NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 253

ตอนที่ 253

บทที่253 ตบหนึ่งฉาด สิบล้าน

มองใบหน้าของโหจื่อนี้ ส้งเสียงก็หมดคำพูด

รอยสิวเต็มหน้า หลุมสิวขรุขระ แห้งจนผิวใกล้จะลอก นี่คือหน้าที่มาส์กเหรอ?

อีกอย่าง คุณเป็นผู้ชายตัวโต มาส์กหน้าทุกวันเนี่ยนะ?

อยากจะแบล็กเมล์ ก็พูดมาตรงๆเลย

ส้งเสียงมองโหจื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว:“คุณ……คุณอยากได้เท่าไหร่?”

ส้งเสียงรู้สึกต่อโหจื่อ มีความหวาดกลัวจากในกระดูกดำ

ฝ่ามือของโหจื่อ แรงมาก

ฝ่ามือนี้ ตบจนลอยได้!

ส้งเสียงสงสัยหน่อยๆ แม่เอ๊ยนี่มือคนหรือเปล่า?

โหจื่อหัวเราะ พูดว่า:“ผมเหรอ ผมก็ไม่เอากับคุณเท่าไหร่หรอก”

“ครั้งแรกสุดคุณพูดเท่าไหร่?”โหจื่อถาม

“หนึ่งพัน……?”ส้งเสียงลังเลเล็กน้อยแล้วตอบ เขารู้ หนึ่งพันน้อยจริงๆ

“พี่ใหญ่ งั้นคุณเพิ่มอีกไหม”ส้งเสียงถามอย่างระวัง

โหจื่อพยักหน้านิ่งๆ:“เพิ่มอีกหมื่น”

“อะไร?สิบล้าน?”ส้งเสียงดีใจจนเกือบจะกระโดดออกมา

น่าเสียดายที่ทั้งตัวเขาเจ็บไปหมด ดังนั้นจึงไม่ได้กระโดดขึ้นมา

ตบคุณหนึ่งฉาด คุณต้องการสิบล้าน ถึงจะเป็นต้มตุ๋น ก็ไม่ร้ายแรงขนาดนั้น!

ส้งเสียงขมวดคิ้ว มองโหจื่อ:“พี่ใหญ่ คุณล้อเล่นอะไร?”

“คุณคิดว่าผมกำลังล้อเล่น?”โหจื่อถามด้วยใบหน้าจริงจัง

“หรือว่าไม่ใช่?ตบคุณหนึ่งฉาด ก็ต้องให้คุณสิบล้าน ตระ……ตระกูลส้งของพวกเรา ไม่มีเงินมากขนาดนั้น”ส้งเสียงพูดไม่ออก

แค่ล้านเดียว ส้งเสียงก็รับไม่ได้

หนึ่งล้าน ซื้อรถหรูได้หนึ่งคัน

สิบล้าน ก็สามารถซื้อวิลล่าที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมได้แล้ว

แค่หนึ่งฉาด แลกกับวิลล่าหนึ่งหลัง?

โหจื่อยื่นมืออกไป ตบใส่หน้าของส้งเสียง

เวลานี้ ทำเอาส้งเสียงตกใจสุดๆ ตกใจจนหน้าขาวซีด

ใครจะไปคิดว่า โหจื่อกลับตบเบาๆไม่กี่ที พูดว่า:“คุณชายส้ง อย่ามาทำเป็นร้องไห้เหมือนคนจนกับผมเลย?คุณท่านคุณส้งกงหมิงคนรวยอันดับหนึ่งของตงไห่ เงินสดในมือเขา มากกว่าสิบล้าน”

“ถ้าคุณไม่รับปาก……”

โหจื่อยืนขึ้นมา เดินไปตรงหน้าหลี่ฝาง:“เจ้านาย เอาเงินมาให้ผมอีกหน่อยสิ”

ในมือของหลี่ฝาง ยังถือเงินอีกก้อนหนึ่ง:“เอาเท่าไหร่?พวกนี้พอไหม?ถ้าไม่พอ ผมจะไปเอาที่ผับให้คุณ”

“พอแล้ว”

โหจื่อชั่งน้ำหนักด้วยมือ น่าจะประมาณหนึ่งหมื่นหยวน

“คุณชายส้ง เงินนี่คุณเอาไปก่อน”โหจื่อเอาเงินหนึ่งหมื่นวางใส่มือของส้งเสียง

ส้งเสียงก็ตะลึงทันที:“พี่ใหญ่ หมายความว่าไง?”

ไม่ใช่จะเอาเงินกับผมเหรอ?

ทำไมกลายเป็นให้ผมล่ะ?

ส้งเสียงตะลึงโดยสิ้นเชิง

โหจื่อหัวเราะ ยื่นมือออกไป แล้วตบส้งเสียงลอยออกไป

เงินในมือของส้งเสียง ทันใดนั้นก็ตกอยู่กลางอากาศ ปลิวลง

ส้งเสียงถูกตบหนึ่งฉาด รู้สึกเหมือนถูกภูเขาลูกใหญ่ชนเข้า เจ็บมาก

หน้าของส้งเสียงตอนนี้ บวมเหมือนหัวหมาแล้ว

“คุณชายส้ง ที่ผมเพิ่งให้คุณไปหนึ่งหมื่น ฝ่ามือฉาดนี้ ถือว่าหนึ่งพัน”

โหจื่อยิ้มอย่างชั่วร้าย พูด:“ยังมีอีกเก้าพัน ก็คือเก้าฉาด”

พูดจบ สีหน้าของโหจื่อหม่นลง แล้วตบไป

พอจะตบครั้งที่สาม ในที่สุดส้งเสียงก็ทนไม่ไหว เขาแทบจะคุกเข่าลงพื้น

“อย่า……อย่า……ตีเลย สิบล้าน ผมให้ ผมให้เอาไหม?”ส้งเสียงรู้สึกว่า ถ้าตบต่อไป ตัวจะต้องตายแน่

จะตบอีกไม่ได้แล้ว!

“ทำไมคุณไม่รีบรับปากล่ะ รีบรับปากสิ คุณจะได้ไม่ต้องลำบาก ผมก็จะได้ประหยัดไปสามพันด้วย”โหจื่อส่ายหน้า พูดด้วยใบหน้าไม่ยินดีนัก

“ในเมื่อคุณรับปากแล้ว งั้นผมก็ไม่ตบแล้ว”

“แต่เงินที่เหลือเจ็ดพัน คุณต้องคืนผม”หลี่ฝางพูดอย่างมีเหตุผล

“รีบเก็บเงินให้ผม”

โหจื่อหัวเราะอย่างเยือกเย็น

ส้งเสียง เสี่ยวสาน ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง ทั้งสามคนนี้ เริ่มเหมือนหมา คลานลงพื้นเก็บเงิน

หลี่ฝางยื่นบุหรี่ให้โหจื่อ พูดอย่างชื่นชมสุดๆ:“ดีมาก”

“ปฏิบัติกับลูกผู้ดีมีเงินพวกนี้ ควรจะปฏิบัติดีๆ”หลี่ฝางพูดด้วยใบหน้าชื่นชม

โหจื่อหัวเราะเจ้าเล่ห์ พูดว่า:“เจ้านาย คุณกำลังชมผมเหรอ?”

“ใช่ไง”หลี่ฝางพยักหน้า

“ผมคิดว่าคุณจะว่าผมซะอีก”โหจื่อพูด

“ทำไมผมต้องว่าคุณด้วย?”

“พวกเขาคือลูกค้าประจำของผับเรา ทุกคืนหมดไปเป็นหมื่นขึ้น ตบพวกเขาไปแล้ว ต่อไปพวกเขาน่าจะไม่มาแล้ว”โหจื่อพูด

หลี่ฝางยิ้มอย่างไม่แคร์:“โหจื่อ คุณคิดว่าผมไม่มีเงินจ่ายหรือเปล่า?”

“คุณมีเงินจ่าย”

“งั้นคุณคิดว่าผับของพวกเรา ขาดลูกค้าอย่างพวกเขาไหม?”หลี่ฝางถามต่อ

“นั่นยิ่งไม่ขาด ผับของพวกเราคนแน่นทุกวัน ถ้าไม่ใช่ถังหยู่ซวน พวกเขาก็จองโต๊ะไม่ได้เลย”โหจื่อพูด

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“งั้นตบพวกเขาแล้ว สำหรับผม มีอะไรให้เสีย?”

“เขาไม่มาอุดหนุน ก็ต้องมีคนอื่นที่มาอุดหนุนเหมือนกัน”

เงียบไป หลี่ฝางพูดต่อว่า:“มากไปกว่านั้น คุณเพิ่งแบล็กเมล์ส้งเสียงไปสิบล้านนะ”

“ผมไม่สนนี่ โหจื่อ ผมเพิ่งเสนอเงินต้นให้คุณไป ดังนั้น รอสิบล้านนี้ถึงมือ คุณต้องแบ่งกับผมห้าล้าน”หลี่ฝางพูด

สีหน้าของโหจื่อหม่นหมองลง:“เจ้านาย ผมว่าหัวใจของคุณ ทำไมถึงได้ดำซะยิ่งกว่าลูกพี่นะ?”

“นี่คุณให้ผมมาสองหมื่น แต่อยากเอาจากมือผมไปห้าล้าน ……”

เวลานี้ ส้งเสียงและคนอื่นๆ ก็เอาเงินเก็บขึ้นมา มายื่นให้โหจื่อ

โหจื่อนับดู ขมวดคิ้ว:“ห่าอะไรเนี่ย ทำไมหนึ่งหมื่นต้องให้คุณไปหมดด้วย?”

“ผมเป็นคนตบตีใครแล้วชอบเล่นลูกไม้อย่างหน้าด้านๆเหรอไง?”โหจื่อนับมาสามพันหยวน ยื่นให้ส้งเสียง:“รับไว้ นี่คือค่าชดใช้ที่ผมตบคุณไปสามฉาด”

ส้งเสียงหมดคำพูด ไม่รู้ว่าตัวเองควรรับหรือไม่

“ดูถูกผมเหรอ?”สีหน้าของโหจื่อเยือกเย็นทันที

เวลานี้ ส้งเสียงรับเงินเข้ามาจากมือของโหจื่อ

“ไปเถอะ กลับไปผับกับผม ไปเขียนสัญญาชำระหนี้”โหจื่อพูดกับส้งเสียง

ส้งเสียงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กลับไปที่ผับกับโหจื่ออย่างเชื่อฟัง

หน้าเคาน์เตอร์ ส้งเสียงเขียนสัญญาชำระหนี้จำนวนสิบล้านให้โหจื่ออย่างตรงไปตรงมา โหจื่อรับสัญญาชำระหนี้มา แล้วยิ้มอย่างภูมิใจ

ลุงเฉียนมองโหจื่อ ได้แต่หัวเราะออกมา:“แบล็กเมล์เขาอีกแล้ว?”

“เหล่าเฉียน คุณพูดไร้สาระอะไรน่ะ นี่ผมแบล็กเมล์เหรอ?”

“ไอ้เด็กสกลุส้งนั่น ตบผมหนึ่งฉาด ผมเอาจากเขาสิบล้าน เยอะไหม?”โหจื่อกลอกตาใส่เหล่าเฉียน ถามออกไป

“ไม่เยอะ”

ลุงเฉียนหัวเราะ พูดว่า:“ดูเหมือนนิสัยของคุณ จะดีเยอะกว่าเมื่อก่อนนะ”

หลี่ฝางได้ยินคำพูดลุงเฉียน ก็ตะลึงทันที

ฟังคำหมายของคำนี้ก็คือ นี่คือโหจื่อใจดีแล้ว?

“ไม่งั้นเหรอ นี่ผมยับยั้งไปเยอะมากแล้ว ……ไม่อย่างนั้น ผมจะปล่อยไปง่ายๆแบบนี้?”โหจื่อแสยะยิ้ม จากนั้นก็ไปทำงาน

หลี่ฝางใช้มือตบโต๊ะ มองลุงเฉียน ถามว่า:“ลุงเฉียน โหจื่อคงไม่คิดจะเอาสิบล้านจากตระกูลส้งจริงๆหรอกนะ?”

“แน่นอน”

ลุงเฉียนพยักหน้า:“ไม่เห็นเหรอเขียนสัญญาชำระหนี้ไปแล้ว”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเชื่อนัก ส้งเสียงแค่ตบใส่โหจื่อหนึ่งฉาด โหจื่อต้องการให้เขาชดใช้สิบล้าน

“ตระกูลส้งจะให้ไหม?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“วางใจเถอะ จะต้องให้”ลุงเฉียนยิ้ม พูดอย่างแน่นอน:“อีกอย่าง ส้งกงหมิงผู้ชายคนนั้น ให้เงินอย่างเชื่อฟังก็ดี ถ้าไม่ให้ แล้วทำให้โหจื่อหงุดหงิด ……เห้อ”

ลุงเฉียนได้แต่ถอนหายใจยาวๆ ไม่พูดต่อ

หลี่ฝางเริ่มสงสัยเล็กน้อยแล้ว โหจื่อเป็นใครกันแน่ ทำไมเผด็จการขนาดนี้!

เวลานี้ ส้งเสียงและคนอื่นๆ ก็กลับไปที่ที่นั่งของตัวเอง

โจวเจ๋เห็นหน้าของส้งเสียงและคนอื่น เหมือนกับหัวหมู ก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไป จากนั้น เขาก็ขำออกมา

สำหรับส้งเสียงและคนอื่นนั้น โจวเจ๋รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว ก็แค่คบกันเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น

“แม่เอ๊ยหัวเราะอะไรเนี่ย?”ส้งเสียงมองโจวเจ๋ พูดอย่างโกรธๆเล็กน้อย:“โจวเจ๋ คุณใจกว้างแค่ไหนกันเนี่ย ยังมีอารมณ์มาขำผมอีก?”

“เงินทุนที่พ่อคุณให้คุณ เอาให้น้องชายหมดแล้ว อีกแป๊บเดียว คุณก็จะล้มละลายหมดแล้ว คุณยังขำออกอีก?”

“ถ้าผมเป็นคุณ ก็จะไปหาที่ร้องไห้นานแล้ว”

ได้ยินคำนี้ โจวเจ๋จึงขมวดคิ้ว ยกแก้วเหล้าขึ้นมา สาดใส่หน้าส้งเสียง จากนั้นก็ออกไปจากผับอย่างรวดเร็ว

ส้งเสียงอยากจะตามไป ตอนที่จะตามไปพูดดีๆกับโจวเจ๋ ถังหยู่ก็ตื่นแล้ว

มองเห็นถังหยู่ซวนตื่นขึ้นมา ส้งเสียงรีบเดินเข้าไป อยากให้ถังหยู่ซวนทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง

ยังไง สิบล้าน พูดยังไงส้งเสียงก็ไม่มีทางให้โหจื่อ

“พี่ถัง ในที่สุดก็ตื่นแล้ว”ส้งเสียงมาตรงหน้าของถังหยู่ซวน พูดอย่างสนใจ

ถังหยู่ซวนเพิ่งลืมตา ก็มองเห็นหัวที่เหมือนหมูมาแนบกับตัว ตกใจจนเขาต้องสั่นไปทั้งตัว

“ไอ้ห่า แม่เอ๊ยคุณคือใครเนี่ย!”

ถังหยู่ซวนคิดว่าตัวเองฝันร้าย ฝันถึงถึงปีศาจ เขายกขาขึ้นมา เตะใส่ที่ตัวส้งเสียง จนเขาล้มลงไปที่พื้นใต้โต๊ะกินเหล้า

ใบหน้าส้งเสียงดูหดหู่ ชี้ไปที่ตัวเองแล้วพูด:“ผมเอง ผมคือส้งเสียง พี่ถัง”

“คุณคือส้งเสียง?”มองอย่างละเอียดสักพัก ถังหยู่ซวนก็จำส้งเสียงได้

“คุณเป็นอะไร ทำไมถูกคนตีจนกลายเป็นหัวหมูแบบนี้ได้?”ถังหยู่ซวนมองส้งเสียงอย่างสงสัย ถามออกไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท