NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 118

ตอนที่ 118

บทที่ 118 เรื่องสนุกที่หลี่ต๋าคางพูดถึง

ตอนนี้ตู้เฟยลนลานมาก

ตอนนี้ทางบ้านล้มละลาย ลูกสมุนก็ไม่มีแล้ว หลี่ฝางยังเรียกพี่หมาจื่อมาอีก ครั้งนี้เขาต้องตายแน่!

ร้องขอชีวิตเหรอ?

ตู้เฟยรู้สึกว่าทำไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตู้เฟยเชื่อว่า ต่อให้เขาขอร้องหลี่ฝาง หลี่ฝางก็คงไม่ยอมปล่อยเขาอย่างแน่นอน

ตู้เฟยคิดในใจ แมนๆ หน่อยดีกว่า อย่างน้อยอยู่ต่อหน้าเชี่ยลู่ยังพอมีศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายเหลืออยู่

เพียงแต่ เขาเหมือนจะลืมเรื่องที่เมื่อกี้ตัวเองตกใจจนฉี่ราดไปแล้ว

ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของตู้เฟย ได้หายไปหมดในตอนที่เขาฉี่ราดกางเกงแล้ว ไม่เหลือเลยแม้แต่นิดเดียว

“นายจะคิดบัญชียังไง?” ตู้เฟยมองหลี่ฝางอย่างไม่แยแส

หลี่ฝางได้ยกเท้าขึ้น ถีบไปบนตัวของตู้เฟย

“ยังกวนอีก วันนี้กูจะทำให้ตายอย่างหมาเลย” หลี่ฝางกระทืบเท้าลงบนตัวของตู้เฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เดิมทีหลี่ฝางอยากจะหักขาตู้เฟยข้างหนึ่ง สุดท้ายในโรงแรมมีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมา

คนกลุ่มนี้รูปร่างสูงใหญ่ รูปร่างคล้ายๆ กับคนของพี่หมาจื่อ ดูแล้วไม่ได้มาดี

“ตู้เฟยล่ะ?” มาถึง หัวหน้าแก๊งก็ตะโกนหาตู้เฟย

ขณะนั้นตู้เฟยที่นอนอยู่บนพื้น ได้ยินคนเรียก ก็รีบตอบทันที: “ฉันอยู่นี่”

ชายคนนั้นก็วิ่งเข้าไป พี่หมาจื่อก็กระแอมไปหนึ่งที แล้วถาม: “เสี่ยวซานจื่อ นายมาได้ไง?”

คนที่ชื่อเสี่ยวซานจื่อคนนี้เมื่อเห็นพี่หมาจื่อ สีหน้าก็อ่อนน้อมทันที: “พี่หมาจื่อก็อยู่ด้วย”

“ก่อนหน้านั้นตู้ต้าไห่ติดหนี้ผม ผมจะไปทวงกับเขา สุดท้ายเจ้าอ้วนคนนี้ไม่ยอมรับสาย นี่ไง ผมก็เลยมาหาลูกชายเขาไง” เสี่ยวซานจื่อมองพี่หมาจื่อแล้วกล่าว

“มาทวงหนี้เหรอ” พี่หมาจื่อพยักหน้า

“ใช่ไง หนี้พ่อลูกใช้ เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว”

เสี่ยวซานจื่อมองไปที่พี่หมาจื่อแล้วพยักหน้า หันไปสีหน้าก็เปลี่ยนทันที เขามองตู้เฟยอย่างเย็นชา: “พูดมา พ่อแกไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหน?”

“พี่ซาน ผมก็ไม่รู้ ตู้เฟยพูดอย่างลำบากใจ” ตอนที่เขาเพิ่งจะเห็นเสี่ยวซานจื่อนั้น ยังนึกว่าเสี่ยวซานจื่อมาช่วยเขาเสียอีก ถึงอย่างไรเสี่ยวซานจื่อก็เป็นเพื่อนเก่าของพ่อเขา

คิดไม่ถึง กลับมาทวงหนี้สักงั้น

“เย็ดแม่ นายเป็นลูกชายของตู้ต้าไห่ เขาไปไหน นายจะไม่รู้เหรอ?” เสี่ยวซานจื่อกระทืบตู้เฟยไปหนึ่งที แล้วก็ด่าโดยตรง

“พี่ซาน ผมไม่รู้จริงๆ” ตู้เฟยจะร้องไห้แล้ว ทำไมทุกคนต้องมากระทืบเขาด้วย

“งั้นนายโทรหาพ่อนายเลย” เสี่ยวซานจื่อออกคำสั่ง

ท่าทางของเสี่ยวซานจื่อดูโหดเหี้ยมมาก สิ่งที่เขาพูด มีเหรอตู้เฟยจะไม่ฟัง?

ตู้เฟยรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาตู้ต้าไห่

“ปิดเครื่องแล้ว พี่ซาน” ตู้เฟยสั่นเล็กน้อย คิดในใจ: เสี่ยวซานจื่อคนนี้ตามหาตู้ต้าไห่ไม่เจอ จะมาคิดบัญชีที่เขาหรือเปล่า?

เสี่ยวซานจื่อขมวดคิ้ว ชี้ไปที่รถเบนซ์สปอตที่อยู่ด้านนอก แล้วถาม: “รถเบนซ์คันนั้นของนายหรือเปล่า?”

ตั้งนานตู้เฟยก็ไม่ยอมพูด

“เหี้ย!” เสี่ยวซานจื่อด่าอย่างหยาบคาย มือตบไปที่หน้าของเขา: “กูถามมึงอยู่นะ มึงเป็นใบ้เหรอ!”

“ใช่ ของผม” ตู้เฟยพยักหน้า หน้าตาซีดเหมือนศพ

ตู้เฟยรู้ รถคันนี้ต้องโดนเอาไปอย่างแน่นอน

เป็นดังเช่นนั้น เสี่ยวซานจื่อได้ไปขอยืมปากกากับกระดาษกับพนักงานต้อนรับ: “แล้วกล่าว เซ็นชื่อ เร็วๆ หน่อย”

“พี่ซาน รถคันนี้ผมเพิ่งซื้อมาด้วยเงินห้าแสนกว่าหยวน ทำไมถึงล้างหนี้ได้แค่สองแสนละ?” ตู้เฟยมองเสี่ยวซานจื่ออย่างไม่อยากจะพูด

เสี่ยวซานจื่อพูดอย่างโมโห: “ไม่เห็นท้ายรถมันพังแล้วเหรอ? คิดให้นายสองแสนก็ถือว่าดีมากแล้ว หากไม่ใช้มาหักล้างหนี้ รถคันนี้ของนายขายได้หนึ่งแสนก็ไม่เลวแล้ว”

เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวซานจื่อกำลังเฉไฉ รถของตู้เฟยหากไปขายให้เต็นท์รถ อย่างน้อยก็น่าจะขายได้สามแสนหยวนขึ้นไป

ตู้เฟยเงยหน้ามองหลี่ฝาง แล้วกล่าว พี่ซาน: “รถของผมถูกเขาชน ไม่อย่างนั้นพี่ก็ให้เขาชดใช้สิ”

หลี่ฝางอึ้งไปสักพัก คิดไม่ถึงว่าตู้เฟยก็ฉลาดไม่เบา สามารถเล่นเกมยืมมือคนอื่น

เสี่ยวซานจื่อพยักหน้า หันหลังมาทางหลี่ฝาง: “รถของตู้เฟยนายเป็นคนชนเหรอ?”

“ใช่ผมเป็นคนชนเอง ทำไมเหรอ?” หลี่ฝางไม่ได้ปฏิเสธ

“ในเมื่อนายยอมรับแล้ว งั้นนายก็ชดใช้ละกัน” เสี่ยวซานจื่อไม่พูดพร่ำทำเพลง กล่าวออกมาโดยตรง: “ราคาเดียว หนึ่งแสน รถของตู้เฟยคันนี้เป็นรถใหม่ ดูที่นายชนสิ!”

เสี่ยวซานจื่อยังไม่ทันพูดจบ พี่หม่าจื่อก็ได้ยกขาขึ้น ถีบไปที่ก้นของเสี่ยวซานจื่อหนึ่งที

เสี่ยวซานจื่อหันหน้าไปมอง มองพี่หมาจื่อด้วยสีหน้าที่มึนงง: “พี่หม่าจื่อ พี่ถีบผมทำไม?”

เย็ดแม่ น้องชายฉันชนรถนายแล้วจะทำไม? พี่หมาจื่อพูดอย่างเย็นชา

“หนึ่งแสน? เย็ดแม่นายจะขูดรีดน้องชายฉันเหรอ หนึ่งแสนนี้สามารถตีขานายหักได้หนึ่งข้างแล้ว”

น้ำเสียงของพี่หมาจื่อเยือกเย็นมาก มองดูเสี่ยวซานจื่อแล้วกล่าว: “ฉันถามนาย หนึ่งแสนนายยังจะเอามั้ย?”

“ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว ผมจะไปรู้ได้ไงว่าหนุ่มหล่อคนนี้จะเป็นน้องชายพี่”

“อย่าว่าแต่น้องชายพี่ชนรถเลย ต่อให้ทุบรถจนพัง ผมก็ไม่สามารถเอาเงินของเขาได้” เสี่ยวซานจื่อพูดอย่างสุภาพ

ดูก็รู้ เสี่ยวซานจื่อคนนี้กลัวพี่หมาจื่อมาก

ก็ใช่ ตอนนี้จางกงหมิงก็ไปแล้ว คนที่เจ๋งที่สุดในตงไห่ ก็คือลูกพี่หลิน

และพี่หมาจื่อก็เป็นลูกน้องที่ฝีมือยอดเยี่ยมของลูกพี่หลิน ทุกคำพูดการกระทำของเขา เป็นเหมือนตัวแทนของลูกพี่หลิน

กลุ่มนักเลงในตงไห่ มีใครที่กล้าเป็นปรปักษ์กับพี่หมาจื่อเหรอ?

“แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”

แบบนี้พี่หมาจื่อจึงได้พยักหน้าให้กับเสี่ยวซานจื่อ

จากนั้น พี่หมาจื่อก็ไปกระทืบตู้เฟยหนึ่งที: “ไอ้เด็กเมื่อวานซืน แกนี่มันหัวหมอจริงๆ นะ กล้าคิดที่จะทำร้ายน้องชายฉัน”

“ลุกขึ้นมา เมื่อกี้นายโอหังมากไม่ใช่เหรอ ยังจะคิดตีขาน้องฉันหักไม่ใช่เหรอ?” พี่หมาจื่อนั่งลง แล้วตบหน้าของตู้เฟยไปมา

ในขณะที่พี่หมาจื่อนั่งลงนั้น ตู้เฟยได้ควักมีดพับสวิสออกมา แทงเข้าไปในท้องของพี่หมาจื่อ

หลังจากแทงเข้าไปแล้ว ตู้เฟยก็วิ่งหนีไปจากโรงแรม

“พี่หมาจื่อ!”

ทุกคนต่างวิ่งเข้ามาดูอาการบาดเจ็บของพี่หมาจื่อ เห็นใบหน้าของพี่หมาจื่อเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ!

“ไม่ต้องห่วงฉัน รีบตามมันไป!” พี่หมาจื่อพูดอย่างเย็นชา

ลูกน้องของเขากับพวกของเสี่ยวซานจื่อ วิ่งตามไปในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน

หลี่ฝางรีบโทรไปที่120 จากนั้นก็มาถึงตรงหน้าของพี่หมาจื่อ: “พี่หมาจื่อ พี่ยังโอเคนะ?”

“ช่างขายหน้าจริงๆ เลย กูเป็นนักเลงมาตั้งหลายปี กลับไม่คิดว่าคนที่แทงกูจะเป็นไอ้เด็กเมื่อวานซืน เป็นอะไรที่ไม่คาดคิดเลยจริงๆ” พี่หมาจื่อกล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่รู้จะพูดยังไงดี

ตู้เฟยวิ่งหนีไปจากโรงแรม ก็กระโดดเข้าไปในรถของตัวเอง

เสี่ยวซานจื่อและคนของพี่หมาจื่อก็ตามไม่ทัน ทำให้ตู้เฟยขับรถหนีไปเลย

“พี่หมาจื่อ มันหนีไปแล้ว พวกเราส่งพี่ไปโรงพยาบาลก่อน” ลูกน้องของพี่หมาจื่อก็กลับมากันหมดแล้ว

“ฉันได้เรียกรถพยาบาลไปแล้ว สักพักก็คงจะมาถึง”

พี่หมาจื่อเอ่ยปากพูด: “ไม่เป็นไรมากหรอก ไม่ต้องไปโรงพยาบาล ฉันรู้จักหมอคนหนึ่ง อยู่แถวนี้แหละ”

เปิดบาดแผลตรงท้องของพี่หมาจื่อ หลี่ฝางเห็นรอยแผลเป็นแผลหนึ่ง เหมือนแผลถูกยิง

หลี่ฝางคิดในใจ ที่พี่หมาจื่อไม่ยอมไปโรงพยาบาลน่าจะเพราะแผลกระสุนที่ท้องแน่เลย

หากถูกโรงพยาบาลตรวจสอบขึ้นมา ก็จะวุ่นวายกันไปใหญ่

หลังจากที่พี่หมาจื่อไปแล้ว หลี่ต๋าคางก็โทรศัพท์เข้ามา

พอเขารับสาย หลี่ต๋าคางก็ได้ถามขึ้น: “เรื่องมันยังไง? ทำไมยังเรียกรถพยาบาลด้วยละ??”

“พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่ามีรถพยาบาลมา พ่อก็อยู่ในโรงแรมเหรอ?” หลี่ฝางถามไปประโยคหนึ่ง

หลี่ต๋าคางกล่าว: “ใช่ พ่อก็อยู่ที่ประตูโรงแรมแหละ แกออกมาก็จะเห็นพ่อเลย”

หลี่ฝางวิ่งออกไป ก็เห็นรถออดี้ A4สีขาวคันหนึ่ง หลี่ต๋าคางนั่งอยู่ในรถ

“พ่อ พ่อมาได้ยังไง?” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย

“ไม่ต้องถาม หลี่ต๋าคางพูด ขับตามรถของพ่อมาก็พอ พ่อจะพาแกไปดูเรื่องสนุกๆ”

“ดูเรื่องสนุกๆ เหรอ” หลี่ฝางถาม

“ไปแล้วนายก็จะรู้เองแหละ” หลี่ต๋าคางทำเป็นเล่นตัว ก็วางสาย แล้วก็ส่งข้อความให้กับเสี่ยวซานจื่อและพวก

เสี่ยวซานจื่อที่ได้รับข้อความ ความสุขก็ได้ปรากฏบนใบหน้าของเขา: “หาหมาอย่างตู้ต้าไห่เจอแล้ว เขาหลบอยู่ที่ลู่เฉิง”

เสี่ยวซานจื่อกระโดดขึ้นรถของตัวเอง ขับไปยังเมืองลู่เฉิง

หลี่ฝางก็ขึ้นไปบนรถเบนซ์จิ๊บของตัวเอง เวลานี้หลิวเฉียวเฉียวกับเชี่ยลู่ก็วิ่งออกมา วิ่งตามก้นหลี่ฝางไป: “หลี่ฝาง นายจะไปไหน พาพวกเราไปด้วยได้มั้ย”

หลี่ฝางคิดดูแล้ว แล้วกล่าวขึ้น: “หากพวกเธออยากไปก็ขึ้นมาสิ”

หลิวเฉียวเฉียวกับเชี่ยลู่ก็ยิ้มออกมาทันที ก็รีบขึ้นไปบนรถเบนซ์จิ๊บของหลี่ฝาง

เดิมทีเชี่ยลู่อยากนั่งตรงข้างหน้า แต่ว่าหลี่เสี่ยวเสี่ยวชิงตัดหน้าไปเสียก่อน ไปนั่งเบาะข้างคนขับโดยตรง

ด้วยความจำยอม เชี่ยลู่จึงได้ไปนั่งข้างหลังกับหลิวหลิว

หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองไปที่หลี่ฝาง แล้วกล่าว: “ฉันต้องตามนายหน่อย ไม่อยากให้นายโดนนางจิ้งจอกมาหลอกไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท