NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 125

ตอนที่ 125

บทที่125 เขาคือเจ้านายคุณ

เห็นหมัดนี้ สายตาของหลี่ต๋าคาง ก็เยือกเย็นขึ้นมา

หมัดของพ่อเฉินเสี้ยวเมื่อกี๊ หากชกใส่หน้าคนทั่วไป ก็ไม่ได้ทำให้บาดเจ็บมากนัก แต่พลังของหมัดนี้ คนทั่วไปไม่มีแรงรับได้

มึนนิดๆ และช็อกอย่างหนัก สรุปคือ หมัดนี้หินสุดๆ

หลี่ต๋าคางขมวดคิ้ว ก่อนที่หมัดของพ่อเฉินเสี้ยวจะมาถึง เขายื่นมือไป นิ้วทั้งห้าปล่อยไปที่ช่วงรักแร้ของพ่อเฉินเสี้ยว

ผู้ที่มีความสามารถ ไม่ต้องลงมือแรงก็เอาคู่ต่อสู้อยู่หมัด

ถึงพ่อเฉินเสี้ยวจะมีพลังมาก แต่สำหรับการต่อสู้นั้น กลับยังไม่เชี่ยวชาญ

หมัดของเขานี้ บกพร่องนับไม่ถ้วน ข้อบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดคือช่วงรักแร้และหน้าอก

พ่อเฉินเสี้ยวถูกโจมตีช่วงใต้รักแร้ ถอยหลังออกไป จากนั้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็มาจากแขน

“เกิดอะไรขึ้น?”

หน้าปากของพ่อเฉินเสี้ยว มีเหงื่อไหลออกมา เขาพบว่าแขนของตัวเองยกไม่ขึ้น

ขาดยัง?

“พ่อ สู้ๆ ครับ!” เฉินเสี้ยวที่อยู่ข้างๆ ให้กำลังใจเขา

พ่อของเฉินเสี้ยวกัดฟันแน่น แล้วลุยเข้าไปอีกครั้ง เขาเอาแขนซ้ายออกมา แล้วปล่อยหมัดไปอีกครั้ง

ก่อนจะถึง พ่อของเฉินเสี้ยวก็ยกเท้าซ้ายไปด้วย เข่ายกใส่ไปที่หลี่ต๋าคาง

หลี่ต๋าคางได้แต่ขำเบาๆ เอื้อมตัวไปเล็กน้อย ไม่ใช่แค่หลบหมัดและเท้านี้ แต่ยังเตะไปที่ก้นของพ่อเฉินเสี้ยวด้วย

เดิมทีพ่อของเฉินเสี้ยวก็ควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว ยืนไม่ค่อยมั่นคง ขานี้เตะมา เขาก็ล้มลงไปแรงๆ ที่พื้น ไถลพื้นคอนกรีตไปไกลกว่าหนึ่งเมตร

ตอนเงยหน้า ใบหน้าพ่อเฉินเสี้ยวถลอกไปหมด ดูแล้วน่าอนาถมาก!

หลี่เสี่ยวเสี่ยวดีใจจนแทบกระโดดออกมา เธอมองหลี่ฝาง พูดยิ้มๆ : “หลี่ฝาง พ่อคุณสุดยอดจริงๆ !”

สีหน้าหลี่ฝางยิ้มอย่างซับซ้อน เขาก็คิดไม่ถึง พ่อของตัวเองจะสุดยอดขนาดนี้

พ่อของเฉินเสี้ยวที่ตัวใหญ่บึกบึน จะถูกพ่อตัวเองสยบได้แค่หมัดสามทีพร้อมกับเตะไปอีกสองที ยากที่จะเชื่อ

เหมือนกับฝัน!

เฉินเสี้ยววิ่งเข้ามา ประคองพ่อของตัวเองขึ้นมา พูด: “พ่อ พ่อไม่เป็นไรนะ!”

พ่อของเฉินเสี้ยวยืนขึ้นมาอย่างลำบาก เขาหันไปมองหลี่ต๋าคางแวบหนึ่ง ในสายตามีความหวาดกลัว

ครั้งแรกบังเอิญงั้นครั้งที่สองล่ะ?

พ่อของเฉินเสี้ยวไม่ได้โง่ หลี่ต๋าคางที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย ที่จริงเป็นสุดยอดฝีมือ!

ถึงไม่ใช่สุดยอดฝีมือ ก็ไม่ใช่คนที่ตัวเองจะสู้ได้!

“พ่อ รีบไปจัดการเขาสิ!” เฉินเสี้ยวชี้ไปที่หลี่ต๋าคาง เร่งอย่างร้อนใจ

พ่อของเฉินเสี้ยวจ้องลูกชายตัวเองเขม็ง: “โง่หรือไง มองไม่ออกเหรอว่าพ่อสู้เขาไม่ได้?”

“พ่อ ตอนนั้นพ่อเอาชนะโจรมีมีดตั้งหลายคนด้วยมือเปล่าได้……” ความคิดเฉินเสี้ยวแตกสลาย: “สู้กับนักเลงถือมีดด้วยมือเดียวได้ ทำไมจะสู้เขาไม่ได้ล่ะ”

พ่อของเฉินเสี้ยวขมวดคิ้ว คิดในใจ:ชายหนุ่มคนนี้ เจ๋งกว่าพวกโจรเยอะ

“แขนพ่อหักหมดแล้ว” พ่อของเฉินเสี้ยวพูดเสียงทุ้มต่ำ

เฉินเสี้ยวมองพ่อตัวเอง: “พ่อ พ่อไม่ได้ล้อผมเล่นใช่ไหม?”

“ใครล้อลูกเล่นล่ะ ไม่เห็นแขนของพ่อยกขึ้นไม่ได้เหรอ?” พ่อของเฉินเสี้ยวกลอกตาใส่ลูกชายตัวเอง: “เมื่อกี๊ถูกผู้ชายคนนั้นทำ”

“เมื่อกี๊เขาแค่……ทำพ่อเบาๆ !” เฉินเสี้ยวกลืนน้ำลาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

พ่อของเฉินเสี้ยวไม่เข้าใจ เมื่อกี๊หลี่ต๋าคางทำเขา ดูเหมือนไม่ออกแรงใดๆ แต่ทำไมแขนตัวเองถึงหัก?

บังเอิญ?

“แม่งเอ๊ย!” พ่อของเฉินเสี้ยวถ่มเสมหะ มีทรายอยู่ในนั้นจำนวนมาก

เมื่อกี๊ถูกเตะจนหน้าฟาดพื้น พ่อของเฉินเสี้ยวมีใบหน้าละอายใจ

“วางใจเถอะ ลูกชาย อไม่ปล่อยเขาสองพ่อลูกแน่” พ่อของเฉินเสี้ยวมองหลี่ต๋าคางอย่างหม่นหมอง ใบหน้าร้ายกาจนั้นยิ้มออกมา: “พ่อโทรหาคุณลุงหม่าของลูกแล้ว เดี๋ยวเขาก็มาแล้ว”

“รอคุณลุงหม่าของลูกมา จะจับพวกเขาทั้งหมดไปเอง” พ่อเฉินเสี้ยวพูดเสียงเยือกเย็น

“ลูกชายเขาตีลูกจนสมองกระทบกระเทือน ส่วนพ่อถูกเขาหักแขน ก็ตัดสินได้แล้วว่าเจตนาจงใจทำร้าย!” พ่อของเฉินเสี้ยวอดทนความเจ็บไป ก็พูดยิ้มๆ ไปด้วย

หลี่ต๋าคางเดินเข้ามาที่พ่อของเฉินเสี้ยว: “จะสู้อีกไหม?”

พ่อของเฉินเสี้ยวขมวดคิ้วแน่น พูดในใจ:แขนผมถูกคุณหักไปหมดแล้ว จะสู้ห่าอะไรอีก!

“ไม่สู้แล้ว ไม่สู้แล้ว!” พ่อของเฉินเสี้ยวส่ายหน้า

หลี่ต๋าคางได้ยินคำพูดเขาชัดเจน อยากแจ้งความจับตัวเองกับลูกชาย คิดฝันหวานไปแล้ว

หลี่ต๋าคางยิ้มอย่างเย็นชา พูด: “เรื่องอะไรที่คุณบอกไม่สู้ ก็จะไม่สู้เลยล่ะ!”

“คุณหมายความว่าไง?” พ่อของเฉินเสี้ยวรู้สึกผิดปกติ

“ไม่ได้หมายถึงอะไร ผมยังสู้ไม่พอเลย มาอีกรอบ!” หลี่ต๋าคางยิ้มบางๆ

“คุณคิดว่าผมสู้คุณไม่ได้จริงๆ ?” พ่อของเฉินเสี้ยวมีหน้าโกรธจัด พร้อมกับความเศร้าน้อยๆ : “ร่างกายผมวันนี้ไม่สบายพอดีต่างหาก”

“ใช่ เมื่อเช้ากินของไม่ดีไปจนท้องเสีย ไม่งั้น หมัดของผมก็เอาคุณล้มไปที่พื้นได้แล้ว” พ่อของเฉินเสี้ยวทำเสียงฮึดฮัดใส่

หลี่ต๋าคางยิ้ม ชายหนุ่มคนนี้ ถึงฝีมือการต่อสู้ไม่ได้ แต่ต่อกรได้ดีจริงๆ

“คุณกินของเสียจนท้องเสีย เกี่ยวไรกับผม!” หลี่ต๋าคางส่ายหน้า ยิ้ม

“คุณ……คุณใช้โอกาสตอนที่คนอื่นลำบากไม่ได้ แบบนี้ไหมล่ะ รอวันไหน ผมค่อยนัดคุณมาอีกยก!” พ่อของเฉินเสี้ยวพูดอย่างหวาดกลัว

“ขอโทษนะ ผมยุ่งมาก”

หลี่ต๋าคางยิ้มอย่างชั่วร้าย จู่ๆ ก็ยกขาขึ้นมา

ความไวของหลี่ต๋าคางนั้นไวมาก พ่อของเฉินเสี้ยวยังไม่ได้สติคืนมา ขาก็ปล่อยไปที่ท้องน้อยเขา เตะเขาลอยไปไกลกว่าร้อยเมตร

พ่อของเฉินเสี้ยวเอามืออุดปาก คุกเข่าไปที่พื้น

“พ่อ!” เฉินเสี้ยวมองพ่อตัวเองถูกทำร้าย เหมือนคนบ้าไปทันที

เฉินเสี้ยวมองหลี่ต๋าคาง พูดอย่างเคร่งขรึม: “ผมสู้กับคุณเอง!”

เฉินเสี้ยวพุ่งไปที่หลี่ต๋าคาง หลี่ต๋าคางถอยไปไม่กี่ก้าว: “ผมไม่ทำเด็ก”

แต่เฉินเสี้ยวไม่ลดละ หลี่ต๋าคางขมวดคิ้ว หมดความอดทน ยกขาถีบออกไป

เฉินเสี้ยวก็ถูกเตะจนล้มไปที่พื้น กลิ้งไปตรงหน้าพ่อตัวเอง

หลี่ต๋าคางส่ายหน้า มองพ่อเฉินเสี้ยว เดิมทีหลี่ต๋าคางไม่อยากลงมือ เดิมทีเขาอยากแพ้พ่อเฉินเสี้ยว ให้เขาระบายความแค้นออกก็พอ

แต่ใครจะไปรู้ว่าพ่อของเฉินเสี้ยวฝีมือร้ายกาจขนาดนั้น หลี่ต๋าคางจึงไม่ออมมือ

“คุณ……คุณกล้าทำลูกชายผม!” มองหลี่ต๋าคาง พ่อเฉินเสี้ยวขมวดคิ้ว: “คุณยังเป็นคนอยู่ไหม?”

“ผมไม่เคยคิดตีลูกคุณ เขาหาเรื่องเอง” หลี่ต๋าคางอธิบาย

“ถ้าคุณยังขัดข้องใจอยู่ก็อย่าเพิ่งไป!” พ่อของเฉินเสี้ยวพูด

หลี่ฝางวิ่งมาตรงหน้าพ่อตัวเอง พูด: “พ่อ พวกเรารีบไปเถอะ”

“เมื่อกี๊ผมได้ยินเขาโทรคุย จะมีคนมาจริงๆ พวกเราอยู่ต่อ ต้องอันตรายแน่” หลี่ฝางพูดอย่างกังวล

หลี่ต๋าคางกลับมีใบหน้าไม่แคร์: “ไม่เป็นไร ในเมื่อเขามาหาคน พวกเราก็รอหน่อย!”

“อ๋า?” หลี่ฝางมองพ่อตัวเอง เมื่อไหร่กันที่พ่อตัวเองดูโง่ได้ขนาดนี้?

“หนีไปตอนนี้ยังไงก็สลัดไม่ออกหรอก ถึงพวกเราหนีไป พรุ่งนี้เขาก็ต้องมาหาเราเหมือนเดิม” หลี่ต๋าคางลูบหัวหลี่ฝาง

“ไม่สู้กับจัดการให้สิ้นซากไปครั้งเดียว ครั้งหน้าจะได้ไม่มีปัญหาดีกว่าเหรอ” หลี่ต๋าคางพูดเรียบๆ

เวลานี้หลี่เสี่ยวเสี่ยววิ่งเข้ามา มาตรงหน้าหลี่ฝาง พูดเบาๆ : “หลี่ฝาง พ่อของเฉินเสี้ยวเกี่ยวข้องกับพวกตำรวจไม่เลวเลย”

“คุณต้องระวังหน่อย” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดเตือน

“หม่าเทียน?” หลี่ฝางถามต่อ

“ฉันไม่รู้เขาชื่ออะไร รู้แค่ว่าเฉินเสี้ยวชอบเอาความสัมพันธ์นี้มาอวด” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูด

“โอเค ผมรู้แล้ว” หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์

ถ้าเป็นคำพูดหม่าเทียนจริงๆ งั้นก็ดีมาก

ภายใต้แสดงอาทิตย์รอประมาณสิบกว่านาที ร่างที่คุ้นเคยก็เดินเข้ามา

คนที่เข้ามา เป็นหม่าเทียนจริงๆ

หม่าเทียนมา พ่อของเฉินเสี้ยวก็เข้าไปต้อนรับทันที

พ่อของเฉินเสี้ยววิ่งเหยาะไปตรงหน้าหม่าเทียน หม่าเทียนถาม: “หน้าคุณเป็นอะไรไป ใครทำคุณ!”

“พี่หม่า ไม่ต้องพูดแล้ว ไปเจอมือดีมา อย่าแตะหน้าผม แขนผมนี้ ถูกผู้ชายคนนั้นตัดหมด” พ่อของเฉินเสี้ยวพูดด้วยใบหน้าดูแย่

“อ๋า?ใครมันเจ๋งขนาดนั้น!” หม่าเทียนถามอย่างแปลกใจ

“เขาไง!” พ่อของเฉินเสี้ยวชี้ไปที่หลี่ต๋าคาง

“พี่รีบไปจับเขามา แล้วก็ลูกชายเขา จับมาไว้ด้วยกันเลย” พ่อของเฉินเสี้ยวพูดอย่างเยือกเย็น

หม่าเทียนเห็นหลี่ต๋าคาง สีหน้าก็หม่นทันที

“คุณรู้ไหมเขาคือใคร?” หม่าเทียนมองพ่อของเฉินเสี้ยวอย่างหมดคำพูด: “เขาก็คือเจ้านายคุณไง!

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท