NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 279

ตอนที่ 279

บทที่ 279 ผู้ช่วยของสวีเถิงเฟย

“ฉันคือรูมเมทของเขา” หลี่ฝางตอบอย่างนิ่งๆ

“รูมเมท? ที่แท้อยู่หอกันเหรอ? ฮ่าๆ” ชายสวมแจ็คเก็ตดำหัวเราะฮา แล้วพูดกับพวกด้านหลัง: “พวกนายว่า คนมีเงินจะอยู่หอในกันเหรอ? ”

“ไม่ คนมีเงินที่ไหนจะนอนหอล่ะ”

“นายพักหอในเหรอ?”

“ฉันไม่”

“ฉันก็ไม่”

“มีแค่ยาจกเท่านั้นที่พักหอใน”

ชายสวมแจ็คเก็ตสีดำพูดผสมโรงกับพรรคพวก แล้วพูดดูถูกหลี่ฝางกับหลี่ซ่วยซ่วย

หลี่ฝางได้ยิน ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

ถึงยังไงคำพูดพวกนี้ หลี่ฝางก็ไม่ได้ยินมาจนชินแล้ว

แต่ว่าหลี่ซ่วยซ่วยกลับลุกขึ้นยืน แล้วลากแขนหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง พวกเราไปเถอะ”

“ใช่ รีบไสหัวไปซะ”

“ไม่ได้ดูเลยว่าที่นี่ที่ไหน ใช่ที่ที่พวกนายควรมาหรือเปล่า?”

ชายสวมแจ็คเก็ตหัวเราะ: “จะให้ดีก็ออกไปจากบ้านพักตากอากาศซะ เห็นนายอีก ฉันล่ะขยะแขยง”

หลี่ฝางส่ายหน้าให้หลี่ซ่วยซ่วย: “พวกเราไม่ไป”

“คนที่ควรไปคือพวกเขา”

หลี่ฝางตบไปที่บ่าของหลี่ซ่วยซ่วย แล้วพูด: “นายอ่านหนังสือของนายต่อเถอะ ที่เหลือ ให้ฉันจัดการเอง”

พูดจบ หลี่ฝางก็ก้ม เก็บหนังสือความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้ขึ้นมา แล้ววางไว้ด้านหน้าของหลี่ซ่วยซ่วย

ใครจะรู้ ว่าชายสวมแจ็คเก็ตดำคนนั้นจะเข้ามา แล้วเขวี้ยงมันลงพื้นอีกครั้งนึง

“เก็บทำไม นายคิดว่านายเหมาะสมที่จะนั่งอ่านหนังสือที่นี่เหรอ?”

“หลี่ซ่วยซ่วยไม่มีเงินซื้อบัตรเข้าด้วยซ้ำ เขาต้องแอบปืนขึ้นมาจากด้านหลังเขาแน่ๆ !”

ชายสวมแจ็คเก็ตดำพูดอย่างแน่ใจ

ด้านหลังภูเขาเป็นหน้าผา นอกจากนักปีนเขามืออาชีพ และต้องมีอุปกรณ์ปีนเขา ใครจะปีนขึ้นมาได้?

หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วมองชายสวมแจ็คเก็ตดำ: “ฉันจะเก็บขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าหากนายเขวี้ยงมันอีก ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”

หลี่ฝางพูด พลางเก็บหนังสือความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้ง

ส่วนชายสวมแจ็คเก็ตดำ ก็ไม่ได้ใส่ใจหลี่ฝางแม้แต่น้อย

เขาหยิบหนังสือความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้ขึ้นมา แล้วใช้มือฉีกออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็โปรยขึ้น

“ทำไม ไม่พอใจ?”

“กัดฉันสิ!”

ด้านหลังชายสวมแจ็คเก็ตดำ มีชายยืนอยู่สามคน

ชายสามคนนั่นมองหลี่ฝางแล้วบีบหมัด จนมือส่งเสียงก๊อบแก๊บ ราวกับจะทำให้หลี่ฝางกลัว

ชายสวมแจ็คเก็ตดำคิดว่าพวกเยอะ จึงพูดอย่างอวดดี: “ทำไม อยากมีเรื่อง? มาดิ!”

“นายลองต่อยฉันดูสิ”

ที่จริง แค่หลี่ฝางร้องเรียก ส้าวส้วยก็มาแล้ว

มองเวลา หลี่ฝางเริ่มรู้สึกรีบนิดหน่อย

เสี่ยวจางคนนั้น ทำไมยังไม่มาอีก?

หลี่ฝางควักโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรเร่ง อีกครั้ง

“ทำไม เรียกพวกเหรอ? คิดว่านายมีพวกคนเดียวหรือไง ฉันจะบอกให้……”

ชายสวมแจ็คเก็ตดำยังไม่ทันพูดจบ เสี่ยวจางก็พารปภ.สองคน เดินเข้ามา

“คุณ…..คุณผู้ชาย มีอะไรให้รับใช้?” เสี่ยวจางเกือบจะเรียกหลี่ฝางว่า ‘คุณชาย’ แล้ว ดีที่คิดได้ทัน

“ไล่พวกเขาออกไป” หลี่ฝางใช้คางชี้ไปทางชายสวมแจ็คเก็ตดำและพวก แล้วพูดอย่างเย็นชา

“ครับ คุณผู้ชาย”

เสี่ยวจางพยักหน้า แล้วหันไปพูดกับรปภ.ที่อยู่ด้านหลังทันที: “เชิญพวกเขาออกไป”

“เห้ย อะไรกันเหนี่ย?”

“เดี๋ยวก่อน พวกนายมีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเรา ถึงแม้พวกนายจะเป็นคนของบ้านพักตากอากาศแห่งนี้ ก็ทำแบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราซื้อบัตรเข้ามานะ”

“ถ้าจะไล่ ก็ไล่มันนู่น”

ชายสวมแจ็คเก็ตดำชี้ไปที่หลี่ซ่วยซ่วย: “เขาต้องปีนด้านหลังภูเขาขึ้นมาแน่ๆ ”

“ปืนขึ้นมาทางด้านหลังเขา? เด็กน้อย พวกนายโง่หรือเปล่า ด้านหลังภูเขาเป็นหน้าผานะ นายไปปีนให้ฉันดูหน่อย” เสี่ยวจางพูดอย่างเอือมระอา

“วางใจเถอะ เงินค่าเข้า พวกเราจะคืนให้” หลี่ฝางพูดอย่างนิ่งๆ

“พาพวกเขาไปทำเรื่องคืนเงิน” เสี่ยวจางพูดเสริม

“มีสิทธิ์อะไรมาคืนเงินค่าเข้าพวกเรา? บ้านพักตากอากาศของพวกนาย ไม่มีเหตุผลเลยเหรอ?” ชายสวมแจ็คเก็ตดำพูดอย่างไม่พอใจ

เสี่ยวจางหัวเราะ แล้วพูด: “นายอยากรู้ว่าทำไม ใช่มั้ย? ”

“ฉันอยากรู้ว่าทำไม? นอกจากนายต้องหาเหตุผลที่ฟังขึ้นมาบอกได้ ไม่อย่างงั้น ไม่ใช่แค่ไม่ยอมคืนบัตร และฉันยังจะร้องเรียนนายอีก!” ชายสวมแจ็คเก็ตดำพูดขึ้น

“เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะว่าพวกเขาเป็นแขกวีไอพีของบ้านพักเรา”

เสี่ยวจางพูดอย่างนิ่งๆ : “ส่วนนาย คือลูกค้าทั่วไป ลูกค้าธรรมดา”

“พวกนาย รบกวนแขกวีไอพีของเราอ่านหนังสือ จะไล่พวกนายออกไปแล้วมันทำไม?” เสี่ยวจางพูดอย่างดูถูก

“แขกวีไอพี?”

หน้าของชายสวมแจ็คเก็ตดำ ชาอยู่ครู่ เขาชี้ไปทางหลี่ซ่วยซ่วย แล้วพูด: “นายจะบอกว่าหลี่ซ่วยซ่วยเป็นแขกวีไอพีของที่นี่? ”

“ล้อเล่นอะไรเหนี่ย? ไอ้หมอนั่นมันก็แค่ยาจก จะเป็นแขกวีไอพีได้ยังไงกัน!” ชายสวมแจ็คเก็ตดำหัวเราะเหอๆ คนที่อยู่ด้านหลัง ก็ไม่เชื่อด้วยเช่นกัน

“ถ้าหลี่ซ่วยซ่วยเป็นแขกวีไอพีได้ งั้นพวกเราเป็นอะไร? พวกเราคงไม่ใช่เจ้าของบ้านพักเลยเหรอ?”

“ฮ่าๆ น่าขำจริงๆ แม่ของหลี่ซ่วยซ่วยเป็นคนเก็บขยะ ลูกของคนเก็บขยะคนนึง กลับมาเป็นแขกวีไอพีของบ้านพักตากอากาศ? บ้านพักของพวกนายมีอะไรผิดพลาดแล้วมั้ง”

“ทางที่ดีฉันแนะนำให้พวกนายหุบปาก”

สีหน้าของเสี่ยวจาง ค่อยๆ เข้มขึ้น: “หลี่ซ่วยซ่วยเป็นเพื่อนของคุณชายพวกเรา”

“คุณชาย?”

“และคุณชายพวกเราก็เป็นเจ้าของบ้านพักแห่งนี้” เสี่ยวจางพูดขึ้นต่อ

“หลี่ซ่วยซ่วยเป็นเพื่อนพวกคุณชายพวกนาย? พระเจ้าช่วย คุณชายของพวกนายบ้าหรือเปล่า ถึงได้มาเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้?” ชายสวมแจ็คเก็ตหัวเราะอย่างเอือม

มีเสียงดังเพี๊ยะ

เสี่ยวจางส่งสายตาให้รปภ. แล้วรปภ.คนนั้น ก็เข้าไปตบหน้าชายสวมแจ็คเก็ต อย่างแรงทันที

“คุณชายของพวกเรา นายมาดูถูกได้ยังไง?”

น้ำเสียงของเสี่ยวจางเย็นชา สายตาเย็นชา มองไปทางชายสวมแจ็คเก็ตดำ: “ทางที่ดีนายขอโทษท่านเดี๋ยวนี้”

หลังจากชายสวมแจ็คเก็ตดำถูกตบ ก็งงสุดๆ

“นาย……นายกล้าตบฉัน? ฉันเป็นแขกของบ้านพัก ฉันจ่ายเงินมา พวกนายไม่ใช่แค่ไม่บริการฉัน แล้วยังกล้าตบฉัน?”

“ได้ พวกนายคอยดู ฉันจะไปเรียกทนายมาฟ้องพวกนาย”

ชายสวมแจ็คเก็ตดำกัดฟันแน่น แล้วพูดอย่างเย็นชา: “พวกนายรอหมายเรียกได้เลย!”

“ตบเขาอีกสักหลายๆ ที”

หลี่ฝางมองเสี่ยวจาง แล้วพูดอย่างนิ่งๆ : “ทีเดียวมันน้อยไป”

เสี่ยวจางส่งสายตาให้รปภ. รปภ.จึงเข้าไป เพี๊ยะๆๆ ตบชายสวมแจ็คเก็ตดำไปอีกหลายที

“อย่าคิดว่าตัวเองจ่ายเงินแค่ไม่กี่พัน แล้วจะมาทำตัวอย่างกับเป็นพระเจ้า”

“ปากหมาๆ อย่างนาย อยากจะตบมันให้แตกจริงๆ”

“ส่วนเรื่องที่นายอยากจะฟ้องบ้านพักตากอากาศ ก็ฟ้องไปเลย บ้านพักนี้ไม่ได้ขาดเงินชดใช้ให้นาย”

หลี่ฝางพูด: “แต่ก็ไม่ได้ต้อนรับคนปากหมาอย่างนาย”

“ก่อนจะไสหัวไป หนังสือที่อยู่บนพื้น เก็บมันขึ้นมาทีละแผ่นๆ แล้วก็ประกอบมันซะ”

หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูก: “ความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้เล่มนี้ เป็นฉบับสะสม”

“มันเป็นคอลเลคชั่นพิเศษของบ้านพักนี้ ราคาก็……ถ้าหากนายประกอบมันไม่สมบูรณ์ งั้นก็รอชดใช้ค่าเสียหายเถอะ” หลี่ฝางพูด แบบทิ้งระเบิดไว้

ชายสวมแจ็คเก็ตดำ ทำสีหน้าสับสน: “นายเป็นใครกันแน่? ”

“ฉันเหรอ? ฉันก็เหมือนหลี่ซ่วยซ่วย เป็นเพื่อนของคุณชาย” หลี่ฝางพูดอย่างนิ่งๆ

ต่อมา นอกจากชายสวมแจ็คเก็ตดำ คนที่เหลือ ก็ถูกรปภ.ไล่ออกไปจากบ้านพักตากอากาศ

ส่วนชายสวมแจ็คเก็ตดำ ถึงแม้จะไม่เชื่อว่าความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้เล่มนี้เป็นฉบับสะสม แต่ว่าเพราะการบังคับของหลี่ฝางกับรปภ. เขาจึงต้องเก็บมันขึ้นมาทีละแผ่นๆ

หลังจากเก็บขึ้นมา เขาก็ค่อยๆ ประกอบมัน

เมื่อกี้เขาฉีกแรงไปหน่อย เกือบทุกหน้า ถูกเขาฉีกออกเป็นสิบๆ ชิ้น

มองไปทางชายสวมแจ็คเก็ตดำ ที่ค่อยๆ เก็บหน้าหนังสือ หลี่ซ่วยซ่วยก็ขอบคุณหลี่ฝาง: “ขอบคุณนะ หลี่ฝาง”

“ขอบคุณที่นายช่วยฉันเอาคืน” สีหน้าของหลี่ซ่วยซ่วย นั้นซับซ้อน

มีความรู้สึกปลื้มใจ และปวดใจ

จากใบหน้านี้ หลี่ฝางก็มองเห็นเงาของตัวเองเมื่อก่อน

เมื่อก่อน ตนได้รับโทรศัพท์จากพ่อ แล้วได้เงินล้าน ก็มีสีหน้าแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?

แต่ก่อนยังไงตอนนี้ก็อย่างนั้น คนจนมักถูกรังแก

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วโอบไหล่หลี่ซ่วยซ่วย พูด: “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายก็คือพี่น้องของฉันหลี่ฝางแล้ว จากนี้ ฉันจะไม่ให้ใครมารังแกนาย ดูถูกนาย ถ้าหากมีคนมารังแกนาย หรือดูถูกนาย นายต้องบอกฉัน เข้าใจมั้ย? ”

หลี่ซ่วยซ่วยพยักหน้าแรงๆ

และในตอนนั้น ประตูห้องสมุด ก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

หวางเฉินได้พาเหยโก่ว กลับมาที่ห้องสมุดอีกครั้ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท