บทที่ 142 การรวมตัวของมหาเศรษฐี
บริษัทมีเดียของโจวเจ๋ จะน่ามีมูลค่าหลักสิบล้านเท่านั้น
ดาราที่อยู่ในสังกัด ถ้าไม่ใช่เน็ตไอดอล ก็เป็นพวกนางแบบ และก็ดาราเล็กๆ ไม่กี่คน ต่างก็เป็นดาราที่ไม่ค่อยมีเชื่อเสียง
เพียงแค่ร้านเหล้าRecalling the pastร้านเดียว ก็ลงทุนไปมากกว่าสองพันล้าน
โจวเจ๋เข้าใจว่าร้านRecalling the pastเป็นของถังหยู่ซวน ดังนั้นไม่ว่าถังหยู่ซวนจะพูดอะไรก็ตาม เขาจึงไม่กล้าที่จะโต้เถียง
โจวเจ๋ก็พูดอย่างไม่พอใจ: “ในเมื่อหลี่ฝางมาแล้ว งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ”
“ใจร้อนอะไร?” หลี่ฝางกล่าว: “ไปรับคนเป็นเพื่อนฉันก่อน”
ข้างกายถังหยู่ซวนมีจางปิงปิง ข้างกายโจวเจ๋มีจางเชี่ยน หลี่ฝางรู้สึกว่าตัวเองยังขาดคู่ควง
“จะไปรับใครละ?” สีหน้าของโจวเจ๋นั้นดูแย่ไปกว่าเดิม
“ไปรับแฟนฉัน” หลี่ฝางกล่าว
ถังหยู่ซวนดูออกว่าโจวเจ๋ไม่พอใจ ก็กล่าวขึ้น: “โจวเจ๋ หากนายรู้สึกว่าพวกเรายุ่งยากล่ะก็ นายไปก่อนเลย เดี๋ยวพวกเราตามไป”
โจวเจ๋หันไปยิ้มให้กับถังหยู่ซวน: “พี่ถัง ฉันไม่มีธุระอะไร ไปพร้อมกับพวกพี่แหละ ยังไงเวลาก็ยังเช้าอยู่”
“หลี่ฝาง นายจะไปรับใครเหรอ?” ถังหยู่ซวนถามไปหนึ่งคำ
“ลู่หลุ่ย” หลี่ฝางตบที่บ่าของถังหยู่ซวน ยิ้มแล้วกล่าว: “ใช่แล้ว ฉันยังไม่รู้ว่าบ้านของลู่หลุ่ยอยู่ตรงไหนเลย นายนำทางละกัน”
สีหน้าของถังหยู่ซวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย: “บ้านของลู่หลุ่ยนั้นอยู่บนเขาเลยนะ”
“บนเขาแล้วทำไม?” หลี่ฝางพูดอย่างไม่แยแส: “รีบไปนำทางเถอะ”
“ก็ได้” ถังหยู่ซวนตอบอย่างจำยอม ขึ้นรถแล้วขับนำทาง
รถปอร์เช่สองคัน รถเบนซ์G-Classหนึ่งคัน รถสามคันวิ่งบนถนน ก็ถือเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามภาพหนึ่ง
โดยเฉพาะรถปอร์เช่918ที่เป็นคนขับนำ ระหว่างทางมีคนถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง
ถังหยู่ซวนเห็นภาพนี้แล้ว รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนตัวเองขับรถมือสอง มีคนมองที่ไหนกันละ?
แต่ตอนนี้ ไม่ว่าถังหยู่ซวนจะจอดรถตรงไหน ก็ทำให้เกิดความสนใจได้ตลอด
ไม่นานนัก รถก็ได้เข้าสู่ทางขึ้นเขาอีกเส้นหนึ่ง
รถปอร์เช่นั้นต่ำมาก ตลอดทาง ไม่รู้ว่ารถปอร์เช่ของถังหยู่ซวนนั้นกระแทกไปกี่ครั้งแล้ว
“แม่ง รถของฉัน!” โจวเจ๋ด่าอย่างปวดใจ: “ไอ้สารเลวหลี่ฝาง ทำไมถึงมารับคนในที่แบบนี้?”
“เย็ดแม่ง รถกูถูกกระแทกจนจะพังแล้ว!” โจวเจ๋อยากที่จะหยุดรถแล้ว
จางเชี่ยนที่นั่งอยู่ข้างคนขับ คิดในใจ: “ปอร์เช่918เขายังไม่หวงขนาดนี้เลย ของนายมันแค่911จะหวงอะไรนักหนา”
เวลานี้ จางเชี่ยนเหมือนจะเห็นด้วยกับคำพูดประโยคนั้นของถังหยู่ซวนแล้ว
อยู่ตรงหน้าถังหยู่ซวน โจวเจ๋นั้นเป็นเหมือนคนจนคนหนึ่งจริงๆ
รถของหลี่ฝางนั้นไม่มีปัญหาอะไรเลย ทางขึ้นเขาเหมือนขับอยู่บนถนนที่เรียบ สบายอย่างมาก
รถกระแทกมาตลอดทาง ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงบ้านของลู่หลุ่ย ถังหยู่ซวนลงมาจากรถ ชี้ไปบ้านหลังหนึ่ง พูดกับหลี่ฝาง: “หลังนั้นแหละบ้านของลู่หลุ่ย”
“โอเค ฉันไปหาเธอก่อน” หลี่ฝางพูดจบก็เดินเข้าไปเลย
โจวเจ๋มองรถของตัวเองไปแวบหนึ่ง รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจมาก เป็นรถที่เพิ่งจะถอยมาใหม่ด้วย
ต้องโทษหลี่ฝาง ความไม่พอใจของโจวเจ๋ที่มีต่อหลี่ฝาง เพิ่งขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
โจวเจ๋เหลือบมองไปที่ถังหยู่ซวน แต่หน้าของถังหยู่ซวน กลับเรียบเฉยมาก
“พี่ถัง รถราคายี่สิบล้านถูกกระแทกแบบนี้ พี่ไม่ปวดใจเลยเหรอ?” โจวเจ๋อดไม่ได้ที่จะถามออกไปหนึ่งประโยค พูดตามตรง เขาก็ปวดใจอยู่ ถึงแม้ว่ารถปอร์เช่918คันนี้จะไม่ใช่ของเขาก็ตาม
“ปวดใจไปทำไม ก็แค่รถคันเดียวไม่ใช่เหรอ?” ถังหยู่ซวนพูดสีหน้าที่ไม่แยแส: “มากสุดถ้าพังแล้วก็ซื้อคันใหม่”
โจวเจ๋กลืนน้ำลายลงคอ หมดคำพูดแล้วจริงๆ รถเทพยี่สิบกว่าล้าน อยู่ในสายตาของถังหยู่ซวน กลับกลายเป็นรถสัปปะรังเค?
เช้อ การพูดจานี้โอหังกว่าของไอ้หวางซือชงคนนั้นเสียอีก!
รอไปประมาณหนึ่งชั่วโมง หลี่ฝางก็ได้พาลู่หลุ่ยออกมาจากบ้าน
ขณะนั้นโจวเจ๋โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ: “ตั้งนานทำไมเพิ่งจะออกมา เย็ดแม่ฉันยังนึกว่านายตายไปแล้วเสียอีก”
“ทำไมนายถึงพูดแบบนี้!” ยังไม่ทันที่หลี่ฝางจะโกรธ ถังหยู่ซวนก็จ้องมองโจวเจ๋ด้วยสายตาที่ดุดัน
เดิมทีหลี่ฝางยังมีความรู้สึกผิด เตรียมตัวออกมาขอโทษ สรุปเพราะคำพูดประโยคเดียวของโจวเจ๋ ทำให้ความรู้สึกผิดของหลี่ฝาง หายไปในพริบตา
“ช่างเถอะ ทำให้พวกนายรอนานแล้ว ไปกันเถอะ” หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบเฉย
รอจนถังหยู่ซวนเข้าไปในรถ โจวเจ๋ก็หัวเราะเยาะ: “เธอจะใส่ชุดนี้ไปร่วมงานเหรอ?”
“มีปัญหาอะไรมั้ย?” หลี่ฝางถามไปหนึ่งประโยค
“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา” โจวเจ๋หัวเราะเสียงดัง แล้วก็เข้าไปในรถ
โจวเจ๋คิดในใจ รอให้ไปถึงในงานปาร์ตี้ พวกเธอก็จะเป็นตัวตลกแล้ว
มีใครใส่ชุดกีฬาไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?
อีกทั้งยังเป็นชุดตามตลาดนักอีกด้วย!
“หลี่ฝาง ฉันทำให้นายขายหน้าหรือเปล่า?” ลู่หลุ่ยเห็นถึงความผิดปกติ ก็รีบก้มหน้าลง
“พูดอะไรอย่างนั้นละ” หลี่ฝางถลึงตาใส่ลู่หลุ่ย แล้วกล่าว: “เธอใส่อะไรก็สวยแหละ รู้หรือเปล่า?”
“ยังมีอีก ผู้หญิงที่หน้าตางดงามอย่างเธอ ยอมมาเป็นคู่ควงให้ฉัน เป็นเพราะบรรพชนของฉันสั่งสมบุญไว้แน่เลย” หลี่ฝางปลอบใจลู่หลุ่ย
ใบหน้าของลู่หลุ่ยจึงได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง: “เวอร์ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็ต้องขนาดนั้นสิ”
หลี่ฝางพูดจบ ก็ดึงมือลู่หลุ่ยขึ้นรถไปด้วยกัน
ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกหลี่ฝางก็ได้มาถึงรีสอร์ต
เมื่อลงจากรถ จางเชี่ยนและจางปิงปิงต่างอึ้งกันไปเลย
รถเฟอร์รารี่ ปอร์เช่ บีเอ็ม r8 แอสตันมาร์ติน รถหรูหลักหลายแบรนด์ได้ถูกรวบรวมไว้ที่นี่
ที่จอดรถของรีสอร์ตนี้ อลังการกว่างานแสดงรถหรู
จากลานจอดรถออกมา ไปยังทางเข้าประตูรีสอร์ต ทางเข้านี้ เป็นทางเดินที่ทำเป็นรูปทรงมังกรยักษ์
“พี่ถัง พ่อพี่ช่างใจป้ำจริงๆ ได้ยินว่าแค่ทางเข้ารีสอร์ตนี้ ก็ลงทุนไปหลายร้อยล้านแล้ว โจวเจ๋เดินไปข้างหน้าของถังหยู่ซวน” พูดอย่างเอาอกเอาใจ
ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างอึดอัด นั่นมันพ่อของหลี่ฝางหรือเปล่า?
โจวเจ๋ชี้ไปที่ดวงตาของมังกรยักษ์แล้วกล่าว: “เห็นมุกนี้หรือเปล่า? มันเป็นไข่มุกราตรีที่มีมูลค่ามาก ลูกละสามสิบกว่าล้านเลยนะ”
“ดูงานแกสลักนี่สิ เกล็ดมังกรทุกเกล็ดมาจากมือของอาจารย์ ได้ยินมาว่าใช้เวลาแกะสลักตั้งสามปีกว่านะ” โจวเจ๋เหมือนเป็นไกด์นำเที่ยวเลย ได้อธิบายให้หลี่ฝางและถังหยู่ซวนฟัง
“นายทำไมรู้เยอะจัง?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
หากสิ่งที่โจวเจ๋พูดเป็นความจริง ก็เท่ากับว่า เริ่มตั้งแต่วันที่พ่อของตัวเองหายไป ก็ได้เริ่มสร้างรีสอร์ตนี้อย่างลับๆ แล้วเหรอ?
ก็เท่าหมายความว่า ในสามปีนี้ พ่อของตัวเองได้เคยกลับมาที่ตงไห่?
โจวเจ๋ยิ้มอย่างลำพองใจ: “อาจารย์ที่แกะสลักมังกรยักษ์ตัวนี้ พอดีรู้จักกับพ่อของฉัน วันที่ท่านทำงานนี้เสร็จ ท่านยังไปทานข้าวที่บ้านฉันเลย”
“ดังนั้นฉันจึงรู้เยอะขนาดนี้ไง” โจวเจ๋อธิบาย
“ไปเถอะ เข้าไปข้างในกัน” หลี่ฝางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
เวลานี้โจวเจ๋หยิบการ์ดเชิญออกมา แสดงฐานะของตัวเอง อีกฝ่ายมองแล้ว ก็แสดงสีหน้าที่ดูแคลน: “บริษัทช่วงหง?”
“ใช่ๆ” โจวเจ๋พยักหน้าซ้ำๆ
“เห่อๆ บริษัทเล็กๆ แบบนี้ ยังมีการ์ดเชิญ? ช่างน่าแปลกจริงๆ” อีกฝ่ายส่ายหัว กล่าวอย่างเยาะเย้ย
“ช่างเหอะ เข้าไปเถอะ”
สีหน้าของโจวเจ๋ดูแย่ไปเลย เห็นได้ชัดว่า คนตรวจการ์ดเชิญดูถูกเขา!
มังกรยักษ์เป็นอุโมงค์ทางเดิน ปากมังกรก็คือทางเข้า หางมังกรก็คือทางออก
หลี่ฝางถามไปอย่างนั้น: “โจวเจ๋ การ์ดเชิญของนายได้มาจากไหน?”
“เมื่อกี้ก็พูดแล้วไง อาจารย์ที่แกะสลักเป็นเพื่อนของพ่อฉัน ดังนั้นฉันจึงได้การ์ดเชิญของรีสอร์ตนี้มา”
“ฉันจะบอกพวกนายนะ คนที่มาร่วมงานในครั้งนี้ มูลค่าของแต่ละคนไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน” โจวเจ๋กล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ร้อยล้าน?” จางเชี่ยนตกใจจนอ้าปากค้าง: “ก็เท่ากับว่า เดี๋ยวคนที่ฉันเจอทุกคน ล้วนเป็นเศรษฐีร้อยล้านเหรอ?”
“ก็คงไม่ใช่ทุกคน อย่างหลี่ฝาง เขาก็ไม่ใช่” โจวเจ๋ชำเลืองตาไปมองหลี่ฝาง กล่าวอย่างดูถูก
“ทำไม นายใช่เหรอ?” หลี่ฝางถามกลับ
“หากมูลค่าตัวนายมากว่าร้อยล้าน คนเฝ้าประตูก็คงไม่ดูถูกนายหรอก” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทิ้งห่างจากโจวเจ๋
โจวเจ๋ก็บ่นพึมพำ: “ยังไงก็ยังดีกว่านาย”
หลี่ฝางอยากที่จะบอกโจวเจ๋จริงๆ รีสอร์ตทั้งรีสอร์ตนี้ล้วนเป็นของกู!
ถังหยู่ซวนรีบเดินตามไป กระซิบกับหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง ฉันทำไมถึงรู้สึกกลัวนิดหน่อย!”
“กลัวอะไร?”
“เฮ้ย ฉันก็ไม่รู้” ถังหยู่ซวนขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียด
“ในเมื่อมาแล้ว ก็อยู่เที่ยวให้มีความสุข จะกลัวอะไร?” หลี่ฝางยิ้มเล็กน้อย
“รีสอร์ตนี้ จริงๆ แล้วก็เป็นของบ้านฉัน ถังหยู่ซวน นายมาเที่ยวบ้านฉัน นายมีอะไรต้องกลัว?
หลี่ฝางพูดจบ สีหน้าของถังหยู่ซวนก็ดีขึ้นไม่น้อย
“ก็ใช่ ต่อให้ถูกจับได้ ฉันก็เป็นเพื่อนนาย” ถังหยู่ซวนหัวเราะกล่าว