บทที่ 61 หลี่หลง ต้องการลักพาตัวหลี่ต๋าคาง
หลี่ฝางลงจากรถ เดินผ่านถนนที่ขรุขระช่วงหนึ่ง ระหว่างทางเขาล้มลงกลางทาง หลังจากพยายามลุกขึ้นมาใหม่ หลี่ฝางก็เอ่ยค่อนแคะ
“ถนนพวกนี้มันอะไรกัน ทำไมถึงเดินยากเดินเย็นขนาดนี้”
“ใกล้ถึงแล้ว ถอดหน้ากากของนายออกมา” หนึ่งในนั้นกล่าวขึ้น
หลังจากถอดหน้ากาก หลี่ฝางก็มองไปรอบ ๆ
นี่คือภูเขาลูกหนึ่ง และคนเหล่านี้กำลังพาหลี่ฝางขึ้นภูเขาไป
“พี่ๆ ทั้งหลาย พวกคุณคิดจะทำอะไรกันแน่?” หากถูกพาขึ้นเขาไปจริงๆ อย่างนั้นก็อันตรายแน่แล้ว
หลี่ฝางจำภูเขาลูกนี้ได้ มันถูกคนท้องถิ่นเรียกว่าภูเขาเหลือง บนเขาไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการฆ่าคนและฝังศพ
“ขึ้นไปแล้วนายก็รู้เอง” หลี่ฝางจำชายหัวสกินเฮดผู้นี้ได้ ไม่กี่วันก่อนคนผู้นี้ร่วมมือกับตู้เฟยในการจับตัวเขา
“เร็วเข้า อย่าคิดหนี” ชายหัวสกินเฮดจ้องไปที่หลี่ฝาง
“ต่อให้ฉันอยากวิ่ง จะวิ่งยังไงได้ล่ะ” หลี่ฝางพูดไม่ออกเล็กน้อย ทั้งหน้าหลังล้วนมีคนจับตาดูเขาอยู่ นอกจากว่าตนเองจะบินได้ ต่อให้คิดหนีก็คงหนีไปไหนไม่รอด
เมื่อไปถึงบนยอดเขา หลี่ฝางก็เห็นวัดแห่งหนึ่ง
หลี่ฝางบ่นพึมพำ วัดนี่สร้างตอนไหนกัน ทำไมตอนเด็กๆ เขาไม่เคยเห็น?
“เข้าไป”
ชายหัวสกินเฮดเตะก้นของหลี่ฝาง ให้เขาเข้าไปด้านใน
“อ๊ะ!”
ทันทีที่หลี่ฝางเข้าไป เขาก็ร้องออกมาเสียงดัง
“ร้องอะไร ลองร้องขึ้นมาอีกฉันจะฆ่าแก” ชายหัวสกินเฮดเอ่ยกับหลี่ฝางอย่างเย็นชา
“ปล่อยให้เขาร้องไปเถอะ ในป่าเขาแบบนี้ ต่อให้ร้องจนคอแตก ก็ไม่มีใครได้ยินหรอก” ในเวลานั้นเองหลี่หลงก็เดินออกมา
หลี่ฝางกลืนน้ำลาย เขาไม่ได้ตั้งใจจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อกี้เขาตกใจจริงๆ
ในวัดแห่งนี้มีรูปปั้นอยู่ตรงกลาง อีกทั้งรูปปั้นนั้นมีหน้าตาคล้ายกับลูกพี่หลี่
ด้านหน้าของรูปปั้น มีโลงศพคริสทัลวางอยู่ ในนั้นวางศพของลูกพี่หลี่เอาไว้
ลูกพี่หลี่ที่ตายไปแล้วทั้งร่างขาวซีด บนตัวสวมชุดสวมชุดเสื้อคอจีน
นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ฝางได้ใกล้ชิดกับศพขนาดนี้
“คุกเข่า” หลี่หลงเดินเข้ามาและตะโกนใส่หลี่ฝาง
หลี่ฝางพยายามทำตัวให้สงบ “หลี่หลง นี่นายกำลังทำอะไรกันแน่?”
“คุกเข่าให้พ่อของฉันก่อนแล้วค่อยคุยกับฉัน” หลี่หลงกล่าวอย่างเย็นชา
อันที่จริงการคุกเข่าให้คนตายไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ประเด็นคือตนกับลูกพี่หลี่ไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันสักนิด ตนเองจึงคุกเข่าไม่ลง
แต่หลังจากลังเลชั่วครู่ หลี่ฝางก็ยังคุกเข่าลง
หลี่ฝางพูดซ้ำ “หลี่หลง นายพาฉันมาที่นี่ เพื่ออะไรกันแน่?”
“ฉันขอถามนาย นายให้จางกงหมิงยืมเงินไปใช่หรือไม่” หลี่หลงมองไปที่หลี่ฝางและเอ่ยถาม
หลี่ฝางตะลึงไปสักพัก หลี่หลงรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
“แม่งเอ้ย ฉันกำลังต่อสู้กับจางกงหมิงอยู่ แกให้เงินมัน ก็เท่ากับให้ความช่วยเหลือยื่นอาวุธให้กับมันไม่ใช่หรือไง” หลี่หลงเข้ามาและเตะหลี่ฝางเข้าหนึ่งที จากนั้นจึงด่าต่อ “แกคิดอยากให้ฉันตายใช่ไหม!”
“นายจับตัวฉันมา ก็เพราะเรื่องนี้เนี่ยนะ?” หลี่ฝางพูดไม่ออกอยู่บ้าง ก็แค่เงิน 100000 หยวน จะสร้างอาวุธได้มากแค่ไหนกันเชียว
แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องเงิน อย่างนั้นหลี่ฝางก็ง่ายจะจัดการแล้ว
หลี่ฝางหัวเราะและเอ่ย “เอาอย่างนี้ นายปล่อยฉันไป ฉันให้นาย 100000” หยวนเหมือนกัน เป็นไง?”
“อย่าหัวเราะ” หลี่หลงจ้องหลี่ฝาง “ศพพ่อของฉันยังอยู่ที่นี่”
หลี่ฝางเก็บรอยยิ้ม จากนั้นจึงพูดอย่างเคร่งขรึม “หลี่หลง ฉันให้จางกงหมิงยืมเงิน 100000 หยวน และให้นายยืมเงิน 100000 หยวน เป็นไง?”
หลี่หลงขมวดคิ้ว และมองไปที่หลี่ฝางอย่างเย็นชา “แกมันไร้เดียงสาเกินไป แกคิดว่ามาถึงตรงนี้แล้ว เงิน 100,000 หยวนจะทำให้ฉันยอมง่ายๆ หรือไง?”
“คืนนั้นอยู่แถวๆบาร์ พี่น้องคนหนึ่งของฉันถูกชนจนพิการ อีกคนหนึ่งสมองได้รับการกระทบกระเทือน ส่วนอีกคนมีเลือดออกในกะโหลกจนเกือบตาย แค่ค่ารักษาพยาบาลของพวกเขาก็ไม่ต่ำกว่า 500000แล้ว” หลี่หลงตะคอกออกมา
“ค่ารักษาพยาบาลตู้เฟยไม่ได้เป็นคนออกหรือไง?” หลี่ฝางเอ่ยเสียงเบา เห็นชัดว่าหลี่หลงคนนี้คิดจะแบล็กเมล์ตัวเอง
“แต่พี่น้องของฉันแกเป็นคนทำร้าย”
“ทำไมถึงเป็นฉันที่ทำร้ายไปได้ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคนกลุ่มนั้นจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ นอกจากนี้ ไม่มีลูกหนี้ไหนเลยจะมีเจ้าหนี้ ในเมื่ออีกฝ่ายทิ้งข้อมูลติดต่อเอาไว้ อย่างนั้นฉันก็ควรจะไปหาพวกเขา” หลี่ฝางกลอกตาและเอ่ย
“เฮี้ยเอ้ย!” หลี่หลงเตะหลี่ฝางจนกลิ้ง
“หลี่ฝาง ฉันถามแกแค่ประโยคเดียว แกจะให้หรือไม่ให้?” หลี่หลงเอ่ยอย่างเย็นชา” ไม่ให้ฉันจะให้แกไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อฉัน!”
“จะมีห้าแสนให้แกที่ไหนกันล่ะ” หลี่ฝางส่ายหัวและพูด “ฉันถูกลอตเตอรี่ทั้งหมดก็แค่เพียง 500000 เท่านั้น”
“ตู้เฟยโง่ แล้วแกคิดว่าฉันโง่ด้วยหรือไง? ถ้าห้าแสนจริง แกจะกล้ากินอาหารมื้อละเป็นแสนหรือไง? อีกทั้งยังกล้าเปิดห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทอีก?”
“หลี่ฝาง ฉันตรวจสอบประวัติแกอย่างงถี่ถ้วนแล้ว แกไม่ได้ถูกกลอตเตอรี่ ป้ายพวกนั้นก็แค่ของปลอม แกให้เงินเถ้าแก่ร้านลอตเตอรี่ 2,000 หยวน เพื่อให้มาเล่นละครโง่ๆ ฉากนี้กับแก เพื่อหลอกเพื่อนร่วมชั้นโง่ๆ ของแกก็เท่านั้น”
“บ้านของแกในชุมชนหยุนหูก็จ่ายเงินเต็มจำนวน มูลค่ามากกว่าสองล้าน” หลี่หลงจ้องมองหลี่ฝางอย่างเย็นชา
ร่างกายของหลี่ฝางสั่นสะท้านชั่วขณะ เขาไม่คิดว่าหลี่หลงจะขุดเขาขึ้นมาได้สะอาดหมดจนขนาดนี้ แม้กระทั่งเรื่องบ้านยังสืบจนรู้
“ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ?” สายตาของหลี่หลงจับจ้องไปที่หลี่ฝางอย่างแน่นิ่ง
หลี่ฝางพยักหน้าและตอบรับ “ได้ อย่างนั้นค่ารักษาพยาบาลคนเหล่านั้นฉันออกเอง ห้าแสน ฉันให้!”
ในเมื่อเรื่องบ้านก็ถูกขุดออกมาแล้ว แสดงว่าไม่สามารถปกปิดต่อได้อีก หลี่ฝางคิดอยู่ในใจ ถือเสียว่าเงินห้าแสนนี่ก็เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติแล้วกัน
ยังไงเสียเงินห้าแสนสำหรับตนก็ไม่นับว่าเป็นอะไร
“อย่าเพิ่งรีบ พวกเรายังคิดบัญชีกันไม่เสร็จ” หลี่หลงกล่าวอย่างเย็นชา
“ยังมีบัญชีอะไรอีก?” หลี่ฝางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หลี่หลงด้วยความโมโห
“พี่น้องสองคนของฉันในย่านโคมแดง ถูกหวางเห้าแทง บัญชีนี้ คงต้องคิดกับนายแล้ว” หลี่หลงพูดช้าๆ
“ไม่ใช่เพราะนายชักนำพวกเขาไปที่นั่น หวางเห้าก็คงไม่โจมตีพวกเขา”
“พวกเขาเกือบเสียเลือดเสียชีวิต จะมาจ่ายแค่คนละสามหรือห้าแสนได้อย่างไร?”
คนละสามถึงห้าแสน สองคนก็ไม่ใช่เกือบล้านสองล้านหรือไง?
หลังจากได้ยินหลี่ฝางก็โกรธ “หลี่หลง อะไรๆ นายก็เอามาคิดที่ฉัน เงินของฉันไม่ใช่ว่าลมพัดมาให้สักหน่อย”
“อย่างนั้นเงินของแกมาจากไหนล่ะ? ถูกลอตเตอรี่?” หลี่หลงถามอย่างประชดประชัน
“มันเป็นเงินที่เถ้าแก่ของRecalling the pastให้ฉันมา” หลี่ฝางเอ่ย “ฉันบอกความจริงกับนายก็ได้ อันที่จริงพื้นที่ตรงRecalling the pastตรงนั้น ก่อนหน้านี้เป็นของฉัน”
“ถ้านายไม่เชื่อ ก็ลองหาคนไปตรวจสอบดูได้ว่า ฉันอยู่ที่นั่นตอนเด็กๆ หรือเปล่า” หลี่ฝางกล่าว
“ให้คนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้” หลี่หลงไม่เชื่อหลี่ฝางมากนัก เขาเงยหน้าขึ้นและพูดกับชายหัวสกินเฮดคนหนึ่ง
“ไปสืบได้เลย พ่อแม่ของฉันไปทำงานแชร์ลูกโซ่มานานถึงสามปี และติดหนี้อยู่ก้อนหนึ่ง แม้กระทั่งบ้านยังไม่กล้ากลับไป โชคดีที่ก่อนหน้านี้มีเศรษฐีลึกลับคนหนึ่งมาหาฉัน และบอกว่าจะซื้อที่ดินผืนนี้ ดังนั้นที่บ้านฉันถึงค่อยมีเงินขึ้นมา”
“ฉันไม่เพียงแค่จ่ายหนี้ให้พ่อแม่ แต่ยังซื้อห้องชุดในหยุนหูด้วย แต่ว่าตอนนี้เงินไม่ได้เหลือเยอะขนาดนั้นแล้ว” หลี่ฝางยักไหล่และเอ่ยต่อ “ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด ถ้านายไม่เชื่อก็ไปตรวจสอบดูได้”
“เศรษฐีนั่นให้นายไปเท่าไหร่?” หลี่หลงซักต่อ
“ให้ฉันมาทั้งหมด 3.5 ล้านหยวน นอกเหนือจากการซื้อบ้านแล้ว เงินส่วนใหญ่ใช้หมดไปกับการจ่ายหนี้สินที่มี แน่นอนว่า ยังมีอีกไม่น้อยที่ถูกฉันใช้ไป ตอนนี้บนตัวฉัน เหลือแค่ 600000 หยวนเท่านั้น”
หลี่ฝางเงยหน้าขึ้นมองหลี่หลง จากนั้นจึงเอ่ยขอร้อง “นายปล่อยฉันไป ฉันจะให้เงิน600000ทั้งหมดกับนาย เป็นไง?”
หลี่หลงส่ายหัว “อยากให้ฉันปล่อยแกไป ได้ แกจะต้องจ่ายเงิน1.5 ล้านหยวนคืนให้ฉัน”
“ฉันให้แกสองทาง แกเลือกเอง ทางแรกคือให้เงินฉันมาซะ ทางที่สองฉันจะส่งนายไปยังยมโลกอยู่เป็นเพื่อนพ่อฉัน ก่อนที่พ่อจะตายได้พ่ออยากจะฆ่าแกทิ้งแทบแย่ ฆ่าแกทิ้งก็เท่ากับการได้ทำตามความปรารถนาของพ่อ ” ลี่หลงกล่าวอย่างเย็นชา
หลี่ฝางมองไปที่ร่างของลูกพี่หลี่และตัวสั่นสะท้านขึ้นมา
“แต่ฉันจะไปหา 1.5 ล้านมาจากไหน? ” หลี่ฝางยังคงแสร้งทำตัวเลอะเลือนสับสน ในตอนนี้ เขายังไม่ได้กลัวจนเสียสติไป
“แกยังมีบ้านไม่ใช่หรือไง? โอนบ้านนั้นให้ฉัน แล้วเอาเงิน 600000 มาให้ฉัน” หลี่หลงมองไปที่หลี่ฝางด้วยรอยยิ้มน่ากลัว
“ไม่ใช่ 1.5 ล้านหรอกหรือไง? แค่บ้านหลังนั้นก็ราคาสองล้านแล้ว ทำไมนายยังมาขอเงินฉันอีก?” หลี่ฝางถึงกับพูดไม่ออก จิตใจของหลี่หลงช่างดำมืดจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง
“อย่ามาพูดจาไร้สาระกับฉัน!”
หลี่หลงหรี่ตาลงและมองไปที่หลี่ฝาง “ฉันถามแก พ่อของแกชื่อหลี่ต๋าคาง และแม่ของแกชื่อเมี๋ยวชุ่ยใช่หรือไม่?”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว “นายถามเรื่องนี้ไปทำไม
“ฉันแค่อยากจะบอกแกว่า ถ้าแกไม่ตอบ พวกมันก็จะมาอยู่ที่ตรงนี้กับแกด้วย” หลี่หลงขู่อยากเยือกเย็น