NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 58

ตอนที่ 58

บทที่ 58 ไม่ใช่ส้าวส้วยเป็นคนฆ่า?

เมื่อคืนส้าวส้วยออกจากร้านเหล้าประมาณหนึ่งชั่วโมง หรือว่าจะไปฆ่าลูกพี่หลี่จริงๆ?

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางเหงื่อไหลลงมาเต็มหน้า ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นส้าวส้วยก็คือฆาตกรที่ฆ่าลูกพี่หลี่ ส่วนตนเองก็คือผู้บงการอยู่เบื้องหลังงั้นหรือ?

แม่เจ้า คิดเช่นนี้แล้ว ตนเองก็เป็นผู้ร้ายไปด้วยสิ?

“พี่ ลูกพี่หลี่เขาตายตอนกี่โมงเหรอครับ? ” หลี่ฝางรีบถาม

“ประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง ไม่ขาดไม่เกินจากเวลานี้ห้านาที” หลินชิงชิงคิดแล้วคิดอีก ค่อยพูดออกมา

ประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง หลี่ฝางนึกย้อนกลับไปสักพัก จากสีหน้าของเขาซีดขึ้นมาทันที

“เสี่ยวฝาง ทำไมเหรอ? ” หลินชิงชิงเห็นสีหน้าของหลี่ฝางไม่ค่อยปกติ รีบสอบถามขึ้นมาทันที

หลี่ฝางพยายามทำให้ตนเองใจเย็นสงบนิ่ง เขายิ้มๆ และพูด: “ผมไม่เป็นไรครับพี่ ผมก็แค่กลัวว่าหลี่หลงจะมาหาเรื่องผมอีก”

“วางใจเถอะ หลี่หลงตอนนี้กำลังยุ่งกับงานศพของพ่อเค้าอยู่ อย่างน้อยต้องยุ่งไปอีกสองสามวัน” หลินชิงชิงกล่าว

“แล้วหลังจากสองสามวันนี้ล่ะ? ” หลี่ฝางขมวดคิ้ว ในใจคิดอยู่ว่านี่ก็ไม่ใช่หนทางที่จะหนีพ้น ดีที่ตอนนี้ก็ใกล้จะสอบเข้ามหาลัยแล้ว รอให้สอบเสร็จ ตนเองก็ออกจากเมืองตงไห่ได้แล้ว

ถึงตอนนั้น ตนก็ไม่ต้องกังวลว่าคนของหลี่หลงจะมาแก้แค้นอีก

“หลังจากสองสามวันนี้นายก็ไม่ต้องกลัวอีกแล้ว ถึงตอนนั้นพี่ชายของฉันก็จะออกมา พี่ชายฉันต้องการจะควบคุมเขตพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างจริงจัง รอให้พี่ชายฉันออกมา เขาก็จะโต้ตอบกับหลี่หลง ถ้าเขาสองคนสู้กันขึ้นมา จะหาเรื่องนายอีกได้ยังไง” หลินชิงชิงหัวเราะและพูด

หลังจากที่หลินชิงชิงไปแล้ว หลี่ฝางไม่ไปเข้าห้องเรียน รีบไปที่ร้านเหล้าทันที

ตอนนั้นส้าวส้วยกำลังเล่นเกมKings of Glory หลี่ฝางไปถึงที่นั่น เข้าไปนั่งข้างๆ เขา: “อย่าเพิ่งเล่น ผมถามอะไรนายหน่อย”

“เถ้าแก่ ผมรู้ว่าคุณจะถามอะไร แต่คุณรอให้ผมเล่นเกมนี้จบก่อนค่อยคุยนะครับ” ส้าวส้วยกำลังตั้งใจเล่นอยู่ประมาณสิบกว่านาที แต่สุดท้ายก็แพ้

“ไอ้บ้าเอ้ย เพื่อนๆ ในทีมแย่จริงๆ ” ส้าวส้วยโมโหใส่มือถือและด่าไปด้วย

“ทั้งๆ ที่นายเป็นคนเอาเปรียบพวกเขาเอง ทำไมยังไปว่าคนอื่นแย่ได้ไง” หลี่ฝางส่ายหัว พูดอะไรไม่ออก

หลี่ฝางหยิบไวน์มาหนึ่งแก้ว รินให้ส้าวส้วยด้วยหนึ่งแก้ว: “ส้าวส้วย ผมถามอะไรนายหน่อย นายต้องตอบความจริงนะ ห้ามโกหกนะ”

“เถ้าแก่ คุณจะถามผมเรื่องของลูกพี่หลี่ใช่ไหม? ”

ยังไม่ทันรอให้หลี่ฝางเอ่ยปากถาม ส้าวส้วยก็ส่ายหัวบอกว่า: “เรื่องนั้นไม่ใช่ผมเป็นคนทำ”

“ไม่ใช่นาย? ” หลี่ฝางตะลึง

“เมื่อคืนนายออกจากร้านหนึ่งทุ่ม กลับมาสองทุ่ม ช่วงเวลานี้ เป็นเวลาที่ลูกพี่หลี่ถูกฆ่าพอดี ยังบอกว่าไม่ใช่นายงั้นเหรอ? ” หลี่ฝางจ้องหน้าส้าวส้วยและพูดอย่างสงสัย: “อีกอย่างเมื่อคืนนายพูดกับผมไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง ว่านายฆ่าลูกพี่หลี่ให้ตายแล้ว”

“ตอนนั้นผมยังนึกว่านายจะโม้สักอีก แต่นึกไม่ถึงเมื่อกี้พี่สาวมาหาผม บอกว่าลูกพี่หลี่ถูกฆ่าตายแล้วจริงๆ ”

“แต่นั่นก็ไม่ใช่ผมฆ่านี่นา ลูกพี่หลี่ตายเพราะถูกรถชน ผมก็เพิ่งรู้เมื่อกี้นี้” ส้าวส้วยพูดด้วยสีหน้าเหมือนถูกปรักปรำ: “เถ้าแก่ครับ ผมไม่มีแม้แต่ใบขับขี่นะครับ”

“ลูกพี่หลี่ไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุรถชน แต่ตายเพราะถูกคนฆ่าตาย” หลี่ฝางบอก: “อุบัติเหตุรถชนเป็นแค่ข่าวปลอมที่หลี่หลงแกล้งปล่อยออกมาเท่านั้น”

“นายบอกว่าไม่ใช่นาย แล้วเมื่อคืนเวลาหนึ่งชั่วโมง นายไปทำอะไร? ” หลี่ฝางซักถาม

“เมื่อคืนหลังจากที่ผมออกจากร้านเหล้า ไปที่เขตพื้นที่ลูกพี่หลี่จริงๆ แต่เห็นลูกน้องของเค้าเยอะเกินไป เขาเดินไปถึงไหนก็มีคนคอยคุ้มกันเขา ผมเห็นว่าไม่มีโอกาสลงมือ ดังนั้นจึงกลับมา” ส้าวส้วยกล่าว

“จริงๆ เหรอ? ” หลี่ฝางมองหน้าส้าวส้วยอย่างสงสัย

“เถ้าแก่ครับ คุณว่าถ้าผมฆ่าคนจริงๆ ยังสามารถมานั่งเล่นเกมอย่างสบายใจตรงนี้ได้เหรอ? ถ้าฆ่าคนจริงๆ ผมหนีไปนานแล้ว” ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ และพูด

“ก็ใช่” หลี่ฝางก็รู้สึกว่าส้าวส้วยไม่เหมือนคนที่ฆ่าลูกพี่หลี่

หนุ่มที่ดูเอ้อระเหยลอยชายคนนี้ ดูยังไงก็ไม่เหมือนนักฆ่าผู้ลึกลับที่พูดในปากของหลินชิงชิงเลย

“เถ้าแก่ครับ หลี่หลงทำไมต้องปกปิดสาเหตุการตายของลูกพี่หลี่ด้วยล่ะ? ” ส้าวส้วยถามด้วยความสงสัย

“เหมือนจะเป็นหม่าเทียนที่ต้องการทำเช่นนี้ ถ้าลูกพี่หลี่ตายเพราะการถูกฆาตกรรม ถ้าอย่างนั้นคดีเรื่องนี้ก็จะจัดการยุ่งยากมาก ต้องยื่นเรื่องสืบสวนโดยทันที นายก็รู้ว่าลูกพี่หลี่คนนี้มีเบื้องหลังที่ไม่สะอาด ถ้าตรวจสอบขึ้นมาจริงๆ ต้องสืบสาวราวเรื่องเก่าๆ ที่เค้าเคยทำไว้ออกมาทั้งหมดแน่ๆ ถึงแม้เขาจะตายแล้ว แต่พี่น้องของเขายังอยู่ ถ้าทำให้พี่น้องทั้งหลายของเค้าเดือดร้อนไปด้วย จะทำยังไง หลี่หลงก็กลายเป็นลูกพี่ใหญ่ที่โดดเดี่ยวไม่มีลูกน้องแม้แต่คนเดียว? ”

“อีกอย่างฆาตกรไม่ทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่น้อย นายว่าฆาตกรคนนั้นเท่ไม่เท่ ถึงแม้ลูกพี่หลี่จะถูกฆ่าตาย แต่บนตัวของลูกพี่หลี่ กลับไม่มีรอยนิ้วมือใดๆ หลงเหลือไว้สักนิดเดียว ดังนั้นถึงแม้ว่าตำรวจจะสืบสวนขึ้นมายังไง ก็ไม่มีทางสืบหาฆาตกรเจอ งั้นก็ปล่อยให้หลี่หลงเป็นคนไปสืบเอาเองดีกว่า”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ส้าวส้วยยิ้มๆ อย่างตลก แววตาลึกๆ ด้านในยิ้มอย่างเยือกเย็น แต่หลี่ฝางไม่สังเกตเห็นอะไรเลย

“ในเมื่อไม่ใช่นาย ผมค่อยรู้สึกโล่งใจหน่อย ถ้านายเป็นคนฆ่าลูกพี่หลี่จริงๆ งั้นผมก็กลายเป็นผู้บงการไปด้วย” หลี่ฝางตบๆ ที่หน้าอกของตนเอง ในที่สุดก็โล่งใจหน่อย

หลังจากที่หลี่ฝางไปแล้ว ลุงเฉียนเข้ามายืนอยู่ข้างๆ ตัวของส้าวส้วย

ส้าวส้วยมองดูลุงเฉียน รู้สึกผิดและพูดว่า: “ลุงเฉียนครับ ผมผิดไปแล้ว ลุงทำโทษผมเถอะครับ”

“ช่างมันเถอะ แต่ต่อไปนี้นายต้องจดจำไว้ให้ดี ลูกพี่หลี่เพิ่งปล่อยข่าวออกมาว่าจะไปหาเรื่องเสี่ยวฝาง หลังจากนั้นนายก็ลงมือฆ่าเขา ไม่ว่าคนของลูกพี่หลี่ หรือว่าผู้มีอำนาจกลุ่มอื่น ก็จะหันเป้าหมายมาที่เสี่ยวฝาง ถ้าพวกเขาสืบค้นอะไรได้ขึ้นมาจริงๆ งั้นเสี่ยวฝางก็ต้องมีอันตรายไม่ใช่หรือ? ” ลุงเฉียนดุว่าส้าวส้วย

“ลุงเฉียน เรื่องนี้ผมไม่คิดให้รอบคอบ ผมแค่เห็นว่าเถ้าแก่น้อยต้องคอยหวาดกลัวตลอดเวลา รู้สึกทนดูต่อไปไม่ไหว ดังนั้นจึงต้องลงมือ” ส้าวส้วยขมวดคิ้วและพูด

“เอาล่ะ เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว การตายของลูกพี่หลี่ ยังถือว่านายทำได้ละเอียดรอบคอบดี” ลุงเฉียนกล่าวชื่นชม: “แกยังคิดจะช่วยเถ้าแก่น้อยแก้ไขปัญหา ก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง”

“ชีวิตของผม ลูกพี่ใหญ่เป็นคนช่วยเอาไว้ เขาเป็นลูกชายของลูกพี่ใหญ่ ผมต้องยอมรับและเคารพเขาเหมือนกัน ลุงเฉียน” ส้าวส้วยยิ้มๆ : “ยิ่งไปกว่านั้นคือ เถ้าแก่น้อยเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม เป็นคนดี เหมือนลูกพี่ใหญ่”

“ใช่สิ เสี่ยวฝางจิตใจดีงาม อีกทั้งยังเข้มแข็ง” ลุงเฉียนรู้สึกภูมิใจและยิ้มๆ

……

ออกจากร้านเหล้า หลี่ฝางรู้สึกโล่งอกไปเยอะ

ในเมื่อส้าวส้วยบอกว่าเขาไม่ใช่คนที่ฆ่าลูกพี่หลี่ ตนเองก็ไม่เกี่ยวอะไรแล้ว

หลังจากนั้นสองสามวัน หลี่ฝางตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ส่วนจางกงหมิงก็ออกมาจากเรือนจำแล้ว เขารวมตัวพี่น้องและคนของเขาทั้งหมดไปที่เขตเมืองภาคตะวันออก เริ่มทำการยึดพื้นที่ลูกพี่หลี่ที่เขาเคยทิ้งไว้ทั้งหมด

แม้แต่เมืองแห่งราตรีที่อยู่ใกล้ๆ มัธยมตงไห่ ก็ถูกจางกงหมิงแย่งไปครอบครอง

วันนี้หลี่เสี่ยวเสี่ยวชวนหลี่ฝางออกมากินข้าวด้วยกัน เจอกับจางกงหมิงพอดี

“พี่หมิง” หลี่ฝางยิ้มๆ และกล่าวทักทาย

“อ้าว เป็นแกนี่เอง!” จางกงหมิงนั่งลงบนเก้าอี้ และจ้องมองหน้าหลี่เสี่ยวเสี่ยว: “แฟนแกเหรอ หน้าตาก็ไม่เลวนี่? ”

“เพื่อนนักเรียนเท่านั้นครับ” หลี่ฝางยิ้มๆ

สองสามวันนี้หลี่เสี่ยวเสี่ยวคอยเกาะติดตามหลี่ฝางทุกวัน ที่จริงแล้วในใจของหลี่ฝางก็รู้ดี เธอติดตามทุกวันเช่นนี้ ก็เพราะรู้ว่าเขารวยไม่ใช่หรือ?

ถ้าตนไม่มีเงินล่ะก็ หลี่เสี่ยวเสี่ยวต้องไปจากตนแน่นอน

ผู้หญิงแบบนี้ หลี่ฝางไม่มีทางเอาแน่นอน ก็แค่เอาไว้เล่นๆ เท่านั้น

จางกงหมิงกอดไหล่ของหลี่ฝางไว้ ยิ้มและพูดว่า: “เสี่ยวฝาง พี่ขอคุยอะไรกับแกหน่อยดิ”

“เรื่องอะไรครับ? ” หลี่ฝางถามกลับ

“พี่อยากยืมเงินแกมาใช่หน่อย…..นี่พี่ก็เพิ่งจะแต่งงาน เงินก็ใช้จนหมดแล้ว ครั้งนี้พาพี่น้องออกมาแย่งพื้นที่ ถึงแม้จะแย่งพื้นที่ได้แล้ว แต่ก็เสียพี่น้องไปหลายคน ยังไงพี่ก็ต้องเอาเงินไปปลอบขวัญทางบ้านเค้าบ้าง”

“พื้นที่ที่แย่งมาได้ ยังไม่ทันเริ่มต้นทำอะไรไม่มีกำไร อย่างนี้ แกว่าพี่จะเอาอะไรให้พวกเค้าล่ะ” จางกงหมิงพูดอย่างน่าสงสาร

หลี่ฝางขมวดคิ้ว รู้สึกลังเลหน่อย ถ้าเป็นหลินชิงชิงมาขอยืมกับตน หลี่ฝางต้องหยิบบัตรธนาคารให้เธอยืมได้เลยโดยไม่พูดอะไร แต่จางกงหมิง หลี่ฝางไม่สนิทสักหน่อย

“เรื่องที่นายไปกินข้าวที่Lotusแค่คืนเดียวก็ใช้เงินไปแสนกว่า พี่ได้ยินข่าวมาแล้ว ครั้งก่อนนายเลี้ยงเหล้าพวกเราก็จ่ายไปหลายหมื่น อย่าบอกว่านายไม่มีเงินนะ พี่ไม่เชื่อหรอก” จางกงหมิงมองหน้าหลี่ฝางและพูด

“พี่หมิง จะยืมเท่าไหร่” หลี่ฝางถอนหายใจลึกและถาม

“ไม่เยอะ แค่สองแสนก็พอ” จางกงหมิงยิ้มและหัวเราะ

“สองแสน? !” หลี่ฝางอ้าปากค้างกว้าง ทำหน้าตกตะลึง ที่จริงสำหรับเขาแล้ว เงินสองแสนไม่เยอะแยะมากมายอะไร แต่ถ้าให้ไปเฉยๆ อย่างรวดเร็ว อีกหน่อยจางกงหมิงมาขอยืมอีกจะทำยังไง?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท