บทที่ 19 ซื้อบ้าน
“สมบัติอะไรกัน มีค่ามากกว่า 100000 รึเปล่า?” หลินชิงชิงเสียดายเงินหนึ่งแสนหยวนของหลี่ฝาง
หลี่ฝางหยิบปากกาบันทึกเสียงออกมา “ยังไงผมก็ถือว่าคุ้มค่า”
“เล่นอะไรน่ะ ให้ฉันดูหน่อย” หลินชิงชิงยังมองไม่ออกและคว้ามันมาดู
“นี่คือเครื่องอัดเสียงปากกาใช่ไหม เจ้าเด็กน้อย ดูเหมือนนายจะเตรียมตัวป้องกันพวกเขาเอาไว้ก่อนแล้ว” เจ้าหัวแบนเอ่ยเสียงเรียบ แค่เหลือบมองก็เข้าใจทั้งหมดทันที
“แน่นอนสิ ถ้าไม่ทันระวัง มีหรือจะโทรหาพวกคุณเอาไว้ล่วงหน้า” หลี่ฝางยิ้มเจ้าเล่ห์
ก่อนที่เขาจะไปหาเซี่ยลู่ หลี่ฝางสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติดังนั้นเขาจึงไม่เพียงแต่เตรียมปากกาบันทึกเสียงเอาไว้ล่วงหน้า แต่ยังบอกกล่าวหลินชิงชิงเอาไว้ ให้พวกเขาซุ่มอยู่นอกโรงแรม
หลังเปิดไปฟังวรรคหนึ่ง หลินชิงชิงก็มีสีหน้าตื่นเต้น “น้องชาย นายฉลาดเกินไปแล้ว ถึงคิดได้ขนาดนี้””
หลี่ฝางหัวเราะเบา ๆ “พี่สาว คุณคิดว่าสิ่งนี้มีค่าถึง 100000 หยวนหรือไม่? ”
“แน่นอนว่าคุ้มค่า ถ้าของนี้ส่งไปถึงตำรวจ พวกนั้นจะต้องรับโทษทั้งหมด น้องชาย นายต้องการให้ฉันแนะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไหม?” หลินชิงชิงส่งปากกาบันทึกเสียงคืนให้หลี่ฝาง
หลี่ฝางครุ่นคิดสักครู่ “ทำแบบนั้นออกจะเหี้ยมไปหน่อยมั้ง”
“นายใจอ่อนเกินไป ฉันจะบอกนายให้ บนสังคมนี้ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หากนายยังใจอ่อนแบบนี้ต่อไป จะต้องทุกข์ทรมานยิ่งกว่านี้มากแน่ๆ ” หลินชิงชิงเอ่ยแนะนำหลี่ฝาง
หลี่ฝางลังเลอยู่ครู่หนึ่งและเอ่ย “ผมจะคิดเรื่องนี้อีกครั้ง”
“ถ้าพวกเขายังไม่ปล่อยผมไป และหาเรื่องผมอยู่ ผมจะเอาบันทึกเสียงนี้ส่งให้แก่ตำรวจ” หลี่ฝาง กล่าว
“ได้ อย่างนั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเราไปก่อน ได้ข่าวว่าอีกไม่กี่วันนี้ เศรษฐีลึกลับกำลังจะกลับมาตงไห่แล้ว พ่อให้พวกฉันไปรอที่สนามบิน” สีหน้าของหลินชิงชิงดูหดหู่เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการทำงานนี้
“ว่าไปแล้ว พี่ พี่รู้ไหมว่าเศรษฐีลึกลับคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไร” หลี่ฝางเมื่อได้ยินก็รู้สึกตื่นเต้น เขาแน่ใจเกือบ 100% “แล้วว่าเศรษฐีลึกลับก็คือพ่อของเขา
“ไม่รู้สิ””
“ไม่รู้แล้วพวกกี่ไปทำไมกัน”
“เรื่องนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้น พวกคนรวยก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือ? มีรถหรูรับส่ง ด้านหลังตามด้วยกลุ่มบอดี้การ์ด เมื่อเขาออกจากสนามบิน คิดจะไม่รู้ยังยากเลย” หลินชิงชิงกลอกตา
“ฮ่าฮ่า อย่างนั้นพวกพี่ไปเถอะ ขอให้พวกพี่โชคดี จับเขาได้ล่วงหน้า” หลี่ฝางพูดจบ ก็คิดว่าตนจะต้องโทรหาพ่อแม่ของเขาสักหน่อยหรือไม่ เพื่อบอกพวกเขาล่วงหน้าว่าอย่าได้ไปแสดงอะไรใหญ่โตที่สนามบิน
กว่าจะต่อสายถึงหลี่ต๋าคางผู้รับโทรศัพท์หรือก็คือพ่อของหลี่ฝางนั้นไม่ง่ายเลย
“ลูก ทำไมจู่ๆ ถึงโทรหาพ่อล่ะ เงินหมดเหรอ”” หลี่ต๋าคางถามขึ้น
“พ่อ ยังกล้าพูดอีก ผมโทรหาพ่อทุกวัน จนกระทั่งตอนนี้เพิ่งจะต่อสายติด”
“ก็สัญญาณจากต่างประเทศไม่ค่อยดีนี่ ตอนนี้ฉันเพิ่งกลับถึงประเทศ”
หลี่ฝางรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “พ่อกลับมาแล้ว”?”
“ใช่”
“อย่างนั้นผมจะบอกอะไรให้ ตอนมาถึงพ่ออย่าได้ทำโอ้อวดเกินไป อีกทั้งอย่าได้ใช้พวกบอดี้การ์ดหรือรถหรู มีผู้คนมากมายในสนามบินกำลังจับตามองพ่ออยู่”
“ฮ่าฮ่า พ่อนำเงินลงทุนหลายหมื่นล้านกลับมา พวกเขาจะไม่จับตาดูได้หรือ! ” หลี่ต๋าคางหัวเราะ และไม่สนคำห้ามของหลี่ฝาง
“แต่ว่าลูกไม่ต้องกังวล พ่อเพิ่งมาถึงกวางตุ้ง ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันเพื่อไปยังตงไห่” หลี่ต๋าคางเอ่ย
“ทำไมถึงได้ช้าขนาดนั้น?”
“ก็พ่อนั่งรถไฟกลับไปนี่ ตั๋วรถไฟถูกจะตาย ลูกว่าไหม? เด็กบื้อ” หลี่ต๋าคางพูดจบ หลี่ฝางก็พูดไม่ออก เขาเอาเงินหลายหมื่นล้านกลับบ้านเกิด แต่กลับไม่มีเงินจะซื้อตั๋วเครื่องบินหรือไง?
“อ้อใช่ บ้านที่ตงไห่ราคาเท่าไหร่ พ่อกับแม่ของลูกกลับไปคราวนี้ ยังไม่มีที่พัก ลูกไปช่วยพวกเราซื้อบ้านมาหน่อย”
หลี่ต๋าคางครุ่นคิดอยู่ครู่และเอ่ย “สิบล้านพอรึเปล่า?” ”
“พอแล้ว พอแล้ว” หลี่ฝางเหงื่อตก จนแทบจะไหลเป็นน้ำตก เขาไม่รู้แล้วว่าสรุปพ่อของตนรวยหรือจนกันแน่ ด้านหนึ่งแม้เครื่องบินยังไม่นั่ง แต่อีกด้านกลับซื้อบ้านราคาสิบล้านหยวน
“ราคาบ้านในตงไห่นี่ถูกจริงๆ เลยนะ” เมื่อวางสายหลี่ต๋าคางก็ถอนหายใจอย่างสบาย ๆ
หลังวางสายโทรศัพท์ หลี่ฝางก็ไปร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ
“พี่ชาย ถามหน่อย พี่ปลดล็อกมือถือได้ไหม?” หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์มือถือสี่เครื่องออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
เจ้าของร้านเป็นผู้ชายตัวอ้วนใหญ่ เขามองไปที่หลี่ฝางและเลิกคิ้ว “เจ้าหนุ่ม มือถือพวกนี้นายขโมยมาหรือ”?”
“ไม่ เก็บมาจากถนน”
“เห็นพี่เป็นเด็กสามขวบหรือไง ถ้านายสามารถหยิบโทรศัพท์มือถือบนถนนได้สักเครื่องนี้ก็โชคดีเป็นบ้าแล้ว นี่นายเก็บได้สี่เครื่องทีเดียว?”
“พี่ชาย อย่าถามผมอีกเลย ผมแค่ถามพี่ว่า พี่สามารถปลดล็อกให้ได้หรือเปล่า จากนั้นแค่บอกราคามา” หลี่ฝางไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับชายอ้วนคนนี้
“ไม่มีปัญหา ฉันเป็นมืออาชีพ แต่ว่าในนี้มีโทรศัพท์ iPhoneอยู่ในนั้น ปลดล็อกอย่างน้อยๆ ก็ต้องมี 1,000 หยวน นอกเหนือจากนี้ก็ไม่เท่าไหร่” ชายอ้วนมองดูจากนั้นจึงเอ่ย
โทรศัพท์มือถือของ iPhone คือของตู้เฟย หลี่ฝางนิ่งไปก่อนจะเอ่ย “เอาแบบนี้ สองเครื่องนี้ผมให้พี่ แล้วพี่ช่วยปลดสองเครื่องนี้ให้ผมฟรี เป็นไง?”
“เจ้าหนุ่ม พวกเราอย่ามาล้อเล่น สองเครื่องนี้ถึงจะไม่ใช่แอปเปิล แต่มันก็เป็นของใหม่ทั้งคู่อีกทั้งยังไม่ใช่สินค้าราคาถูก นายแน่ใจหรือว่าต้องการส่งให้ฉัน? ” “ชายอ้วนตะลึงไปและมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
โทรศัพท์มือถือของเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงทั้งหมดล้วนมีราคาสามสี่พันหยวนขึ้นไป จุดนี้หลี่ฝางรู้ดี อีกทั้งยังเป็นรุ่นใหม่ หากขายมือสองๆ แต่ละเครื่องล้วนสามารถขายได้ในราคาถึง 2,000 หยวน
หลี่ฝางหัวเราะ “ผมไม่ขาดแคลนเงิน””
“เจ้าหนุ่ม พี่ชายมองนายไม่ออกแล้ว หากบอกว่านายเป็นขโมย แต่นายกลับไม่เข้าใจตลาดสักนิด อย่างนี้นายก็คงไม่ใช่ แต่ว่ามือถือมากขนาดนี้ นายไปเอามาจากไหน?” ชายอ้วนส่ายหัว เขาไม่เข้าใจ
หลังใช้เวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมง มือถือของตู้เฟยและเซี่ยลู่ก็ถูกปลดล็อก
“โทรศัพท์มือถือสองเครื่องนี้ให้นาย อีกสองเครื่องนี้เป็นของฉัน” ชายอ้วนหยิบโทรศัพท์มือถือของเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงไป
หลี่ฝางพยักหน้าแสดงว่าตกลง
“พี่ ผมทำเงินให้พี่ พี่สัญญากับผมได้ไหม”?”
“นายว่ามา” ”
“ถ้ามีคนมาหา พี่อยากบอกว่าผมเป็นคนขายให้”
ชายร่างอ้วนพยักหน้า “ทุกอย่างมีกฎ ฉันเข้าใจ เจ้าหนุ่ม นายวางใจได้””
หลี่ฝางเมื่อโล่งใจแล้วจึงจากไป
ขณะนี้โทรศัพท์มือถือส่งเสียงดังขึ้นมา เป็นข้อความจากธนาคาร
“โอนมาเร็วขนาดนี้เชียว” หลี่ฝางมองเลขในบัญชี จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
แม้ว่าเขาจะเตรียมใจมานานแล้ว แต่เมื่อเห็นยอดเงินมากกว่า 10 ล้านหยวนเขาก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้
แน่นอนว่า เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว หลี่ฝางถือว่าสงบยิ่งกว่า อย่างน้อยก็ไม่ตื่นเต้นจนมือเท้าสั่นแบบครั้งที่แล้ว
เงินเข้าแล้ว หลี่ฝางจึงเตรียมที่จะไปซื้อบ้าน ระหว่างทาง เขาก็คิดว่าตนเองนั้นออกจะโดดเดี่ยวเกินไป เรียกใครสักคนมาน่าจะดีกว่า
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ หลี่ฝางก็โทรหา หลี่เสี่ยวเสี่ยวเพื่อถามว่าเธอว่างไหม
แต่ผลคือหลี่ฝางยังไม่ทันได้พูดอะไร หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็มาหาหลี่ฝางแล้ว เมื่อมาถึงตรงหน้าหลี่ฝาง หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็เอ่ยถาม “หลี่ฝาง นายโทรหาฉันมีเรื่องอะไร เดทหรือ?”
หลี่ฝางส่าย สีหน้าของหลี่เสี่ยวเสี่ยวเปลี่ยนเป็นไม่พอใจเล็กน้อย “แล้วนายหาฉันทำไม”?”
“ฉันอยากให้เธอไปซื้อบ้านเป็นเพื่อนฉันหน่อย ฉันจำได้ว่าเธอเคยบอกว่า พี่สาวเธอทำงานที่สำนักงานขายใช่ไหม? ” “หลี่ฝางถาม
“อืมจริง แต่ว่าห้องที่พี่สาวฉันขายราคาสูงมาก เริ่มต้นที่ 10000ขึ้นไป นายมีเงินแค่นั้น ฉันว่าไม่น่าจะพอจ่ายดาวน์” หลี่เสี่ยวเสี่ยวเอ่ยอย่างอึกอัก
เธอไม่ได้ดูถูกหลี่ฝาง เธอแค่พูดตามตรงเท่านั้น
“เรื่องเงินเธอไม่ต้องกังวล เธอแค่พาฉันไปก็พอ” หลี่ฝางตบหน้าอกของเขา สีหน้าไม่หวั่นเกรง
หลี่เสี่ยวเสี่ยวทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่เรียกแท็กซี่พาหลี่ฝางไปที่สำนักงานขายหยุนหู
เมื่อมาถึงหยุนหู หลี่เสี่ยวเสี่ยวโทรหาพี่สาวของเธอ “หลี่ฝาง พี่สาวของฉันกำลังพาลูกค้าดูบ้าน อีกสักแป๊บนึงถึงจะมา นายนั่งอยู่ที่นี่ก่อน ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ””
“ได้” หลี่ฝางหาที่นั่งลง ระหว่างนั้นไม่มีใครเข้ามาทักทายเข้าสักคน
หลี่ฝางแต่งตัวไปทั่วๆ ไป อีกทั้งยังเป็นเสื้อผ้าเก่า สีไม่สดใหม่อีกต่อไป อีกทั้งกางเกงยังมีรอยขาดอยู่สองสามรอย แค่ สำนักงานขายไม่ได้ขับไล่เขาออกไป ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
เขาลืมซื้อเสื้อผ้าดีๆ มาใส่เสียแล้ว หลี่ฝางส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ในตอนนั้นเอง ตู้เฟยกำลังจูงมือเซี่ยลู่แล้วเดินเข้าไปในหยุนหู