NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 240

ตอนที่ 240

บทที่ 240 ส้าวส้วยคือสับประหลาด

ส้าวส้วยดูเอ้อระเหยลอยชาย แต่ยามลงมือกลับแม่นยำอย่างมาก

เขายิ่งเอ้อระเหยลอยชาย ยิ่งทำให้คนรู้สึกคาดเดาไม่ถูก

อาจเพราะความเอ้อระเหยลอยชายของเขา คือการถูกเหยียดหยามประเภทหนึ่ง

หลี่ฝางเชื่อว่าเมื่อส้าวส้วยเจอคู่ปรับตัวจริง เขาต้องจริงจังอย่างแน่นอน

เมื่อกลับมาถึงด้านหน้าของส้าวส้วย หลี่ฝางตบไหล่เขา ก่อนเอ่ยเสียงเบาว่า “เฝ้าอยู่ทั้งคืนคงเหนื่อยสินะ ฉันจะพานายไปผ่อนคลาย”

“ผ่อนคลาย?” ส้าวส้วยเอ่ยถาม “เถ้าแก่ ผ่อนคลายอะไร?”

“พี่จะพาแกไปอาบอบนวด หาสาวงามสักคนมานวดให้แก จากนั้นนวดน้ำมันเป็นยังไง?” หลี่ฝางเลิกคิ้วเอ่ยถาม

“เถ้าแก่ คุณจะพาผมไปเที่ยวซ่องโสเภณี?” ส้าวส้วยส่ายหน้า ก่อนพูดเสียงดังว่า “ผมไม่ไป”

หลี่ฝางหน้าขรึมลง หลินชิงชิงยังอยู่ตรงนี้

“งั้นนายกลับมหาวิทยาลัยไปเถอะ” หลี่ฝางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์

“เถ้าแก่ ผมไม่ได้อาบน้ำหลายวันแล้ว คุณพาผมไปอาบน้ำหน่อยเถอะ” เอ่ยจบ ส้าวส้วยยังเอ่ยเสริมว่า “ผมแค่อาบน้ำ ไม่เอาผู้หญิง”

“พวกเรารีบไปเถอะ หากให้เสือรู้ว่าเกิดเรื่องกับต้าเป่าและเสี่ยวเป่า เขาต้องส่งคนมาอีกแน่” ทันใดนั้น จางกงหมิงเอ่ยขึ้น

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พวกเขามาถึงอาบอบนวดสุ่ยหยุนเทียน

“ยินดีต้อนรับครับ”

หนุ่มหล่ออายุสิบกว่าคนหนึ่งหน้าประตู ตะโกนต้อนรับอย่างเป็นมิตร

หลี่ฝางจึงหัวเราะขึ้น “มีเด็กมารับที่หน้าประตูด้วย”

“ไม่เลว ไม่เลว”

หลังเข้ามาในลิฟต์ จางกงหมิงหัวเราะเสียงเย็น “ดูท่าการแต่งหญิงของฉัน จะได้ผลไม่เลว”

“เด็กน้อยหน้าประตูนั้น จำฉันไม่ได้เลย”

“พวกนายรู้จักกัน?” หลี่ฝางเอ่ยถาม

จางกงหมิงกลับไม่ตอบ

ไม่นาน หลี่ฝางมาถึงชั้นดาดฟ้า

“เถ้าแก่ คุณจะพาผมมาผ่อนคลายไม่ใช่เหรอ?” ส้าวส้วยถูกหลี่ฝางลากตัวมาที่มุมหนึ่ง เอ่ยถามเสียงเบา

“นายจะอาบน้ำไม่ใช่เหรอ แค่ไปอาบก็พอแล้ว” หลี่ฝางเอ่ย

“ส่วนผู้หญิง เมื่อมาแล้ว อาบบน้ำอย่างเดียวเหรอ?” ส้าวส้วยมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าตะลึง “เถ้าแก่ คุณคงไม่ได้เข้าใจอะไรผิดนะ!”

“ส้าวส้วย นายต้องการผู้หญิง”

หลี่ฝางตั้งใจเอ่ยเสียงดังว่า “ตอนนี้ฉันจะพานายไป”

สีหน้าของส้าวส้วยพลันเคร่งขรึมขึ้นมา

“พี่ชิงชิง พวกพี่รอก่อนนะ ผมไปไม่นานเดี๋ยวกลับมา” หลี่ฝางเอ่ย ก่อนพาส้าวส้วยลงไปชั้นล่าง

ส้าวส้วยเอ่ยอย่างหดหู่ว่า “เถ้าแก่ ทำไมเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้ เมื่อกี้ผมล้อคุณเล่นเท่านั้น?”

“ใช่ ฉันก็ล้อนายเล่นเช่นกัน” หลี่ฝางกล่าวยิ้มๆ

เพียงพริบตาเดียวลงมาถึงชั้นล่าง หลี่ฝางพบเข้ากับฮวนฮวนพอดี

“นายมาแล้วเหรอ?” ฮวนฮวนเห็นหลี่ฝาง ยิ้มแย้มอย่างดีใจ

“ใช่ นี่เธอกำลังเตรียมจะเลิกงานกลับบ้านเหรอ?” หลี่ฝางเอ่ยถาม

“ตอนกลางวันไม่มีลูกค้า เหลือเด็กไว้ทำงานที่นี่ไม่กี่คน คนอื่นกลับไปพักผ่อน” ฮวนฮวนเอ่ย

หลี่ฝางชี้ที่ฮวนฮวน ก่อนเอ่ยถามส้าวส้วย “ผู้หญิงคนนี้เป็นยังไง?”

“ไม่เลว”

หลี่ฝางจึงเอ่ยกับฮวนฮวนว่า “เลิกงานช้าหน่อยแล้วกัน รับแขกเพิ่มอีกคน จ่ายค่าแรงเป็นสองเท่า”

ฮวนฮวนยังไม่ตอบตกลง ส้าวส้วยกระซิบข้างหูหลี่ฝางว่า “เถ้าแก่ ผมอยากได้หน้าอกใหญ่กว่านี้หน่อย”

หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างแปลกใจ “ดูไม่ออกเลยวะ นายมันเจ้าชู้ขนาดนี้”

“มีสาวหน้าอกโตคนหนึ่งทำงานอยู่พอดี ฉันจะพานายไป” ฮวนฮวนหูไวเป็นพิเศษ จึงฟังออก

“ช่วยดูแลด้วย” หลี่ฝางเอ่ยกับฮวนฮวน

“นายไม่ผ่อนคลายหน่อยเหรอ?” ฮวนฮวนเลิกคิ้ว “ฉันจะลดให้นาย…”

ไร้สาระ

หลินชิงชิงอยู่ที่นี่ หลี่ฝางจะกล้าเรียกผู้หญิง?

นั่นไม่รนหาที่ตายเหรอ?

หลังหลี่ฝางปฏิเสธ กลับขึ้นมาบนดาดฟ้า

เมื่อมาถึงห้องทำงานของหวางเห้า ทำให้หวางเห้าตกใจอย่างหนัก

หวางเห้ามองแวบเดียวรู้ว่าจางกงหมิงแต่งกายเป็นผู้หญิง จางกงหมิงถือเป็นศัตรูคนสำคัญของเขา หวางเห้าจะเลอะเลือนได้ยังไง?

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เถ้าแก่ คุณลักพาตัวจางกงหมิงมาเหรอ แต่ก็เหมือนไม่ใช่” หวางเห้าเอ่ยถามยิ้มๆ

หลี่ฝางเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า “อย่าล้อเล่นอีกเลย จางกงหมิงมีปัญหา เขาจึงคิดหลบอยู่ที่นี่สักระยะ”

“ได้ข่าวมาเหมือนกัน หลายวันนี้พวกพี่น้องของห้าวหนานอาศัยช่วงที่มู่เสี่ยวไป๋อยู่โรงพยาบาล คิดฆ่าเขา” เมื่อมองจางกงหมิงแวบหนึ่ง หวางเห้าหัวเราะขึ้นมา

“แต่เขาเป็นคนของมู่เสี่ยวไป๋ ทำไมผมต้องช่วยเขา?”

หลี่ฝางจึงเอ่ยว่า “เขาคือพี่ชายฉัน”

“เถ้าแก่ อย่าลืมว่าหลายวันก่อนเขายังช่วยมู่เสี่ยวไป๋จัดการคุณนะ” หวางเห้าเอ่ยเตือน

จางกงหมิงหัวเราะ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันมาหาแก ไม่ใช่แค่หลบภัย”

หวางเห้าหัวเราะ ก่อนถามว่า “นายมาหาฉัน ยังมีเหตุผลอื่นอะไรอีก?”

“ฉันรู้ว่านายอยากจัดการเสือ ฉันก็เหมือนกัน” จางกงหมิงเอ่ย

“นายกับเสือเป็นคนของมู่เสี่ยวไป๋ พวกนายมันพวกเดียวกัน นายบอกว่าอยากจัดการเขา ฉันเชื่อถือได้เหรอ?” หวางเห้าส่ายหน้า

“ครั้งนี้ฉันถูกคนของห้าวหนานโจมตี เพราะเสือบอกเบาะแสของฉันกับมัน เขาก็ต้องการฆ่าฉัน” จางกงหมิงเปิดบาดแผลของตนให้หวางเห้าดู

“กลเจ็บกาย?” หวางเห้าหัวเราะขึ้นมา เห็นชัดว่าไม่เชื่อ “รอยมีดตื้นเกินไป”

“ในรถข้างล่างยังมีพี่น้องเสืออีกสองคน ต้าเป่าและเสี่ยวเป่า ฉันมอบมันสองคนให้นาย” จางกงหมิงเอ่ย

เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของหวางเห้าพลันเคร่งขรึมขึ้นมา “จริงเหรอ?”

“รถจอดอยู่ใต้ตึกนาย นายลงไปดูได้ทุกเวลา” จางกงหมิงเอ่ย

หวางเห้าจึงขยับเท้า เตรียมลงไปดูว่าจริงหรือปลอม

ต้าเป่าและเสี่ยวเปล่า คือมือซ้ายกับมือขวาของเสือ หากจัดการพวกมันสองคน เท่ากับเป็นการตัดมือสองข้างของเสือ

“เดี๋ยวก่อน!”

จางกงหมิงเรียกหวางเห้า และเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “จะบอกนายอีกเรื่อง เด็กหน้าประตูของนายนั้น คือคนของเสือ”

“อะไรนะ?” หวางเห้าเบิกตามองจางกงหมิง “เขาเพิ่งอายุสิบแปด!”

“นายคงเคยได้ยินนักฆ่าเดนตายสินะ เขาคือเด็กจากบ้านเด็กกำพร้าที่เสือรับมา เพื่อเลี้ยงดูเป็นนักฆ่าเดนตายหลายสิบปีแล้ว” จางกงหมิงเอ่ย

หวางเห้าขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเกิดอยากฆ่าคน

“หากฉันเป็นนาย จะไม่ลงมือกับเขาเด็ดขาด ปล่อยเขาไว้ มีประโยชน์ยิ่งกว่าฆ่าเขา” จางกงหมิงหัวเราะเฮอะเฮอะ “ช่วงสำคัญให้ข่าวปลอมกับเขา นายคงเข้าใจความหมายของฉันสินะ?”

“และนายไม่ต้องลงไปด้านล่าง นี่คือภาพถ่ายของต้าเป่าและเสี่ยวเป่า พวกมันอยู่ในรถของเสี่ยวฝาง” จางกงหมิงล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา

จางกงหมิงความจริงต้องการนำภาพถ่ายต้าเป่าเสี่ยวเป่าที่หมดสติให้หวางเห้าดู ผลสุดท้าย ขณะที่เขาเปิดโทรศัพท์มือถือนั้น สีหน้าพลันเคร่งขรึมลง

หลังจากนั้น จางกงหมิงกัดฟันแน่น สีหน้าเปลี่ยนไปดุร้ายอย่างรุนแรง

“พี่หมิง เป็นอะไรไป?” หลี่ฝางเห็นถึงความผิดปกติ จึงรีบเอ่ยถามขึ้น

จางกงหมิงหายใจติดขัด ร่างกายเปลี่ยนไปตื่นตระหนกขึ้นมา

“เย็Xแม่ง!” จางกงหมิงกัดฟัน อดด่าทอขึ้นไม่ได้

“พี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลินชิงชิงเดินเข้าไป ก่อนเอ่ยถามจางกงหมิง

จางกงหมิงหลับตาลวง เพื่อข่มอารมณ์ของตนให้เย็นลง

เพราะจางกงหมิงเข้าใจ ตัวคนเดียวยิ่งวู่วาม ยิ่งจะตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู

เพียงใจเย็น จึงจะสามารถคิดหาวิธีได้!

หลินชิงชิงหยิบโทรศัพท์มือถือในมือจางกงหมิงมาดู

หลังจากนั้น สีหน้าของหลินชิงชิงก็เปลี่ยนไปอึดอัดอย่างมาก

“พี่ เกิดอะไรขึ้น?” หลี่ฝางเอ่ยถามอีกครั้ง

“เหล่าพี่น้องของพี่ฉัน ส่วนใหญ่ถูกคนของเสือและห้าวหนานจับไว้หมดแล้ว และ…นายดูเอาเองเถอะ” หลินชิงชิงส่งโทรศัพท์มือถือให้หลี่ฝาง

หลี่ฝางรับโทรศัพท์มือถือมาดู

เหล่าพี่น้องของจางกงหมิงกลุ่มนี้ ทุกคนต่างถูกแขวนคอขึ้น คนของเสือหยิบแส้เฆี่ยนพวกเขาไม่หยุด

คนพวกนี้ ตอนหลี่ฝางอยู่ที่ตงไห่ พบหน้ากันเป็นประจำ จนกระทั่งยังดื่มเหล้าด้วยกัน

“พวกเราแทบไม่เหลือลมหายใจแล้ว” หลินชิงชิงเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ

ในที่สุดหลี่ฝางก็เข้าใจว่าทำไมจางกงหมิงจึงโมโห หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเขา หลี่ฝางกลัวตนอาจเสียสติ

คนพวกนี้ ล้วนเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกับจางกงหมิง

เมื่อเห็นพี่น้องถูกคนแขวนคอ ใช้แส้เฆี่ยนตี จางกงหมองจะไม่เสียสติอย่างไร?

จางกงหมิงลืมตาขึ้น ก่อนแย่งโทรศัพท์มือถือจากมือหลี่ฝาง ต่อสายหาเสือ

“จางกงหมิง ในที่สุดรับโทรศัพท์ฉันสักที!”

เสือกล่าวยิ้ม ๆ ในโทรศัพท์ด้วยสีหน้าร้ายกาจ “ฉันจะบอกนายว่า พี่น้องกลุ่มนี้ของนาย ทนอีกไม่ได้นานแล้ว”

“อย่างมากครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็จะตาย”

“ปล่อยพวกเขาไป” จางกงหมิงเอ่ยเสียงเย็น

“ได้ แกหักคอตัวเองมา ฉันจะปล่อยพวกเขา” เสือเอ่ย

“นายคิดว่าตนเองมีไพ่ตายในมือคนเดียวหรือไง แขนขาของนาย ต้าเป่าและเสี่ยวเป่าอยู่ในมือฉัน” จางกงหมิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

“จางกงหมิง แกอย่ามาโม้หน่อเลย ฝีมือต้าเป่าและเสี่ยวเป่าเยี่ยมขนาดนั้น นายจับพวกเขาได้ หากนายพบพวกเขา คงตายไปแล้ว” เสือหัวเราะขึ้นอย่างมั่นใจ

“ไม่เชื่อใช่ไหม ฉันจะส่งภาพให้แกดู” จางกงหมิงวางสาย ก่อนกดส่งภาพไปให้เสือ

หลังจากนั้น เสือโทรกลับมา “จางกงหมิง แก”

“ไม่พูดพล่าม พาตัวพี่น้องของฉันมา ฉันจะส่งพี่น้องของแกทั้งหมดคืนไป” เสือเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา

“สถานที่” จางกงหมิงไม่พูดพล่าม

“ตึกร้างเขตเกาซิน นายคงรู้จักสถานที่นี้” เสือเอ่ย

เสียงปังดังขึ้น จางกงหมิงวางสาย ก่อนวิ่งออกจากห้องไปด้านนอก

“แม่X เขาบ้าไปแล้ว ไปด้วยตนเอง?” หลี่ฝางเอ่ยอย่างหมดคำพูด

“คนที่ตกลงกับเขาคือเสือ เขาพาพวกเราไปด้วยไม่สะดวก หากพวกเราไปกับเขา หลังมู่เสี่ยวไป๋ทราบเรื่องนี้ ทำให้มู่เสี่ยวไป๋หมดความไว้ใจในตัวเขา” หวางเห้าเอ่ย

“มันเวลาไหนแล้ว ยังกังวลอะไรอีก เขาไปคนเดียว เท่ากับไปรนหาที่ตาย?” หลี่ฝางขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น

“หวางเห้า นายเรียกรวมเหล่าพี่น้อง เตรียมตัวออกเดินทาง นายไม่อยากกำจัดเสือเหรอ จัดการวันนี้เลย” หลี่ฝางเอ่ย

“วันนี้” หวางเห้าขมวดคิ้ว เห็นชัดว่ายังไม่ได้เตรียมพร้อม

“ใช่ ปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ วันนี้แล้วกัน” หลี่ฝางตบไหล่หวางเห้า ก่อนเอ่ยว่า “ไปเตรียมตัวเถอะ”

หลี่ฝางไม่ได้รีบร้อนไล่ตามไป เพราะจางกงหมิงไม่มีกุญแจรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ จะพาต้าเป่าและเสี่ยวเป่าไปแลกเปลี่ยนได้ยังไง?

“พี่ ลงไปอยู่กับจางกงหมิงก่อนเถอะ ผมจะไปตามส้าวส้วย” หลี่ฝางคิดว่าเรื่องวันนี้จำต้องพาส้าวส้วยไปด้วย

แต่ไม่รู้ส้าวส้วยเสร็จเรื่องหรือยัง

หลังรีบร้อนวิ่งลงไปชั้นล่าง หลี่ฝางไม่มีเวลาเคาะประตู ปรี่ตรงเข้าไปในห้องวีไอพีของส้าวส้วย

เห็นเพียงส้าวส้วยนั่งอยู่บนเตียง เสื้อผ้าไม่ได้ปลดลง

หลี่ฝางตอนนั้นหมดคำพูด พี่ชายอุตส่าห์เสียเงินหาผู้หญิงให้ มันกลับให้ผู้หญิงเต้นรำให้ดู?

เด็กนี้โคตรโง่จริงๆ!

การมาถึงของหลี่ฝาง ทำสาวสายตกใจ เธอจึงรีบสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนถอยไปอยู่ด้านข้าง

“ไม่ต้องกลัว อีกเดี๋ยวจะให้เงินเธอสองเท่า” หลี่ฝางรีบเอ่ยขึ้น

“เถ้าแก่ มาได้ยังไง?” ส้าวส้วยมองหลี่ฝางพลางถามขึ้น

“เกิดเรื่องแล้ว รีบไปกับฉัน” หลี่ฝางลากส้าวส้วย ออกจากอาบอบนวดไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท