NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 85

ตอนที่ 85

บทที่85 หลี่ต๋าคางโกรธ

หลี่ฝางรู้สึกว่าท้องของตัวเองเย็นๆ ตอนที่ลูบไป ก็รู้สึกหนึบๆ

เป็นเลือด!

สีหน้าของหลี่ฝางซีดขาวทันที เมื่อก่อนที่เขาถูกทำร้าย อย่างมากก็จมูกเขียวหน้าบวม แต่วันนี้ เขาถูกมีดแทง

หลี่ฝางตระหนก ขมับเขามีเหงื่อไหล หลี่ฝางกลัวจนคิดในใจ:ผมจะตายไหม?ผมไม่อยากตายนะ

มู่เสี่ยวไป๋มองหลี่ฝางพร้อมกับหัวเราะ: “ดูคุณตกใจจนหน้าซีดหมดแล้ว”

“ก่อนมาผมคิดว่าน้องชายของหลินชิงชิงจะเป็นคนยังไง สรุปว่าคิดไม่ถึง ก็แค่คนขี้ขลาดทั่วไป” มู่เสี่ยวไป๋ส่ายหน้า พร้อมกับความผิดหวัง

มู่เสี่ยวไป๋ยืนขึ้น แต่มีดยังแทงในท้องของหลี่ฝาง

ตอนที่หลี่ฝางจะเอามีดออกมาจากท้องตัวเอง มู่เสี่ยวไป๋ก็พูด: “ผมว่าคุณอย่าฆ่าตัวเองเลย”

“ถ้าคุณเอามีดออกมา เลือดจะเสียง่ายมาก ทำให้ตายได้”

คำนี้ของมู่เสี่ยวไป๋คือกำลังบอกหลี่ฝาง ที่จริงผมไม่อยากฆ่าคุณ อยากสั่งสอนเฉยๆ อยู่ให้ไกลจากผู้หญิงของผมหน่อย

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์มาทันที โทรหารถพยาบาล

“หลี่ฝาง ใช่สิ?ได้ยินแล้วใช่ไหม ผมค่อนข้างรักษาความสะอาดสะอ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ความสำคัญกับผู้หญิงด้านนี้มาก หลินชิงชิงคือผู้หญิงของผม ผมไม่ให้ชายใดก็ตามใกล้เธอ สัมผัสเธอ” ตาทั้งคู่ของมู่เสี่ยวไป๋ จ้องหลี่ฝางอย่างเลือดเย็น

“ถ้าให้ผมรู้ว่าคุณยังยุ่งกับหลินชิงชิง ผมจะให้มีดคุณอีก แค่ถึงตอนนั้น ผมจะไม่แทงไปที่ท้องคุณหรอกนะ” มู่เสี่ยวไป๋มองต่ำลงไปที่หลี่ฝาง ชี้ไปที่อกหลี่ฝาง: “จะแทงไปที่หัวใจคุณ”

ร่างหลี่ฝางสั่นเล็กน้อย รู้สึกถึงความกลัวทั้งร่าง

“ใช่สิ ถ้าหลินชิงชิงติดต่อคุณ จำไว้ว่าบอกผมด้วย นี่เบอร์ผม” มู่เสี่ยวไป๋ทิ้งนามบัตรให้หลี่ฝาง เลิกคิ้วพูด: “ถ้าข่าวนั่นจริง ผมจะให้รางวัลคุณสองแสน”

หลี่ฝางกัดฟัน ไม่กล้าขยับ

ยิ่งขยับ เลือดก็ยิ่งไหลมาก

มู่เสี่ยวไป๋ออกไป หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็วิ่งเข้ามา มองเห็นเลือดที่พื้น หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็ตกใจกรีดร้องเสียงดัง

“อย่าร้องเลย ผมไม่เป็นไร” หลี่ฝางพูดเบาๆ

“พวกเขาใครน่ะ ทำไมต้องแทงคุณด้วย เรียกรถพยาบาลยัง ฉันต้องแจ้งความไหม” หลี่เสี่ยวเสี่ยวว้าวุ่นใจมาก รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา

“อย่าเพิ่งแจ้งความ ผมจัดการเอง”

หลี่ฝางก็ไม่โง่ มู่เสี่ยวไป๋คนนี้ แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคนมีอำนาจ เขากล้าแทงหลี่ฝางกลางวันแสกๆ หมายความว่าไม่กลัวตำรวจ

อีกอย่าง ยังแทงคนในโรงเรียนอีกมู่เสี่ยวไป๋ เป็นใครมาจากไหนกันแน่?

แม้แต่หลินชิงชิงผู้หญิงที่ไม่กลัวอะไรก็ตกใจจนหนีไป ……

จางกงหมิงมาถึงไวกว่ารถพยาบาล เห็นหลี่ฝางถูกแทง จางกงหมิงก็ขมวดคิ้ว: “มู่เสี่ยวไป๋มาหาคุณ?”

“คุณรู้ได้ไง?” หลี่ฝางมองจางกงหมิงอย่างแปลกใจ

“คุณคิดว่าคุณถูกแทงคนเดียวเหรอ สองวันนี้ ถูกแทงไปเจ็ดแปดคนแล้ว ล้วนแต่เป็นผู้ชายที่เกี่ยวข้องกับน้องสาวฉันทั้งนั้น ต่างถูกมู่เสี่ยวไป๋ผู้ชายคนนั้นแทง”

“ในนั้นสามคนคือเพื่อนผม” จางกงหมิงพูดด้วยความโมโห

“ผมก็เป็นเพื่อนคุณนะ” หลี่ฝางยิ้มเบาๆ : “สามคนนี้นับผมไปยัง?”

“นับคุณเป็นสี่” จางกงหมิงกลอกตาใส่หลี่ฝาง: “เวลาไหนเนี่ย ยังมีอารมณ์มาเล่นอีกนะ มีดแทงไปไม่ลึกสินะ!”

“แม่งเอ๊ย มู่เสี่ยวไป๋เป็นใครกัน ทำไมเจ๋งขนาดนั้น เป็นใครก็กล้าแทงหมดเลยเหรอ?” หลี่ฝางพูดอย่างอดไม่ไหว

“ยังไงก็เป็นคนของเมืองเอก ในจำนวนคนที่ถูกแทง ไม่ใช่แค่เพื่อนผม ยังมีลูกน้องลุงผม แล้วก็พวกลูกชายของเจ้าของต่างๆ”

“คนมากมายถูกแทงแบบนี้ แต่คนที่กล้ามาคิดบัญชีกับมู่เสี่ยวไป๋ไม่มีเลย” จางกงหมิงด่า: “แม่เอ๊ย เดิมทีอยากแก้แค้นแทนพวกเพื่อนๆ สุดท้ายลุงโทรมาบอก ถ้าผมกล้าไปยุ่งกับมู่เสี่ยวไป๋ เขาก็จะให้แม่ผมตัดขาดกับผมเลย”

“โหดขนาดนั้นเชียว?”

“ใช่สิ ลุงผมบอก ผมตายได้ แต่อย่าทำให้น้องสาวเขาเหนื่อยด้วย” ใบหน้าจางกงหมิงทำอะไรไม่ถูก: “ดูเหมือนมู่เสี่ยวไป๋คนนี้จะใหญ่นะ ไม่งั้นลุงผมคงไม่พูดแบบนี้”

เวลานี้รถพยาบาลก็มา หลี่ฝางถูกส่งมาโรงพยาบาล

เพราะเสียเลือดเยอะไป หลี่ฝางก็หมดสติ

ตอนตื่นมา เห็นแค่หลี่เสี่ยวเสี่ยวกับลู่หลุ่ยนั่งข้างตัวเอง กำลังคุยกันเบาๆ

“คุณสองคนคุยอะไรกัน?” หลี่ฝางเริ่มถาม

“คุณตื่นแล้วเหรอ!”

หลี่ฝางอยากนั่งลง ลู่หลุ่ยกลับเอามือจับเขาเบาๆ : “อย่าขยับ คุณเพิ่งผ่าตัดไป ทางที่ที่อย่าขยับ ไม่งั้นแผลจะฉีกขาด”

หลี่ฝางพยักหน้า

ตอนนี้ลู่หลุ่ยก็พบว่ามือของตัวเองจับมือหลี่ฝางแน่นๆ อยู่พอดี เธอดึงมือกลับทันที แล้วหน้าก็แดง

แค่โดนมือก็หน้าแดงหมดแล้ว นี่มันขี้อายไปแล้ว

แต่หลี่ฝางกลับชอบมาก

มองนอกหน้าต่าง หลี่ฝางพบว่าท้องฟ้าค่อยๆ มืด

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ตอนที่เพิ่งตื่น ขยับเบาๆ คิดไม่ถึงว่าท้องน้อยจะรู้สึกเจ็บ

พูดถึงก็แปลกจริงๆ ทำไมตอนเช้าถูกแทง ตัวเองไม่รู้สึกเจ็บนะ?

ผ่าตัดเสร็จ ตัวเองเจ็บหนักขนาดนั้น

จางกงหมิงเข้ามาในตอนนี้ ในมือถือของกินต่างๆ

“มา กินข้าว” จางกงหมิงเอาของกินกองใหญ่วางบนโต๊ะ โบกมือให้หลี่เสี่ยวเสี่ยวกับลู่หลุ่ย

“ของผมล่ะ?”

“ของคุณ” จางกงหมิงเอาโจ๊กให้หลี่ฝาง: “พยาบาลบอกแล้ว ตอนนี้คุณกินได้แค่โจ๊ก”

“งั้นพวกคุณไปกินข้างนอกได้ไหม ผมเห็นแล้วอยากจะตายอยู่แล้ว พวกคุณกินไก่กินขาเป็ดกันที่นี่ ……” หลี่ฝางหมดคำพูด

“นั่นไม่ได้ พวกเราต้องดูคุณหน่อย ถ้ามู่เสี่ยวไป๋นั่นกลับมาระหว่างทาง แทงคุณอีกสักรอบล่ะ” จางกงหมิงล้อเล่น

แค่หลี่ฝางไม่เล้าหลือกับหลินชิงชิงต่อ มู่เสี่ยวไป๋ก็คงไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้เขาอีก

แต่ ให้หลี่ฝางเลิกติดต่อหลินชิงชิง หลี่ฝางทำไม่ได้หรอก ยังไงหลินชิงชิงก็ดีต่อเขามาก แล้วยังเห็นเขาเป็นน้องชายแท้ๆ

“ผมว่านะคุณนะ โชคดีจริงๆ มีสาวสวยมาชอบ นอนโรงพยาบาลยังมีสาวสวยหลายคนมาเยี่ยม เมื่อกี๊เซี่ยลู่กับหลิวเฉียวเฉียวมาแล้ว นั่งอยู่เป็นเพื่อนคุณทั้งบ่าย เพิ่งออกไปสินะ” จางกงหมิงพูดอย่างอิจฉา: “อิจฉาจริงๆ ที่พวกคุณยังไม่แต่งงาน หม้อใส่สาวๆ ได้ทุกวัน”

“งั้นคุณหย่าก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางกลอกตาใส่จางกงหมิง

“จะได้ไงล่ะ ไม่ง่ายเลยที่ผมจะหาสาวมาแต่งด้วยได้ จะหย่าได้ไง?” จางกงหมิงส่ายหน้าพูด

ที่จริงจางกงหมิงหล่อมาก แล้วยังรวยอีก แล้วยังเป็นลูกพี่ใหญ่ของเขตเมืองตะวันออก ถ้าเขาอยากได้ผู้หญิง แค่โบกมือ ก็มีผู้หญิงเข้าหาก่อนแล้วไหม?

แต่รู้จักจางกงหมิงมาสักพักแล้ว หลี่ฝางพบว่าเขากลัวภรรยามาก และก็ไม่กล้าหม้อใส่สาวๆ

“หลุ่ยหลุ่ย คุณลุงลู่ยังไม่กินข้าวสินะ เรียกเขามากินด้วยกันสิ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดกับลู่หลุ่ย

ลู่หลุ่ยอายเล็กน้อย

“อาหารเยอะขนาดนั้นเชียว พวกเราไม่กี่คนกินไม่หมดหรอก เดี๋ยวทิ้งเสียดายแย่” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดอีก

ลู่หลุ่ยอยากจะลุกขึ้นเรียกพ่อ จางกงหมิงกลับพูด: “คุณสองคนเอาไปกินเถอะ ผมมีเรื่องต้องถามหลี่ฝางส่วนตัว”

“พี่หมิง คุณไม่กินเหรอ?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองจางกงหมิงแล้วถาม ในเวลาหนึ่งวัน หลี่เสี่ยวเสี่ยวเคยชินกับจางกงหมิงแล้ว

“ผมไม่กิน”

รอจนหลี่เสี่ยวเสี่ยวกับลู่หลุ่ยไป สีหน้าของจางกงหมิงจู่ๆ ก็ดูดุดันขึ้นมา

“หลี่ฝาง ผมถามคุณอย่างหนึ่ง” มองหลี่ฝาง สีหน้าจางกงหมิงสับสนเล็กน้อย

“ทำไมนี่ ดูดุดันขนาดนั้น คุณจะถามอะไรผม?” ทำเอาหลี่ฝางกังวลตาม

“พ่อคุณเป็นคนยังไงกันแน่?” มองหลี่ฝาง จางกงหมิงถาม

“ทำไมจู่ๆ ก็ถามอย่างนี้” หลี่ฝางถามตาม

“ตอนที่คุณผ่าตัดไป พ่อแม่คุณมาแล้ว” สีหน้าจางกงหมิงกังวลหน่อยๆ : “ผมมองออกว่า พ่อคุณโกรธ”

“ผมถูกแทงแล้ว พ่อผมจะไม่โกรธได้เหรอ?” หลี่ฝางกลอกตาใส่จางกงหมิง นี่ไม่ได้พูดเหลวไหลเหรอ?

“ตอนที่พ่อคุณโกรธ ทำเอาผมตกใจ”

“ผมจางกงหมิงตั้งแต่เด็กก็ตามลุงผมไปยุทธภพ หลายปีนี้ ผมเคยกลัวแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่กลัว ก็เพราะเจอเรื่องที่ร้ายแรงถึงชีวิต”

“แต่เมื่อกี๊ที่พ่อคุณโกรธ สายตาเขา ทำเอาผมตกใจกลัวจนสั่นไปทั้งตัว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท