เธอก็เลยนึกถึงเรื่องเมื่อก่อน
“เป็นอย่างที่คิดไว้มู่เฉิงจำได้ชัดเจนกว่าจริงๆ เป็นเช่นนี้จริงๆ ผมเก็บกล่องหลายใบนี้ไว้โดยตลอด ก็คืออยากจะรอพวกแกเติบโตแล้ว จะได้สานต่อหนังสือเคล็ดลับวิชาเหล่านี้ล่ะ!”
หยูจิงหงรู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้เล็กน้อย ในใจคิดอยู่ว่าตอนนี้ล้วนเป็นยุคสมัยอะไรแล้ว ถึงขนาดยังมีหนังสือเคล็ดลับวิชาแบบนี้อยู่
แต่ว่าพวกเธอก็ทำลายความกระตือรือร้นของคุณตาไม่ได้เช่นกันล่ะ ยากที่คุณตาจะลงจากภูเขาสักที ตั้งใจย้ายกล่องหลายอันนี้มา ก็เพื่อพวกเขา
ตอนเนี่ยเฟิงเด็กๆก็เคยเห็นกล่องหลายใบนี้มาก่อนเช่นกัน ยามปกติล้วนวางอยู่ในชั้นลอยบนบ้าน ตอนที่เขาดื้อขึ้นไปที่ชั้นลอยบนบ้าน ก็ได้เห็นกล่องหลายใบนี้ เขายังเคยเปิดออกมาดู หลังจากพบเห็นว่าข้างในล้วนเป็นหนังสือที่อ่านไม่ออกเขาก็เลยทิ้งไปไว้ข้างๆอีก
“คุณตาหนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือเคล็ดลับวิชาจริงๆเหรอ?”
ฝีมือการรักษาโรคของเนี่ยเฟิงยังมีฝีมือการต่อสู้ ล้วนเรียนรู้มาจากคุณตา ในเวลานั้นคุณตาร่างกายแข็งแรงมาก อีกทั้งยังกระปรี้กระเปร่า ตอนนี้แม้ว่าก็ยังใช้ได้ แต่ถึงยังไงเวลาก็ไม่เกรงใจคน
“ผมยังจะหลอกพวกแกได้เหรอ ผมบอกกับพวกแก รวบรวมหนังสือเคล็ดลับวิชาเหล่านี้ล้วนไม่รู้ว่าใช้เวลาของผมไปมากขนาดไหน! นี่ก็ได้รับประโยชน์จากที่ผมเป็นสมาชิกของสมาคมพันธมิตรบู๊ลิ้ม จึงสามารถรวบรวมมาได้ล่ะ!”
คุณตาโอหังเหลือเกินเชิดคางแล้วเชิดคางอีก จากนั้นคลำหาบุหรี่ห่อหนึ่งออกมาจากกระเป๋า จุดไปม้วนหนึ่งอย่างสั่นระริก ปล่อยควันออกมาวงหนึ่งอย่างพอใจมาก
ผลสุดท้ายบุหรี่ม้วนนี้ยังสูบไม่ถึงสองครั้ง ก็ถูกหมิงอี๋หานเอาไปเลย “ตาเฒ่าน้อย ท่านล้วนอายุป่านนี้แล้ว ก็อย่าสูบบุหรี่อีกเลย ระมัดระวังจะอายุสั้น”
“แฮ่! หลานสี่ แกไอ้คนนี้ทำไมคำพูดตั้งแต่เด็กจนโตล้วนไม่น่าฟังขนาดนั้นล่ะ? คุณตาแกก็รักคำนี้ล่ะ!” คุณตาเหลือบมองหมิงอี๋หานหนึ่งทีอย่างโหดร้าย แต่มองออกได้ว่า เขามีความหวาดกลัวเล็กน้อยนะ
ในเวลานี้หลินซูอินจัดการชุดหนังสือโบราณเหล่านั้นออกจากกล่องหมดแล้ว หนังสือเหล่านี้ ตัวหนังสือบางส่วนกระทั่งยังเป็นอักษรจารึกบนกระดูกสัตว์ ดูแล้วเข้าใจยากมากๆ
“มองออกได้ว่า หนังสือเหล่านี้มีอายุมากแล้ว หน้ากระดาษล้วนเป็นสีเหลืองแล้วล่ะ”
ตอนแรกหลินซูอินยังคิดว่าคุณตาพูดล้อเล่นอยู่ แต่ยิ่งจัดเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ
“นี่แน่นอนอยู่แล้ว!”
คุณตาส่ายก้นไปมาเดินเข้าไป หยิบหนังสือหลายเล่มขึ้นมาเปิดอ่านหนึ่งที จากนั้นเขาเอาหนังสือหลายเล่มนี้ยัดไปให้เนี่ยเฟิง “หนังสือที่อยู่นี่ให้ผู้หญิงทำการฝึกฝนน้อยกว่า แต่ว่ายังมีบางส่วน ผมครุ่นคิดอยู่ว่าพวกแกอ่านหนังสือไม่กี่เล่มในนั้นฝึกฝนสักหน่อยก็พแล้ว! ไอ้หนู หลายเล่มนี้แกก็ได้รับผลประโยชน์แล้ว!”
เนี่ยเฟิงรับหนังสือหลายเล่มนี้ไว้ เปิดอ่านสักพัก จากนั้นค่อยเบิกตาโพลง หลายปีที่ผ่านมานี้เนี่ยเฟิงยากลำบากอยู่ข้างนอกนานมาก วิชาการต่อสู้,วิชามวย,วิชาขาต่างๆที่เคยเรียนมา สามารถพูดได้ว่ามากมายหลากหลาย มากจนนับไม่ถ้วน อีกทั้งเป็นเพราะรูปแบบงานของเขาสลับซับซ้อน ดังนั้นเคยพบเจอยอดฝีมือมากมายมาก่อน
ความสามารถในการเรียนรู้ของเขาแข็งแกร่งมากๆ ยอดฝีมือที่เขาเคยประมือกันเหล่านั้น โดยพื้นฐานเนี่ยเฟิงล้วนจะจดจำท่วงท่าของพวกเขาไว้ในใจ หลังจากทำให้ฝ่ายตรงข้ามพ่ายแพ้ เขาก็จะวิเคราะห์หยิบเอาส่วนที่มีค่าที่สุดในท่วงท่าเหล่านี้
ถึงแม้ว่าเป็นเช่นนี้ เขาเห็นหนังสือกี่เล่มนี้ล้วนอดไม่ได้ที่จะกำกำปั้นอย่างแน่น
“คุณตา หนังสือเหล่านี้ท่านได้มาจากที่ไหนล่ะ?”
คุณตาได้ยินเนี่ยเฟิงถามเขาเช่นนี้ เขาเกิดความปีติยินดีอย่างภาคภูมิใจพูดว่า “ตอนนี้รู้จักความร้ายกาจแล้วใช่ไหม? แกก็ไม่ต้องสนใจว่าผมจะใช้วิธีการยังไงที่ได้รับหนังสือเคล็ดลับวิชาเหล่านี้มา สรุปแล้วผมมีของดีย่อมจะไม่ลืมพวกแกอยู่แล้ว พวกแกเอาแต่หยิบไปทำการฝึกฝนก็พอแล้ว”
ตาเฒ่าสงบจิตสงบใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งหนึ่งที
“อะไรนะ! ฉันอ่านไม่ออกเลยสักนิด! คุณตา หนังสือเหล่านี้ของท่านเขียนอย่างระเกะระกะนะ ฉันอ่านจนเจ็บตา!”
คางเมิ่งเบ้ปากแล้วเบ้ปากอีกแต่ก็โทษเธอไม่ได้ เพราะว่าบางคนมีความสามารถพิเศษทางด้านการฝึกฝน มีบางคนไม่มีพรสวรรค์ไม่สามารถทำการฝึกฝนได้
คนที่ได้รู้สึกตื่นตะลึงเหมือนกันยังมีหยูจิงหง หมิงอี๋หานกับเย่หรูเสว่ หลังจากพวกเธอเห็นหนังสือเหล่านี้ก็ตกใจเหลือเกินเช่นกัน
“ถ้าหากจะทำการฝึกฝนจริงๆล่ะก็ อย่างนั้นหนังสือเคล็ดลับวิชาเหล่านี้จะช่วยพวกเราอีกแรงหนึ่ง”
หยูจิงหงก็ได้ใช้เวลาทำการฝึกฝนมานานขนาดนั้นแล้ว เธอย่อมเข้าใจหลักการในนั้นอยู่แล้ว
“คงยังเป็นหลานรองสมองหมุนเร็วกว่า ไม่เหมือนเด็กน้อยบางคน โง่เกินไปแล้วจริงๆ”
คุณตาพูดอยู่ขยิบตาแล้วขยิบตาอีกกับคางเมิ่ง ทันใดนั้นคางเมิ่งก็ร้อนใจเลย “คุณตาว่าฉันอย่างนี้ได้ยังไงเหรอ? ฉันอ่านไม่ออกจริงๆล่ะ! เห็นสิ่งที่เขียนอยู่ข้างในนี้ระเกะระกะนะ! ฮึ! พี่สี่ เล่มของคุณเล่มนั้นสาบานว่าเข้าใจง่ายหน่อยใช่หรือไม่ เอามาให้ฉันดูสิ!”
หลังจากคางเมิ่งพูดจบยื่นมือแย่งหนังสือเล่มนั้นมา แต่ว่าเธออ่านอย่างละเอียดสักหน่อยก็รู้สึกอ่านไม่ออกเลยสักนิด……
คางเมิ่งเบ้ปากแล้วเบ้ปากอีก “สิ่งที่เขียนอยู่ข้างในนี้ก็คือคัมภีร์สวรรค์มั้ง?”
การกระทำเหล่านี้ของคางเมิ่งทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดังลั่น เธอก็เข้าใจว่าตนเองไม่มีความสามารถด้านการฝึกฝนจริงๆ เธอได้แต่เบ้ปากแล้วเบ้ปากอีก คืนหนังสือหลายเล่มนั้นกลับไปเลย
“เสี่ยวเฟิง แกไปเลือกอีกสักหน่อย ดูหนังสือเหล่านี้สักหน่อยว่าเหมาะสมกับแกไหม แกเอาแต่หยิบไปก็พอแล้ว!”
คุณตาใจกว้างเหลือเกินยกมือแล้วยกมืออีก และในเวลานี้เนี่ยเฟิงเปิดอ่านหนังสือไปหลายเล่มแล้ว จะจำเนื้อหาเหล่านี้ไว้ง่ายมากแต่จะเกิดความเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งหมดไม่ใช่เรื่องง่ายเรื่องหนึ่งเลย อีกทั้งข้างในนี้ยังมีท่วงท่าและหมายเหตุที่คลุมเครือเข้าใจได้ยากมากมาย
“ผมไม่ต้องเอาไป ตอนนี้ผมจำเนื้อหาของหนังสือเหล่านี้ไว้แล้ว”
พอคำพูดนี้ของเนี่ยเฟิงพูดออกมา คนทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง
“เสี่ยวเฟิง แกจำไว้แล้วจริงๆหรือ ฉันไม่เชื่อ! หนังสือมากมายขนาดนั้น แกอ่านรอบเดียวแกก็สามารถจำไว้ได้เหรอ?”
คางเมิ่งรีบส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก ไม่ค่อยเชื่อว่าเนี่ยเฟิงมีฝีมือเช่นนี้จริงๆ
“นี่แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าหากคุณไม่เชื่อ คุณสามารถพิจารณาสอบผมได้” เนี่ยเฟิงมั่นใจในตนเองอย่างมากส่งหนังสือที่ได้อ่านมาแล้วไปให้
คางเมิ่งรับมาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพียงเห็นเธอเปิดไปเล่มหนึ่งอย่างตามใจ “งั้นแกลองบอกเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ดูสิ!”
หลังจากเนี่ยเฟิงได้เห็นชื่อหนังสือเล่มนี้ เริ่มท่องเนื้อหาที่อยู่ในหนังสือนี้ “ข้างในนี้ยังมีรูปภาพอธิบายมากมาย พูดไม่ออก แต่ผมสามารถวาดให้คุณดูได้”
หลังจากเขาพูดจบหยิบปากกากับกระดาษขึ้นมา ขีดไปขีดมาหลายที วาดภาพออกมาหลายภาพ เป็นอย่างที่คิดไว้เหมือนกันทุกอย่างจริงๆ!
“เยี่ยมมาก! ความจำของแกนี้ลึกล้ำนะ! สมองใช้ได้ดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”