NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 130

ตอนที่ 130

บทที่130 จางเชี่ยนที่เป็นผู้ใหญ่

หลี่ฝางตกใจ เรื่องเพิ่งเกิด หลินชิงชิงทำไมรู้ได้?

คงไม่ใช่ว่า เธอก็อยู่ผับหรอกนะ?

หลี่ฝางรีบถาม: “พี่ พี่คงไม่ได้อยู่ผับหรอกนะ?”

ถามเสร็จ หลี่ฝางก็รีบมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นร่างของหลินชิงชิง

หลินชิงชิงตอบไปว่า: “ฉันอยู่เมืองเอก ไม่ได้อยู่ผับ ฉันเข้าอินเทอร์เน็ต ก็มองเห็นโพสต์น่ะ”

หลินชิงชิงหัวเราะอยู่ที่ปลายสาย: “เห็นมู่เสี่ยวไป๋ถูกตีตนหัวบวม ก็หายโกรธจริงๆ”

หลี่ฝางก็หายโกรธจริงๆ

“ใช่สิ เสี่ยวฝาง คุณยังมีเงินอยู่ไหม?” จู่ๆ หลินชิงชิงก็ถาม

“มีสิ ทำไม พี่ พี่ต้องใช้เงินเหรอ?” หลี่ฝางถาม

“ฉันต้องเช่าห้องที่เมืองเอก แต่บัตรของฉันถูกพ่ออายัด หมดหนทาง ได้แต่หายืมคุณ” หลินชิงชิงพูดอย่างทำอะไรไม่ได้

วางสาย หลินชิงชิงก็ส่งเลขบัญชี

หลินชิงชิงบอกว่าโอนมาหมื่นหยวนก็พอ แต่หลี่ฝางโอนไปแสนหนึ่ง กลัวหลินชิงชิงจะลำบาก

โอนเสร็จ หลี่ฝางก็ถามหลินชิงชิงในข้อความ ทำไมไปเช่าห้องที่เมืองเอก?นั่นไม่ใช่ถิ่นของมู่เสี่ยวไป๋เหรอ?

หลินชิงชิงตอบข้อความ:สถานที่ยิ่งอันตราย ก็ยิ่งปลอดภัย ยังไงมู่เสี่ยวไป๋ก็คิดไม่ถึง ว่าคนที่เขาจะหาที่จริงอยู่เมืองเอก

หลินชิงชิงยังบอก เมืองเอกใหญ่ขนาดนั้น ไม่มีทางเจอมู่เสี่ยวไป๋บังเอิญแน่ ที่เขาเลือกที่จะตั้งถิ่นฐานที่ตงไห่ สาเหตุที่สำคัญที่สุด ก็เพื่อจับจุดอ่อนของมู่เสี่ยวไป๋

หลินชิงชิงคิดในใจ พื้นฐานลูกเศรษฐีแบบมู่เสี่ยวไป๋นี้ไม่ใสซื่อบริสุทธิ์แน่ๆ แค่ถ่ายรูปเขานอนกับผู้หญิงได้ หลักฐานที่ไปมีผู้หญิงคนอื่นข้างนอก หลินชิงชิงก็จะถอนหมั้นได้อย่างถูกต้อง

ตอนนี้หลี่ฝางอยากหัวเราะ เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าควรจะหานักสืบส่วนตัวเหรอ?

หลี่ฝางก็ไม่ได้คุยกับหลินชิงชิงต่อ แค่คิดในใจ อีกสองสามวันตัวเองก็ต้องไปเมืองเอกแล้ว แอบนัดหลินชิงชิงได้ใช่ไหม?

วันนี้ธุรกิจที่ผับดีมาก หลี่ฝางจึงเข้าใจว่า ทำไมคนรวยต่างชอบทำบุญ

ที่แท้ทำบุญเยอะๆ ก็ช่วยสร้างภาพ เรียกให้หลายคนมาสนับสนุนได้

ก็เหมือนเรื่องเมื่อกี๊ ทุกคนต่างเลือกเชื่อผับ แม้แต่โอกาสอธิบายของมู่เสี่ยวไป๋ก็ยังไม่มี เยี่ยมจริงๆ

ตอนกลับไป หลี่ฝางก็มองเห็นถังหยู่ซวนกับหลิวเฉียวเฉียวพูดไปขำไป คุยอย่างมีความสุข

พอถังหยู่ซวนเป็นผู้จัดการผับ ก็ดูใจกว้างขึ้นมา

เวลานี้ โจวเจ๋มาแล้ว ด้านหลังมีจางเชี่ยนกับจางปิงปิงทั้งสองสาว

ตั้งแต่จางเชี่ยนคบกับโจวเจ๋ ก็ยิ่งเซ็กซี่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่แต่งหน้าจัด แม้แต่ชุดก็ใส่โป๊มาก

ด้านบนสวมเชิ้ตขาว ข้างล่างสวมกางเกงยีนสั้นมากๆ

จางเชี่ยนเดินเข้ามา ก็ดึงดูดสายตาคนมากมาย พวกสาวๆ ก็ว่าเธอเป็นจิ้งจอก ส่วนสายตาผู้ชายพวกนั้นไม่อาจละสายตา พวกกล้าๆ สองสามคน ก็ผิวปากใส่จางเชี่ยนขึ้นมา

โจวเจ๋มองเห็นก็โกรธมาก ชี้ไปที่พวกคนผิวปากแล้วพูด: “ไอ้เด็กเปรต กลับบ้านไปผิวใส่แม่คุณไป”

โจวเจ๋ด่า พวกผิวปากสองสามคนเมื่อกี๊ก็ยืนขึ้นมา

ตอนดึกมาเที่ยวผับ ก็มีคนมาให้จัดการง่ายๆ อีกแล้ว?

“คุณว่าใครเหรอ?”

“ผมแค่ผิวปากเกี่ยวอะไรกับคุณ!”

“ผมอยากจะผิวปากก็ผิวปาก ทำไม ผับนี้มีกฎห้ามผิวปากเหรอ?”

โจวเจ๋ถูกคนล้อมไว้ ก็ขี้ขลาดทันที

“ทำไม นี่แฟนคุณเหรอ?ทำไมสวมชุดน้อยชิ้นขนาดนั้น หรือว่าคุณไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าให้เธอ”

มีไอ้ผมเหลืองเยาะเย้ยเสร็จ ก็ยื่นมือแต๊ะอั๋ง ตบไปที่ก้นของจางเชี่ยน

จางเชี่ยนตกใจ รีบจับแขนโจวเจ๋: “พี่เจ๋ ชายหนุ่มคนนี้ตบก้นฉัน”

“ทำไม ไม่ให้ตบเหรอ?”

ไอ้ผมเหลืองมองโจวเจ๋อย่างเยือกเย็น กำหมัดสองข้างขึ้นมา หมัดที่มือส่งเสียงดังกรุบ

ไอ้ผมเหลืองคนกลุ่มนี้ แค่มองก็รู้ว่าเป็นนักเลง โจวเจ๋กลัวถูกทำร้าย จึงพูด: “แค่ตบก้นเอง ไม่เห็นเป็นไรเลย”

โจวเจ๋ก็ไม่กล้า ไอ้ผมเหลืองมอง นี่ถือว่าเจอเด็กอมมือ!

ไอ้ผมเหลืองพูด: “น้องชาย เอาแฟนคุณมาให้เราเล่นหน่อยได้ไหมล่ะ?”

โจวเจ๋ขมวดคิ้ว มีให้ยืมเล่นแฟนได้ด้วยเหรอ?

“คุณต้องรับปาก เรื่องเมื่อกี๊ที่คุณเพิ่งด่าพวกเราไป พวกเราก็จะไม่คิดบัญชีกับคุณ” ไอ้ผมเหลืองพูด สีหน้าก็ดูร้ายกาจขึ้นมา: “ไม่อย่างนั้น วันนี้ก็จะเอาคุณตาย”

ด้านหลังไอ้ผมเหลืองไม่กี่คน เดินเข้ามา ชิดไปที่ตัวโจวเจ๋

เวลานี้ หลี่ฝางมองต่อไปไม่ไหว ยังไงนี่ก็ถิ่นตัวเอง ไอ้ผมเหลืองนี่หาเรื่องชัดๆ !

หลี่ฝางเดินเข้าไป ผลักไอ้ผมเหลืองจากข้างกายจางเชี่ยน แล้วยังพูด: “ไอ้ผมเหลือง อย่าก่อเรื่องที่ผับ”

“ห่า คุณเป็นใครเนี่ย?” ไอ้ผมเหลืองมองพร้อมด่าหลี่ฝาง ทำท่าจะลงมือ

ด้านหลังของไอ้ผมเหลือง มีคนจำนวนมากติดตามอยู่

“ใครวะเนี่ย กล้าจังเลยนะ กล้ามาผลักลูกพี่ใหญ่ผม!”

“ไอ้หมอนี่ คุณชื่ออะไร?หาเรื่องตายเหรอ!”

“ผมชื่อหลี่ฝาง” หลี่ฝางพูด

“หลี่ฝาง?” ไอ้ผมเหลืองคิด แล้วขมวดคิ้วพูด: “ชื่อนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหน!”

“ลูกพี่ใหญ่ จัดการเขาไหม!” ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังพับแขนเสื้อขึ้น ถาม

“จัดการห่าไรล่ะ ไม่มีตาดูหรือไง ผับใหญ่ขนาดนี้ จะไม่มีคนคุม?” ไอ้ผมเหลืองจ้องลูกน้องตัวเอง: “พวกเราสู้ได้?”

“จำไอ้เด็กนี่ไว้ รอออกจากผับ ค่อยหั่นเขาเป็นชิ้นๆ !” ไอ้ผมเหลืองชี้จมูกหลี่ฝาง พูดอย่างเยือกเย็น

หลี่ฝางหัวเราะอย่างเหยียดหยาม คนที่ยิ่งไร้ความสามารถ ก็ยิ่งชอบพูดจาโหดๆ

ไอ้ผมเหลืองคนนี้ดูเหมือนเป็นคนที่ดูน่ากลัว แต่ที่จริงแม้แต่ยามของผับยังกลัว

พอไอ้ผมเหลืองไป โจวเจ๋ก็อารมณ์ขึ้น: “หลี่ฝาง ทำไมคุณอีกแล้วล่ะ?”

ครั้งที่แล้วเรียกได้ว่าหลี่ฝางทำเอาโจวเจ๋อนาถเลย สิบสองถ้วยแล้วก็มาอีกสิบสองถ้วย จนโจวเจ๋เข้าโรงพยาบาล ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ก็อยากอ้วก

“ทำไม ผับนี้ คุณมาได้ผมมาไม่ได้?”

“อีกอย่าง คุณเป็นอะไรเนี่ย เมื่อกี๊ผมช่วยคุณนะ” หลี่ฝางพูด

“ผมให้คุณมาช่วยเหรอไง?” โจวเจ๋พูดอย่างเซ็งๆ : “ยุ่งจริงๆ เลย”

พูดจบ โจวเจ๋ก็ไปหาถังหยู่ซวน

จางเชี่ยนไปตรงหน้าหลี่ฝาง พูดอย่างขอบคุณ: “ขอบคุณนะ หลี่ฝาง”

“เมื่อกี๊ต้องขอบคุณคุณจริงๆ เจ้าโจวเจ๋นี่ ไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ เลย” จางเชี่ยนมองร่างของโจวเจ๋ ก็พูดฟ้อง

“รู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย คุณยังคบกับเขา?” หลี่ฝางถาม

“งั้นฉันไม่คบกับเขาแล้ว คบกับคุณได้ไหมล่ะ?” จางเชี่ยนเลยคล้องแขนของหลี่ฝาง กะพริบตาให้เขา

เวลานี้ โจวเจ๋หันไปมองจางเชี่ยน จางเชี่ยนชักมือกลับไปทันที จากนั้นก็รีบวิ่งไปทางโจวเจ๋

หลี่ฝางส่ายหน้าหัวเราะ ผู้หญิงนี่นะ!

ต้องบอกว่า ตอนนี้จางเชี่ยนแต่งตัวแบบนี้ เทียบกับหลิวเฉียวเฉียวกับเซี่ยลู่แล้ว ไม่รู้ว่าดึงดูดคนได้มากแค่ไหน

พวกสาวๆ เซี่ยลู่ หลิวเฉียวเฉียว หลี่เสี่ยวเสี่ยว ยังไม่สลัดออกจากความเป็นเด็กสาวมัธยม อย่างมากก็เป็นแอปเปิลเขียว

ส่วนจางเชี่ยน ตอนนี้เธอเหมือนแอปเปิลแดงสุก ที่ผู้ชายไม่สามารถต้านทานได้

แค่เสียดายที่ถูกโจวเจ๋ทำเสียหาย

ตอนที่โจวเจ๋พาจางปิงปิงไปตรงหน้าถังหยู่ซวน ถังหยู่ซวนไม่ทันสังเกตว่าพวกเขามา

ตอนนั้นถังหยู่ซวนกับหลิวเฉียวเฉียวคุยกันอย่างเร่าร้อน แต่เวลานี้ จางปิงปิงรีบเดินมาตรงหน้าถังหยู่ซวน กอดแขนถังหยู่ซวนไว้ พูดเสียงแหลม: “หยู่ซวน……”

หลิวเฉียวเฉียวเพิ่งรู้สึกดีต่อถังหยู่ซวน แต่เห็นจางปิงปิงมา เวลานั้นก็สลายหายไปทันที

“จางปิงปิง?คุณมาได้ไง?” ถังหยู่ซวนเห็นจางปิงปิง ใจเต้นแรง ใบหน้าดูร้อนตัว

“หยู่ซวน คุณทำไมทำหน้าแบบนี้ ทำไม เห็นฉันมา ไม่ดีใจเหรอ?” จางปิงปิงทำเป็นถามโกรธๆ

จางปิงปิงแทบจะนอนไปที่ตัวถังหยู่ซวน หลิวเฉียวเฉียวมอง ก็ขมวดคิ้วทันที ถาม: “ถังหยู่ซวน คุณไม่ได้บอกว่าตัวเองไม่มีแฟนเหรอ?งั้นเธอคือใคร?”

“เธอคือแฟนเก่าผม” สีหน้าถังหยู่ซวนเต็มไปด้วยความอึดอัด

“แฟนเก่า?ถังหยู่ซวน คุณหมายความว่าไง ไม่คิดจะคืนดีกับฉัน งั้นคืนนั้นมานอนกับฉันทำไม?” จางปิงปิงไม่พอใจทันที แฉเรื่องคืนนั้นออกไป

ประโยคนี้ออกไป หน้าของถังหยู่ซวนก็เสียทันที

นี่มันถูกเขาไปพัวพันด้วยชัดๆ เลย ถังหยู่ซวนมองหลิวเฉียวเฉียวแวบหนึ่ง หลิวเฉียวเฉียวในตอนนี้จึงพูด: “เซี่ยลู่ พวกเราไปเถอะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท