NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 256

ตอนที่ 256

บทที่256 เอาเงินมาทุบใส่หน้าส้งเสียง

“ล้อเล่นอะไร!”

ส้งเสียงมองหลี่ฝาง พูดเสียงฮึดฮัดใส่:“ถ้าคุณคือหลานชายของหลี่เจียเฉินคุณท่านหลี่ งั้นผมก็คือลูกชายของบิล เกตส์!”

หลี่ฝางส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่อ

สำหรับคนที่ไม่เชื่อตัวเอง ไม่ว่าตัวเองพูดอะไรไป เขาก็ไม่เชื่อ

มองเพื่อนของตัวเองถูกคนทำร้ายไปที่พื้น ในใจของหลี่ฝาง โมโหสุดๆ

ถังหยู่ซวนสมควรโดนทุบตี แต่ต้องเป็นหลี่ฝางทำ ส้งเสียงทำไม่ได้

หลี่ฝางเดินเข้าไป ดึงถังหยู่ซวนขึ้นมา:“ทำไมไม่สู้กลับ?”

ถังหยู่ซวนหัวเราะ พูดอย่างดูถูกตัวเอง:“พวกเขาทำผมสมควรแล้ว”

“ผมหลอกพวกเขา แล้วยังใช้เล่ห์เหลี่ยมใส่”

เวลานี้ ขาของส้งเสียงอดไม่ไหวยกขึ้นมา เตะไปที่ท้องของถังหยู่ซวน

“ไอ้ระยำ หลอกพวกเรามาตั้งนาน!”

“ทำให้พวกเราเสียเวลากับพลังงานไปตั้งมากมายไปที่คุณหมด สุดท้ายตอนนี้คุณมาบอกพวกเราว่า คุณไม่ใช่หลานชายของหลี่เจียเฉิน!”

“แม่เอ๊ย ผมเอาไอ้ลูกหมาอย่างคุณตายแน่”

ส้งเสียงยิ่งคิดยิ่งโกรธ

หลายวันนี้ เขาถือถังหยู่ซวนเป็นเหมือนบรรพบุรุษของตัวเอง วันๆเอาแต่เลียแข้งเลียขา ……

สุดท้าย ถังหยู่ซวนก็ไม่ใช่หลานชายอะไรของหลี่เจียเฉิน เป็นแค่คนจนๆคนหนึ่ง

ปอร์เช่918 ก็ไม่ใช่ของเขา

สุดท้ายเป็นแบบนี้ ส้งเสียงก็รับไม่ไหว……

ส้งเสียงโกรธมาก

ไม่ใช่แค่ส้งเสียง เสี่ยวสานกับผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง ต่างก็โกรธสุดๆ

หลายวันนี้ เห็นถังหยู่ซวนเป็นหลานชายมาตั้งนาน ในท้ายที่สุด แลกมากับคำพูดของถังหยู่ซวนว่า:ที่จริงผมไม่ใช่หลานชายของหลี่เจียเฉิน!

ห่าเอ๊ย ทำไมคุณไม่บอกให้ไวๆ??

ส้งเสียงพุ่งเข้าไป จะลงมืออีกครั้ง แต่ถูกหลี่ฝางห้ามไว้:“ไม่จบใช่ไหม?”

“หลี่ฝาง แม่เอ๊ยถอยไปเดี๋ยวนี้”ส้งเสียงพูดอย่างเย็นชา

“ถ้าผมไม่ถอยล่ะ”หลี่ฝางถาม

“ถ้าคุณไม่ถอย พวกเราก็จะลงมือคุณด้วย”ส้งเสียงพูดด้วยเสียงเยือกเย็น

ด้านหลังของส้งเสียง คือเสี่ยวสานกับผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง

“คุณไม่ใช่พิธีกรนั่นเหรอ?ผมแนะนำให้คุณไสหัวไปไกลๆ อย่ายุ่งกับเรื่องของพวกเรามากนัก”

“ใช่ ไอ้นี่หลอกพวกเรามาตั้งนาน หลอกพวกเราไปกินไปดื่มทุกวัน พวกเราตีเขาสักดอกก็ถือว่าน้อยไปแล้ว”

“พวกเราไม่ฟ้องว่าเขาฉ้อโกง ก็ดีมากแล้ว”

พอหลี่ฝางได้ยิน ก็หัวเราะออกมา:“ถังหยู่ซวนเคยบอกพวกคุณไปเหรอ ว่าเขาคือหลานชายของคุณท่านหลี่?”

“เขาไม่เคยยอมรับกับปากนี่?แค่พวกคุณเดากันเอง”

“ยังจะฉ้อโกงอีกเหรอ?ถังหยู่ซวนฉ้อโกงอะไรพวกคุณ?”

“พวกคุณสามคน ที่บ้านมีธุรกิจกันทั้งนั้น ไม่ไปบริหารธุรกิจตามที่บ้านดีๆกันเหรอไง เรียนรู้การจัดการ แต่กลับเอาแต่ตามตูดถังหยู่ซวน เลียแข้งเลียขาเขาทุกวัน”

“พวกคุณคิดว่า คุณชายเศรษฐีที่แท้แท้จริง โง่ขนาดนี้เหรอ?กินดื่มเที่ยวเล่นกับพวกคุณไม่กี่วัน ก็จะช่วยคุณ?ทำข้อตกลงกับตระกูลพวกคุณ?”

หลี่ฝางส่ายหน้ายิ้มอย่างดูถูก

“พวกเราทำอะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย พวกเราเลียแข้งเลียขาหลานชายคุณท่านหลี่แล้วจะทำไม?คุณรู้ไหมที่เมืองเอกมีลูกคนรวยมากมายแค่ไหนที่อยากเลียแข้งเลียขาหลานชายคุณท่านหลี่น่ะ?”

“พวกเราทำธุรกิจ ก็ต้องพึ่งพาคอนเนคชั่น ถ้าพวกเราเป็นมิตรที่ดีต่อหลานชายของคุณท่านหลี่ได้จริง ก็ถือว่ามีประโยชน์มากๆกับธุรกิจของพวกเรา”

เสี่ยวสานพูดไป ก็ถอนหายใจ:“แค่เสียดายที่ถังหยู่ซวนไม่ใช่หลานชายของคุณท่านหลี่ พวกเราถูกหลอก!”

พูดถึงตรงนี้ เสี่ยวสานก็มองถังหยู่ซวนด้วยความโกรธสุดๆ:“ไอ้สารเลวนี่ ดูสิว่าผมจะไม่เอาคุณตายเลยเหรอ”

เสี่ยวสานกำหมัด พุ่งเข้าไป

หมัดของเสี่ยวสานยังไม่ทันต่อยไปที่ถังหยู่ซวน ก็ถูกหลี่ฝางยกเท้าขึ้น เตะล้มลงพื้น

“คุณแค่พิธีกรตัวเล็กๆ กล้าทำผม?”เสี่ยวสานล้มลงที่พื้น มองหลี่ฝางอย่างโกรธจัด

ส้งเสียงมองหลี่ฝาง ขมวดคิ้ว:“พวกเราสามคนลุยด้วยกัน!”

พูดจบ หลี่ฝางก็ลงมือ

หลี่ฝางไม่ใช่คนโง่ เขาจะปล่อยให้พวกส้งเสียงมีโอกาสรวมกำลังได้ไง?

หลี่ฝางกำหมัด ต่อยไปที่หน้าส้งเสียง

ที่หน้าของส้งเสียง มีรอยอยู่แล้ว บวกกับหมัดนี้ของหลี่ฝางไป ส้งเสียงก็เจ็บจนร้องออกมา

และผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงคนนี้ ก็ไม่กล้าลงมือ

ยังไง เขาก็เห็นโหจื่อพูดคุยหัวเราะกับหลี่ฝาง

เขารู้ว่า หลี่ฝางรู้จักกับโหจื่อ

เขาไม่กลัวหลี่ฝาง แต่กลัวโหจื่อ!

หลี่ฝางมองผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง แล้วหัวเราะ:“พวกคุณไม่ใช่แค่รู้สึกขาดทุนเหรอ?”

“พวกคุณสองสามวันนี้ จ่ายไปให้ถังหยู่ซวนเท่าไหร่?”หลี่ฝางมองสามคนนี้ แล้วถาม

“ผมให้พวกคุณ”หลี่ฝางพูด

ได้ยินคำนี้ ส้งเสียงก็รู้สึกน่าขัน

“หลี่ฝาง อย่ามาหน้าใหญ่ใจโตหน่อยเลย เฉียวเฉียวบอกผมนานแล้ว เงินนั้นที่คุณขายที่ได้ ใช้หมดไปแล้ว”

“คุณจะเอาเงินไหนมาชดใช้เรา?”ส้งเสียงถามอย่างเย็นชา

เสี่ยวสานก็มองหลี่ฝางอย่างดูถูกสุดๆ:“คุณก็แค่พิธีกรในเน็ตตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่พูดไม่น่าฟัง พิธีกรในเน็ตคนนี้ ไม่ใช่ขอทานในเน็ตหรอกเหรอ ?”

“พวกเราหลายวันนี้ หมดไปที่ส้งเสียงทั้งหมดหลายแสน!”

“ไม่ใช่ว่าคุณจะให้พวกเราเหรอ?มาสิ ให้มา!”เสี่ยวสานพูดอย่างเยือกเย็น

“ไม่กี่แสนใช่ไหม?ไม่กี่แสนก็ทำร้ายคนได้เหรอ?”

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์มา โทรหาลุงเฉียน

ไม่นานนัก ในผับก็มีพนักงานเสิร์ฟสี่ห้าคนออกมา คนนำหน้า ก็คือโหจื่อ

ในมือของโหจื่อ ถือกระเป๋าใบหนึ่งไว้

โหจื่อมาตรงหน้าหลี่ฝาง เอากระเป๋าส่งให้หลี่ฝาง พูดว่า:“เจ้านาย นี่คือเงินสดหนึ่งล้านที่คุณต้องการ”

หลี่ฝางพยักหน้า รับเงินไป

“เจ้านาย?”

เห็นฉากนี้ สมองของส้งเสียง รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า

“หลี่ฝาง คุณคือหลานชายของคุณท่านหลี่จริงๆเหรอ?”ส้งเสียงมองหลี่ฝางอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วถามไป

หลี่ฝางหัวเราะ พูดว่า:“เมื่อกี๊ผมบอกคุณไปแล้วไง ทำไม ตอนนี้เชื่อแล้ว?”

หลี่ฝางหยิบเงินสดมาปึกหนึ่งจากกระเป๋า ยัดใส่มือ

“ส้งเสียง วันนี้พวกเราเจอหน้ากันพอดี คุณไม่ได้บอกเหรอว่า ให้ผมเต้นรำทำเพลง แสดงความสามารถให้คุณดูน่ะ?”

“แล้วคุณจะให้เงินผมด้วย ใช่ไหม?”หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชา

“ล้อเล่น ล้อเล่น ผมกำลังล้อคุณเล่นน่ะ คุณเป็นถึงหลานชายของคุณท่านหลี่ ผมจะกล้าให้คุณแสดงความสามารถให้ผมได้ไง”

“ผมแสดงให้คุณก็พอๆกัน”ส้งเสียงยิ้มอย่างอึดอัดและหวาดกลัว

เวลานี้ อารมณ์ของส้งเสียงเหมือนกับกินขี้มา รู้สึกแย่สุดๆ

เขาดูถูกหลี่ฝางมาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหลานชายของคุณท่านหลี่

หลี่ฝางเอาเงินหนาๆ ทุบใส่หัวส้งเสียง

ทีละปึก ทีละปึก ไปที่หัวของส้งเสียงแล้วทุบใส่ไป

ส้งเสียงก็ใช้มือบังอย่างตระหนักได้

หลี่ฝางโมโหแล้ว มองส้งเสียงด้วยความโกรธ:“แม่เอ๊ยคุณยังจะกล้าหลบนะ!”

หลี่ฝางเดินเข้าไป เตะไปที่ขาของส้งเสียง จนล้มลงพื้น แต่ส้งเสียง กลับไม่ตอบโต้ใดๆสักนิด

เพราะว่าหลี่ฝางคือหลานชายของหลี่เจียเฉิน เขายุ่งด้วยไม่ได้

ถึงหลี่ฝางถอดกางเกงฉี่รดหัวเขา เขาก็ต้องทน

เวลานี้ ส้งเสียงก็คิดได้ เข้าใจว่าทำไมตู้ต้าไห่ถึงล้มละลาย ทำไมตู้เฟยถึงแพ้ให้หลี่ฝางครั้งแล้วครั้งเล่า

ตอนนั้นส้งเสียงยังรู้สึกแปลกใจ ตู้เฟยเป็นถึงลูกเศรษฐี ทำไมถึงแพ้ให้คนจนๆธรรมดาๆอย่างหลี่ฝาง

ต่อมาส้งเสียงก็คิดว่าเป็นถังหยู่ซวนที่ช่วยหลี่ฝางอยู่ลับหลัง

จนเวลานี้ส้งเสียงก็เข้าใจว่า ที่แท้หลี่ฝาง……ต่างหากที่เป็นผู้ชายที่ยุ่งด้วยไม่ได้ที่แท้จริง

เงินทีละปึกๆ ตบไปที่หน้าของส้งเสียง เสี่ยวสานและผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง

น่าจะตบไปประมาณห้าแสน หลี่ฝางหัวเราะ:“ตอนนี้ ถังหยู่ซวนไม่ติดอะไรพวกคุณแล้วใช่ไหม?”

“ไม่ติดแล้ว ไม่ติดแล้ว”ส้งเสียงและคนอื่นๆรีบพยักหน้า

ตอนนี้มีหลี่ฝางออกหน้าให้ถังหยู่ซวน พวกเขาใครยังกล้าสร้างความลำบากให้ถังหยู่ซวนอีกล่ะ

“ส้งเสียง คุณไม่ได้บอกเหรอว่าคุณมีความสามารถในการแสดงน่ะ?”

หลี่ฝางไปตรงหน้าส้งเสียง จับคอเสื้อส้งเสียง พูด:“ไป ผมจะพาคุณไปผับ ให้คุณแสดงความสามารถของคุณซะหน่อย!”

ส้งเสียงส่ายหัวอย่างแรง พูด:“หลี่ฝาง ผมผิดไปแล้ว คุณปล่อยผมไปเถอะ”

“ปล่อยคุณ?”

หลี่ฝางส่ายหน้า:“นั่นไม่ได้ ผมต้องดูความสามารถในการแสดงของคุณ”

“อีกเดี๋ยว คุณไปเต้นรูดเสากลางฟลอร์ไป!”

หลี่ฝางลากส้งเสียงไป พอถึงหน้าผับ กลับชนกลับหลิวเฉียวเฉียวที่วิ่งออกมา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท