dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน – Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – บทที่ 338

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 338

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – ตอนที่ 338
DC บทที่ 338: แขกที่ไม่คาดหมายในโรงประมูล

หลังจากที่ซูหยางตบหวังชิชงแล้ว คนที่ติดตามหวังชิชงต่างพากันร่ำร้องด้วยความหวาดหวั่น

“จ-เจ้ากำลังหาที่ตาย ผู้นำตระกูลหวังต้องกำลังดูการกระทำของเจ้าเมื่อกี้จากห้องวีไอพีแน่ แค่ว่าเมื่อไหร่ก่อนที่เขาจะมาถึง”

พวกเขาชี้ไปที่แถบกระจกสีดำเหนือพวกเขาบนผนังที่ล้อมห้องซึ่งคนที่อยู่ด้านในสามารถเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องธรรมดาได้

ในเวลานั้นในห้องวีไอพี ชายวัยกลางคนได้กำมือเป็นหมัดแน่นขณะที่สายตาของเขาจ้องเขม็งไปที่หน้าของซูหยาง

“จ-เจ้าเลวนั่นช่างกล้าตบตีลูกข้า” เขาพึมพัมขณะที่กัดฟันด้วยความโกรธ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้นำตระกูลหวัง เจ้าจะทำอะไรกับเด็กนั่นรึ เขาตบหน้าตระกูลหวังของเจ้าโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย”

แขกวีไอพีคนอื่นในห้องเริ่มยุแหย่เขาให้ลงโทษซูหยาง

“ข้ามิจำเป็นต้องให้เจ้าเตือนหรอก” หวังเชิน ผู้นำตระกูลหวังและเป็นพ่อของหวังชิชงแค่นเสียงเย็นชา “แต่ข้ามิทำอะไรในตอนนี้ เขาสามารถตบได้สำเร็จเพราะว่าลูกข้ามิได้ระวัง ตอนนี้เมื่อเขาตบหน้าชิชง ลูกข้าย่อมจักจัดการกับเจ้าเด็กนั่นด้วยตนเอง”

ขณะที่เขาพูดคำพูดเหล่านั้น ก็เห็นว่าหวังชิชงลุกขึ้นจากพื้น

“เจ้าลูกสำส่อน เจ้ากล้าตบหน้าข้าได้อย่างไร ข้าจักถลกหนังเจ้าทั้งเป็นต่อให้เจ้าเป็นเพื่อนของหวังหมิง”

หวังชิชงคำรามลั่นขณะที่เขานำเอากระบี่ที่เปล่งกลิ่นอายของสมบัติระดับปฐพีออกมาจากแหวนมิติ

“เจ้าต้องการฆ่าข้ารึ หรือเจ้าลืมไปว่าพวกเราอยู่ที่ไหนกัน หากว่าเจ้าลืมไปก็ให้ข้าเตือนเจ้าว่านี่คือเมืองหิมะร่วง ที่ซึ่งห้ามการฆ่าฟัน ถ้ามิใช่เพราะกฏนี้เจ้าคงมิมีโอกาสได้ยืนขึ้นแล้วตอนนี้ อย่าว่าแต่จะมาเห่าหอนเช่นสุนัข” ซูหยางกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“ฮ่าฮ่าฮ่า กฏแบบนั้นเป็นแค่อะไรที่คนปราศจากอำนาจหนุนหลังจักต้องปฏิบัติตาม ข้าเป็นใครกัน ข้าคือหวังชิชง ลูกชายคนโตของตระกูลหวังที่ยิ่งใหญ่ ญาติของข้าก็คือหวังชูเหริน นักปรุงยาที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงกระทั่งตระกูลซี ต่อให้ข้าฆ่าใครสักคนแบบเจ้า ข้าก็จักมิถูกลงโทษ” หวังชิชงหัวเราะราวกับคนบ้า

ซูหยางส่ายหน้าและพึมพัม “สมกับเป็นพี่ชายของหวังหมิง”

ในเวลานั้นในห้องวีไอพี

“ฮ่าฮ่าฮ่า เหมือนที่ข้าได้กล่าวไว้ก่อนนี้ ผู้นำตระกูลหวู ลูกข้าจักจัดการเรื่องนี้เองโดยมิต้องให้ข้าช่วย” หวังเชินประกาศอย่างภาคภูมิใจ

อย่างไรก็ตามทั้งห้องกลับเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด ตามจริงนี่เป็นความเงียบที่ผิดปกติกระทั่งหวังเชินต้องหันหลังไปโดยไม่รู้ตัวเพื่อดูว่าทำไมจึงไม่มีใครตอบสนองกับคำพูดของเขา

หลังจากที่เขาหันกลับตัวไปแล้วนั้น หวังเชินก็ตระหนักว่าทำไมทั้งห้องจึงช่างเงียบนัก

นั่นเป็นเรื่องปกติพวกเขาต่างพากันเพ่งความสนใจไปกับบางสิ่ง

“โฮ่ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ตระกูลหวังจึงมีอำนาจมากมายเสียจนกระทั่งอยู่เหนือกฏที่บังคับใช้จากตระกูลซีของข้า”

ชายวัยกลางคนที่มีกลิ่นอายอันแหลมคมและกดดันกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นขณะที่เขาเดินเข้าไปในห้องวีไอพี

“ป-เป็นไปมิได้…ข-เขามาทำอะไรที่นี่” หวังเชินลืมตาโพลงด้วยความตระหนกและหวาดกลัวเมื่อเขาพบว่าใครที่เป็นคนพูดก่อนหน้านี้

“พวกเราขอคารวะท่านเจ้า”

ทุกคนในห้องวีไอพีพลันคุกเข่าข้างหนึ่งและทักทายการมาของเจ้าซี ซึ่งปรากฏตัวขึ้นโดยไม่ได้ประกาศ

ติดตามมาหลังเจ้าซีคือหวังชูเหริน สีหน้าเธอซีดเผือดและเต็มไปด้วยความกังวล

“เจ้าทำอะไรไป พี่ชายงี่เง่า” เธอร่ำร้องในใจ

“ท-ท่านเจ้า นั่นเป็นความเข้าใจผิด โปรดอย่าใส่ใจสิ่งที่ลูกชายโง่เขลาของข้าเพิ่งกล่าวไป ข้าจักอบรมเขาอย่างเหมาะสมหลังจากนี้” หวังเชิงคุกเข่าลงบนพื้นขอร้อง

อย่างไรก็ตามเจ้าซีเดินผ่านเขาและมองดูสถานการณ์ด้านหลังผนังกระจก หรือให้ชัดเจนกว่านั้น มองไปยังตัวซูหยาง

“เขามาทำอะไรที่นี่ ถึงกับมาหยอกล้อคนแบบหวังชิชง เขามิมีความละอายบ้างเลยรึ”

ในเมื่อเขารู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซูหยางแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะดูสถานการณ์เช่นนี้เป็นเหมือนผู้แข็งแกร่งที่รังแกคนอ่อนแอขณะที่แสร้งทำตัวเป็นคนอ่อนแอ ทำให้เขาอดที่จะตั้งคำถามกับเจตนาของซูหยางไม่ได้

“ผู้นำตระกูลหวัง ถ้าเจ้ามิต้องการให้ลูกชายคนโตของเจ้าตายโดยไร้ความหมาย ข้าแนะนำให้เจ้าหยุดการกระทำอันโง่เง่าของเขาโดยเร็วในตอนนี้” เจ้าซีพลันกล่าว

“ตามประสงค์ของท่านเจ้า” หวังเชินพลันวิ่งออกไปนอกห้องทันที

“ท่านเจ้า เรื่องเจ้าคนไร้ค่าหวังชิชงนั่น ข้าขอร้องให้ท่านได้โปรดอภัยปากพล่อยๆของเขาเมื่อกี้นี้” หวังชูเหรินคำนับเขา

แม้ว่าเธออาจจะไม่สนใจมากนักเรื่องชีวิตของหวังชิชง แต่ว่าทั้งตระกูลหวังอาจจะถูกลงโทษเพราะว่าคำพูดของเขาที่อาจจะถือได้ว่าเป็นกบฏ

“เจ้ามิต้องกังวล นักปรุงยาหวัง ข้ามิใช่คนไร้เหตุผล ข้ามิลงโทษตระกูลเจ้าเพราะคำพูดเรื่อยเปื่อยของเด็กบางคน แต่นั่นคงเป็นการดีที่สุดถ้าเจ้าได้อบรมเขาให้ดีกว่านี้เพื่อที่เรื่องนี้จะได้มิเกิดขึ้นอีกในอนาคต”

“ตระกูลหวังจักมิทำให้ท่านเจ้าผิดหวัง นี่จักมิเกิดขึ้นอีกครั้ง” หวังชูเหรินกล่าวในขณะที่หัวของเธอยังคงก้มต่ำ

“ข้าจักถือว่าเจ้าได้รับปากแล้ว” เจ้าซีพยักหน้าและกล่าวต่อว่า “ระหว่างทางข้ารู้ว่าได้พูดว่าข้าจักจากไปหลังจากที่ได้เลือดงูสามฤดู แต่ข้าเพิ่งได้ตัดสินใจที่จะอยู่นานอีกหน่อย เจ้ามิต้องประกาศว่าข้าอยู่ที่นี่ ข้ามิต้องการให้มีผลกระทบต่อบรรยากาศข้างล่างนั้น”

เหตุผลเดียวที่เขามาที่นี่ตอนเริ่มต้นก็เพื่อเลือดงูสามฤดู หนึ่งในรายการพิษบนกระดาษที่ซูหยางได้ให้เขาไว้ เขาถึงต้องมาด้วยตัวเองเพราะว่าเขาไม่ต้องการที่จะเสี่ยงกับการสูญเสียสิ่งของที่ต้องการในการรักษาอาการของลูกสาวของตนเอง แต่เมื่อรู้ว่าซูหยางก็มาที่โรงประมูลเช่นกันเขาก็ไม่คิดกลับไปเร็วเกินไปนัก

“ตามความประสงค์ของท่านเจ้า” หวังชูเหรินพยักหน้า

แม้ว่านิกายดอกบัวเพลิงก็ได้ส่งบัตรเชิญไปยังตระกูลซีเกี่ยวกับการประมูล แต่ก็ไม่มีใครคาดว่าเจ้าซีจะมาด้วยตนเอง ในเมื่อพวกเขาเพียงแค่ส่งคนรับใช้มาร่วมการประมูลก่อนหน้านี้

“พวกเจ้าที่เหลือก็ควรผ่อนคลายตามสบาย ข้ามิได้มาที่นี่เพื่อทำให้พวกเจ้าทั้งหมดเกิดความเครียด” เจ้าซีพูดกับคนอื่นในห้อง

“ขอรับท่านเจ้า”

dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน

dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน

⊕ ฐานะและความร่ำรวยจะมีค่าอะไรถ้าไม่มีใครร่วมแบ่งปัน  ⊕

 

♥ Dual Cultivation จะเผยให้เห็นถึงอีกด้านของโลกผู้ฝึกปราณที่มีแต่ความโดดเดี่ยว♥
ซูหยางถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตที่หน้าผาบาปนิรันดร์ ที่ซึ่งมีแต่อาชญากรสุดชั่วช้าเหี้ยมโหดเท่านั้นอาศัยอยู่
♥ควมผิดของเขา ล่อลวงภรรยาของเทพจันทรา♥ ลักพาน้องสาวของราชันย์มังกร♥ และร่วมเรียงเคียงหมอนกับลูกสาวสุดที่รักของจักรพรรดิสวรรค์♥
สุดท้ายเขาพบกับชายชราลึกลับซึ่งช่วยให้เขาหนีออกจากคุกโดยการส่งไปสู่ร่างใหม่
♥ในชีวิตใหม่ ซูหยางสาบานว่าจะตามหารวบรวมคนรักของเขาใหม่ และโอบพวกเธอไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง♥

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท