NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 99

ตอนที่ 99

บทที่99 เทพเจ้าแห่งโชคลาภในผับ

คำสุดท้ายของหลี่ฝาง โดนจางกงหมิงกับหลินชิงชิงไม่สนใจแล้ว

ตามองไปก็จะเที่ยงคืนแล้ว แต่จางกงหมิงกลับหาเงินได้แค่เจ็ดล้านกว่า

“ไอ้หมาติดแม่งเอ๊ย เจ็ดล้านกว่ายังไม่พอใจอีก!” ลูกพี่หลินสบถคำด่าออกไป เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแย่มากขนาดนี้

เมื่อกี๊ลูกพี่หลินเอาเงินสดเจ็ดล้านกว่าให้ไอ้หน้าหนวด แต่พอไอ้หน้าหนวดนับ ก็ทิ้งออกไป แล้วยังพูดกับลูกพี่หลิน:ช้าไปหนึ่งนาทีก็ไม่ได้

“ชิงชิง ลูกโทรหาเสี่ยวไป๋อีกทีสิ ถามเขาว่าถึงยัง” ลูกพี่หลินมองหลินชิงชิงแล้วพูด

หลินชิงชิงพูดอย่างไม่พอใจ: “ไม่ใช่ว่าพ่อไม่มีเบอร์เขานี่ ทำไมไม่โทรล่ะ?”

“พ่อโทรหาเขา เขาไม่รับนี่” ลูกพี่หลินหัวเราะ พูด: “ถ้าลูกโทร พ่อว่าเขารับแน่ๆ”

“อย่าลืมล่ะ ซ้อของลูกยังอยู่ในมือพวกเขา”

ลูกพี่หลินพูดจบ หลินชิงชิงก็หยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่พอใจนัก เวลานี้ จางกงหมิงจ้องหลินชิงชิงด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

“ถึงยัง?” โทรติด หลินชิงชิงก็ถาม

“ก็ใกล้จะถึงแล้ว รถติดบนทางด่วน ห่าเอ๊ย” มู่เสี่ยวไป๋พูดด้วยความโกรธ

“คุณเร็วหน่อยสิ ไม่มีเวลาแล้ว ถ้าสายล่ะก็ ชาตินี้ก็อย่าเจอฉันอีกเลย” หลินชิงชิงพูดอย่างไร้ปรานี วางสายทันที

มู่เสี่ยวไป๋จึงร้อนใจ หันไปพูดกับคนขับ: “กลับรถ แล้วก็แซงไปเลย ไม่ต้องสนความเร็ว และก็ไม่ต้องสนกฎจราจร”

……

เวลานี้อีกด้านหนึ่ง หลี่ฝางโทรหาลุงเฉียน

พอโทรติด หลี่ฝางก็พูดตรงๆ : “ลุงเฉียน คุณให้ส้าวส้วยเอาสามล้านมาที่ย่านร้านอินเตอร์เน็ต แล้วเอามาให้พี่หลินชิงชิงหน่อย”

“เสี่ยวฝาง ส้าวส้วยลาออกไปแล้ว เปลี่ยนคนได้ไหม?” ลุงเฉียนถาม

“ทำไมส้าวส้วยไม่ทำแล้วล่ะ?” หลี่ฝางบ่น พยักหน้าพูด: “โอเค งั้นลุงก็หาคนที่เชื่อใจได้มาหน่อย”

หลี่ฝางคิดในใจ สามล้านนะ แล้วก็ยังเป็นเงินสด นอกจากส้าวส้วย หลี่ฝางก็ไม่รู้จริงๆ ว่าที่ผับยังจะเชื่อใจใครได้อีก

ลุงเฉียนน่ะได้ แต่ตอนนี้ที่ผับกำลังยุ่ง เขาไปไม่ได้

“โอเค ไม่มีปัญหาครับ” ลุงเฉียนก็ไม่ได้ถามอะไร รับปากไปโดยตรง

“ใช่สิ ให้เขาขับไวหน่อยนะ ก่อนเที่ยงต้องเอาเงินไปส่งให้ได้” หลี่ฝางพูดเสริมไป แล้วจึงวางสาย

ทางผับ ลุงเฉียนเรียกผู้ชายคนหนึ่งที่ผอมๆ เข้ามา เขาชื่อโหจื่อ

“โหจื่อ มานี่หน่อย”

โหจื่อเข้ามา ลุงเฉียนก็เอาถุงเงินส่งให้เขา: “เอาเงินไปที่ปู๋เย่เฉิน ส่งถึงมือหลินชิงชิง”

โหจื่อแปลกใจหน่อยๆ ถาม: “ลุงเฉียน พวกเรายังต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้ตระกูลหลินอีกเหรอ?”

“ไม่ใช่ค่าคุ้มครอง แต่เสี่ยวฝางสั่งมา” ลุงเฉียนพูด

“เจ้านายน้อยทำเพื่อจีบสาว คุ้มจริงๆ” มองเงินหยวนในถุงที่เต็ม โหจื่อก็ส่ายหน้ายิ้ม

“รีบไปให้เถอะ ก่อนเที่ยง จะต้องส่งถึงมือของหลินชิงชิง เสี่ยวฝางกำชับเป็นพิเศษ”

“งั้นคุณต้องเอาเบอร์ของหลินชิงชิงให้ผมนะ ปู๋เย่เฉินเป็นถนนสายยาวขนาดนั้น ผมคงไม่หาเจอทันทีหรอก?” โหจื่อพูดโดยทำปากคว่ำใส่

“เดี๋ยวส่งไปที่โทรศัพท์คุณ คุณไปก่อนเถอะ” ลุงเฉียนพูด

ไม่นานนัก ลุงเฉียนก็เอาเบอร์ของหลินชิงชิงจากหลี่ฝาง ส่งให้โหจื่อ

“แม่งเอ๊ย เอาเงินให้คนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งเกี้ยวเจ้าสาวที่ยังสาวใสวัยรุ่นไม่แต่งงานสินะ” โหจื่อพูดอย่างเซ็งๆ

ผู้ชายคนนี้ชื่อโหจื่อ ขึ้นชื่อเรื่องรับอย่าเดียวไม่เคยรั่วไหลออกไป ของที่อยู่ในมือเขา ไม่เคยเห็นเขาเอาออกมาให้ใครรับรู้

ในมือโหจื่อยากที่จะขโมยไป

ผ่านไปยี่สิบกว่านาที โหจื่อมาถึงปู๋เย่เฉิน

โหจื่อหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาหลินชิงชิง พอโทรติด โหจื่อจึงพูด: “คุณหนู เงินที่จะเอามาให้คุณมาถึงแล้ว คุณอยู่ไหนครับ?”

“พวกคุณถึงยัง?” หลินชิงชิงคิดว่าเป็นคนของมู่เสี่ยวไป๋ พูดอย่างเซ็งๆ : “มาที่ร้านชาโยวโยว เร็วๆ หน่อย”

พูดจบ ก็วางสาย

“ห่า ผมเอาเงินมาให้ ทำไมทำท่าทีแบบนี้?ผมเป็นถึงเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งเชียว!” โหจื่อแบกถุงเงิน ค่อยๆ เดินไปในร้านชาโยวโยว

พอถึงร้านชาโยวโยว โหจื่อลงจากรถก็มองเห็นคนหลายร้อยคน

โหจื่อขมวดคิ้ว รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติทันที

คนหลายร้อยล้อมรอบหน้าร้านน้ำชา ใบหน้าดุดัน และที่มือหลายๆ คนก็ถือมีดอีโต้ไว้

นี่ดูเหมือนตำรวจกำลังถือปืน หมอบรอพวกนักเลงปรากฏตัว

“อะไรกันวะเนี่ย!” โหจื่อพูดกับตัวเอง จากนั้นก็ลงจากรถ

โหจื่อรู้จักหลินชิงชิง ยังไงหลินชิงชิงก็เคยไปผับกับหลี่ฝางหลายครั้ง

โหจื่อไปตรงหน้าหลินชิงชิง เอาถุงเงินวางตรงหน้าเธอ: “อ่ะ นี่เงินที่คุณต้องการ”

หลินชิงชิงนับ ขมวดคิ้ว

ทำไมแค่สามล้าน?

ตอนที่หลินชิงชิงโทรหามู่เสี่ยวไป๋ บอกว่าเอาห้าล้านกว่า หลินชิงชิงยังคิดว่าโหจื่อลักเงินของมู่เสี่ยวไป๋ จึงถาม: “เจ้านายคุณล่ะ?”

“คุณถามผม ผมจะไปถามใคร ผมก็แค่เด็กส่งของ”

โหจื่อก็ไม่ทำสีหน้าดีๆ ใส่หลินชิงชิง: “เงินไม่มีปัญหาใช่ไหม ไม่มีปัญหาผมก็จะไปแล้ว”

“โอเค คุณไปเถอะ”

หลินชิงชิงคิดในใจ ยังไงสามล้านก็พอ

จางกงหมิงกับลูกพี่หลินทั้งสองคนถือเงินสดสิบล้าน มาตรงหน้าร้านน้ำชา

ลูกพี่หลินพูด: “เงินเอามาให้คุณครบแล้ว รีบปล่อยยิงจื่อซะ!”

“เอาเงินเข้ามา!” ไอ้หน้าหนวดพูดอย่างเย็นชา

เอาเงินไปในร้านน้ำชา ไอ้หน้าหนวดกับพรรคพวกก็นับ นับเสร็จ ไอ้หน้าหนวดเดินมาพร้อมกับยิงจื่อ: “เงินครบถ้วน”

“แล้วยังไม่ปล่อยคนอีก?” ลูกพี่หลินขมวดคิ้ว

“คนน่ะผมปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ไอ้หน้าหนวดส่ายหน้า

“แม่งเอ๊ยคิดจะเล่นกับผมเหรอ?” ลูกพี่หลินจ้องไอ้หน้าหนวด

“ลูกพี่หลิน ผมไม่ได้คิดจะหลอกคุณ ถ้าตอนนี้ผมปล่อยไป คุณจะให้ผมไปอย่างปลอดภัยไหมล่ะ?พวกลูกน้องคุณ ไม่หั่นผมเป็นชิ้นๆ เลยเหรอ?” ไอ้หน้าหนวดพูด

“วางใจเถอะ ผมลูกพี่หลิน พูดอะไรเชื่อถือได้” ลูกพี่หลินพูด

“ใช่ไหม?ทำไมผมไม่เชื่อนะ” ไอ้หน้าหนวดหัวเราะอย่างเย็นชาพูดกับลูกพี่หลิน: “คนอย่างลูกพี่หลิน ผมรู้ดี”

“ลูกพี่หลิน ผมได้เงิน ถึงจะปล่อยคน แต่ต้องแน่ใจว่าผมอยู่ในสถานการณ์ปลอดภัย ถึงจะปล่อยไป”

ไอ้หน้าหนวดยิ้ม มองลูกพี่หลิน พูด: “ลูกพี่หลิน เอารถมาให้ผมสักสองคนสิ พวกเราคงเดินไปไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ?”

“พวกคุณไม่ได้มีรถเหรอไง?” ลูกพี่หลินชี้ไปที่รถของไอ้หน้าหนวดที่ขับมา

“รถไม่มีน้ำมันแล้ว” ไอ้หน้าหนวดพูด: “ทำไม สิบล้านก็ให้มาแล้ว แค่รถสองคันให้ไม่ได้?ไม่ต้องหรูมากหรอก รถธรรมดาๆ ก็พอ”

“เช่นคันนั้นก็ได้” ไอ้หน้าหนวดชี้ไปที่รถของโหจื่อ

ตอนนั้นโหจื่อกำลังสูบบุหรี่ในรถ ยังไม่ไป และอยากดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

มองไอ้หน้าหนวดชี้มาที่ตัวเอง โหจื่อคิดว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ แต่เขาไม่กลัว กลับสูบบุหรี่ต่อ เหมือนมองไม่เห็น

“ไป!” ไอ้หน้าหนวดตวาดใส่ยิงจื่อ มาตรงหน้าโหจื่อ

“น้องชาย เอารถคุณมาให้ผมขับหน่อยสิ” ไอ้หน้าหนวดถาม

โหจื่อพ่นควันออก มองไอ้หน้าหนวด: “เรื่องอะไรล่ะ นี่รถของผมเอง”

“ก็เนี่ยไง” จู่ๆ ไอ้หน้าหนวดเอาปืนออกมาจากอก ชี้ไปที่โหจื่อ

โหจื่อตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน บุหรี่ในมือตกไปในรถ: “มีปืนเหรอ มีปืนก็ต้องเป็นลูกพี่ใหญ่ ผมจะเอารถให้พี่ตอนนี้เลย”

“ช้าไปแล้ว น้องชาย ไปส่งพวกเราละกัน!” ไอ้หน้าหนวดหัวเราะอย่างเย็นชา เปิดประตู เข้าไปในรถโหจื่อ

ไอ้หน้าหนวดกับยิงจื่อนั่งด้านหลัง ส่วนที่นั่งข้างคนขับก็เข้ามาอีกคน

“พี่ชาย ผมแค่ผ่านมาเฉยๆ เห็นคนมากมาย ก็เลยหยุดดูหน่อย ความขัดแย้งของยุทธภพอย่างพวกคุณ ทำไมต้องมายุ่งกับคนบริสุทธิ์อย่างผมล่ะ” โหจื่อหัวเราะอย่างอึดอัด

“ไม่งั้น รถนั่นผมเอาให้คุณ ไม่เอาแล้ว คุณปล่อยผมไปโอเคไหม?” โหจื่อพูดอย่างปรึกษาหารือ

โหจื่อเพิ่งลุกขึ้น ไอ้หน้าหนวดกลับพูดอย่างเย็นชา: “นั่งลง อย่าขยับ”

“ขยับอีกผมจะทุบหัวคุณแบะแน่”

“อย่าเลยนะ พี่ชาย ผมไม่ได้มาหาเรื่องพี่ ผมไม่ขยับแล้ว” โหจื่อตกใจมือสั่น ไม่กล้าขยับ

และในเวลานี้ Land Roverสีขาวก็ขับเข้ามา

มู่เสี่ยวไป๋ถือถุงเงินลงมาจากLand Rover เดินไปทางหลินชิงชิง: “ชิงชิง นี่คือเงินที่คุณต้องการ หกล้าน ผมเอามาให้คุณเพิ่มอีกสองแสน”

“ทำไมตอนนี้คุณเพิ่งจะเอาเงินมาให้ นี่มันเลยเที่ยงไปแล้ว!” หลินชิงชิงพูดอย่างรังเกียจ

จากนั้น สีหน้าเธอก็ตะลึง มองโหจื่อ: “เดี๋ยว เขาไม่ใช่คนของคุณเหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท