เดิมทีเนี่ยเฟิงไม่คิดที่จะยุ่งเรื่องเหล่านี้เลย แต่ถึงยังไงบนกายของพานฉางอันก็รินหลั่งเลือดของหวาเซี่ยอยู่ ถึงแม้ว่าหลี่สิ้นที่รังแกคนคนนั้นก็เป็นชาวหวาเซี่ยเช่นกัน แต่ว่าเนี่ยเฟิงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เพื่อนร่วมชาติถูกรังแกอยู่ในต่างแคว้นแดนไกล
“ถ้าหากคุณอยากจะติดตามผม งั้นก็ตามใจคุณเถอะ แต่ว่าการฝึกฝนกังฟูกลับไม่ได้เป็นเรื่องง่ายดายขนาดนั้นนะ”
ในสมองของพานฉางอันวนเวียนกับรูปร่างลักษณะอย่างหล่อที่ท่าเดียวปราบศัตรูอยู่หมัดของเนี่ยเฟิงอยู่ ในใจคิดอยู่ว่าถ้าตนเองสามารถฝึกฝนจนถึงระดับนี้ งั้นก็ไม่ต้องหวาดกลัวแล้ว คนที่รังแกเขาทั้งหมดเขาล้วนสามารถโต้ตอบคืนได้!
พานฉางอันอยู่ในโรงเรียนจะอยู่ช่วงล่างของโซ่อาหาร ไม่ว่าชายหญิงเพียงแค่มีอำนาจอิทธิพลสูงกว่าพานฉางอัน ล้วนสามารถรังแกเขาได้ และทั้งเพราะว่าเขาไม่ยินยอมคบหากันกับคนอื่น ทั้งไม่สามารถคบหากันกับคนอื่นอีกด้วย ดังนั้นมักจะถูกรังแก
พานฉางอันย่อมรู้ว่านี่หมายความว่าอะไรอยู่ ถ้าหากเนี่ยเฟิงยอมช่วยเหลือตนเองล่ะก็ งั้นวันหลังเขาก็ไม่ต้องดูสีหน้าของคนอื่นอีกต่อไป พานฉางอันกำกำปั้นอย่างแน่นอย่างรีบเร่งมากพูดว่า “พี่เฟิงผมอยากฝึกจริงๆ! ถ้าหากคุณช่วยผมล่ะก็ วันหลังไม่ว่าคุณเรียกผมทำอะไรผมล้วนจะไปทำให้!”
เนี่ยเฟิงเห็นพานฉางอันที่มีรูปร่างลักษณะจริงจังเต็มใบหน้า ก็เลยนึกถึงแต่ก่อนที่ตนเองระเหเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศลักษณะท่าทีที่ถูกคนรังแกแบบนั้น ดูเหมือนสถานการณ์ก็ไม่ต่างกันกับพานฉางอันที่อยู่ต่อหน้านี้เช่นกัน เพียงแค่พานฉางอันมีความสุขมากกว่าเขาเยอะเลย
สำหรับเนี่ยเฟิงมากล่าว นี่เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งถ้าหากพานฉางอันอยู่ล่ะก็ สิ่งของที่อยู่ในหอพักของเขาก็จะไม่มีคนกล้าไปเตะต้องอีก
“คนอย่างผมคนนี้ไม่ชอบมีคนมาเตะต้องสิ่งของของผม อย่างนี้เถอะ ถ้าหากคุณช่วยผมเฝ้าดูห้องไม่ให้คนอื่นเข้าไป งั้นผมก็รับคุณเป็นลูกศิษย์ เป็นยังไงล่ะ?”
ยังมีเรื่องดีอย่างนี้เหรอ พานฉางอันพยักหน้าเช่นดั่งตำกระเทียม!
“ได้ได้ได้! พี่เฟิง! ผมยินดี! พี่เฟิงผมก็พักอยู่ฝั่งตรงข้ามของคุณ เพียงแค่ไม่มีวิชาเรียนผมล้วนจะช่วยคุณจับตาดูห้องพักของคุณไว้! ไม่ให้คนเข้าไป! ไม่ใช่! แม้แต่เข้าเรียนผมก็ไม่ไปแล้ว ผมจะช่วยคุณเฝ้าไว้โดยตรง ถ้าหากมีคนกล้าเข้าไปผมก็ขวางอยู่ต่อหน้าพวกเขา กล่าวเตือนพวกเขา!”
พานฉางอันตื่นเต้นเหลือเกิน ประเด็นหลักคือเนี่ยเฟิงร้ายกาจมากเกินไปแล้วจริงๆ ถ้าหากเนี่ยเฟิงยินดีสั่งสอนตนเอง พานฉางอันรู้สึกวันหลังเขาก็จะกลายเป็นบุคคลที่ร้ายกาจเช่นนี้เช่นกัน
หลังจากเนี่ยเฟิงได้รับลูกน้องอย่างนี้ ก็เลยก้มหัวกินต่อ ก็อยู่ที่ทั้งสองคนเพิ่งกินข้าวเสร็จ คนกลุ่มหนึ่งที่มโหฬารพันลึกมายังทิศทางของร้านอาหาร บนกายพวกเขาล้วนสวมใส่ชุดเทควันโด พอเห็นก็รู้ว่าแส่หาเรื่องไม่ง่าย
ส่วนหลี่สิ้นคนกลุ่มนั้นเหน็บอยู่ตรงกลางพวกเขา
“พี่หวางก็อยู่ข้างหน้า ผมไม่ได้ล้อเล่นจริงๆ พวกเขาไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตา ยังพูดว่าพวกเราเป็นหมู! ผมไปสืบมาก่อนแล้วไอ้คนนั้นก็คือนักศึกษาที่ย้ายมาใหม่คนหนึ่ง! วันนี้เพิ่งย้ายมาที่นี่ พี่ใหญ่ของบ้านเราให้พวกเราไปเอาห้องนั้น เพราะว่าที่ตั้งของห้องนั้นดีแสงสว่างก็ไม่เลว ผู้หญิงของพี่ใหญ่เราชอบ!”
หลี่สิ้นพูดน้ำไหลไฟดับอธิบายอยู่ข้างๆ
“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระเหล่านี้กับผม คุณก็พูดตามตรงกับผม เขาพูดว่าพวกเราล้วนเป็นหมูใช่หรือไม่?”
หลี่สิ้นพูดโกหกอย่างกำเริบเสิบสาน “นี่แน่นอนอยู่แล้ว ผมจะเอาเรื่องอย่างนี้มาโกหกคุณได้ยังไงล่ะ?!”
ตามความจริง เนี่ยเฟิงช่างไม่ได้พูดอะไรเลยจริงๆ เพราะว่าเอาชนะพวกเขาสำหรับหรับพวกเขามากล่าวก็เป็นการส่อเสียดที่ใหญ่ที่สุดแล้ว
พี่หวางพวกเขาอยู่ที่นี่ก็เป็นนักศึกษาปีที่สามแล้ว และสถานะของพี่หวางพิเศษเหลือเกิน เขาสังกัดอยู่ทหารพันธมิตร ตอนนี้ไปมาระหว่างพันธมิตรกับโรงเรียนทั้งสอง โรงเรียนสงวนสถานะการเป็นนักศึกษาเอาไว้ให้เขา ปัจจุบันนี้เขาลาพักกลับมาถึงโรงเรียนพอดี นำพารุ่นน้องของตนเองและชมรมเทควันโดแห่งนี้ก็เป็นพี่หวางพวกเขาก่อตั้งขึ้นพอดี
รอสี่ปีผ่านไป ถึงแม้ว่าพี่หวางไม่ต้องเข้าสอบ ก็สามารถได้รับประกาศนียบัตรของโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์เช่นกัน
เป็นเพราะว่าพี่หวางสังกัดอยู่ทหารพันธมิตรนั่นเอง ดังนั้นมีคนมากมายล้วนอยากเข้าร่วมชมรมเทควันโด ประเด็นหลักคือถ้าได้เกี่ยวพันกับพี่หวางพวกเขา งั้นวันหลังชีวิตที่ดีๆเป็นไปไม่ได้ที่จะน้อย
หลี่สิ้นพวกเขาก็เข้าร่วมชมรมเทควันโดเช่นกัน เพียงแค่กังฟูนิดๆหน่อยๆและท่าทีที่ทำไม่เสมอต้นเสมอปลายของหลี่สิ้นไอ้คนนี้ ทำให้พี่หวางรู้สึกไม่พอใจมาก ถ้าหากหลี่สิ้นไม่ได้เป็นลูกน้องของไอ้คนนั้น พี่หวางจะไม่ไปสนใจเขาล่ะ
และครั้งนี้หลี่สิ้นโซซัดโซเซวิ่งมาที่ชมรมเทควันโดของตนเอง บอกกับพวกเขาว่ามีไอ้หนุ่มของหวาเซี่ยคนหนึ่งมาโอหังมากๆหัวเราะเยาะพวกเขาคนกลุ่มนี้ว่าล้วนเป็นสุนัขรับใช้ล้วนเป็นหมูอยู่ พี่หวางที่ไหนจะกลืนความแค้นนี้ลงได้ล่ะ ทันใดนั้นก็เข้ามาฆ่าพร้อมหลี่สิ้น
พี่หวางสมดั่งเป็นคนของทหารพันธมิตร เขารูปร่างใหญ่ล่ำ กล้ามเนื้อทั้งตัวคนอื่นเห็นแล้วล้วนหวาดกลัว ถึงแม้ว่ารูปร่างนี้ห่อหุ้มอยู่ภายใต้ชุดเทควันโดแต่ก็สามารถทำให้คนรู้สึกถึงกล้ามเนื้อเจริญเติบโตได้เช่นกัน
คนอื่นว่าพวกเขาอย่างนี้ เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะปล่อยไอ้คนที่พูดสุ่มสี่สุ่มห้านั่นไปได้ล่ะ เพียงเห็นพวกเขาคนของชมรมเทควันโดมายังร้านอาหารเป็นกลุ่มที่มโหฬารพันลึกช่างเป็นภูมิทัศน์ที่ตระหง่าน!
โรงอาหารในโรงเรียนผู้ดี ตามความจริงก็เป็นร้านอาหารระดับไฮเอนด์เป็นร้านๆ เพียงเห็นพวกเขาเข้าไปหาทีละร้านๆ
และในเวลานี้เนี่ยเฟิงกับพานฉางอันทั้งสองคนล้วนกินข้าวเสร็จแล้ว พานฉางอันตอนนี้กลายเป็นลูกศิษย์ครึ่งหนึ่งของเนี่ยเฟิง เขารีบเข้าไปจ่ายเงิน
ด้วยสภาพครอบครัวของเนี่ยเฟิง เงินเล็กน้อยนี้สำหรับเขามากล่าวไม่ถือว่าอะไร เพียงแค่พานฉางอันเพื่อจะเอาใจเขาไปจ่ายเงินก่อนแล้ว เนี่ยเฟิงก็ไม่ได้ไปแย่งเช่นกัน ตามใจพานฉางอันไป
พานฉางอันเห็นเนี่ยเฟิงไม่ปฏิเสธ ก็รู้ว่าเนี่ยเฟิงอาจจะยอมรับตนเองแล้ว ดังนั้นพานฉางอันคล้อยตามทุกอย่างติดตามอยู่ข้างกายเนี่ยเฟิง พูดน้ำไหลไฟดับแนะนำ ภูมิภาคที่ตั้งของโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์อยู่
“ช้าสักหน่อยผมค่อยก๊อบปี้แบบแปลนชั้นสักชุดเอาเข้ามาให้กับพี่เฟิงดูสักหน่อย! ถ้าหากพี่เฟิงไม่รังเกียจล่ะก็ งั้นผมก็จะพาคุณไปเยี่ยมชมๆสภาพแวดล้อมของโรงเรียนฝั่งนี้ คุณรู้สึกยังไงล่ะ?”
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงกลับไม่ได้พูดอะไรมาก ตามความจริงเนี่ยเฟิงรู้จักสภาพแวดล้อมภูมิภาคของที่นี่แล้ว ประเด็นหลักคือตอนที่ปฏิบัติภารกิจ เขาสำรวจมาก่อนแล้ว
“ตามใจคุณ” เนี่ยเฟิงไม่ได้ปฏิเสธพานฉางอันอย่างชัดเจนประเด็นหลักคือไอ้คนนี้น่ารำคาญมากเกินไปแล้ว ไม่ให้งานเขาทำสักหน่อย คาดว่าเขาจะพัวพันตนเองอยู่ตลอดเวลา หลังจากพานฉางอันได้ยินบนใบหน้าเปล่งรอยยิ้มที่เบิกบานหนึ่งที แต่รอยยิ้มนี้ไม่นานก็แข็งตัวอยู่บนใบหน้าของพานฉางอันแล้ว
พานฉางอันเห็นคนเดินขวักไขว่อยู่ข้างนอก เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายหนึ่งที เห็นชุดที่ใส่อยู่บนกายคนเหล่านี้เป็นชุดชมรมเทควันโด พานฉางอันยิ่งหวาดกลัวจนสั่นระริก เหมือนเช่นดั่งร่อนข้าว
อยู่ในโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ทองคำ มีวิทยาเขตมากมาย
และวิทยาเขตที่หลายแบบหลายอย่างเหล่านี้ ยึดครองทุกมุมของโรงเรียน
คนที่สามารถก่อตั้งวิทยาเขตขึ้นมาล้วนเป็นคนที่มีอำนาจมีอิทธิพล คนที่ไม่มีอำนาจได้เพียงแต่คิดอยู่ว่าจะเข้าร่วมวิทยาเขตได้ยังไง
ในตอนต้นพานฉางอันก็เคยคิดที่จะเข้าร่วมชมรมเทควันโดเช่นกัน งั้นเป็นเพราะว่าประธานของชมรมเทควันโดเป็นคนของทหารพันธมิตร
ถ้าหากสามารถผูกสัมพันธ์กับคนของทหารพันธมิตรได้ งั้นสำหรับกิจการของบิดาพานฉางอันมากล่าว ก็มีผลประโยชน์เช่นกัน แต่น่าเสียดายร่างกายพานฉางอันอ้วนท้วน ไปถึงชมรมเทควันโดถูกหัวเราะเยาะจนเสียหน้าไปหมดโดยตรง สุดท้ายเขาได้แต่ออกไปอย่างเศร้าหมองเลย