บทที่ 276 มีเรื่องที่ห้องสมุด
ในตอนนั้นสีหน้าของหวางเฉินกับสวีเถิงเฟย ต่างก็ไม่ค่อยดีนัก
พวกเขานั่งอยู่ในห้องสมุด ต่างนั่งเงียบเป็นเป่าสาก
เมื่อกี้ พวกเขาไปที่บ่อน้ำพุร้อน แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของชุนเซิง
ห้าคน นั่นคนเป็นๆ ตั้งห้าคนเลยนะ
หายไปทั้งๆ แบบนี้เหรอ……
นี่ทำให้ในใจของหวางเฉินกับสวีเถิงเฟย เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ
“ยังโทรหาชุนเซิงไม่ติดเหรอ?” สวีเถิงเฟยเงยหน้า แล้วถามหวางเฉิน
หวางเฉินส่ายหน้า แล้วตอบ: “นายว่าพวกนั้นจะเกิดเรื่องมั้ยนะ?”
“ไม่มั้ง?” สวีเถิงเฟยขมวดคิ้ว สีหน้าจริงจังเล็กน้อย: “พวกนั้นมีกันตั้งห้าคนนะ!”
“ถ้าพวกนั้นไม่เป็นไร ทำไมถึงโทรไม่ติดล่ะ?” หวางเฉินทำสีหน้าย่ำแย่
“คนเป็นๆ ตั้งห้าคน ทำไมจู่ๆ ถึงได้หายไปนะ บ่อน้ำพุร้อนนั่น พวกเราก็หาแล้ว ทุกซอกทุกมุม ก็หาพวกชุนเซิงไม่เจอเลย พวกเขาคงไม่ถูกหลี่ฝางโยนลงเขาไปแล้วหรอกมั้ง?” จู่ๆ หวางเฉินก็ถามขึ้นอย่างหวาดกลัว
“หลี่ฝางมันกล้าขนาดนั้นซะที่ไหนกันล่ะ? อีกอย่าง ถึงจะโยนลงเขาไปแล้วจริงๆ ยังไงก็ต้องมีศพสิจริงมั้ย? พวกเราก็ลองมองลงไปข้างล่างดูแล้ว ด้านล่างไม่มีอะไรเลย”
“ฉันคิดว่าชุนเซิงและพรรคพวกมันคงหอบเงินของฉัน แล้วหนีออกจากบ้านพักตากอากาศไปแล้วแน่ๆ” สวีเถิงเฟยพูดพร้อมขมวดคิ้ว
หวางเฉินก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เขารู้ว่าชุนเซิงกับพรรคพวกไม่ใช่คนประเภทนั้น
แต่ว่า ก็คิดคำอธิบายให้เป็นอย่างอื่นไม่ออกจริงๆ
“ไม่สนแล้ว ลุงเหยโก่วของฉันใกล้จะถึงแล้ว……เมื่อพวกเรารวมตัวกับลุงเหยโก่ว ถึงแม้ไอ้หมอนั้นมันจะรู้ว่าพวกเราจะฆ่ามัน มีลุงเหยโก่วอยู่ มันก็ไม่กล้าทำอะไรเราหรอก!” หวางเฉินหัวเราะ แล้วพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ
ในตอนนั้น ส้าวส้วยก็ได้เดินมาทางหวางเฉินกับสวีเถิงเฟย
“ส้าวส้วย นายอย่าทำอะไรนะ เรื่องนี้ฉันกับพ่อคิดดีแล้ว อดทนไว้ก่อนวันสองวัน” หลี่ฝางมองสีหน้าอาฆาตแค้นของส้าวส้วยแล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย
เขากลัวว่าส้าวส้วยจะก่อเรื่อง แล้วทำให้แผนที่ตนกับหลี่ต๋าคางวางไว้พัง
“ฉันไม่ได้พูดว่าไม่แก้แค้น แต่แค่ ตอนนี้ต้องอดทนไว้ก่อน รอให้สวีเถิงเฟยออกจากบ้านพักตากอากาศก่อน พวกเราค่อยแก้แค้นก็ไม่สาย”
หลี่ฝางดึงส้าวส้วยไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงซับซ้อน: “ส้าวส้วย นายต้องเข้าใจนะ ชีวิตคนเรา หนีไม่พ้นเรื่องดีและเรื่องร้าย บางครั้งเราก็ต้องอดทนไว้ ไม่เห็นเป็นไร ขอแค่ในใจเราจำความอัปยศนั้นไว้ได้ แล้วยึดมั่น ต้องมีสักวันที่เราได้เอาคืนมัน แค่นั้นก็พอแล้ว”
“ความแค้นก็เหมือนกัน” หลี่ฝางร่ายยาวความในใจ
ตอนมัธยมปลาย หลี่ฝางอดทนมาสามปี
ความดื้อรั้นและอารมณ์ของเขา มันสงบมันตั้งนานแล้ว
หากไม่ใช่เพราะว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาหลี่ฝางอดทนกับความอัปยศอดสู ในเวลาสั้นๆ แบบนี้ คงจะอดกลั้นความโกรธแค้นที่มีต่อสวีเถิงเฟยไม่อยู่
แต่ใครจะรู้ ตัวเองอดกลั้นได้ แต่กลับทำให้ความโกรธของส้าวส้วย ปะทุขึ้นมาซะงั้น
มันทำให้หลี่ฝางรู้สึกว่ามีคนเดือดร้อนแทนเขา
ส้าวส้วยหันหน้ามา แล้วยิ้มอย่างชั่วร้าย: “เจ้านาย ที่เจ้านายพูด ผมเข้าใจทั้งหมด”
“แต่แค่ตระกูลสวีโง่ๆ สมควรให้ผมทนเหรอ?”
ตระกูลสวีของเมืองเอก ไม่ต้องพูดถึงหลี่ฝาง แม้แต่ส้าวส้วย เขาก็ไม่ได้เอามาอยู่ในสายตา
ส้าวส้วยอดทนได้ แต่อีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งสิ
เมื่อตอนที่เขาอยู่เมืองนอก ส้าวส้วยไม่ใช่ว่าไม่เคยอดกลั้น แต่ว่าที่เขาอดทน เป็นคนระดับประเทศ เป็นองค์กรใหญ่ทั้งนั้น
ในตอนนี้ ไม่มีตระกูลไหน ที่จะทำให้ส้าวส้วยก้มหัวให้ได้
จนมาถึงวันนี้ แค่ตระกูลสวีเล็กๆ ตระกูลนึง……
ทำไมส้าวส้วยต้องใส่ใจ?
จะให้เขาพอใจได้ยังไง?
“ไม่ได้บอกว่าต้องอดทน ฉันแค่กลัวว่านายจะก่อเรื่องจนมีคนตาย” หลี่ฝางมองไปที่ส้าวส้วย แล้วพูดอย่างเป็นห่วง: “จะให้ดี ไม่ต้องลงมืออะไร ยังไงที่นี่ก็เป็นห้องสมุดนะ”
“แขกหลายคนอ่านหนังสืออยู่ นายอย่าทำให้พวกแขกตกใจเลย” หลี่ฝางพูดเตือนขึ้น
“วางใจเถอะครับ ผมไม่ฆ่าคนตายในห้องสมุดหรอก” ส้าวส้วยพยักหน้า คำพูดไหนอีกความหมายของเขาก็คือ ออกจากห้องสมุดแล้ว มันก็ไม่แน่
พูดจบ ก็ไม่สนใจคำห้ามของหลี่ฝาง ส้าวส้วยก็เข้าไปนั่งเบียดที่นั่งของสวีเถิงเฟย
สวีเถิงเฟยถูกส้าวส้วยเบียด จนลงไปกองกับพื้น
“แม่มึงตาบอดหรือไง ไม่เห็นเหรอว่ามีคนอ่ะ!” สวีเถิงเฟยไม่ทันได้มอง ก็เอ่ยปากด่าออกไปแล้ว
แต่เมื่อมองคนที่เข้ามาเบียดชัดๆ ว่าเป็นส้าวส้วยแล้ว
สีหน้าของสวีเถิงเฟย ก็เปลี่ยนไปทันที จากที่โมโหก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
“ที่แท้ก็เป็นส้าวส้วยนี่เอง ฮ่าๆ ขอโทษด้วย ด่าผิดคนแล้ว” สวีเถิงเฟยรีบพูดขอโทษ: “เชิญนั่ง เชิญนั่ง”
“ต้องการนั่งตรงไหนเชิญนั่งตรงนั้นเลยครับ” สวีเถิงเฟยพูดพลางหัวเราะเหอะๆ
“อยากนั่งตรงไหนก็นั่งตรงนั้น?”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ แล้วมองสวีเถิงเฟย: “งั้นฉันอยากนั่งบนหัวแก”
เมื่อได้ยินคำนี้ หน้าของสวีเถิงเฟย ก็ชาอยู่ครู่
“เอาน่า ส้าวส้วย อย่าไปแกล้งเขาเลย นี่คือคุณชายของตระกูลสวีนะ” ในขณะนั้นหลี่ฝางก็เดินเข้ามา พูดห้ามอย่าง ‘ใจดี’ : “นายจะขี่หัวคุณชายได้ไง แบบนี้ก็ได้เหรอ? ”
“เก้าอี้ในห้องสมุดนี้ แข็งไปหน่อย ฉันอยากจะนั่งบนอะไรนิ่มๆ”
ส้าวส้วยเลิกคิ้ว แล้วถามสวีเถิงเฟย: “ได้มั้ยห้ะ!”
สวีเถิงเฟยทำสีหน้าเข้ม แล้วขมวดคิ้ว
ถูกแย่งที่นั่ง อันนี้สวีเถิงเฟยอดทนได้
ก็แค่เปลี่ยนที่นั่งแค่นั้น
แต่ส้าวส้วยจะมานั่งบนหัวเขา อันนี้สวีเถิงเฟยจะทนได้ยังไง?
สวีเถิงเฟยส่ายหน้า
“นายดู ฉันบอกแล้วว่าคุณชายสวีคงไม่ยอม ส้าวส้วย นายอย่าไปทำให้คุณชายสวีลำบากใจเลย” หลี่ฝางพูด
เมื่อได้ยินประโยคนี้ สวีเถิงเฟยก็มองหลี่ฝางอย่างขอบคุณ
ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง และไม่เข้าใจความหมายของหลี่ฝาง
หลี่ฝางรู้ ถ้าส้าวส้วยลงมือ ต้องใช้กำลังแน่ๆ
บนที่ของตน ถ้าใช้กำลัง ก็คงจะส่งผลกระทบต่อบ้านพักตากอากาศ
มีคนทะเลาะกันในห้องสมุด รปภ.ด้านหน้าประตู จะไม่สนใจก็คงไม่ได้?
ถ้าหากไม่สนใจ ต่อไปใครจะกล้ามาอ่านหนังสือที่นี่ล่ะ
หลี่ฝางยืดอก จู่ๆ ก็พูดขึ้นอย่างเสียงดัง: “สวัสดีครับทุกคน!”
เมื่อหลี่ฝางตะโกน ก็นำพาให้สายตาทุกคู่มองเขาทันที
ทุกคนมองไปที่หลี่ฝางด้วยสายตาแปลกๆ ในใจคิด ว่าคนนี้เป็นบ้าหรือเปล่า?
ใครรู้จักนายกัน จู่ๆ ก็พูด ‘สวัสดีครับทุกคน’
ต่อมา หลี่ฝางก็เอ่ยขึ้น: “ทุกท่านวางหนังสือในมือลง ผมจะให้ทุกท่านดูอะไรสนุกๆ”
“นี่นาย ที่นี่คือห้องสมุดนะ รบกวนอยู่ในความสงบด้วยโอเคมั้ย?”
“เจ้าหนู นายมีอะไรน่าดูกัน?”
“เอาล่ะ อย่าต่อปากต่อคำแล้ว ถ้ารบกวนพวกเราอ่านหนังสือ พวกเราจะเรียกรปภ.แล้วนะ”
เสียงของหลี่ฝางดังมาก จึงมีผลกระทบต่อทุกคนที่อ่านหนังสือ
ในตอนนี้ แม้แต่สายตาที่ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง ก็ยังแปลกใจเล็กน้อย
ส้าวส้วยยืนขึ้น มองหลี่ฝาง แล้วพูดเสียงเบา: “เจ้านาย นายทำอะไรเหนี่ย? ฉันกำลังจะเตรียมตัวสั่งสอนไอ้หมอนี่ให้นายนะ”
“ช่างเถอะ ฉันจัดการเอง”
หลี่ฝางพูดอย่างนิ่ง: “นายแค่อยู่ด้านหลังฉัน แล้วคอยรักษาความปลอดภัยของฉันก็โอเคแล้ว”
“ไม่ให้ฉันลงมือ?”
ส้าวส้วยมองหลี่ฝางอย่างสงสัย แล้วถาม: “เจ้านาย นายมีวิธีจัดการมัน?”
หลี่ฝางพยักหน้า: “คิดได้ตั้งนานแล้ว”
ต่อมา หลี่ฝางก็พูดขึ้นเสียงดังอีกครั้ง: “มา ทุกท่านหยุดสักครู่ ผมจะสร้างกลุ่มแชทตอนนี้ ทุกท่านเข้ากลุ่มหน่อยครับ”
“กลุ่มวีแชท?”
“พวกเราไม่เข้าหรอก”
“ใช่แล้ว ทำไมพวกเราต้องเข้ากลุ่มแชทของนาย นายคงอยากจะเชิญพวกเราเข้ากลุ่มแล้วขายของใช่มั้ยล่ะ? พวกเราไม่ตกหลุมพรางนายหรอก”
“ใช่แล้ว อย่าเสียแรงเปล่าเลย พวกเราไม่เข้ากลุ่มหรอก นายรีบออกไปเถอะ”
“รปภ. รปภ.”
ท่าทีของหลี่ฝาง กลายเป็นสิ่งรบกวนคนอื่นแล้ว มีผู้หญิงคนนึงเดินไปที่ประตู แล้วเรียกรปภ.
นำรปภ.เข้ามา แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ชี้ไปที่หลี่ฝาง: “เขานี่แหละ รบกวนพวกเราอ่านหนังสือ แล้วยังบอกให้พวกเขาเข้ากลุ่มวีแชทอีก คุณรีบไล่เขาออกไปหน่อย”
รปภ.คนนี้ แค่มองก็จำหลี่ฝางได้
“แย่แล้ว ทำไมอยู่ๆ ผมก็ปวดท้อง ห้องน้ำ……ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ!” รปภ.คนนี้ รีบหนีออกไปทันที แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป ครึ่งค่อนวันก็ไม่ออกมา
หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูดขึ้น: “วางใจเถอะ ผมสร้างกลุ่มขึ้นมาไม่ขายของให้พวกคุณหรอก”
“อีกอย่าง หลังจากที่ผมสร้างกลุ่ม ผมจะแจกอั่งเปาสองหมื่น”
“ผมเริ่มสร้างแล้วนะครับ ใครแย่งได้ก็เป็นของคนนั้น แล้วก็ ผมแจกแค่หนึ่งร้อยคน”
หลี่ฝางพูดจบ ก็พูดตัวเลยสี่ตัว
ด้วยตัวเลขที่ตัวนี้ หลายคนก็เข้ากลุ่มที่หลี่ฝางสร้างขึ้น
“หลี่ฝาง นายทำบ้าอะไร?” สวีเถิงเฟยขมวดคิ้ว แล้วรู้สึกคาดไม่ถึง