บทที่ 157 ฉันรู้จักแค่ปู่เหมาบนแบงก์
“ลูกพี่ ดูเหมือนเขาจะเป็นเด็กหนุ่มที่เปิดศูนย์อาบอบนวดนั่น” ชายผมสั้นจำหวางเห้าได้
แต่หวางเห้า ที่ถูกคนมองตัวตนออก ไม่เพียงไม่กลัว ในทางตรงกันข้ามใบหน้าของเขายังมีรอยยิ้มสมใจ “ไม่คาดคิดเลยว่าฉันเพิ่งมาเมืองเอกของจังหวัดได้ไม่กี่วัน กลับมีคนจำฉันได้แล้ว”
“พี่ชายคนนี้มีความจำไม่เลวเลยจริงๆ”
หวางเห้าพูดด้วยรอยยิ้มตาหยี จากนั้นก็เตะชายผมสั้นลงกับพื้น
ต้องบอกว่า ความสามารถในการต่อสู้ของหวางเห้านั้นค่อนข้างแข็งแกร่งไม่เลว
“แม่เจ้าโว้ย คลั่งขนาดนี้เชียว?” ไอ้หน้าบากสะดุ้ง
หวางเห้ายิ้มเย็น เขาเอามือค้ำโต๊ะ จากนั้นก็กระโดดตรงไปที่ไอ้หน้าบาก
แต่ไอ้หน้าบากก็ไม่ใช่คนถือศีลกินเจ เขาคว้าเก้าอี้ขึ้นมาและทุบลงบนแขนของหวางเห้า
จากนั้น คนในห้องก็จับกลุ่มกันเข้ามาต่อสู้กับหวางเห้า
แม้ว่าจะถูกล้อมรอบ แต่หวางเห้ากลับไม่เกรงกลัว เขาอาศัยจังหวะเข้าลงมือ พลังกำปั้นของหวางเห้าแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทุกหมัดที่ส่งออกไปล้วนสามารถเอาชนะอีกฝ่ายให้ถอยหลังไปได้หลายก้าว
ไม่เสียแรงที่เป็นคนที่มาจากสายการต่อสู้ใต้ดิน ไม่เพียงแค่ต่อสู้เป็นเท่านั้น แต่ยังต้านกลับได้อีกด้วย
ในเวลานี้เองชายผมสั้นลุกขึ้นจากพื้น เขามองไปที่หลี่ฝาง จากนั้นจึงพุ่งเข้ามา
“อย่าขยับ! ”
หลินชิงชิงคิดจะเข้าช่วยเหลือ แต่กลับถูกหลี่ฝางรั้งเอาไว้
ถ้าหลินชิงชิงช่วยหลี่ฝาง มันก็จะเป็นเรื่องง่ายที่ตัวตนจะถูกเปิดเผยตัวตน
หลี่ฝางกำไม้เสียบบาร์บีคิวทำจากเหล็กบนโต๊ะ ชายผมสั้นเข้ามาพร้อมกับหมัดกำปั้นใหญ่ ราวกับหม้อ
ตอนนี้หลี่ฝางตกใจอยู่บ้าง หากหมัดนี้โดนใบหน้าเขาเข้า อย่างนี้ตนไม่ต้องเป็นลมไปเลยหรือไง?
หลี่ฝางก้มหัวหลบ จากนั้นจึงพุ่งตัวเข้าใส่ที่ท้องของชายผมสั้น
“แกไอ้สารเลว กล้ามาใส่ร้ายฉัน…” ชายผมสั้นเอ่ยเสียงเย็น จากนั้นในขณะที่กำลังจะใช้หมัดต่อยเข้าใส่แผ่นหลังของหลี่ฝาง…
“อ๊าก! ”
หมัดของชายผมสั้นยังไม่ทันได้ตกลง ปากของเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องราวกับหมูที่ถูกเชือด
ในตอนนี้ ไม้เสียบเหล็กหลายแท่งในมือของหลี่ฝางทั้งหมดถูกแทงเข้าใส่ท้องของชายผมสั้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ใบหน้าของหลินชิงชิงก็ซีดลงด้วยความตกใจ
ไม้เสียบเหล็กมากกว่าสิบอัน ถูกแทงเข้าไปในท้องของชายผมสั้น แถมยังแท่งเข้าไปค่อนข้างลึกอีกด้วย
ชายที่มีผมสั้นรู้สึกเจ็บที่ท้องของตนขึ้นมาทันที เมื่อก้มหน้าลงไปดู ก็ต้องตกใจ
พุงเบียร์ของเขาเต็มไปด้วยไม้เสียบเหล็กทิ่มอยู่
หลังจากพวกไอ้หน้าบากเห็น ทั้งหมดก็หยุดลงเช่นกัน
“แม่งเอ้ย ฉันว่าแกคงเบื่อจะมีชีวิตแล้วสินะ” ไอ้หน้าบากกำไม้เสียบเหล็กขึ้นมา จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่หลี่ฝาง
หลี่ฝางตกใจกลัว เขาเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะโหดได้ขนาดนี้
อาจเป็นเพราะคนพวกนี้รังแกหลินชิงชิง ดังนั้นหลี่ฝางจึงถูกกระตุ้นขึ้นมา และลงมืออย่างไม่รู้หนักเบา
มองไปที่ไอ้หน้าบากที่กำลังพุ่งเข้ามา หลี่ฝางก็รีบหันหลังวิ่งหนีออกจากห้อง
เมื่อมองไปที่สีหน้าโหดเหี้ยมของไอ้หน้าบาก หลี่ฝางคิดในใจ หากตนถูกเขาจับได้ล่ะก็ เห็นทีคงต้องตายแน่
เขาวิ่งตรงไปที่บันไดและวิ่งลงชั้นล่างไป
เดิมทีหลี่ฝางคิดจะลงไปชั้นล่างเพื่อเรียกเจ้าหัวแบน เนื่องจากตอนนี้หวางเห้าเองก็กำลังจะรับมือไม่ไหวแล้วเช่นกัน ส่วนตนเองก็กำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แต่ใครจะรู้ว่าขณะที่ลงไปชั้นล่าง คนกลุ่มหนึ่งก็วิ่งเข้าไปในห้อง
เมื่อตอนที่อยู่ในย่านไฟแดง หลี่ฝางเคยเจอคนเหล่านี้มาก่อน
“พี่เห้ากำลังถูกจัดการอยู่ชั้นบน เร็วเข้า! ” หลี่ฝางหันหน้ามาและเตรียมวิ่งกลับไป
แต่ในเวลานี้เอง ไอ้หน้าบากก็กำลังวิ่งลงบันไดมา
“มาเลยสิ มา” หลี่ฝางกวักมือเรียกไอ้หน้าบากและเอ่ยหยอก
สีหน้าของไอ้หน้าบากยิ่งโมโหกว่าเดิม เขารีบก้าวลงบันไดมา
แต่เมื่อลงมา เขาก็ต้องนิ่งอึ้งไป
มีเจ็ดหรือแปดคนยืนอยู่หน้าหลี่ฝาง และกำลังมองเขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“พี่ชายทั้งหลาย ช่วยจัดการให้ผมที!” หลี่ฝางชี้ไปที่ไอ้หน้าบากและเอ่ย
ไอ้หน้าบากกัดฟันและตะโกน “ฉันจะบอกพวกแกให้ ฉันเป็นคนของเสือ ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องฉัน…”
ไอ้หน้าบากยังพูดไม่ทันจบ คนเจ็ดแปดคนนั้นก็พุ่งเข้าใส่ไปแล้ว
ไอ้หน้าบากไม่ได้ตอบโต้ได้เท่ากับหวางเห้า ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ไอ้หน้าบากก็ล้มลงกับพื้น ไร้เรี่ยวแรงจะต่อสู้กลับอีกต่อไป
หลี่ฝางแบกไอ้หน้าบากและพาคนเหล่านี้ขึ้นไปชั้นบน
เมื่อเขามาถึงห้องส่วนตัว หวางเห้าก็หมดแรงไปบ้างแล้ว แต่ยังคงยืนหยัดอยู่ไม่ได้ล้มลงไป
“เวรเอ่ย พวกนายมาได้ซะที”
หวางเห้าเห็นพี่น้องของตน เขากำลังนั่งยองๆ อยู่ที่พื้น
“พี่เห้า…”
ในเวลานี้ใบหน้าของหวางเห้ามีรอยฟกช้ำ รอบดวงตาเปลี่ยนเป็นสีดำ
คนกลุ่มนี้เมื่อเห็นพี่ใหญ่ของตนถูกทุบตีจนเป็นแบบนี้ ก็ไม่พูดไม่จาและวิ่งเข้าไปในห้องทันที
คนของหวางเห้าเหล่านี้ ล้วนเกิดจากสายต่อสู้ใต้ดิน เทียบกับนักเลงทั่วไปแล้วมีฝีมือเก่งกว่าหลายเท่า
พวกเขารีบเข้าไปในห้อง จากนั้นจึงจัดการทุกคนลง
ไอ้หน้าบากขมวดคิ้ว เขาเอ่ยอย่างเย็นชา “นายคือศูนย์อาบอบนวดหวางเห้าใช่ไหม?”
หวางเห้าหาที่นั่งลง จากนั้นก็มองไปที่ไอ้หน้าบากอย่างเย็นชา
“แล้วไง?” หวางเห้าไม่ได้ปฏิเสธ
“อย่างนั้นนายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” ไอ้หน้าบากยิ้มเยาะ “ลูกพี่ฉันคือเสือ”
“จะเสือหรือเสือดาวอะไร ฉันไม่รู้จักทั้งนั้น” หวางเห้าเอ่ย “รีบชดใช้เงินมา Rolex ของน้องชายฉันมีมูลค่าตั้งหลายแสน”
“นาย….นายไม่รู้จักพี่เสือ? ” ไอ้หน้าบากไม่เชื่อ
“ไม่รู้จัก” หวางเห้าเพิ่งมาที่เมืองเอกของจังหวัดไม่นาน และไม่คุ้นเคยกับขั้วอำนาจในเมืองเอกของจังหวัดแต่อย่างใด
แต่ว่าคนอย่างหวางเห้าใจใหญ่อย่างยิ่ง ตอนแรกในเมืองตงไห่ เขาเองก็ไม่ยอมลงให้ใครทั้งนั้น
ไม่ว่าจะลูกพี่หลินหรือลูกพี่หลี่ ก็ล้วนจนปัญญากับเขา
“ฉันรู้จักแค่คนเดียว” หวางเห้าเอ่ย
“ใคร?”
“ปู่เหมาบนแบงก์” หวางเห้าหัวเราะอย่างร้ายกาจ
“ฉันไม่สนใจว่าลูกพี่ของนายเป็นใคร แต่ถ้าวันนี้นายไม่เอาเงินให้ฉัน ก็อย่าหวังเลยว่าฉันจะปล่อยนายไป” หวางเห้าเย้ยหยัน
“ฉันหวางเห้ารู้จักแค่เงินไม่รู้จักคน”
“พี่น้องของฉันเดิมทีก็ไม่ได้ขโมยนาฬิกาของพวกนาย พวกนายคิดแบล็กเมล์…” มีชายร่างสูงใหญ่เอ่ยขึ้น
“พี่เห้า ฉันอยากถามหน่อย ฉันเคยทำให้นายขุ่นเคืองมาก่อนหรือเปล่า? ” ไอ้หน้ายากรู้สึกว่าเรื่องในวันนี้แปลกอยู่หน่อย
“คิดมากไปแล้ว แต่เดิมพวกเราก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เป็นน้องชายของฉันที่โทรมา บอกว่าคนของนายขโมยนาฬิกาไป บอกให้ฉันมาช่วยเหลือหน่อย”
หวางเห้าพูดจบ “อย่ามัวแต่พูดพร่ำ เอาเงินมา”
“เสี่ยวฝาง นาฬิกาของนายราคาเท่าไหร่?” หวางเห้าเงยหน้าขึ้นมองหลี่ฝาง
หลี่ฝางเอ่ย “200000 กว่าหยวน พ่อของฉันซื้อมาให้จากต่างประเทศ ถ้าเป็นราคาบวกภาษีในจีน คงจะมีมูลค่ามากกว่า 300000 หยวน”
“อืม อย่างนั้นพวกนายจ่ายมา 400000” หวางเห้ามองไปที่ไอ้หน้าบากและพูดเสียงเรียบ
“สี่แสน!! มูลค่านาฬิกาเพิ่งจะ 200000 กว่า แต่พวกนายกลับต้องการ 400000?” ไอ้หน้าบากรู้สึกตกใจอยู่บ้าง
“นายหูหนวกหรือไง น้องชายฉันก็บอกแล้ว ว่านาฬิกาเรือนนี้ที่จีนก็น่าจะมีค่าถึง 300000 ทำไม หรือว่าตอนนี้พวกเราอยู่ต่างประเทศ?” หวางเห้าพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“อย่างนั้นก็ควรจะเป็น 300000สิ ไม่ใช่ 400000!” คนด้านหลังไอ้หน้าบากกระซิบ
หวางเห้าหยิบแก้วขึ้นมาแล้วทุบลงบนหัวของชายคนนั้นโดยตรง “ก็แค่อีกหนึ่งแสน”
“นั่นเป็นของที่ลุงฉันมอบให้กับน้องชายฉันเชียว นาฬิกาหายไปแล้ว น้องชายของฉันก็ต้องเสียใจแน่ ถ้าลุงฉันรู้ ก็คงเสียใจด้วยเช่นกัน ใช้เงิน 100000 หยวนมาปลอบใจน้องชายและคุณลุงของฉัน มากไปหรือไง?”
สีหน้าของไอ้หน้าบากเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ถึงขีดสุด หวางเห้าคนนี้ เห็นได้ชัดว่าคิดจะแบล็กเมล์พวกเขา
“ได้ ฉันจะให้นายสี่แสน”
ไอ้หน้าบากพูดไปและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเอ่ย “ฉันจะโทรหาลูกพี่ ให้เขาเอาเงินมาให้”
ขณะที่ไอ้หน้าบากกำลังจะโทรออก หวางเห้าก็ขยิบตาให้พี่น้องของตน จากนั้นโทรศัพท์มือถือของไอ้หน้าบากก็ถูกแย่งไป
“คิดว่าฉันโง่หรือไง พี่ใหญ่นายมา เอาเงินมาหรือเอามีดมากันแน่?” หวางเห้ายิ้มเหยียด
“เงิน อาศัยอะไรให้พี่ชายนายเป็นคนออก สมควรให้ครอบครัวพวกนายจ่ายถึงจะถูก”
หวางเห้าเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว
หวางเห้าถึงแม้จะไม่รู้ว่าเสือคือใคร แต่เขาก็รู้ว่า เสือจะต้องไม่นำเงิน 400000มาแลกกับคนแน่
อันธพาลน้อยพวกนี้ มีมูลค่าไม่ถึง 400000แต่อย่างใด
แม้ว่าเสือจะมา ก็ต้องพาคนมาสู้แน่
“หยิบโทรศัพท์มือถือของพวกนายออกมาแล้ววางบนโต๊ะ จากนั้นหาที่อยู่ติดต่อพ่อแม่ลูกเมียในสมุดบันทึก ให้พวกเขาเอาเงินมา”
“พวกนายเจ็ดคน คนละ 60000 หยวนก็จบแล้ว” หวางเห้ากล่าว
“ทำไมถึงได้เกินมาอีก 20000” สีหน้าของไอ้หน้าบากเปลี่ยนเป็นคล้ำขึ้นกว่าเดิมอีกหลายส่วน
“พวกนายเบิกตาดูซะบ้าง มองดูว่าห้องนี้ถูกพวกนายทำจนสภาพเป็นยังไง จะไม่ให้เงินชดเชยกับร้านสักหน่อยเลยหรือไง?”
“เงิน 20000 หยวน สำหรับร้านนี้” หวางเห้ากลอกตาใส่ไอ้หน้าบากและเอ่ย
“ช่วยพาฉันไปโรงพยาบาลก่อนจะได้ไหม?” ในเวลานี้ชายผมสั้นถึงค่อยเดินออกมา ท้องของเขา ยังมีเลือดไหลหยดลงมา