NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 9

ตอนที่ 9

บทที่ 9 ซื้อรถโดนโกงเงิน

จะถอดหรือไม่ถอด!

ในฝ่ามือที่หลิวเฉียวเฉียวกำไว้มีแต่เหงื่อ ได้แต่ก้มหน้าเพราะทั้งตื่นเต้นทั้งอาย

“เธออยากให้ผมถอดให้เหรอ? ” หลี่ฝางยิ้มๆ และถาม

“ฉันถอดเอง”

หลังจากที่ทำใจมาสักพัก หลิวเฉียวเฉียวเริ่มถอดด้วยความไม่เต็มใจ

เสื้อกันหนาว กางเกง ถูกถอดออกทีละชิ้นๆ

“ถอดต่อไปสิ!” ในตาของหลี่ฝางจะพ่นไฟอยู่แล้ว ภาพที่เมื่อก่อนเคยดูได้แค่ในหนังประเทศญี่ปุ่นในวันนี้ได้เกิดขึ้นตรงหน้าของตนเอง

“ที่เหลือล่ะ? ” หลี่ฝางกลืนน้ำลายและพูดต่อ

หลิวเฉียวเฉียวกัดริมฝีปากตนเอง จ้องมองหลี่ฝางอยู่ตั้งนาน ทันใดนั้นในใจนึกอะไรได้สักอย่าง รีบวิ่งขึ้นไปบนเตียง มุดเข้าไปในผ้าห่ม

“ถอดแล้ว”

หลิวเฉียวเฉียวหน้าแดงมาก

“ดี ผมไปอาบน้ำก่อน” หลี่ฝางลุกขึ้นมาแล้วหายตัวไปต่อหน้าของหลิวเฉียวเฉียว

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว หลิวเฉียวเฉียวรอจนใจร้อนขึ้นมาหน่อยแล้ว เธอคิดอยู่ในใจ ทำไมนานขนาดนี้ยังอาบไม่เสร็จอีก?

รอต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง หลิวเฉียวเฉียวย่องไปใส่เสื้อผ้าเบาๆ เดินไปกลับสังเกตเห็น หลี่ฝางนอนหลับอยู่อีกเตียงหนึ่งแล้ว

พูดอะไรไม่ออกจริงๆ?

หลิวเฉียวเฉียวยังรู้สึกโมโห ตนเองอุตส่าห์ถอดหมดเปลือกรออยู่บนเตียงแล้ว หลี่ฝางยังนอนหลับได้?

“ไม่รู้ว่าไอ้ตาบ้านี่ถูกรางวัลเท่าไหร่กัน”

หลิวเฉียวเฉียวมองหน้าของหลี่ฝาง แล้วพูดเองอยู่คนเดียว

เธอไม่รู้สึกชอบหลี่ฝางเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์บังคับ เธอไม่มีทางมาเปิดห้องกับหลี่ฝางแน่นอน

หลิวเฉียวเฉียวกลับไปถึงเตียงตนเอง แต่ไม่กล้านอนหลับ กลัวว่าหลี่ฝางจะวิ่งมาหาตอนดึกๆ เธอจึงหยิบมือถือออกมาเล่น

หลิวเฉียวเฉียว เซี่ยลู่ จางเชี่ยน เธอสามคนมีกลุ่มแชทในวีแชท

ตอนที่หลิวเฉียวเฉียวเปิดมือถือออกมาแล้ว ทั้งกลุ่มระเบิดเถิดเทิงขึ้นมาทันที

เรื่องราวก็ราวๆ ประมาณนั้น ก็คือถามหลิวเฉียวเฉียวว่าถูกหลี่ฝางไอ้ชั่วนั่นรังแกแล้วใช่ไหม? จะให้ช่วยแจ้งตำรวจไหม

หลิวเฉียวเฉียว: “ฉันไม่เป็นอะไรเลย”

จางเชี่ยน: “เธอสองคนเปิดห้องกันแล้ว จะไม่มีอะไรได้ไง? ”

“ใช่ จะไม่มีอะไรได้ยังไง หลี่ฝางจริงๆ แล้วโรคจิตจะตาย ตอนเด็กๆ เล่นเกมกัน เขายังคร่อมบนตัวฉันจับมั่วอยู่เลย”

เซี่ยลู่ส่งข้อความออกไปแล้ว ถึงรู้สึกว่าตนเองเหมือนจะพูดอะไรผิดไป จึงรีบดึงข้อความกลับ

“เขานอนหลับแล้ว เสื้อผ้ายังไม่ได้ถอดเลย ไม่เชื่อฉันถ่ายให้พวกเธอดู” หลิวเฉียวเฉียวถ่ายวีดีโอช่วงหนึ่งส่งเข้าไปในกลุ่ม

ตอนที่ถ่าย หลิวเฉียวเฉียวได้ถ่ายทั่วทั้งห้องเพรสซิเดนท์สูท เธอไม่ได้ถ่ายหลี่ฝาง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังอวดว่าตนเองได้พักในห้องเพรสซิเดนท์สูทแล้ว

หลิวเฉียวเฉียว: จริงสิ เซี่ยลู่ เธอเป็นไรมากหรือเปล่า?

เซี่ยลู่: อย่าพูดถึงเลย กลับบ้านมาโดนตีอีกรอบ พ่อแม่ฉันตีฉันพร้อมกันเลย ไม่รู้จริงๆ ว่าฉันใช่ลูกแท้ๆ รึเปล่า

เซี่ยลู่: หน้าของฉันบวมเลยอ่า ต้องโทษไอ้เหี้ยหลี่ฝางนี่คนเดียว!

จางเชี่ยน: พวกเธอรู้รึเปล่าว่าตกลงแล้วหลี่ฝางถูกรางวัลเท่าไหร่?

“เท่าไหร่? ” เซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียวถามพร้อมกัน

หลิวเฉียวเฉียว: “คงจะไม่ใช่ถูกรางวัลห้าล้านจริงๆ นะ!”

หลิวเฉียวเฉียวคิดไว้แล้ว ถ้าหลี่ฝางถูกรางวัลห้าล้านจริงๆ งั้นเป็นแฟนของเขาก็ไม่เสียเปรียบ

จางเชี่ยน: คิดมากไปแล้ว แค่สองแสนเอง

จางเชี่ยน: หลี่เสี่ยวเสี่ยวเป็นคนพูดเอง ตอนนี้เขารู้กันหมดทั้งห้องแล้ว

“แค่สองแสน” หลิวเฉียวเฉียวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ตัดสินใจจะทิ้งหลี่ฝางตั้งแต่เช้าเลย

เซี่ยลู่: ไอเหี้ยนั่นบ้าจริงๆ ถูกแค่สองแสน คืนนี้ก็ใช้ไปครึ่งกว่าละ

หลิวเฉียวเฉียว: คงไม่น้อยขนาดนั้นมั้ง? ตอนที่ขึ้นมาบนห้อง เขายังบอกว่าจะซื้อรถคันหนึ่งนะ

จางเชี่ยน: พอดีเลย ฉันมีพี่ชายคนหนึ่งขายรถมือสองอยู่ แกแนะนำเขาให้พี่ชายฉันสิ ถึงตอนนั้นให้พี่ชายฉันหลอกมันหนักๆ พวกเรายังได้แบ่งๆ กันหลายพัน

หลิวเฉียวเฉียวรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย: เขาบอกว่าจะซื้อรถใหม่นะ ไม่ได้บอกจะซื้อมือสองนิ

จางเชี่ยน: เขาก็เหลือแค่ไม่กี่หมื่นเอง จะซื้อรถใหม่ได้ไง แกเตือนเขาสิ ให้เขาซื้อมือสอง แค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันกับพี่ชายไปรับเธอสองคนนะ

เช้าวันถัดไป ตอนที่ตื่นมา หลิวเฉียวเฉียวใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“กินข้าวกันเถอะ กินเสร็จแล้วเดี๋ยวจางเชี่ยนกับพี่ชายจะมารับเราสองคน พาพวกเราไปซื้อรถกัน” หลิวเฉียวเฉียวพยายามทำหน้ายิ้มเข้าไว้ น้ำเสียงก็อ่อนโยนมาก

แต่ข้างในใจ หลิวเฉียวเฉียวอยากจะอยู่ห่างๆ หลี่ฝาง เธอรู้สึกว่าหลี่ฝางโง่เกินไป เพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง เมื่อคืนแค่คืนเดียวก็ใช่จ่ายไปตั้งแสนกว่า

คนแบบนี้ ไม่มีทางจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

หลี่ฝางตะลึงอยู่สักพัก: “จางเชี่ยนรู้ได้ไงว่าผมจะซื้อรถ? ”

“ฉันบอกเค้าเอง เธอกลัวว่านายจะถูกหลอก ดังนั้นให้พี่ชายของเขาพาไปด้วยกัน” หลิวเฉียวเฉียวยิ้มพูดอย่างนิ่งๆ

“อย่าถูกพี่ชายเขาหลอกก็พอ”

“เป็นไปได้ไง เมื่อคืนนายช่วยเหลือจางเชี่ยน มีบุญคุณใหญ่หลวง จางเชี่ยนไม่มีทางให้พี่ชายหลอกนายหรอก”

หลี่ฝางพยักหน้าและพูด: “แต่ว่าผมจะซื้อแค่ราคาประมาณไม่เกินหนึ่งแสน รถที่ดีเกินไป ผมซื้อไม่ไหว”

“รู้แล้ว”

“เธอรู้ได้ไง? ”

“นายถูกรางวัลแค่สองแสน เมื่อคืนก็ใช้ไปแล้วแสนกว่า ก็ซื้อได้แค่ราคาไม่เกินแสนไม่ใช่เหรอ? ” หลิวเฉียวเฉียวหัวเราะเบาๆ ยิ่งดูถูกหลี่ฝางมากขึ้นอีก

ถูกรางวัลแค่สองแสน สองวันก็ใช้จนหมดเกลี้ยง หลิวเฉียวเฉียวแอบหัวเราะในใจ ถึงเวลานั้นไม่มีเงินใช้ ดูซิว่านายจะทำไง?

“เธอรู้ได้ไงว่าผมถูกสองแสน? ”

“หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดเอง”

หลี่ฝางยิ้มๆ อย่างมีเล่ห์นัย ตอนแรกเขาแค่คิดจะหลอกโจวหยางเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงแม้แต่หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็ถูกหลอกไปด้วย

หลี่เสี่ยวเสี่ยวนี่ปากหมาจริงๆ แต่ก็ถือว่าช่วยหลี่ฝาง

ตอนที่ออกมาจากLotus หลี่ฝางมองเห็นผู้ชายที่ตัวสูงใหญ่ จางเชี่ยนและเซี่ยลู่ยืนอยู่ข้างๆ ของเขา

“น้องชาย สวัสดี ผมชื่อจางจื้อเหา ผมอายุมากกว่านาย เรียกผมว่าพี่เหาก็พอ” จางจื้อเหาแนะนำตนเอง

คนที่ชื่อจางจื้อเหา บนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นไอของนักเลงยากูซ่า ถึงแม้หลี่ฝางจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็ไล่เขากลับไปไม่ได้

ไม่รู้จะทำยังไงดี หลี่ฝางได้จึงต้องยอมขึ้นรถของจางจื้อเหาแต่โดยดี

ตอนแรกหลี่ฝางคิดจะไปซื้อเสื้อผ้าชุดหนึ่งก่อน แต่ปรากฏว่าถูกจางจื้อเหาลากไปที่ตลาดซื้อขายรถมือสอง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยพอใจ: “ที่นี่ทำไมมีแต่รถมือสองหมดเลย? ผมจะซื้อรถใหม่”

“น้องชาย นายไม่รู้อะไร รถใหม่ราคาตกเร็วเกินไป รถราคาแสนกว่า นายขับไปสองปี ราคาก็ตกลงไปเกือบครึ่ง แต่รถมือสองไม่เหมือนกัน รถมือสองถ้าขับไปสองปี กลับมาขายให้ผม ราคาก็ไม่ต่างกันเยอะ” จางจื้อเหาอธิบาย

“แต่ผมดูรถไม่เป็น ถ้านายหลอกฉันทำไง? ” หลี่ฝางรู้สึกกังวล

“น้องชายพูดอะไร นายเป็นเพื่อนของเชี่ยนเชี่ยน เชี่ยนเชี่ยนเป็นน้องสาวของผม ทุกคนรู้จักกัน ผมจะหลอกคุณได้ไง? จางจื้อเหาขมวดคิ้ว รู้สึกโมโห

“เห็นรถBMWคันนี้ไหม? ถ้านายไปซื้อรถใหม่ ราคาน่าจะต้องสี่ห้าแสน แต่ถ้าซื้อที่นี่ แค่แสนกว่าเอง”

หลี่ฝางส่ายหัว: “ผมไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น”

“ทำเรื่องขอผ่อนจ่ายได้ จ่ายก่อนห้าหกหมื่น ที่เหลือค่อยๆ คืน หนึ่งเดือนจ่ายไม่เท่าไหร่เอง”

หลี่ฝางลังเลอยู่สักพัก พูด: “ผมดูก่อนค่อยว่ากัน”

“หลี่ฝาง BMWคันนี้ดีแค่ไหน ถึงแม้จะเป็นมือสอง แต่ดูแล้วเหมือนใหม่ไม่ต่างกันเลยนะ นายชอบเสแสร้งทำเป็นรวยไม่ใช่เหรอ? อีกหน่อยขับรถBMWไปเรียน จะเท่ขนาดไหน” เซี่ยลู่เดินมาแล้วพูด

หลี่ฝางจ้องหน้าเซี่ยลู่ หัวเราะอย่างประชดประชัน: “เธอเห็นฉันก็อยากจะอ้วกไม่ใช่เหรอ? ”

“วันนี้มันเป็นยังไง พระอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกเหรอ มาซื้อรถเป็นเพื่อนผม ยังแนะนำให้ผมด้วย? ” หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า: “ทำไมเธอถึงใจดีอย่างนี้ล่ะ”

“หลี่ฝาง เมื่อก่อนฉันไม่ดีเอง นายเป็นผู้ชายอกสามศอก อย่าถือสาฉันเลย รอนายซื้อรถแล้ว พวกเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว” เซี่ยลู่พูด

“หมายความว่า ถ้าผมไม่ซื้อรถ เราสองคนก็จะไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ? ” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “งั้นผมไม่ซื้อละ”

หลี่ฝางหันตัวจะไป แต่ถูกจางจื้อเหาขวางไว้

ในมือของจางจื้อเหามีกุญแจรถBMW ยื่นให้หลี่ฝาง: “น้องชาย อย่าเพิ่งรีบไปสิ นายลองขับดูก่อน”

“ในเมื่อลองขับไม่ต้องจ่ายเงิน”

หลี่ฝางลังเลอยู่สักพัก รับกุญแจจากมือของจางจื้อเหา

ที่จริงแล้ว ในใจของหลี่ฝางก็พอถูกใจรถBMWอยู่ ถึงแม้จะเป็นรถมือสอง แต่ดูแล้วเหมือนใหม่มาก ที่สำคัญคือ รถBMWของตู้เฟยเป็นแค่ series3 ถ้าตนเองขับseries5 งั้นตนเองก็สูงกว่าตู้เฟยระดับหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ?

มุดเข้าไปในรถ หลี่ฝางสตาร์ทรถ

ตอนที่หลี่ฝางขับออกไปแล้ว จางเชี่ยนอดใจไม่ไหวที่จะถาม: “พี่ชาย BMWมันต้องใช้เงินสองแสนกว่าไม่ใช่เหรอ? พี่ทำไมขายเค้าแค่แสนกว่าล่ะ? ”

“ฮาฮ่า เดี๋ยวเธอจะเข้าใจเอง”

จางจื้อเหาหัวเราะด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์: “รอดูละครดีๆ นะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท