NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 208

ตอนที่ 208

บทที่208 เจอมู่เสี่ยวไป๋แล้ว

หูเฟยหันไป พลางจ้องมองสวีเถิงเฟย: “เถิงเฟย คุณบอกว่าคุณจะกู้เงินสิบล้านที่ดอกเบี้ยสูงเหรอ?ล้อฉันเล่นเหรอ?”

หูเฟยตกใจหมด ดอกเบี้ยสูงขนาดนี้ ถ้าเกิดมันทบต้นทบดอกขึ้นมา ขึ้นมาหลายเท่าตัวเลยนะ

สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือสวีเถิงเฟยอยากจะกู้สักสิบล้าน!

“พี่เขย ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ฉันกู้สิบล้านมาจากเหยสงจริงๆ ……” สวีเถิงเฟยไม่กล้าบอกกับครอบครัว เลยได้แค่เอาเรื่องนี้บอกหูเฟย

หูเฟยกัดฟัน: “คุณบ้าเหรอ!คุณจะยืมเงินเยอะขนาดนั้นไปทำไม?”

สิบล้าน เกรงว่าสำหรับสวีเถิงเฟยที่เป็นลูกหลานเศรษฐี ยังถือว่าเยอะเลย

“เล่นพนัน……”

สวีเถิงเฟยพูดเสียงต่ำออกมา: “แถมยังแพ้พนันด้วย”

“คุณ……เถิงเฟย ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอะไรกับคุณ” ในตอนนั้นเอง หูเฟยพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ

เขาจุดบุหรี่ให้ตัวเอง หลังจากที่สูบไปสักพัก ก็ถาม: “แพ้ได้อย่างไร?”

“แพ้ในงานแข่งรถที่เขาหมาป่า”

“ให้ตายเถอะ!” หูเฟยกัดฟัน หน้าก็มืดมนลง

ถ้าเป็นบ่อนอื่น หูเฟยยังสามารถเอากลับมาได้บ้าง

แต่คนของเขาหมาป่านั้น น่ากลัวกันทุกๆ คนเลย เกรงว่าต่อให้มีตระกูลสวีมีช่วยไว้ หูเฟยเองก็ไม่กล้าไปเอาเงินกับพวกเขาอีก

ดังนั้น เงินสิบล้านนี้ เอากลับมาไม่ได้

“พี่เขย คุณต้องช่วยฉันคิดหาวิธีนะ” สวีเถิงเฟยจับแขนของหูเฟย พลางขอร้อง: “พี่เขย ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ฉันจะต้องตายแน่เลย”

สวีเถิงเฟยนั้นรู้ความน่ากลัวของเหยสงดี

ถ้าเกิดไม่วางเงินสักที จะต้องถูกตัดหัวตายแน่นอน

หูเฟยกลอกตาใส่สวีเถิงเฟย: “ฉันจะมีวิธีอะไร?นั่นมันเงินสิบล้าน ไม่ใช่แค่แสนสองแสนนะ เงินเดือนของฉันมันท่าไหร่ต่อปีเอง?ต้องบอกพ่อของพวกเราแล้วแหละ”

“ถ้าให้พ่อรู้ เขาจะไม่ฆ่าฉันเหรอ?” สวีเถิงเฟยพูดออกมาด้วยความกลัว

“ถ้าพ่อของพวกเรารู้ อย่างมากก็ทำร้ายคุณสักหน่อย แต่ถ้าคุณไม่ให้เงินเหยสง เหยสงจะต้องตัดหัวคุณทิ้งแน่นอน ฉันถามนะ คุณอยากจะยอมโดนพ่อตี หรืออยากถูกเหยสงฆ่าล่ะ?”

“อีกอย่าง คุณยังไม่ได้ให้เงิน เหยสงจะต้องไปหาพ่อของพวกเรา แล้วเดี๋ยวเรื่องทั้งหมดก็จะถูกเปิดโปงเหมือนกัน” หูเฟยพูดออกมา

“พี่เขย คุณไม่รู้จักเหยสงเลยเหรอ?คุณช่วยไปพูดกับเขาหน่อยได้ไหม……”

สวีเถิงเฟยไม่ทันพูดจบ ก็ถูกหูเฟยตัดบทไป: “พูดอะไร?ให้ฉันไปหาเหยสง บอกว่าตอนนี้ยังคืนเงินก้อนนี้ไม่ได้เหรอ?ให้เขายอมผ่อนให้หน่อย?หรือว่า จะบอกว่าไม่ต้องคืนเงินนี้แล้วล่ะ?”

“พูดบ้าอะไร นี่ไม่ใช่เงินน้อยๆ เลยนะ สิบล้านเลยนะ!”

ถ้าเป็นเงินไม่มาก หูเฟยก็ไปหาเหยสง ให้เขาไว้หน้าหน่อย แต่นี่มันสิบล้าน……

แค่ดอกเบี้ยก็หลายแสนแล้ว เหยสงจะไว้หน้าหูเฟยเหรอ?

ล้อเล่นอะไรอยู่!

“เดี๋ยวจะบอกพ่อของพวกเราเถอะ แล้วฉันจะคิดหาวิธี” สวีเถิงเฟยพูดออกมาอย่างไร้ทางเลือก

……

เช้าวันที่สอง

สวีเถิงเฟยมาถึงที่โรงเรียน เพื่อมาหาหลี่ฝาง

“กุญแจรถฉันล่ะ?”

สวีเถิงเฟยยื่นมือออกมา ก่อนจะพูดอย่างดี: “แล้วก็โทรศัพท์ด้วย”

หลังจากคืนกุญแจรถกับโทรศัพท์ให้สวีเถิงเฟยแล้ว หลี่ฝางก็ตบไหล่เขา: “ความแค้นของเราทั้งสองคน ถือว่าหายกันนะ”

“แต่ถ้าคุณยังอยากจะเล่นต่อ ฉันก็จะเล่นด้วย” หลี่ฝางพูดออกมาอย่างไม่แยแส

“ลบรูปเถอะ” สวีเถิงเฟยพูดเสียงเย็นชาออกมา

“รูปเหรอ?รูปอะไร?” หลี่ฝางทำเหมือนไม่รู้ เหมือนไม่เข้าใจว่าสวีเถิงเฟยกำลังพูดอะไร

สีหน้าของสวีเถิงเฟยนิ่งไป

“ทำเป็นไม่เข้าใจทำไม รูปที่เมื่อวานคุณถ่ายฉันกับตู้เฟยไง” สวีเถิงเฟยพูดออกมา

“คุณลงภาพเถอะ ความแค้นของเราสองคน จะได้หายกัน”

“ฉันลบภาพไปแล้ว” หลี่ฝางพูดออกมา

“จริงเหรอ?” สวีเถิงเฟยถามออกไปด้วยความสงสัย

“แน่นอนอยู่แล้ว”

สวีเถิงเฟยไม่เชื่อ พลางพูดออกมา: “เปิดโทรศัพท์ของคุณให้ดูหน่อย”

“ทำไมต้องทำล่ะ โทรศัพท์นั้นมีแต่ข้อมูลส่วนตัวของฉัน ทำไมคุณจะมารู้เรื่องส่วนตัวของฉันล่ะ?” หลี่ฝางยิ้มพลางพูดออกมา

“คุณไม่ได้ลบใช่ไหม?”

สวีเถิงเฟยมองหลี่ฝาง ด้วยใบหน้านิ่งเฉย: “ได้ งั้นเรามาดูกัน”

หลี่ฝางพูดเสียงเย็นชาออกมา: “ทำไมเหรอ คุณอยากจะหาเรื่องฉันเหรอ?”

“ฉันโน้มน้าวให้คุณหยุดเถอะ เพราะว่าคุณไม่มีทางชนะฉันหรอก” หลี่ฝางโน้มน้าว

เมื่อสวีเถิงเฟยฟังจบก็ยิ้มอย่างไม่แยแส: “ฉันชนะคุณไม่ได้งั้นเหรอ?หลี่ฝาง คุณไม่ได้ให้ถังหยู่ซวนเป็นคนสนับสนุนคุณ เลยทำเป็นใหญ่เป็นโตในตงไห่ได้งั้นเหรอ?”

“ฉันจะบอกคุณให้นะ ที่นี่คือเมืองเอก ไม่ใช่ตงไห่”

สวีเถิงเฟยพูดจบ ก็หันตัวเดินไป

หลี่ฝางส่ายหัว มุมปากก็มีรอยยิ้มออกมาอย่างไม่แยแส

ส้าวส้วยเดินเข้ามา: “เจ้านาย ชายคนนี้มาหาเรื่องคุณอีกแล้ว จะให้ฉันสั่งสอนเขาแทนคุณเลยไหม?”

“รอก่อน ฉันอยากรู้ ว่าสวีเถิงเฟยจะอดทนได้ขนาดไหน” หลี่ฝางส่ายหัวพลางพูด

หลังจากฝึกทหารเสร็จ หลี่ฝางก็โทรหาหลินชิงชิง: “พี่ชิงชิง ว่างไหม?”

“ว่างสิ มีอะไรเหรอ?”

“งั้นคุณพาฉันไปทำเรื่องหนึ่งหน่อยสิ” หลี่ฝางพูดออกมา

หลังจากวางสายไป หลี่ฝางไปที่อยู่ของหลินชิงชิง เพื่อรับเธอ

“พี่ ฉันอยากให้คุณไปเช่าบ้านพักตากอากาศกับฉันหน่อย” หลี่ฝางพูดออกมา

“เช่าบ้านพักตากอากาศเหรอ?”

“ใช่ ฉันอยากจะเปิดบริษัทสื่อ ดังนั้นเลยอยากจะเช่าบ้านพักตากอากาศ แล้วก็ตกแต่งสักหน่อย ทำให้มันดูดี” หลี่ฝางพูดออกมา

“เตรียมทำธุรกิจเหรอ”

หลินชิงชิงได้ฟังดังนั้น ก็ดีใจจนหุบปากเอาไว้ไม่อยู่: “ไม่เลวเลยๆ”

“ตอนนี้บริษัทสื่อมันทำเงินได้ดีมาก แต่มันจะผลาญเงินมาก แค่ทำสัญญากับคนดัง ก็ต้องเบิกเงินมากแล้ว”

หลินชิงชิงเพิ่งพูดจบ ก็นึกถึงตัวตนของหลี่ฝางขึ้นมาได้

“ดูสมองของฉันสิ ฉันลืมไปเลย ว่าคุณเป็นลูกหลานมหาเศรษฐี จะไม่มีเงินได้อย่างไร”

หลินชิงชิงมองหลี่ฝางพลางพูดออกมา: “อันที่จริงคุณมีเงินมากขนาดนั้น จะเช่าทำไม ทำไมไม่ซื้อเลยล่ะ?”

หลี่ฝางส่ายหัว พลางพูดออกมา:“ฉันไม่อยากเอาเงินจากพ่อฉัน”

“ฉันอยากจะใช้เงินที่มีสร้างธุรกิจเอง”

“เงินค่าขนมที่มีงั้นเหรอ?” หลินชิงชิงขมวดคิ้วเป็นปม:“งั้นเดือนหนึ่งคุณใช้เงินเท่าไหร่ล่ะ?”

“ประมาณสิบล้าน” หลี่ฝางพูดออกมา

หลินชิงชิงตกใจเป็นอย่างมาก

“นี่เรียกว่าเงินค่าขนมงั้นเหรอ?” หลินชิงชิงกลืนน้ำลาย พลางมองหลี่ฝางด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“ให้ตายเถอะ สิบล้านสำหรับคุณ มันเรียกว่าเงินค่าขนมเหรอ?งั้นบ้านคุณมีเงินเท่าไหร่กับ?”

หลินชิงชิงพูดอะไรไม่ออก ผู้ถือหุ้นมากมาย ได้เงินโบนัสยังได้แค่ไม่ถึงกี่สิบล้านเลย?

หลี่ฝางดีจริงๆ เดือนหนึ่งก็ใช้ไปเป็นสิบล้านแล้ว

หลี่ฝางหัวเราะขึ้น: “พ่อของฉันเอาRecalling the pastใส่ไว้ในชื่อของฉัน รายได้ของRecalling the pastนั้น เป็นของฉันทั้งหมด”

“Recalling the pastทำเงินได้สิบล้านต่อเดือนเลยเหรอ?” หลินชิงชิงถามด้วยความแปลกใจ

“ใช่สิ เหล้าของRecalling the past เป็นสิ่งที่โรงกลั่นเหล้าองุ่นของพวกเราทำขึ้นมา เงินของพนักงาน ก็ไม่เท่าไหร่เอง”

“เมื่อRecalling the pastดังแล้ว มีคนดังมากมายไปที่นั่น ทุกๆ วันแขกเต็มไปหมด”

“ตอนนี้ในบัตรฉัน มีเงินเข้ามาหลายล้านทุกๆ อาทิตย์เลย” หลี่ฝางพูดออกมาด้วยความภูมิใจ

เมื่อได้ยินดังนั้น หลินชิงชิงก็พูดอะไรไม่ออกเลย

“ไม่เพียงเท่านั้น รีสอร์ตเองก็กำลังจะเปิดสวน แล้วก็สวนสนุก อีกไม่กี่วันก็จะเปิดทำการแล้ว ที่ รีสอร์ตกับสวนสนุก ฉันมีหุ้นอยู่สี่สิบเปอร์เซ็นต์ด้วยล่ะ”

“ถ้า รีสอร์ตกับสวนสนุกดังขึ้นมา งั้นในบัตรฉันก็จะมีเงินเข้ามากขึ้นเรื่อยๆ”

หลินชิงชิงมองหลี่ฝาง ก่อนจะพูดออกมา:“งั้นทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไมต้องเปิดบริษัทสื่อด้วยล่ะ?”

“ก็ทำสนุกน่ะ” หลี่ฝางพูดออกมา

อันที่จริง หลี่ฝางอยากจะเปิดบริษัทสื่อมวลชนขึ้นมา ก็เพื่อช่วยลู่หลุ่ย

“ช่างมันเถอะ พวกคุณมีความคิดทางการเงิน ฉันเดาไม่ออกเลย” หลินชิงชิงส่ายหัว พูดออกมา: “ฉันพาคุณไปดูห้องก็ได้”

“จริงสิ เสี่ยวฝาง เดี๋ยวคุณเปิดบริษัทแล้ว ให้เหลือตำแหน่งผู้จัดการอะไรสักอย่างให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

“ได้สิ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการเป็นไง?” หลี่ฝางถามออกไปประโยคหนึ่ง

“อะไรก็ได้ เป็นผู้จัดการก็พอแล้ว ฉันโตมาขนาดนี้แล้ว อยากจะเป็นเจ้าหน้าที่สูงๆ ดูบ้าง” หลินชิงชิงพูดออกมา: “พอดีว่าร้านปิ้งย่างของเจ้าพานปิดลงแล้ว เดี๋ยวฉันจะทำงานให้คุณ”

ทั้งสองคนคุยกันไป จนมาถึงเขตของบ้านพักตากอากาศ

หลี่ฝางคิดอยู่สักพัก หลินชิงชิงพูดไม่ผิดเลย เช่าบ้านพักตากอากาศนั้นไม่คุ้ม ซื้อไปเลยดีกว่า

ถึงตอนนี้จะจ่ายเต็มไม่ได้ แต่ดาวน์ไปก่อนก็ได้ใช่ไหมล่ะ?

เมื่อเดินไปที่สำนักงานขายของเขตบ้านพักตากอากาศ หลินชิงชิงก็หยุดลง

หลี่ฝางมองหลินชิงชิง:“พี่ ทำไมคุณไม่ไปล่ะ?”

ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางเงยหน้ามอง ก็เห็นว่ามู่เสี่ยวไป๋อยู่ข้างหน้า

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท