NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 179

ตอนที่ 179

ส้าวส้วยสะดุ้งโหยง กระโดดมาตรงหน้าหลี่ฝาง เขาเห็นหลี่ฝางโดนซ้อม แต่เขาไม่ได้ลงมือในทันที หากแต่ปากยังกัดแฮมเบอร์เกอร์อยู่ ถามขึ้น“เถ้าแก่ ทำไมโดนซ้อมล่ะ!”

“รีบมาช่วยสิ!”หลี่ฝางตะโกนก้อง

หลี่ฝางจำได้ว่ามีครั้งหนึ่ง ต้าเฉียงอาละวาดที่บาร์ ทุบโต๊ะพังระเนระนาด แถมยังล่อยหมัดใส่ส้าวส้วย แต่ส้าวส้วยคว้าหมัดเขาไว้ได้

หมัดของต้าเฉียงหมัดนั้น ขนาดโต๊ะที่บาร์เหล้ายังหัก แต่ส้าวส้วยกลับจับเอาไว้ได้ง่ายๆ นี่หมายความว่าไง

หมายความส้าวส้วยไม่ธรรมดาน่ะสิ

กำลังของเขา มีมากกว่าต้าเฉียงแน่นอน

ส้าวส้วยกินแฮมเบอร์เกอร์ไปอีกชิ้น“เถ้าแก่ ผมต้องกินแฮมเบอร์เกอร์”

“นอกจาก เถ้าแก่จะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์ผมหนึ่งอาทิตย์”ส้าวส้วยหัวเราะแหะๆ

“เดือนนึงเลย!”หลี่ฝางรีบพูด

อย่าว่าแต่เดือนนึงเลย ต่อให้ปีนึง หลี่ฝางก็ไม่มีปัญหา แฮมเบอร์เกอร์อันเดียวจะแค่กี่ตังค์เชียว

“ไสหัวไป มาเสือกอะไร”

ในเวลานี้ หลิวเสี่ยวเทาวิ่งเข้ามา ด่าทอส้าวส้วย

ส้าวส้วยหัวเราะแหะๆ โยนแฮมเบอร์เกอร์ใส่หัวหลิวเสี่ยวเทา

ผักใบเขียว กระเด็นอยู่บนหัวหลิวเสี่ยวเทาพอดี

คนรอบตัวกุมปากหัวเราะ พอมีผักใบเขียวอยู่บนหัว ก็ดูเหมือนสวมหมวกเขียวเลย!

“หัวเราะอะไร บอกให้หยุดไง!”

หลิวเสี่ยวเทามองส้าวส้วยเย็นชา“ไอ้ฉิบหายมึงมาจากไหน!”

หลิวเสี่ยวเทาพูดจบ บนหน้าส้าวส้วย ดูดุดันขึ้นมาทันที

ส้าวส้วยวิ่งเข้ามา หมุนปลายเท้ากลางอากาศ ถีบหลิวเสี่ยวเทากระเด็นกระดอน

“เท่ห์ชะมัด!”

พอส้าวส้วยเริ่มลงมือ ก็มีเสียงกรี๊ดไม่น้อย

อย่าว่าแต่หญิงสาวเลย ขนาดผู้ชายด้วยกันยังอดลุ่มหลงไม่ได้

ตวัดเท้ากระโดดถีบกลางอากาศ เท่ห์เป็นบ้า

“อย่ามัวแต่เท่ห์อยู่เลย รีบมาช่วยหน่อย!”หลี่ฝางตะโกน

“มาแล้ว!”

ส้าวส้วยยื่นแขนออกไป มือจับข้างละคน

“มึงเป็นใครวะเนี่ย!”

“ไอ้ฉิบหายนี่ซ้อมลูกพี่!”

“รุมมัน!”

พอคนกลุ่มนี้หันมาถึงรู้ว่า หลิวเสี่ยวเทาถูกส้าวส้วยถีบกระเด็น

ชั่วพริบตา ทุกคนกระโจนหาส้าวส้วย

หลี่ฝางเองก็ไม่ได้ยืนนิ่ง เขาคิดในใจ ส้าวส้วยคนเดียว สู้กับคนมากขนาดนี้ไหวเหรอ

ต่างว่ากันว่าหมัดคู่นี้สยบสี่มือ แต่นี่สิบหกมือเชียวนะ

หลี่ฝางเดินเข้าไปตบบ่าหวางเสี่ยวโก๋ พูดว่า “ไป ไปช่วยหน่อย!”

แต่หวางเสี่ยวโก๋พูดอย่างตกตะลึง“ลูกพี่ ลูกพี่ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือมั้ย”

เห็นเพียง ส้าวส้วยถีบขาออกไป ถีบคนสองคนกระเด็นกระดอน

“เย็ดแม่ง!”

หลี่ฝางเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ส้าวส้วยเคยฝึกมวยไหม

ถึงขั้นตวัดขาท่าจระเข้ฟาดหางได้ถึงสามตลบ!

แปดคนเต็มๆ ส้าวส้วยใช้เวลาเพียงหนึ่งนาที ก็สามารถจัดการเรียบทั้งหมด

ในเวลานี้เอง จู่ๆส้าวส้วยก็แสดงสีหน้าว่าเหนื่อยมาก เขาค้อมเอว มาอยู่ตรงหน้าหลี่ฝาง“เถ้าแก่ เหนื่อยตายชักเลย เดี๋ยวเถ้าแก่ต้องเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์เยอะหน่อยนะ!”

“ได้ ไม่มีปัญหา”หลี่ฝางรู้ว่าส้าวส้วยแกล้งทำ แต่ก็ไม่ฉีกหน้าเขา

เจ้านี่ ตอแหลไม่เบา

แต่ว่าหลี่ฝางเองก็ค่อนข้างโมโหเล็กน้อย ตัวเองโดนซ้อมถึงขนาดนี้ ส้าวส้วยยังมานั่งต่อรองราคาอยู่ได้ ควรจะมาช่วยเหลือกันก่อนไม่ใช่เหรอ เหยนเสี่ยวน่าเอาเงินสดในมือยัดใส่มือส้าวส้วย“อ่ะให้ เงินนี่ให้นายหมดเลย ขอบคุณที่ช่วยพวกเรา”

“ผมจะเอาแฮมเบอร์เกอร์ ยัดเงินใส่มือทำไม”ส้าวส้วยกลอกตาขาวใส่เหยนเสี่ยวน่า แล้วยัดเงินคืนให้เธอ

??

เหยนเสี่ยวน่านิ่งอึ้งไป ตานี่ท่าจะบ้า ไม่เอาเงิน เอาแต่แฮมเบอร์เกอร์

เงินตั้งมากขนาดนี้ ซื้อแฮมเบอร์เกอร์ได้เยอะแยะเลย!

หลี่ฝางเดินมาตรงหน้าหลิวเสี่ยวเทา ดึงเขาขึ้นมา

“ใครบงการแก”

หลี่ฝางแค่นเสียงเย็นชา มองหลิวเสี่ยวเทาด้วยแววตาเย็นเยียบ

หลิวเสี่ยวเทาสีหน้าดำคล้ำ พูดขึ้น“ปล่อยกู ได้ยินมั้ย”

หลี่ฝางไม่พูดพร่ำทำเพลง ถีบหลิวเสี่ยวเทาเข้าทีหนึ่ง ถีบนี้ ถีบเข้าเป้าหลิวเสี่ยวเทาเลยทีเดียว

โอ๊ย!

หลิวเสี่ยวเทาร้องเสียงหลง กุมเป้านั่งลงย่อๆ

สีหน้าของหลิวเสี่ยวเทาดูเจ็บปวดเหลือแสน

ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลิวเสี่ยวเทาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดสูงสุดของลูกผู้ชาย เจ็บไข่!

“ปล่อยแกแล้ว”หลี่ฝางคลายมือ

“แก ไอ้บ้าเอ๊ย!”หลิวเสี่ยวเทามองหลี่ฝางอย่างโกธรแค้น ชี้นิ้วออกไป

ส่วนนิ้วนั้น พอชี้ออกไป ก็โดนหลี่ฝางจับไว้

“ฉันถามแก ใครบงการแกมา”หลี่ฝางถามเสียงเย็น

หลิวเสี่ยวเทาพูด“กูพูดแปดร้อยรอบแล้ว แค่เห็นมึงขัดหูขัดตา อยากซ้อม!”

อ๋า!

หลิวเสี่ยวเทาเพิ่งพูดจบ จึงรีบร้องโอ๊ยขึ้นมา

หลี่ฝางยักคิ้ว ออกแรงหัก แล้วถามต่อ“ถามอีกรอบ ใครบงการแกมา”

หลิวเสี่ยวเทาอดทนต่อความเจ็บปวด กัดฟันพูด“ไม่มีใครบงการโว้ย!”

“มึงรีบปล่อยกู ไม่งั้นกูจะฆ่าหมาอย่างมึง”หลิวเสี่ยวเทาพูดเสียงเย็น

ในเวลานี้ หวางเสี่ยวโก๋วิ่งเข้ามา พูดกับหลี่ฝางว่า“หลี่ฝาง ปล่อยเขาเถอะ”

“ก็บอกแล้วไง หลิวเหล่าซานอาของหลิวเสี่ยวเทา เป็นมาเฟียขึ้นชื่อ……”หวางเสี่ยวโก๋กระซิบข้างหูหลี่ฝาง

“ได้ยินหรือยัง อาของกูเป็นหัวงูที่นี่ ถ้ามึงล่วงเกินกู มึงตายแน่”

หลิวเสี่ยวเทาเจ็บจนสูดลมหายใจเข้าลึก“ทางที่ดีมึงรีบปล่อยกู แล้วขอขมากูซะ ไม่งั้น……”

หลิวเสี่ยวเทาพูดยังไม่ทันจบ หลี่ฝางยิ่งออกแรงอีก

“ว่าไงนะ ให้ฉันขอขมาแกเหรอ”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆขึ้น ราวกับได้ยินเรื่องตลกขบขันเรื่องโต

หลี่ฝางเป็นใคร ขนาดมู่เสี่ยวไป๋ล่วงเกินเขา เขาก็ยังซ้อมไม่ผิดคน แล้วเขาจะไปกลัวลูกพี่หลิวได้ไง

ก็แค่งูใต้ดินตัวนึง มีอะไรต้องกลัว

หลิวเสี่ยวเทาเจ็บจนพูดไม่ออก กล้ามเนื้อบนใบหน้า เจ็บจนเป็นตะคริว

“ฉันจะถามแกเป็นรอบสุดท้าย ใครบงการแกมา ถ้าแกไม่บอก ฉันจะหักนิ้วแก!”

หลี่ฝางมองหลิวเสี่ยวเทาด้วยสีหน้าเย็นชา“เชื่อฉัน ฉันพูดได้ ทำจริง”

“ฉันจะนับถึงสาม ถ้าสามแล้วแกยังไม่บอก ฉันจะลงมือ”

หลี่ฝางยื่นนิ้วออกมาสามนิ้ว

“หนึ่ง!”หลี่ฝางนับลงนิ้วหนึ่ง ในขณะเดียวกัน อีกมือหนึ่งก็เพิ่มแรง

หลิวเสี่ยวเทาเจ็บจนกัดฟันกรอด แต่ยังคงแข็งขืน

“สอง!”หลี่ฝางนับนิ้วที่สองลง เพิ่มแรงขึ้นอีก

หลิวเสี่ยวเทาเหงื่อแตกพลั่ก

“สาม!”หลี่ฝางนับนิ้วลง จู่ๆคนก็วิ่งทะลวงออกมา

“หยุดมือ!”

โค้ชสองคนวิ่งเข้ามา แค่นเสียงเย็นชาใส่หลี่ฝาง“ปล่อยเขา”

“ในช่วงฝึกทหาร การทะเลาะวิวาท ลืมคำพูดของฉันแล้วใช่ไหม”

โค้ชตัวสูงคนหนึ่งอบรมเสียงเย็นชา

“โค้ชครับ ตอนผมโดนซ้อม ทำไมโค้ชไม่วิ่งเข้ามาครับ โค้ชดูหน้าผมสิครับ โดนซ้อมจนสารรูปเป็นยังไง!”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ“ตอนนี้ โค้ชจะปล่อยเขาไป”

“ผมไม่ยอม!”หลี่ฝางส่ายหน้า พูดยืนกราน

อย่าว่าแต่โค้ชเล็กๆคนหนึ่งเลย ต่อให้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน หรือว่า หรือว่าเป็นเทพจากสวรรค์ หลี่ฝางก็ไม่ยอม!

“นายกล้ามากนะ แม้แต่คำของโค้ชก็ไม่ฟังงั้นสิ”โค้ชก้าวขึ้นหน้าสองสามก้าว ดูเหมือนจะลงมือกับหลี่ฝาง

อย่างไรเสีย โค้ชพวกนี้ก็เป็นทหาร ต่างก็มีฝีมือพอตัว

ในเวลานี้ ส้าวส้วยยืดตัวตรง ขวางโค้ชเอาไว้

“ถอยออกไป!”

ส้าวส้วยส่ายหน้า“โค้ช ผมว่าโค้ชอย่ายุ่งดีกว่า”

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้”

“เพราะโค้ชไม่ยุติธรรม ตอนที่หลี่ฝางโดนรุม พวกโค้ชไปไหน ไม่เห็นจริง หรือแกล้งไม่เห็น”

“ตอนนี้หลิวเสี่ยวเทาโดนซ้อมบ้าง โค้ชออกมา แถมให้หลี่ฝางปล่อยหลิวเสี่ยวเทา……”

“แต่ทำไมตอนที่หลี่ฝางโดนรุม ทำไมโค้ชไม่ออกมาบ้าง ไม่บอกให้หลิวเสี่ยวเทาหยุดบ้าง”

ส้าวส้วยขมุ่นคิ้วถาม

โค้ชแค่นเสียง“ฉันจะทำไร ไม่ต้องให้แกมาสอน!”

พูดจบ โค้ชก็เข้าไปคว้าตัวจะจับส้าวส้วย

แต่ว่า เขาประเมินส้าวส้วยต่ำไป หรืออาจพูดได้ว่า เขาคิดไม่ถึงว่านักเรียนคนหนึ่งจะเล่นคาราเต้เป็นด้วย

ส้าวส้วยอ้อมแขนโค้ช เขาตวัดคาราเต้ ฉับพลันล้มโค้ชตัวสูงแล้วกดเอาไว้

“โค้ช จะยุ่งเรื่องนี้จริงๆใช่ไหม”ส้าวส้วยหรี่ตายิ้ม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท