บทที่252 โหจื่อที่เลว
“ตบคุณแล้วทำไม?คุณก็ไม่ใช่แค่พนักงานเสิร์ฟร้านผับเก่าๆเหรอไง?”
ส้งเสียงชี้ไปที่ถังหยู่ซวนแล้วพูด:“เห็นไหม?นั่นคือเจ้านายคุณ พวกเราคือเพื่อนของเจ้านายคุณ”
สายตาของโหจื่อ จ้องไปที่ส้งเสียงเขม็ง
ส้งเสียงถูกสายตาแบบนี้จ้อง จึงร้อนตัวหน่อยๆ:“ให้คุณหนึ่งพัน”
“แค่นี้โอเคไหม?”ส้งเสียงพูด
ส้งเสียงคิดว่า โหจื่อก็แค่พนักงานเสิร์ฟร้านผับคนเล็กๆคนหนึ่ง เงินเดือนหนึ่งเดือนจะเท่าไหร่กันเชียว?
หนึ่งพันหยวน น่าจะงานอาทิตย์หนึ่งของเขาเลย
แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ตอนที่เขาจะเอาเงินให้โหจื่อ โหจื่อกลับไม่รับไว้
ตัวตนของโหจื่อ ธรรมดาอย่างนั้นที่ไหนกัน
วันนั้นที่สถานตากอากาศเขา เขายังเอาชนะเจ้าหัวแบนได้
แน่นอนว่า ฉากนั้น ส้งเสียงโจวเจ๋และคนอื่นๆ ต่างไม่เห็น
พวกเขาเพิ่งเข้าไปสถานตากอากาศ เพราะทำผิดต่อตู้เฟย จึงถูกหยูเถิงพี่ชายฝ่ายพ่อของตู้เฟย จับผิดไล่ออกไปจากสถานตากอากาศ
ดังนั้น ส้งเสียงจึงคิดว่า โหจื่อก็แค่พนักงานเสิร์ฟธรรมดาคนหนึ่ง
โหจื่อหัวเราะ มองส้งเสียง:“เจ้านาย งั้นพวกเราออกไปคุยหน่อยไหม?”
“โอเค ออกก็ออกสิ กลัวคุณที่ไหนล่ะ!”
ส้งเสียงยิ้มอย่างเหยียดหยาม ยืนขึ้นมา
ส้งเสียงส่งสายตาให้เสี่ยวสาน ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง ให้พวกเขาตามไปด้วย
โจวเจ๋ไม่ได้ตามไป โจวเจ๋ในเวลานี้ อารมณ์แย่มาก แย่จนรู้สึกอยากฆ่าคน
โจวเจ๋คิดไม่ถึง พ่อจะตอบรับให้เงินของเขาไป แล้วยังให้น้องชายของตัวเอง โจวหยาง
ส่วนตัวเอง เอาเงินให้ดาราไม่ได้ ก็ผิดสัญญา
เงินค่าปรับมหาศาล เขารับไม่ได้อยู่แล้ว นอกจาก ขายบริษัทของตัวเองทิ้งไป
แต่บริษัทมีเดียของเขา เป็นเลือดเนื้อของเขามาทั้งชีวิตเชียว!
เขาไม่ยอม ไม่ยอมให้ล้มละลายแบบนี้
พอตามโหจื่อออกมาจากผับ ส้งเสียงก็มีท่าทีข่มใส่:“คุณคิดอะไรกันแน่?ก็แค่ตบคุณหนึ่งฉาดไม่ใช่เหรอ?”
“ทำไม ไม่จบใช่ไหม?คุณเชื่อไหมอีกเดี๋ยวถังหยู่ซวนตื่นมา ผมจะให้เขาไล่คุณออก?”ส้งเสียงพูดขู่อย่างเยือกเย็น
“ผมว่านะเด็กอย่างคุณ ไม่รู้จักพอเลยนะ?คุณชายส้งให้คุณพันหยวน คุณยังจะไม่พอใจ สำหรับคนอย่างคุณนี้ เงินหนึ่งพัน คุณต้องทำงานหนึ่งอาทิตย์เชียว!”เสี่ยวสานพูด
โหจื่อแค่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม
“คุณรู้ไหมคนที่ครั้งที่แล้วตบหน้าผม ตอนนี้เป็นยังไง?”โหจื่อถาม
“เป็นยังไง?”ส้งเสียงถามตาม
“ผมว่า ตอนนี้เขาตายไปแล้ว”โหจื่อพูดเรียบๆ
“ห่า พนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่งในผับ มีอะไรให้โม้ขนาดนั้นเลย!”พอเสี่ยวสานได้ยิน ก็หมดคำพูดทันที
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงก็ส่ายหน้าพูด:“ดวงชะตาที่จะตายของเขาสามฟุตกว่าแล้ว แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ หรือว่าคุณจะฆ่าเขาตาย?”
“หึหึ คิดไม่ถึงเลยนะ ว่าคุณจะเป็นฆาตกรน่ะ”
“เชื่อไม่เชื่อตอนนี้ผมจะโทรหาลุงตำรวจ ……”
คำพูดของผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงยังพูดไม่จบ จู่ๆโหจื่อก็ก้าวไปข้างหน้า ตบใส่หน้าผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงไปฉาดหนึ่ง พูดอย่างเยือกเย็น:“ผมไม่ได้ฆ่าเขา”
“เขาฆ่าตัวตาย”
โหจื่อแสยะยิ้ม หัวเราะราวกับปีศาจร้าย:“เพราะว่ายุ่งกับคนของผม มีชีวิตอยู่ก็จะสาหัสซะยิ่งกว่าตาย”
ฝ่ามือของโหจื่อนี้ แรงมาก
จนทำให้มุมปากของผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง เลือดไหลออกมา
“คุณ คุณกล้าตบผม?”ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงชี้ไปที่โหจื่อ พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เสียงตบดังขึ้นมา โหจื่อเดินขึ้นไป แล้วตบใส่ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงไปฉาดหนึ่งลงไปที่พื้น
“ทำไมผมจะไม่กล้า โลกนี้ ไม่มีเรื่องไหนบ้างที่ผมโหจื่อไม่กล้าทำ”โหจื่อยิ้มอย่างดูถูก
ฝ่ามือนี้ หนักมาก
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงถูกฟุบลงไปที่พื้น นานกว่าจะเงยหน้าขึ้นมาได้
ฝ่ามือนี้ เพิ่งทำเขาฟุบสลบลงไป จนเวลานี้ ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงยังรู้สึกว่าศีรษะของตัวเอง มึนหน่อยๆ
หลังจากเห็นผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงออกโรง ส้งเสียงกับเสี่ยวสาน จู่ๆก็ตกใจกลัว
“คุณ คุณอย่าเข้ามา”
ส้งเสียงมองโหจื่อด้วยใบหน้าหวาดกลัว:“ผมผิดไปแล้ว พี่ใหญ่ ผมให้เงินคุณ หนึ่งหมื่น หนึ่งหมื่นพอไหม?”
โหจื่อเดินไปที่ส้งเสียงต่อ มุมปากของเขา มีรอยยิ้มนิ่งๆ
“สามหมื่น ห้าหมื่น หนึ่งแสน!”
จากระยะห่างทั้งสองที่ใกล้เข้ามา ส้งเสียงเริ่มเพิ่มราคา แต่ฝีเท้าของโหจื่อ ไม่หยุดเลยสักนิด
ส้งเสียงถอยหลัง ส่วนโหจื่อใกล้เข้ามา
โหจื่อรีบเดินแค่ไม่กี่ก้าว ก็มาตรงหน้าของส้งเสียง:“หนึ่งพัน!”
“หนึ่งพัน?”ส้งเสียงตะลึง
“ใช่ หนึ่งพัน หนึ่งฉาด”โหจื่อพูด
ส้งเสียงหัวเราะ:“นี่คือหนึ่งพัน เอาไป”
“ผมให้คุณต่างหากล่ะ”โหจื่อยิ้มใส่
“คุณให้ผม?”
ส้งเสียงยังไม่เข้าใจว่าหมายความเช่นไร โหจื่อก็ตบเขาหนึ่งฉาด
ฝ่ามือนี้ ทำเอาส้งเสียงลอยไปไกลหนึ่งเมตร
“หนึ่งพัน”
โหจื่อหัวเราะ เดินเข้าไป ลากส้งเสียงขึ้นมา ยื่นมือไปตบอีกฉาด
ครั้งนี้ส้งเสียงลอยไปไกลสองเมตร ตกลงไปที่พื้นทั้งตัว แรงจะอ้อนวอนยังไม่มี
แน่นอน โหจื่อก็ไม่ยอมคำอ้อนวอนของเขา
โหจื่อเดินเข้าไป หัวเราะใส่:“สองพันแล้ว”
“สามพัน!”
โหจื่อพูดจบ ก็ตบไปอีกฉาด ทำเอาทั้งตัวของส้งเสียง ฟุบสลบลงไป
พอเห็นส้งเสียงสลบ เสี่ยวสานนั้น ก็หันไปเตรียมจะหนี
แต่เขาวิ่งหนีไปได้ไม่ไกล จู่ๆก็ชนเข้ากับคนๆหนึ่ง
เสี่ยวสานเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นก็ตกใจล้มลงพื้น
คนๆนี้ นอกจากโหจื่อ ยังจะมีใครได้อีก?
“คุณเป็นคนหรือผีเนี่ย?”เสี่ยวสานมองโหจื่อ สีหน้าตกใจจนซีดขาว
เมื่อกี๊โหจื่ออยู่กับเขาไกลขนาดนั้น แต่แค่ช่วงเวลาหนึ่ง ทำไมโหจื่อก็มาตรงหน้าเขาแล้ว?
ไม่ใช่ผี แล้วความว่องไวของใคร จะเร็วได้ขนาดนี้?
โหจื่อหัวเราะ คุกเข่ามองเสี่ยวสาน:“คุณว่าผมคือคนหรือผีล่ะ?”
“ถูก ผมคือพนักงานตัวเล็กๆในผับ เงินเดือนเดือนหนึ่ง ก็ไม่เท่าไหร่”
โหจื่อพูด:“แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า พวกคุณจะทำอะไรผมได้”
โหจื่อพูดจบ ก็จับคอเสื้อของเสี่ยวสาน จากนั้นก็ตบออกไป
แรงต่อสู้ของเสี่ยวสาน บอบบางสุดๆ
แค่หนึ่งฉาด ก็สลบลงไปเลย
แน่นอน ที่เสี่ยวสานสลบไป มีสาเหตุมากมาย แต่เพราะตกใจกลัวมากกว่า
โหจื่อหัวเราะเหอะๆ:“สลบยัง?”
โหจื่อยื่นนิ้ว ไปที่ตัวของเสี่ยวสาน ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา
“ผมเพิ่งตบคุณไปฉาดเดียวเอง พวกเขาโดนไปตั้งหลายฉาดนะ”
โหจื่อเหยียดแขนออกอีกครั้ง เอาเสี่ยวสานไปตรงหน้าของส้งเสียง
โหจื่อจับผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงไว้ ฝ่ามือก็ไปตรงหน้าของส้งเสียง
ทั้งสามคน นอนกึ่งเป็นกึ่งตายด้วยกัน
โหจื่อจึบปรบมือ พูด:“โอเค ทั้งสามคน ทุกคนคนละสามฉาด ทั้งหมดเก้าพัน”
“พวกคุณรอที่นี่ อย่าขยับ ผมจะไปเอาเงินมาให้”
โหจื่อหันไป ตอนที่จะเข้าไปเอาเงินในผับ กลับเห็นหลี่ฝางเดินมาทางเขา
หลี่ฝางหัวเราะ มองโหจื่อพูดว่า:“ทำไมไม่ตบอีกสักหน่อยล่ะ?”
“ผมกลัวทำพวกเขาตาย”โหจื่อพูดอย่างซีเรียส
ที่จริง โหจื่อไม่กลัวทำพวกเขาตายสักนิด
คนอย่างส้งเสียงนี้ เมื่อก่อนโหจื่อไม่รู้ว่าทำตายมาเยอะแค่ไหนแล้ว
ก็แค่ โหจื่อกลัวว่าจะก่อปัญหาให้ผับ
“ให้ หนึ่งหมื่น คุณตบใส่ส้งเสียงผู้ชายคนนั้นอีกสักฉาดสิ”หลี่ฝางหยิบเงินก้อนหนึ่ง ยื่นให้โหจื่อ
โหจื่อรับมา ยิ้มให้:“ขอบคุณครับ เจ้านาย”
“ผมต้องขอบคุณต่างหากสิถึงจะถูก ผมรู้สึกไม่ถูกชะตากับผู้ชายคนนั้นนานแล้ว ขอบคุณที่คุณสั่งสอนพวกเขาแทนผมสิถึงจะถูก”หลี่ฝางพูด
โหจื่อหยิบเงินมา มาตรงหน้าพวกส้งเสียง
“ผมตบใส่พวกคุณทั้งหมดเก้าฉาด เก้าพันหยวน ในนี้คือหนึ่งหมื่น ไม่ต้องหาละ”พูดจบ หลังมือของโหจื่อก็ตบใส่ส้งเสียงไปฉาดหนึ่ง จนฟันเขาหลุดไปสองซี่
“ถือเงินไว้ดีๆ ผมไม่ติดอะไรพวกคุณแล้ว”โหจื่อพูด
พอเสี่ยวสานรับเงินไป
โหจื่อก็มาตรงหน้าของส้งเสียง:“คุณเพิ่งตบผมไปฉาดหนึ่ง ใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ว่าคุณยังกลับมาอีกเหรอ?”ส้งเสียงถามกลัวๆ
“ผมยังต้องกลับไป แต่ผมให้เงินคุณแล้วนะ!”โหจื่อพูด
จากนั้น โหจื่อก็หัวเราะเจ้าเล่ห์:“พวกเรามาคุยเรื่องชดใช้ดีกว่า”
“หน้าของพวกคุณ ไม่มีมูลค่า หนึ่งฉาดหนึ่งพัน ก็ถือว่าให้พวกคุณเยอะแล้ว ผมต่างกัน หน้าของผม มาส์กหน้าทุกวัน เข้าคลินิกความงาม ราคาสูงมาก คุณตบผมหนึ่งฉาด ไม่รู้ว่าผมต้องมาส์กหน้ามากแค่ไหนถึงจะเอาคืนกลับมาได้”
โหจื่อพูดยิ้มๆอย่างชั่วร้าย:“แล้วไง คุณคิดจะให้ผมชดใช้เท่าไหร่?”