NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 252

ตอนที่ 252

บทที่252 โหจื่อที่เลว

“ตบคุณแล้วทำไม?คุณก็ไม่ใช่แค่พนักงานเสิร์ฟร้านผับเก่าๆเหรอไง?”

ส้งเสียงชี้ไปที่ถังหยู่ซวนแล้วพูด:“เห็นไหม?นั่นคือเจ้านายคุณ พวกเราคือเพื่อนของเจ้านายคุณ”

สายตาของโหจื่อ จ้องไปที่ส้งเสียงเขม็ง

ส้งเสียงถูกสายตาแบบนี้จ้อง จึงร้อนตัวหน่อยๆ:“ให้คุณหนึ่งพัน”

“แค่นี้โอเคไหม?”ส้งเสียงพูด

ส้งเสียงคิดว่า โหจื่อก็แค่พนักงานเสิร์ฟร้านผับคนเล็กๆคนหนึ่ง เงินเดือนหนึ่งเดือนจะเท่าไหร่กันเชียว?

หนึ่งพันหยวน น่าจะงานอาทิตย์หนึ่งของเขาเลย

แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ตอนที่เขาจะเอาเงินให้โหจื่อ โหจื่อกลับไม่รับไว้

ตัวตนของโหจื่อ ธรรมดาอย่างนั้นที่ไหนกัน

วันนั้นที่สถานตากอากาศเขา เขายังเอาชนะเจ้าหัวแบนได้

แน่นอนว่า ฉากนั้น ส้งเสียงโจวเจ๋และคนอื่นๆ ต่างไม่เห็น

พวกเขาเพิ่งเข้าไปสถานตากอากาศ เพราะทำผิดต่อตู้เฟย จึงถูกหยูเถิงพี่ชายฝ่ายพ่อของตู้เฟย จับผิดไล่ออกไปจากสถานตากอากาศ

ดังนั้น ส้งเสียงจึงคิดว่า โหจื่อก็แค่พนักงานเสิร์ฟธรรมดาคนหนึ่ง

โหจื่อหัวเราะ มองส้งเสียง:“เจ้านาย งั้นพวกเราออกไปคุยหน่อยไหม?”

“โอเค ออกก็ออกสิ กลัวคุณที่ไหนล่ะ!”

ส้งเสียงยิ้มอย่างเหยียดหยาม ยืนขึ้นมา

ส้งเสียงส่งสายตาให้เสี่ยวสาน ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง ให้พวกเขาตามไปด้วย

โจวเจ๋ไม่ได้ตามไป โจวเจ๋ในเวลานี้ อารมณ์แย่มาก แย่จนรู้สึกอยากฆ่าคน

โจวเจ๋คิดไม่ถึง พ่อจะตอบรับให้เงินของเขาไป แล้วยังให้น้องชายของตัวเอง โจวหยาง

ส่วนตัวเอง เอาเงินให้ดาราไม่ได้ ก็ผิดสัญญา

เงินค่าปรับมหาศาล เขารับไม่ได้อยู่แล้ว นอกจาก ขายบริษัทของตัวเองทิ้งไป

แต่บริษัทมีเดียของเขา เป็นเลือดเนื้อของเขามาทั้งชีวิตเชียว!

เขาไม่ยอม ไม่ยอมให้ล้มละลายแบบนี้

พอตามโหจื่อออกมาจากผับ ส้งเสียงก็มีท่าทีข่มใส่:“คุณคิดอะไรกันแน่?ก็แค่ตบคุณหนึ่งฉาดไม่ใช่เหรอ?”

“ทำไม ไม่จบใช่ไหม?คุณเชื่อไหมอีกเดี๋ยวถังหยู่ซวนตื่นมา ผมจะให้เขาไล่คุณออก?”ส้งเสียงพูดขู่อย่างเยือกเย็น

“ผมว่านะเด็กอย่างคุณ ไม่รู้จักพอเลยนะ?คุณชายส้งให้คุณพันหยวน คุณยังจะไม่พอใจ สำหรับคนอย่างคุณนี้ เงินหนึ่งพัน คุณต้องทำงานหนึ่งอาทิตย์เชียว!”เสี่ยวสานพูด

โหจื่อแค่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม

“คุณรู้ไหมคนที่ครั้งที่แล้วตบหน้าผม ตอนนี้เป็นยังไง?”โหจื่อถาม

“เป็นยังไง?”ส้งเสียงถามตาม

“ผมว่า ตอนนี้เขาตายไปแล้ว”โหจื่อพูดเรียบๆ

“ห่า พนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่งในผับ มีอะไรให้โม้ขนาดนั้นเลย!”พอเสี่ยวสานได้ยิน ก็หมดคำพูดทันที

ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงก็ส่ายหน้าพูด:“ดวงชะตาที่จะตายของเขาสามฟุตกว่าแล้ว แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ หรือว่าคุณจะฆ่าเขาตาย?”

“หึหึ คิดไม่ถึงเลยนะ ว่าคุณจะเป็นฆาตกรน่ะ”

“เชื่อไม่เชื่อตอนนี้ผมจะโทรหาลุงตำรวจ ……”

คำพูดของผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงยังพูดไม่จบ จู่ๆโหจื่อก็ก้าวไปข้างหน้า ตบใส่หน้าผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงไปฉาดหนึ่ง พูดอย่างเยือกเย็น:“ผมไม่ได้ฆ่าเขา”

“เขาฆ่าตัวตาย”

โหจื่อแสยะยิ้ม หัวเราะราวกับปีศาจร้าย:“เพราะว่ายุ่งกับคนของผม มีชีวิตอยู่ก็จะสาหัสซะยิ่งกว่าตาย”

ฝ่ามือของโหจื่อนี้ แรงมาก

จนทำให้มุมปากของผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง เลือดไหลออกมา

“คุณ คุณกล้าตบผม?”ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงชี้ไปที่โหจื่อ พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เสียงตบดังขึ้นมา โหจื่อเดินขึ้นไป แล้วตบใส่ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงไปฉาดหนึ่งลงไปที่พื้น

“ทำไมผมจะไม่กล้า โลกนี้ ไม่มีเรื่องไหนบ้างที่ผมโหจื่อไม่กล้าทำ”โหจื่อยิ้มอย่างดูถูก

ฝ่ามือนี้ หนักมาก

ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงถูกฟุบลงไปที่พื้น นานกว่าจะเงยหน้าขึ้นมาได้

ฝ่ามือนี้ เพิ่งทำเขาฟุบสลบลงไป จนเวลานี้ ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงยังรู้สึกว่าศีรษะของตัวเอง มึนหน่อยๆ

หลังจากเห็นผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงออกโรง ส้งเสียงกับเสี่ยวสาน จู่ๆก็ตกใจกลัว

“คุณ คุณอย่าเข้ามา”

ส้งเสียงมองโหจื่อด้วยใบหน้าหวาดกลัว:“ผมผิดไปแล้ว พี่ใหญ่ ผมให้เงินคุณ หนึ่งหมื่น หนึ่งหมื่นพอไหม?”

โหจื่อเดินไปที่ส้งเสียงต่อ มุมปากของเขา มีรอยยิ้มนิ่งๆ

“สามหมื่น ห้าหมื่น หนึ่งแสน!”

จากระยะห่างทั้งสองที่ใกล้เข้ามา ส้งเสียงเริ่มเพิ่มราคา แต่ฝีเท้าของโหจื่อ ไม่หยุดเลยสักนิด

ส้งเสียงถอยหลัง ส่วนโหจื่อใกล้เข้ามา

โหจื่อรีบเดินแค่ไม่กี่ก้าว ก็มาตรงหน้าของส้งเสียง:“หนึ่งพัน!”

“หนึ่งพัน?”ส้งเสียงตะลึง

“ใช่ หนึ่งพัน หนึ่งฉาด”โหจื่อพูด

ส้งเสียงหัวเราะ:“นี่คือหนึ่งพัน เอาไป”

“ผมให้คุณต่างหากล่ะ”โหจื่อยิ้มใส่

“คุณให้ผม?”

ส้งเสียงยังไม่เข้าใจว่าหมายความเช่นไร โหจื่อก็ตบเขาหนึ่งฉาด

ฝ่ามือนี้ ทำเอาส้งเสียงลอยไปไกลหนึ่งเมตร

“หนึ่งพัน”

โหจื่อหัวเราะ เดินเข้าไป ลากส้งเสียงขึ้นมา ยื่นมือไปตบอีกฉาด

ครั้งนี้ส้งเสียงลอยไปไกลสองเมตร ตกลงไปที่พื้นทั้งตัว แรงจะอ้อนวอนยังไม่มี

แน่นอน โหจื่อก็ไม่ยอมคำอ้อนวอนของเขา

โหจื่อเดินเข้าไป หัวเราะใส่:“สองพันแล้ว”

“สามพัน!”

โหจื่อพูดจบ ก็ตบไปอีกฉาด ทำเอาทั้งตัวของส้งเสียง ฟุบสลบลงไป

พอเห็นส้งเสียงสลบ เสี่ยวสานนั้น ก็หันไปเตรียมจะหนี

แต่เขาวิ่งหนีไปได้ไม่ไกล จู่ๆก็ชนเข้ากับคนๆหนึ่ง

เสี่ยวสานเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นก็ตกใจล้มลงพื้น

คนๆนี้ นอกจากโหจื่อ ยังจะมีใครได้อีก?

“คุณเป็นคนหรือผีเนี่ย?”เสี่ยวสานมองโหจื่อ สีหน้าตกใจจนซีดขาว

เมื่อกี๊โหจื่ออยู่กับเขาไกลขนาดนั้น แต่แค่ช่วงเวลาหนึ่ง ทำไมโหจื่อก็มาตรงหน้าเขาแล้ว?

ไม่ใช่ผี แล้วความว่องไวของใคร จะเร็วได้ขนาดนี้?

โหจื่อหัวเราะ คุกเข่ามองเสี่ยวสาน:“คุณว่าผมคือคนหรือผีล่ะ?”

“ถูก ผมคือพนักงานตัวเล็กๆในผับ เงินเดือนเดือนหนึ่ง ก็ไม่เท่าไหร่”

โหจื่อพูด:“แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า พวกคุณจะทำอะไรผมได้”

โหจื่อพูดจบ ก็จับคอเสื้อของเสี่ยวสาน จากนั้นก็ตบออกไป

แรงต่อสู้ของเสี่ยวสาน บอบบางสุดๆ

แค่หนึ่งฉาด ก็สลบลงไปเลย

แน่นอน ที่เสี่ยวสานสลบไป มีสาเหตุมากมาย แต่เพราะตกใจกลัวมากกว่า

โหจื่อหัวเราะเหอะๆ:“สลบยัง?”

โหจื่อยื่นนิ้ว ไปที่ตัวของเสี่ยวสาน ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา

“ผมเพิ่งตบคุณไปฉาดเดียวเอง พวกเขาโดนไปตั้งหลายฉาดนะ”

โหจื่อเหยียดแขนออกอีกครั้ง เอาเสี่ยวสานไปตรงหน้าของส้งเสียง

โหจื่อจับผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงไว้ ฝ่ามือก็ไปตรงหน้าของส้งเสียง

ทั้งสามคน นอนกึ่งเป็นกึ่งตายด้วยกัน

โหจื่อจึบปรบมือ พูด:“โอเค ทั้งสามคน ทุกคนคนละสามฉาด ทั้งหมดเก้าพัน”

“พวกคุณรอที่นี่ อย่าขยับ ผมจะไปเอาเงินมาให้”

โหจื่อหันไป ตอนที่จะเข้าไปเอาเงินในผับ กลับเห็นหลี่ฝางเดินมาทางเขา

หลี่ฝางหัวเราะ มองโหจื่อพูดว่า:“ทำไมไม่ตบอีกสักหน่อยล่ะ?”

“ผมกลัวทำพวกเขาตาย”โหจื่อพูดอย่างซีเรียส

ที่จริง โหจื่อไม่กลัวทำพวกเขาตายสักนิด

คนอย่างส้งเสียงนี้ เมื่อก่อนโหจื่อไม่รู้ว่าทำตายมาเยอะแค่ไหนแล้ว

ก็แค่ โหจื่อกลัวว่าจะก่อปัญหาให้ผับ

“ให้ หนึ่งหมื่น คุณตบใส่ส้งเสียงผู้ชายคนนั้นอีกสักฉาดสิ”หลี่ฝางหยิบเงินก้อนหนึ่ง ยื่นให้โหจื่อ

โหจื่อรับมา ยิ้มให้:“ขอบคุณครับ เจ้านาย”

“ผมต้องขอบคุณต่างหากสิถึงจะถูก ผมรู้สึกไม่ถูกชะตากับผู้ชายคนนั้นนานแล้ว ขอบคุณที่คุณสั่งสอนพวกเขาแทนผมสิถึงจะถูก”หลี่ฝางพูด

โหจื่อหยิบเงินมา มาตรงหน้าพวกส้งเสียง

“ผมตบใส่พวกคุณทั้งหมดเก้าฉาด เก้าพันหยวน ในนี้คือหนึ่งหมื่น ไม่ต้องหาละ”พูดจบ หลังมือของโหจื่อก็ตบใส่ส้งเสียงไปฉาดหนึ่ง จนฟันเขาหลุดไปสองซี่

“ถือเงินไว้ดีๆ ผมไม่ติดอะไรพวกคุณแล้ว”โหจื่อพูด

พอเสี่ยวสานรับเงินไป

โหจื่อก็มาตรงหน้าของส้งเสียง:“คุณเพิ่งตบผมไปฉาดหนึ่ง ใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ว่าคุณยังกลับมาอีกเหรอ?”ส้งเสียงถามกลัวๆ

“ผมยังต้องกลับไป แต่ผมให้เงินคุณแล้วนะ!”โหจื่อพูด

จากนั้น โหจื่อก็หัวเราะเจ้าเล่ห์:“พวกเรามาคุยเรื่องชดใช้ดีกว่า”

“หน้าของพวกคุณ ไม่มีมูลค่า หนึ่งฉาดหนึ่งพัน ก็ถือว่าให้พวกคุณเยอะแล้ว ผมต่างกัน หน้าของผม มาส์กหน้าทุกวัน เข้าคลินิกความงาม ราคาสูงมาก คุณตบผมหนึ่งฉาด ไม่รู้ว่าผมต้องมาส์กหน้ามากแค่ไหนถึงจะเอาคืนกลับมาได้”

โหจื่อพูดยิ้มๆอย่างชั่วร้าย:“แล้วไง คุณคิดจะให้ผมชดใช้เท่าไหร่?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท