NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 140

ตอนที่ 140

บทที่140 เซี่ยลู่กรีดข้อมือฆ่าตัวตาย

ในตอนเที่ยง ในลานบ้านของหลี่ฝาง ก็มีคนมารวมตัวกันมากกว่า 200 คน

“หลี่ต๋าคางลูกชายของนายไปเรียนที่วิทยาลัยอะไร?” มีคนเอ่ยถามขึ้น

หลี่ต๋าคางนั่งอยู่ที่ลานบ้านและเอ่ยตอบ “ก็มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ในเมืองเอกนั่น”

“มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่? นั่นคือมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองเองของจังหวัดนี่!” จู่ๆ ครูชราในหมู่บ้านก็หันหน้ามามองหลี่ต๋าคางด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ ได้ยินมาว่าติดอันดับสามของประเทศ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันน่าเชื่อถือหรือเปล่า?” หลี่ต๋าคางเอ่ยเรียบๆ

“ที่แท้ก็เป็นมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่! ไม่น่าล่ะหลี่ต๋าคางนายถึงได้ดีใจขนาดนี้ ถึงขนาดชวนพวกเราในหมู่บ้านมากินข้าว!”

ในฐานะชาวตงไห่ ส่วนใหญ่ล้วนรู้ดีว่าอันดับของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ เป็นรองก็เพียงมหาวิทยาลัยชิงหวาและมหาวิทยาลัยปักกิ่งเท่านั้น

“เสี่ยวฝางอ่า เด็กคนนี้โดดเด่นจริงๆ!” ผู้อาวุโสต่างยกย่องหลี่ฝาง

หลี่ฝางยิ้ม ไม่กล้าพูดอะไรมาก ท้ายที่สุดแล้วยังไงเขาก็สอบได้คะแนนแค่400 คะแนนเท่านั้น

ในเวลานี้เอง อาหารก็ถูกเสิร์ฟ

ชาวบ้านในหมู่บ้านเริ่มลงมือกินและดื่ม ขณะรับประทานอาหารพวกเขาก็เอ่ยชมไปด้วย

“หลี่ต๋าคางนายรวยไม่เบาเลยนะนี่ โต๊ะงานเลี้ยงแบบนี้ ราคาคงไม่เบา?”

หลี่ต๋าคางยิ้ม “ทุกคนกินได้ก็พอแล้ว”

“ลุง นี่มันปลิงทะเลกับเปาฮื้อ แถมบนโต๊ะยังมีล็อบสเตอร์ตัวใหญ่อยู่อีกตัว โต๊ะนี้ อย่างน้อยๆ ก็มีราคาไม่ต่ำกว่าหลายพันหยวนแน่” ชายหนุ่มคนหนึ่งถามเอ่ยกับหลี่ต๋าคาง

“ราคาหลายพัน? เป็นไปได้ยังไง!” มีคนไม่เชื่อ

“นี่มันคือล็อบสเตอร์ออสเตรเลีย ราคาแต่ตัวเดียวก็หลายพันไปแล้ว” ชายหนุ่มกล่าว

“หลี่ต๋าคาง โต๊ะงานเลี้ยงนี่โต๊ะหนึ่งราคาหลายพันจริงหรือ?” เมื่อมองอาหารอันอุดมสมบูรณ์บนโต๊ะ คนในหมู่บ้านก็อดไม่ได้ที่จะถาม

“ถามเสี่ยวฝางเถอะ ฉันเองก็ไม่รู้” หลี่ต๋าคางชี้ไปที่ลูกชายของตน “เป็นเขาที่สั่งมา”

หลี่ฝางยิ้มและตอบ “โต๊ะละห้าพัน”

“เสี่ยวฝาง ทั้งหมด5,000 หรือว่าโต๊ะละ5,000 กันแน่ นายพูดให้ชัดเจนสิ”

หลี่ฝางพูดซ้ำ “โต๊ะละ 5,000 หยวน”

“เสี่ยวฝาง นี่นายกำลังโม้ใส่พวกเราอยู่ใช่ไหม โต๊ะละ 5,000 หยวน 20โต๊ะแบบนี้ ทั้งหมดไม่ใช่ หยวนคุณไม่ใช่ต้องมีมากกว่า 100,000 หยวนหรือ?” คนในหมู่บ้านหลายคนไม่เชื่อ

แต่กลับเป็นชายหนุ่มคนนั้นที่เชื่อ เขามองเสี่ยวฝางและถาม “พี่เสี่ยวฝาง รถอยู่ที่ตรงประตูคันนั้นเป็นของคุณหรือ?”

“เป็นของฉัน มีอะไรรึเปล่า?” หลี่ฝางพยักหน้า

สีหน้าของชายหนุ่มแสดงท่าทางตื่นตะลึง “รถคันนั้นไม่ใช่เรียกว่าเบนซ์G-Classหรือไง”

“ใช่” หลี่ฝางพยักหน้าอีกครั้ง

“แม่เจ้า รถคันนั้นฉันจำได้ว่าราคาคันละสองล้านกว่า เป็นของคุณจริงๆ หรือ?” ชายหนุ่มตื่นเต้นจนตะเกียบของตนตกลงที่พื้น

“ใช่ ฉันถูกลอตเตอรี่ได้มาห้าล้าน” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อพูดออกไปแล้ว ทุกคนก็ตะลึงไป

จากนั้น ในลานบ้านก็ระเบิดขึ้นมาทันที มีทั้งคนที่อิจฉา คนที่สงสัย และคนที่ยินดีด้วย

หลี่ฝางรู้สึกว่าถึงเวลาสมควรแล้ว เขาลุกขึ้นยืน และยกผ้าสีดำที่คลุมอยู่ออก

ทันใดนั้น โต๊ะตัวใหญ่ก็เปิดเผยออกมาสู่สายตา

บนโต๊ะมีกล่องจับรางวัลอยู่

“ผู้ใหญ่บ้านคงได้บอกไปตอนประกาศแล้วใช่ไหม วันนี้ยังมีการจับรางวัลผู้โชคดีด้วย รางวัลที่ 1 ก็คือรถซีดาน ฟอร์ดมอนเดโอ มูลค่า 200,000 หยวน! ”

“รถคันนี้จอดอยู่ที่คณะกรรมการหมู่บ้าน ใครได้ไป ผมก็จะให้กุญแจไปกับคนนั้นทันที”

“ส่วนรางวัลที่สองคือเงินรางวัล 50000 หยวน รวมทั้งหมดสองรางวัล”

“รางวัลที่สามคือ โทรศัพท์มือถือไอโฟน มูลค่าประมาณ 1 หมื่นหยวน จำนวน 20 เครื่อง”

“รางวัลที่สี่คือ เครื่องใช้ในบ้าน ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ทั้งหมดล้วนมี และมันถูกวางไว้ที่ผู้ใหญ่บ้าน ใครจับได้ ก็ไปเอาได้เลย”

“รางวัลที่ห้าคือ 1,000 หยวน ซึ่งถือเป็นรางวัลที่ต่ำที่สุด”

“เอาล่ะ ผมพูดจบแล้ว สรุปก็คือ ในกล่องนี้ไม่มีรางวัลเปล่าๆ” หลี่ฝางกล่าว

ในตอนนั้นเอง ผู้ใหญ่บ้านก็ยืนขึ้น “ของรางวัลล้วนอยู่ที่คณะกรรมการหมู่บ้านของเราจริงๆ อีกเดี๋ยวใครถูกรางวัลก็เอาสลากไปรับของรางวัลที่คณะกรรมการหมู่บ้านกับฉันได้ ส่วนใครที่จับได้เงินสด ก็เอาไปได้เลย”

ผู้ใหญ่บ้านพูดจบ ก็ย้ายกล่องกล่องหนึ่งมาจากบนโต๊ะ ในกล่องเต็มไปด้วยธนบัตร 100 หยวน

เมื่อเห็นธนบัตรเหล่านั้น สายตาของทุกคนก็เบิกกว้าง

จากนั้น คนในหมู่บ้านก็เริ่มปรบมืออย่างตื่นเต้น

ในขณะนี้ ไม่มีใครสงสัยหลี่ฝางอีกต่อไป

นั่นเพราะ แค่เงินสดเพียงอย่างเดียว ก็มากกว่าหนึ่งล้านไปแล้ว

ทุกคนตื่นเต้นอย่างยิ่ง ได้มาทานอาหารฟรี แถมยังได้จับสลากอีก?

อย่างน้อยสุดก็ได้หนึ่ง1000 หยวน? มีคนตั้งมากมายที่ได้ค่าแรงเพียง 2,000 หยวนเท่านั้น!

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีแม่เด็กคนหนึ่งได้รางวัลเงิน 50000 หยวนไป จากนั้นก็รีบออกจากที่นี่ไปอย่างรีบร้อน

ราวกับว่ากำลังกลัวว่าหลี่ฝางจะเสียดาย แล้วขอเงินคืนยังไงอย่างนั้น

แม่เด็กเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็พบกับพ่อของเซี่ยลู่

พ่อของเซี่ยลู่คาบบุหรี่ไว้ในปากและถามอย่างดูถูกอยู่บ้าง “แม่ซานซาน หลี่ต๋าคางเชิญคุณไปกินอาหารอะไรน่ะ?”

“ปลิงทะเล เปาฮื้อ ล็อบสเตอร์….”

แม่เด็กเพิ่งจะเริ่มพูด พ่อของเซี่ยลู่ก็ขัดจังหวะเธอทันที “พอเถอะ อย่ามาโม้กับฉันหน่อยเลย บ้านหลี่ต๋าคางจนขนาดนั้น จะมามีล็อบสเตอร์เปาฮื้ออะไรให้พวกคุณได้ แค่เชิญพวกคุณไปกินเกี๊ยวได้ก็ไม่เลวแล้ว”

แม่เด็กขี้เกียจที่จะโต้เถียงกับพ่อของเซี่ยลู่ เธอรีบเดินจากไปพร้อมเงิน

ในเวลานั้นเอง มีชายชราอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้านของหลี่ฝาง

พ่อของเซี่ยลู่หยุดชายชราเอาไว้ และถามคำถามเดียวกัน

คำตอบของชายชราก็แทบจะไม่ต่างกัน ครั้งนี้พ่อของเซี่ยลู่ตะลึงไปบ้างแล้ว “เป็นไปไม่ได้หรอกหน่า? หลี่ต๋าคางเชิญพวกคุณไปกินล็อบสเตอร์เปาฮื้อจริงๆ หรือ?”

“นี่จะเป็นไปได้ยังไงกัน!”

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?” ชายชราถาม

“เสี่ยวฝางสอบเข้ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ได้ หลี่ต๋าคางดีใจจะแย่แล้ว ไม่เพียงแต่เชิญทุกคนไปกินล็อบสเตอร์และหอยเป๋าฮื้อเท่านั้น แต่ยังให้พวกเราจับสลากของรางวัลด้วย”

“ดูสิ ฉันได้รางวัลที่ห้ามาหนึ่งพันหยวน” ชายชราโชว์เงินในมือให้พ่อของเซี่ยลู่ดู

พ่อของเซี่ยลู่ยิ้มหึหึ “พอเถอะ อย่าโม้ไปหน่อยเลย หลี่ต๋าคางที่บ้านเป็นยังไง เลี้ยงพวกคุณให้อิ่มได้ก็ไม่เลวแล้ว แต่ยังให้พวกคุณจับฉลากของรางวัลอีกเนี่ยนะ?”

“ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ฝางทำคะแนนสอบได้แค่ 400 กว่าคะแนน เขาจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ได้ยังไง?” พ่อของเซี่ยลู่พูดพร้อมกับส่ายหัว

“เรื่องมหาวิทยาลัยฉันเองก็ไม่แน่ใจ แต่เรื่องฐานะครอบครัว ฉันว่าคุณคงยังไม่รู้” ชายชราหัวเราะและเอ่ย “ลูกชายของหลี่ต๋าคาง โชคหล่นทับ เขาถูกลอตเตอรี่ห้าล้านหยวน”

“ดังนั้นไม่เพียงแต่เชิญพวกเราไปกินข้าวเท่านั้น แต่ยังให้พวกเราจับสลากด้วย แม่ซานซานก็ยังได้รางวัลไป 50000หยวน” ชายชรากล่าวด้วยความอิจฉา

“คุณพูดอะไร คุณบอกว่าลูกชายของหลี่ต๋าคางถูกลอตเตอรี่ แถมยังถูกห้าล้าน!” พ่อของเซี่ยลู่ถึงกับอยู่ไม่สุขขึ้นมา

“ใช่ เห็นรถคันนั้นรึเปล่า นั่นเรียกว่า เบนซ์G-Class ลูกชายฉันบอกว่า รถคันนั้นราคามากกว่าสองล้านหยวน” ชายชราเอ่ย

พ่อของเซี่ยลู่มองไปที่เบนซ์G-Class สีหน้าเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้อย่างยิ่ง

“รถคันนั้นเป็นของหลี่ฝางหน้าเหม็นนั่นจริงๆ หรือ?” พ่อของเซี่ยลู่รู้สึกหายใจไม่สะดวกขึ้นมา

“มากกว่าสองล้าน…” พ่อของเซี่ยลู่ทรุดลงไปกับพื้น เกือบจะเป็นลมไป

“พ่อเซี่ยลู่ คุณเป็นอะไรไป? ทำไมถึงได้ล้มลงไป” ชายชรารีบช่วยพยุงพ่อของเซี่ยลู่ขึ้นจากพื้น

“เดี๋ยวก่อน คุณบอกว่าแม่ซานซานได้รางวัลเป็นเงินสด 50000 หยวน นี่เรื่องจริงหรือ?” แม่ของเซี่ยลู่กลืนน้ำลายและถามอย่างลนลาน

“จริงสิ รางวัลเงิน 50000 หยวนเป็นแค่รางวัลที่สองเท่านั้น ยังมีรางวัลที่หนึ่งอีกด้วย” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ยังมีรางวัลที่ 1 แล้วรางวัลที่ 1 คืออะไร?” พ่อของเซี่ยลู่พ่อถามอย่างร้อนรน

“รางวัลที่หนึ่งคือรถยนต์ซีดาน มูลค่ากว่า 200,000 หยวน” ชายชราเอ่ย “อ้อใช่ พ่อเซี่ยลู่ ทำไมคุณไม่ไปทานอาหารที่บ้านหลี่ต๋าคางล่ะ”

“รีบไปเถอะ ถึงแม้จะไปกินไม่ทันแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังไปจับฉลากได้ อย่างต่ำๆ ก็ได้ตั้ง 1,000 หยวน “ชายชราพูดแล้วเดินไปบ้านพร้อมกับหัวเราะ

ผ่านไปช้าๆ จำนวนผู้คนที่ออกมาจากบ้านของหลี่ฝางก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

คนส่วนใหญ่ถือเงินอยู่ในมือ บ้างก็มากบ้างก็น้อย อีกทั้งยังมีคนที่ถือโทรศัพท์ไอโฟน

ในขณะนี้ ในที่สุดพ่อของเซี่ยลู่ก็เชื่อแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง

“รางวัลที่ 1 ถูกแย่งไปหรือยัง?” พ่อของเซี่ยลู่หยุดผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้และถาม

“ยัง แต่ว่ารางวัลที่สองเงิน 50000 ถูกเอาไปหมดแล้ว” ชายคนนั้นถอนหายใจและเอ่ย “เฮ้อ โชคของบ้านเราไม่ดี นอกจากภรรยาของฉันที่ได้ตู้เย็นแล้ว ฉันกับลูกชายได้แค่เงิน 1,000 หยวนทั้งคู่”

“ทั้งบ้านล้วนไปจับฉลากได้?” พ่อของเซี่ยลู่เอ่ยถาม

“ใช่ ขอแค่เป็นคนก็ไปจับได้แล้ว แม้กระทั่งเด็กอายุ 3 ขวบก็ยังไปจับได้เลย รางวัลที่สอง เงินสด 50000 หยวนนั่น ก็ถูกเด็กคนหนึ่งจับได้ไป”

ฟังจบ พ่อของเซี่ยลู่ก็รีบพุ่งกลับบ้านไปทันที

“อย่ามัวแต่ดูทีวีเลย พวกเรารีบไปจับสลากที่บ้านหลี่ต๋าคางกันเถอะ”

“อ้อใช่ ลู่ลู่ก็ต้องไปด้วย”

พูดจบ พ่อของเซี่ยลู่ก็ไปเปิดประตู แต่เมื่อเปิดประตูออกมา พ่อของเซี่ยลู่ก็ตะลึงนิ่งไป เซี่ยลู่ที่อยู่ในห้องนอน ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนพื้น ในมือถือมีดเอาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนข้อมืออีกข้าง กำลังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

กรีดข้อมือ?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท