บทที่ 119 เรื่องสนุก
แม้ว่าเสียงของหลี่เสี่ยวเสี่ยวจะไม่ดัง แต่ว่าหลิวเฉียวเฉียวกับเชี่ยลู่ที่นั่งอยู่ด้านหลัง ทำไมถึงจะไม่ได้ยินละ?
หลิวเฉียวเฉียวเป็นคนใจเสาะ ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร แต่ว่าเชี่ยลู่นั้นพูดอย่างไม่พอใจ: “หลี่เสี่ยวเสี่ยว เธอว่าใครเป็นนางจิ้งจอกเหรอ?”
“ก็ว่าเธอไง ทำไมเหรอ?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวที่ไม่ยอม ก็กล่าวขึ้น: “เมื่อก่อนตอนที่ตู้เฟยมีเงินเธอก็คบตู้เฟย ตอนนี้ตู้เฟยไม่มีเงิน เธอก็มีความคิดที่จะมาเกาะหลี่ฝาง ถ้าไม่ใช่นางจิ้งจอกแล้วคืออะไร?”
“หลี่เสี่ยวเสี่ยว ก้นของตัวเองเช็ดสะอาดหรือยัง ยังมีหน้ามาว่าฉันอีก โพสต์ของเธอยังมีอยู่ในโซเชียลเลย จะให้ฉันค้นหาออกมาส่งให้เธอมั้ย เชี่ยลู่พูดอย่างภาคภูมิใจ” เพราะโพสต์นั้นเป็นฝีมือของเธอ
พูดถึงโพสต์นั้น สีหน้าของหลี่เสี่ยวเสี่ยวก็มืดมนลงทันที
“อีกะหรี่ เธออย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ ว่าโพสต์นั้นมันเป็นฝีมือของเธอ กูยังไม่ได้คิดบัญชีกับมึงเลย” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดอย่างเยือกเย็น
หลี่ฝางกลัวว่าพวกเธอจะตบตีกันขึ้นมา: “ก็ได้พูดขึ้น พอแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว”
“หากจะทะเลาะนายสองคนลงไปทะเลาะเลย” ไม่ต้องมาทะเลาะกันบนรถ หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงที่รำคาญมาก
หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ หลี่เสี่ยวเสี่ยวกับเชี่ยลู่ก็หุบปากไป
เพียงแต่สีหน้าที่เชี่ยลู่มองหลี่ฝางนั้นแปลกๆ ราวกับว่าสงสัยหลี่ฝางจะหักหลังเธอ
ถึงอย่างไรเรื่องของหลี่เสี่ยวเสี่ยวกับอาเสี่ยที่ถูกเชี่ยลู่เปิดโปง มีเพียงหลี่ฝางกับหลิวเฉี่ยวเฉี่ยวที่รู้ หลิวเฉียวเฉียวนั้นไม่ได้สนิทกับหลี่เสี่ยวเสี่ยวอยู่แล้ว ดังนั้นเชี่ยลู่มั่นใจว่าต้องเป็นหลี่ฝางที่บอกกับหลี่เสี่ยวเสี่ยว
เวลานี้รถออดี้ A4 ได้สตาร์ทเครื่องแล้ว หลี่ฝางก็สตาร์ทรถเหมือนกัน รีบตามไป
ระหว่างทาง ในรถเงียบจนน่ากลัว ไม่มีใครคุยกับใครเลย แต่ว่าหลี่เสี่ยวเสี่ยวได้คิดไว้แล้ว เมื่อลงจากรถ เขาก็จะฉีกปากของเชี่ยลู่ให้ขาด
ตามรถออดี้A4 มาถึงGreentown villa
ที่ชุมชนประตู รายล้อมด้วยรถหรู
พวกของเสี่ยวซานจื่อก็มาถึงกันแล้ว
รถหรูได้จอดกันเป็นแถวที่หน้าประตูชุมชน แต่กลับไม่เข้าไป
หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาพ่อของตัวเอง: “พ่อ พ่อบอกจะพาผมมาดูเรื่องสนุกๆ ไง นี่ก็คือเรื่องสนุกเหรอ?”
นอกจากมีคนมุมเต็มไปหมด มีอะไรน่าดูเหรอ!
หลี่ฝางผิดหวังเล็กน้อย
เวลานี้วิลล่าหลังหนึ่งในลู่เฉิง มีชายหนึ่งหญิงหนึ่ง
ผู้ชายก็คือตู้ต้าไห่ ผู้หญิงก็คือกิ๊กของเขา ชื่อเหมยกุย เป็นผู้หญิงที่ทำงานกลางคืน
ตู้ต้าไห่ได้ซ่อนเงินก้อนหนึ่งไว้ใต้เตียงของเหมยกุย ตอนที่ตู้ต้าไห่รื้อเตียงออกนั้น เหมยกุยตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เธอคิดไม่ถึงเลย ว่าเตียงของตัวเองจะมีเงินมากมายขนาดนี้
เท่ากับว่ามันได้นอนอยู่ที่ใต้เตียงของเขาทุกคืนไม่ใช่เหรอ?
“ยังอึ้งอยู่ทำไม รีบเอากระเป๋าเดินทางมาเดี๋ยวนี้” ตู้ต้าไห่เหลือบมองไปที่เหมยกุย พูดอย่างรังเกียจ: ทำไมถึงมองไม่เห็นนะ
เหมยกุยก็รู้ข่าวการล้มละลายของตู้ต้าไห่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าตู้ต้าไห่ยังได้ซ่อนเงินไว้มากมายขนาดนี้
เหมยกุยหากระเป๋าเดินทางมาได้ใบหนึ่ง ไม่นานนัก กระเป๋าเดินทางก็เต็มไปด้วยเงิน หลังจากที่ยัดเต็มแล้ว เหมยกุยก็ได้หากระเป๋าสะพายมาอีกหนึ่งใบ ใส่เงินเต็มกระเป๋า
ตู้ต้าไห่มองเหมยกุย ถามอย่างจริงจัง: “เหมยกุย เธอก็น่าจะรู้แล้ว ฉันตู้ต้าไห่ตอนนี้ล้มละลายแล้ว”
“ตอนนี้เธอมีแค่สองทางเลือก หนึ่งก็คือไปกับฉัน ไปตั้งรกรากในที่ที่ไม่มีคนรู้จักพวกเรา แล้วนำเงินก้อนนี้ไปใช้ในบั้นปลายชีวิต”
“สองก็คือเงินในกระเป๋าสะพายเป็นของเธอ ฉันไปเอง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราก็ไม่มีทางจะได้พบกันอีกแล้ว” ตู้ต้าไห่มองเหมยกุยด้วยสีหน้าที่สับสน
“เราสองคนอยู่ด้วยกันมาเจ็ดปีแล้ว พูดตามตรง ฉันชอบเธอมาก หากเธอไปกับฉัน ฉันก็จะดูแลเธออย่างดี” ตู้ต้าไห่พูดด้วยสีหน้าที่จริงใจ
เหมยกุยลังเลไปสักพัก เธอคำนวณคร่าวๆ เงินในกระเป๋าเดินทาง มีประมาณสี่ล้านหยวน เงินในกระเป๋าเดินทางของตัวเอง ก็น่าจะประมาณหนึ่งล้านหยวน
ไม่ว่าจะเลือกยังไง เหมยกุยก็ไม่ขาดทุน
เหมยกุยถามขึ้น: “ตู้ต้าไห่ คำพูดที่คุณพูดเมื่อกี้ คุณจริงจังใช่มั้ย?”
“จริงสิ ถึงขนาดนี้แล้ว เธอคิดว่าฉันมีความจำเป็นที่ต้องหลอกเธออีกมั้ย?” ตู้ต้าไห่กล่าว
เหมยกุยทำงานกลางคืนมาหลายปี หลังจากที่ถูกตู้ต้าไห่รับเลี้ยงชีวิตจึงดีขึ้น ต่อให้กลับบ้านเกิด ก็คงจะหาผู้ชายที่เหมาะสมไม่ได้ ถึงอย่างไรปีนี้เหมยกุยอายุก็สามสิบกว่าปีแล้ว เธอพยักหน้า แล้วกล่าว: “ได้ ฉันจะไปกับคุณ”
ไม่ว่ายังไง ตู้ต้าไห่ก็ดีกับเธอจริงๆ
ตั้งแต่เธออยู่กับตู้ต้าไห่ เจ็ดปีมานี้ เธอก็ไม่ต้องทนให้ผู้ชายมาด่าทออีก และก็ไม่ต้องทำงาน ทุกวันก็ไปเดินช้อปปิ้งกับเพื่อนๆ เสริมสวย กลางคืนก็ไปฟิตเนสฟิตหุ่นของตัวเอง
แน่นอน เธอก็เคยเรียนทำกับข้าวด้วย ฝีมือใช้ได้ทีเดียว
และก็เป็นสาเหตุที่ตู้ต้าไห่ไม่อยากจะเสียเธอไปด้วยมั้ง
นอกจากเงินแล้ว ทั้งสองคนไม่ได้เอาอะไรไปอีกเลย ก็ได้ออกจากวิลล่าโดยตรง
บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ตู้ต้าไห่เช่าให้เหมยกุย ความสัมพันธ์ของเขากับเหมยกุยนั้นแค่รู้กันเอง ไม่มีคนอื่นรู้เรื่องนี้เลย
อีกสิ่งหนึ่งที่ตู้ต้าไห่คิดไม่ถึงก็คือ เขากับเหมยกุยเพิ่งจะเดินออกมาจากลู่เฉิง ก็ถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว
“พวกนายพวก……..นายหาที่ที่เจอได้ยังไงกัน?” ตู้ต้าไห่เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย สีหน้าก็ซีดลงทันที
คนเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าหนี้ของเขา!
เสี่ยวซานจื่อพุ่งเข้าไปโดยตรง กระทืบถีบตู้ต้าไห่จนล้ม: “เย็ดแม่ ติดเงินกู ยังคิดจะหนีอีกเหรอ?”
ตู้ต้าไห่ล้มลงไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง ทำให้เห็นเงินในกระเป๋าทั้งหมด
“เย็ดแม่ จะเอาเงินหนีไปด้วยจริงๆ เหรอเนี่ย!” เสี่ยวซานจื่อด่าอย่างหยาบคาย ก็รีบเก็บกระเป๋าเดินทางขึ้นมา
เสียงเงินหล่นพรึบๆ พรับๆ
เวลานี้ นอกจากเถ้าแก่แล้ว คนทั้งกลุ่ม ต่างกรูกันเข้าไปแย่งเงิน
สายลมพัดมา ท้องฟ้ากระจัดกระจายไปด้วยเงิน
เชี่ยลู่ หลิวเฉียวเฉียว ยังมีหลี่เสี่ยวเสี่ยว เคยเห็นภาพแบบนี้ที่ไหนกันละ
ภาพที่เงินหล่นลงมาจากฟ้า
หลี่เสี่ยวเสี่ยวลงรถเป็นคนแรก รีบไปแย่งเก็บเงินที่สายลมพัดมา และเชี่ยลู่กับหลิวเฉียวเฉียวก็ลงตามไปด้วย เดินแย่งตามก้นของหลี่เสี่ยวเสี่ยว
ผู้หญิงสามคนนี้ก็เข้าร่วมแยกเงิน
เวลานี้ สีหน้าของตู้ต้าไห่ซีดจนไม่เห็นเลือด หมดหวังอย่างสิ้นเชิง
มองดูเงินของตัวเองถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา ตู้ต้าไห่ไม่โวยวายแม้แต่นิดเดียว ถึงอย่างไรหนี้ที่เขาติดคนเหล่านี้เป็นหมื่นล้าน!
ในหมื่นล้านนี้ เงินแค่หลักล้านของเขาเทียบไม่ได้เลย?
“จับตัวตู้ต้าไห่ไป” ชายคิ้วหนาคนหนึ่งได้กล่าวขึ้น
เจ้าหนี้รายใหญ่สุดของตู้ต้าไห่ ก็คือพ่อของส้งเสียง ส้งกงหมิง เขายืมเงินให้ตู้ต้าไห่ยี่สิบกว่าล้านหยวน
“เย็ดแม่เอ๊ย แกเป็นใครกัน!”
เสี่ยวซานจื่อยกเท้าขึ้น ถีบเชี่ยลู่ล้มลงบนพื้น
“ตู้ต้าไห่ติดหนี้พวกเธอเหรอ พวกเธอถึงมาแย่ง!” เสี่ยวซานจื่อมองไปที่พวกเชี่ยลู่แล้วด่า
ตอนอยู่ในโรงแรม เสี่ยวซานจื่อก็คือเห็นพวกเชี่ยลู่แล้ว ดังนั้นจึงรู้ฐานะของพวกเธอดี
“ส่งเงินที่พวกเธอแย่งมาให้ฉัน!” เสี่ยวซานจื่อกล่าวอย่างเย็นชา ได้แย่งเงินมาจากมือของหญิงสาวทั้งสามคน
ไม่ถึงห้านาที เงินที่หล่นอยู่บนพื้นก็ถูกเก็บไปหมด
เสี่ยวซานจื่อที่มากับลูกน้องห้าหกคน แย่งมาได้ราวๆ หนึ่งล้านกว่าหยวน
เสี่ยวซานจื่อยิ้มอย่างมีความสุข เขายืมให้ตู้ต้าไห่หนึ่งล้านหยวน ตอนนี้แย่งกลับมาได้หนึ่งล้านกว่าหยวน เงินของตัวเองถือว่าได้คืนมาแล้ว
“พวกเราไป” หลังจากที่เหลือบมองตู้ต้าไห่แล้ว เสี่ยวซานจื่อก็ได้กล่าวขึ้น
“ลูกพี่ เรายังไม่ได้เก็บดอกเบี้ยเลย” ลูกน้องของเสี่ยวซานจื่อพูดขึ้นมา
“นี่มันสถานการณ์อะไร ไอ้คนนี้มันล้มละลายไปแล้ว แกยังคิดเรื่องดอกเบี้ยอีกเหรอ แกทำไมโลภแบบนี้” เสี่ยวซานจื่อมองบนใส่ลูกน้องของเขา
แต่ลูกน้องของเขานั้นหมายถึงเหมยกุย: “ลูกพี่ เห็นกระเป๋าที่ผู้หญิงคนนั้นสะพายอยู่หรือเปล่า” ผมเดาว่าข้างในน่าจะเป็นเงิน
“ไปแย่งมันมา!” เสี่ยวซานจื่อขมวดคิ้ว แล้วกล่าว
ไปแย่งมาดูแล้ว ของในกระเป๋านั้นคือเงินจริงๆ ด้วย เสี่ยวซานจื่อดีใจออกนอกหน้า รีบกล่าวขึ้น: “ครั้งนี้เราได้กำไลมหาศาลแล้ว รีบไปกันเถอะ!”
เหมยกุยก็ไม่ได้เอะอะโวยวาย เพราะเธอรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์
คนอย่างเสี่ยวซานจื่อ ตอนที่เหมยกุยทำงานกลางคืนก็รู้จักแล้ว เป็นคนใจไม้ไส้ระกำ อีกอย่างยังโรคจิตอีกด้วย
เมื่อก่อนสาวนั่งดริ๊งคนหนึ่งได้ล่วงเกินเขา เสี่ยวซานจื่อได้ถอดเสื้อผ้าของผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าทุกคน แล้วก็ถอดกางเกงของตัวเองออก จากนั้นก็มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าทุกคน
เสี่ยวซานจื่อคนนี้เป็นญาติของหม่าเทียน ดังนั้นต่อให้ทำผิด ก็ไม่มีใครกล้าจับเขา
เหมยกุยรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากรู้อย่างนี้เธอก็คงไม่ออกมาพร้อมกับตู้ต้าไห่ ตอนนี้ อะไรก็ไม่เหลือแล้ว
คนของส้งกงหมิงเดินมาทางตู้ต้าไห่ อยากจะจับตัวเขา แต่ว่าในเวลานี้ รถเบนซ์สปอตคันหนึ่งได้ขับเข้ามาพุ่งชนคนของส้งกงหมิงจนล้ม
ในรถเป็นตู้เฟยก็ได้ตะโกนเรียก: “พ่อ รีบขึ้นรถ!”
“ตู้เฟย? ” หลี่ฝางขมวดคิ้วเล็กน้อย และได้สตาร์ทรถไว้แล้ว