NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 245

ตอนที่ 245

บทที่ 245 ปัญหาที่หลิวเฉียวเฉียวก่อขึ้น

ด้วยตำแหน่งสถานะของหลี่ฝาง คำพูดของเขา เพียงพอที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของคนๆหนึ่ง

หลังจากวางสาย ลุงเฉียนก็โทรหาส้งกงหมิง ก็คือพ่อของส้งเสียง

“พ่อบ้านเฉียน?”

เมื่อหมายเลขเรียงกัน 88888 ส้งกงหมิงรู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก

เป็นไปได้ไหมว่า โอกาสมาแล้ว?

ส้งกงหมิงมีบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ดี ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส้งกงหมิงและส้งเสียง ทำงานอย่างหนัก เพื่ออยากได้โครงการ(รักษาคาวมปลอดภัยสถานตากอากาศ)

หากสามารถเอามาได้ ไม่เพียงแต่จะได้กำไรก้อนหนึ่งเท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกูลหลี่ได้อีกด้วย

ยังสามารถดึงดูดความสนใจจากมหาเศรษฐีทั้งหลาย

นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเจริญเติบโตของตระกูลส้ง

เมื่อส้งกงหมิงเห็นลุงเฉียนโทรมา ก็แอบดีใจ และแอบพูดในใจว่า “คุยสำเร็จแล้วเหรอ?”

ตอนนี้ ตงไห่กระจายข่าวลือว่า ถังหยู่ซวนเป็นหลานชายของหลี่เจียเฉิน

และส้งเสียงลูกชายของตัวเอง ช่วงนี้สนิทกับถังหยู่ซวนมาก

ดังนั้น ส้งกงหมิงจึงรู้สึกว่า ลุกชายของตัวเองอาศัยความสัมพันธ์นี้กับถังหยู่ซวน ได้งานรักษาความปลอดภัยจากสถานที่ตากอากาศคงไม่ใช่เรื่องยาก

“พ่อบ้านเฉียน ท่านจะเอางานรักษาความปลอดภัยสถานตากอากาศมอบให้ตระกูลส้งทำใช่ไหม?

“ฮ่าฮ่า พ่อบ้านเฉียน ท่านวางใจได้ อยู่ในตงไห่ ผมกล้าพูดเลยว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยของคนอื่น ไม่น่าเชื่อถือเท่าบริษัทรักษาความปลอดภัยของตระกูลส้ง!”

ส้งกงหมิงหัวเราะเสียงดัง

“ส้งกงหมิง คุณคิดมากเกินไป” ลุงเฉียนพูดอย่างเหยียดหยาม “แม้ว่าตระกูลส้งของคุณจะรักษาความปลอดภัยฟรีแก่พวกเรา พวกเราก็ไม่ยินยอม”

คำพูดของลุงเฉียน ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของส้งกงหมิงหายไปทันที

แม้ว่าจะฟรี แต่ไม่ยินยอม?

ดูถูกคนมากไปหรือเปล่า?

หากเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น ส้งกงหมิงคงจะดุด่าไปนานแล้ว แต่คนตรงหน้าคือพ่อบ้านเฉียน ตัวแทนของคุณท่านหลี่และเศรษฐีลึกลับ

ดุเขา ไม่ใช่หาที่ตายเหรอ?

แม้ว่าส้งกงหมิงจะอารมณ์ไม่ดี แต่เขาก็ยังถามด้วยรอยยิ้ม “งั้นที่พ่อบ้านเฉียนโทรมา เพื่อ… …?”

ส้งกงหมิงคิดในใจ พ่อบ้านเฉียนโทรผิดหรือเปล่า?

“บอกคุณว่า ก่อนหน้านี้ที่มอบตั๋ววีไอพีสถานตากอากาศให้คุณ ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว… …”

หลังจากพูดเสร็จ ลุงเฉียนก็วางสายโทรศัพท์ โดยไม่บอกเหตุผลให้ส้งกงหมิง

แน่นอน ลุงเฉียนไม่ได้ขอโทษส้งกงหมิง

ชั่วขณะสมองของส้งกงหมิงเหมือนมีเสียงอะไรผิดปกติ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ไม่เพียงแต่โครงการรักษาความปลอดภัย ไม่สำเร็จ สถานที่ตากอากาศยังถูกยกเลิกอีก?

ส้งกงหมิงรีบโทรหาลูกชายทันที

ทันทีที่โทรศัพท์โทรมา ส้งกงหมิงก็ถามทันที “ไอ้ลูกชายผลาญสมบัติ ฉันถามนาย นายไปทำให้ถังหยู่ซวนขุ่นเคืองหรือเปล่า?”

ส้งกงหมิงคิดไปคิดมา มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น

มีเพียงหลานชายของหลี่เจียเฉินเท่านั้น ที่มีความสามารถเช่นนี้ ให้พ่อบ้านเฉียนยกเลิกการเชิญตระกูลส้ง

เมื่อได้ยินคำถามของส้งกงหมิง ส้งเสียงก็หัวเราะ “คุณพ่อ ท่านคิดว่าเป็นไปได้ไหม? ถังหยู่ซวนเป็นหลานชายของนายท่านหลี่ ผมจะไปกล้าทำให้เขาขุ่นเคืองเหรอ ผมจะประจบประแจงยังไม่มีโอกาสเลย”

“ถ้านายไม่ทำให้เขาขุ่นเคือง แล้วตั๋วเชิญไปสถานตากอากาศที่ส่งมา ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว?” ส้งกงหมิงถามอย่างเย็นชา

“อะไรนะ? ตั๋วเชิญไปสถานตากอากาศ ยกเลิกไปแล้ว? มีเรื่องแบบนี้ได้ไง!” ส้งเสียงได้ยินสิ่งนี้ กัดฟันทันที

สถานตากอากาศ รังแกกันเกินไป!

ส่งมาถึงมือแล้ว และตอนนี้บอกกับตัวเองว่า ตั๋วใบนี้ได้ถูกยกเลิก

ส้งกงหมิงทนได้ แต่ส้งเสียงที่ยังหนุ่มทนไม่ได้

“ผมจะไปถามถังหยู่ซวนให้มันชัดเจน” ส้งเสียงพูดด้วยความโกรธ “ว่าผมทำอะไรให้เขาขุ่นเคือง ทำไมเขาถึงปฏิบัติต่อผมแบบนี้!”

“อืม ควรถามให้ชัดเจน แต่กิริยาท่าทางของแกควรจะดีหน่อย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่คนที่ตระกูลส้งของเราจะไปล่วงเกินได้” ส้งกงหมิงเตือน “หากนายไปยั่วยุให้เขาโมโหจริงๆ ตระกูลส้งของเรา จะพังพินาศด้วยน้ำมือของนาย จดจำไว้หรือยัง?”

“คุณพ่อ ไม่ต้องกังวล” ส้งเสียงสูดลมหายใจยาว “ผมเข้าใจความหมายของท่าน”

หลังจากวางสาย ส้งเสียงก็ขมวดคิ้ว เขาคิดจนสมองจะแตก แต่ก็คิดไม่ออกว่าเขาไปทำอะไรให้ถังหยู่ซวนขุ่นเคือง

สถานตากอากาศจะเปิดในวันพรุ่งนี้ ส้งเสียงตัดสินใจไปหาถังหยู่ซวนในคืนนี้ และสอบถามให้ชัดเจน

หลังจากนั้นไม่นาน เซี่ยลู่ก็เดินออกจากวิลล่า

ใบหน้าของเซี่ยลู่ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หลิวเฉียวเฉียวหัวเราะเบาๆ และถามว่า “ดูรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ฉันก็รู้ว่าเธอสมัครผ่านแล้ว”

“ใช่แล้ว ยังให้ตั๋วสถานตากอากาศมาหนึ่งใบ แบบเดียวกับของเธอเลย” เซี่ยลู่ยิ้มอย่างมีความสุข “ก็มีรหัสเหมือนกัน”

หลิวเฉียวเฉียวค่อนข้างดูถูก “แม้ว่าตั๋วจะเหมือนกัน แต่ความหมายแตกต่างกัน”

“สถานตากอากาศได้เชิญฉันโดยตรง”

เซี่ยลู่ยังนึกขำในใจ ก็แค่พึ่งบารมีจากส้งเสียงไม่ใช่หรือ?

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เซี่ยลู่ก็ถอนหายใจ เช่นเดียวกับตู้เฟย ไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะได้รับเชิญจากสถานตากอากาศ ถ้าเทียบกับส้งเสียง มันห่างไกลกันมาก

ทันทีที่หลิวเฉียวเฉียวบ่นพึมพำเสร็จ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

“เป็นส้งเสียงที่โทรมา เขาคงจะพาฉันไปซื้อชุดราตรีอย่างแน่นอน คืนพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำที่สถานตากอากาศ และจะมีดาราหญิงมาร่วมงานมากมาย ฉันจะแพ้พวกเธอไม่ได้”

หลิวเฉียวเฉียวยกมุมปากขึ้น แล้วกดปุ่มรับโทรศัพท์

“คุณอยู่ที่ไหน?” ทันทีที่รับสาย ส้งเสียงก็ถามอย่างโกรธๆ

“ที่รัก ฉันอยู่(วิลล่ากลางภูเขา) ทำไมคุณโทรมาช้าจัง ไหนคุณบอกว่าจะซื้อชุดราตรีให้ฉัน? ถ้าช้ากว่านี้ ห้างสรรพสินค้าจะปิดแล้ว” หลิวเฉียวเฉียวออดอ้อนอยู่ตามสายโทรศัพท์

“ซื้อชุดราตรีอะไร บัตรเชิญของผมถูกยกเลิกไปแล้ว!”

ส้งเสียงในใจเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ กำลังโมโหไม่มีที่ระบาย

เขาไม่กล้าที่จะระบายความโกรธใส่ถังหยู่ซวน ดังนั้นเขาจึงระบายใส่หลิวเฉียวเฉียว

“ผมจะไปรับคุณทันที คุณไปตงไห่กับผม ผมจะไปRecalling the past และถามถังหยู่ซวนว่าเกิดอะไรขึ้น และทำไมต้องยกเลิกบัตรเชิญของผม”

ส้งเสียงพูดอย่างเย็นชา จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ทันที

ตอนที่โทรคุยกันเซี่ยลู่ก็อยู่ข้างๆ

สิ่งที่ส้งเสียงพูดนั้น เซี่ยลู่ได้ยินประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์

เซี่ยลู่ยิ้ม และมองไปที่หลิวเฉียวเฉียว “เกิดอะไรขึ้น?”

“ไม่มีอะไร ส้งเสียงบอกว่าเขาคิดถึงฉัน จะมารับฉัน” หลิวเฉียวเฉียวตอบด้วยความละอายใจ

“ในเมื่อเธอสมัครผ่านแล้ว งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ ส้งเสียงขับรถมาพอดี และส่งเธอกลับไปก่อน” หลิวเฉียวเฉียวพูด

เซี่ยลู่ปฏิเสธ เธอส่ายหัว และมองไปที่หลี่ฝาง “ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยกลับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่เธอ” หลิวเฉียวเฉียวพูดจบ และจากไป

ในตอนนี้ เซี่ยลู่เดินไปตรงหน้าหลี่ฝาง

“นายเป็นคนทำใช่ไหม?” เซี่ยลู่ถามหลี่ฝาง

“อะไร?” หลี่ฝางมองเซี่ยลู่อย่างสงสัย ไม่เข้าใจความหมายของเซี่ยลู่

“บัตรเชิญสถานตากอากาศของส้งเสียงถูกยกเลิกแล้ว เมื่อกี้นี้เอง ฉันคิดว่าเรื่องนี้ นายเป็นคนทำแน่นอน” เซี่ยลู่พูดอย่างมั่นใจ “มีเพียงนายเท่านั้นที่มีความสามารถนี้”

“เมื่อกี้ตอนที่ฉันเข้าไปสัมภาษณ์ เฉียวเฉียวน่าจะพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง ซึ่งทำให้นายโกรธใช่ไหม?” เซี่ยลู่คาดเดา

เซี่ยลู่รู้ว่า ใจของหลี่ฝาง ไม่ได้เลวร้าย แต่เขามีแค้นก็ต้องชำระ

“ใช่แล้ว เธอพูดเรื่องไม่น่าฟังมากมาย ที่ทำให้ผมเสื่อมเสีย และยกย่องส้งเสียง” หลี่ฝางเลียริมฝีปากของเขาและยิ้ม “ดังนั้นผมจึงไปทำส้งเสียง”

“ฉันเดาไม่ผิดจริงๆ”

“เธอฉลาดขนาดนี้ จะเดาผิดได้อย่างไร?” มองเซี่ยลู่ หลี่ฝางหัวเราะ

เห็นเซี่ยลู่มาสมัครวีเจ หลี่ฝางคิดว่า เซี่ยลู่กับตู้เฟย แปดสิบเปอร์เซ็นต์ได้เลิกรากันแล้ว

มิเช่นนั้น จากนิสัยขี้หึงของตู้เฟย จะยอมให้เซี่ยลู่มาเป็นวีเจหญิงเหรอ?

“ฉันยังเดาถูกอีกเรื่องหนึ่ง” เซี่ยลู่พูดอย่างกะทันหัน

“อะไร?”

“คนที่สัมภาษณ์ฉันเมื่อกี้นี้ คือโจวหยาง เขาเป็นหัวหน้าหอพักที่คุณพักอยู่ตอนม. ปลาย”

“นายไม่ได้มาสัมภาษณ์เพื่อเป็นวีเจชาย นายเป็นเจ้านายตัวจริง ใช่ไหม?”

“แพลตฟอร์มถู่โต้วนี้ เป็นของคุณ!” เซี่ยลู่ถาม

“ใช่ ไม่เพียงแต่แพลตฟอร์มถู่โต้วเท่านั้นที่ผมซื้อ แม้แต่(วิลล่าหมายเลข1)นี้ ผมก็ซื้อไว้แล้ว” หลี่ฝางพยักหน้า โดยไม่ปิดบัง

ในเมื่อเซี่ยลู่รู้จักตัวตนของเขาแล้ว ปกปิดไปก็ไม่มีความหมายอะไร

เซี่ยลู่ได้ยินเช่นนี้ รู้สึกสับสนในใจ

ยิ่งหลี่ฝางใช้จ่ายเงินมากเท่าไหร่ ในใจเซี่ยลู่ ก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น

เติบโตมาด้วยกัน เขายังคงเป็นคนที่ตัวเองตามจีบ… …

ตอนนี้ได้เปลี่ยนไป กลายเป็นคุณชายในตระกูลที่ร่ำรวย

และตัวเอง ได้พลาดโอกาส

ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของหลี่ฝางดังขึ้น เป็นข้อความ

เมื่อเห็นข้อความนี้ หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท