บทที่ 279 ผู้ช่วยของสวีเถิงเฟย
“ฉันคือรูมเมทของเขา” หลี่ฝางตอบอย่างนิ่งๆ
“รูมเมท? ที่แท้อยู่หอกันเหรอ? ฮ่าๆ” ชายสวมแจ็คเก็ตดำหัวเราะฮา แล้วพูดกับพวกด้านหลัง: “พวกนายว่า คนมีเงินจะอยู่หอในกันเหรอ? ”
“ไม่ คนมีเงินที่ไหนจะนอนหอล่ะ”
“นายพักหอในเหรอ?”
“ฉันไม่”
“ฉันก็ไม่”
“มีแค่ยาจกเท่านั้นที่พักหอใน”
ชายสวมแจ็คเก็ตสีดำพูดผสมโรงกับพรรคพวก แล้วพูดดูถูกหลี่ฝางกับหลี่ซ่วยซ่วย
หลี่ฝางได้ยิน ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
ถึงยังไงคำพูดพวกนี้ หลี่ฝางก็ไม่ได้ยินมาจนชินแล้ว
แต่ว่าหลี่ซ่วยซ่วยกลับลุกขึ้นยืน แล้วลากแขนหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง พวกเราไปเถอะ”
“ใช่ รีบไสหัวไปซะ”
“ไม่ได้ดูเลยว่าที่นี่ที่ไหน ใช่ที่ที่พวกนายควรมาหรือเปล่า?”
ชายสวมแจ็คเก็ตหัวเราะ: “จะให้ดีก็ออกไปจากบ้านพักตากอากาศซะ เห็นนายอีก ฉันล่ะขยะแขยง”
หลี่ฝางส่ายหน้าให้หลี่ซ่วยซ่วย: “พวกเราไม่ไป”
“คนที่ควรไปคือพวกเขา”
หลี่ฝางตบไปที่บ่าของหลี่ซ่วยซ่วย แล้วพูด: “นายอ่านหนังสือของนายต่อเถอะ ที่เหลือ ให้ฉันจัดการเอง”
พูดจบ หลี่ฝางก็ก้ม เก็บหนังสือความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้ขึ้นมา แล้ววางไว้ด้านหน้าของหลี่ซ่วยซ่วย
ใครจะรู้ ว่าชายสวมแจ็คเก็ตดำคนนั้นจะเข้ามา แล้วเขวี้ยงมันลงพื้นอีกครั้งนึง
“เก็บทำไม นายคิดว่านายเหมาะสมที่จะนั่งอ่านหนังสือที่นี่เหรอ?”
“หลี่ซ่วยซ่วยไม่มีเงินซื้อบัตรเข้าด้วยซ้ำ เขาต้องแอบปืนขึ้นมาจากด้านหลังเขาแน่ๆ !”
ชายสวมแจ็คเก็ตดำพูดอย่างแน่ใจ
ด้านหลังภูเขาเป็นหน้าผา นอกจากนักปีนเขามืออาชีพ และต้องมีอุปกรณ์ปีนเขา ใครจะปีนขึ้นมาได้?
หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วมองชายสวมแจ็คเก็ตดำ: “ฉันจะเก็บขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าหากนายเขวี้ยงมันอีก ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
หลี่ฝางพูด พลางเก็บหนังสือความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้ง
ส่วนชายสวมแจ็คเก็ตดำ ก็ไม่ได้ใส่ใจหลี่ฝางแม้แต่น้อย
เขาหยิบหนังสือความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้ขึ้นมา แล้วใช้มือฉีกออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็โปรยขึ้น
“ทำไม ไม่พอใจ?”
“กัดฉันสิ!”
ด้านหลังชายสวมแจ็คเก็ตดำ มีชายยืนอยู่สามคน
ชายสามคนนั่นมองหลี่ฝางแล้วบีบหมัด จนมือส่งเสียงก๊อบแก๊บ ราวกับจะทำให้หลี่ฝางกลัว
ชายสวมแจ็คเก็ตดำคิดว่าพวกเยอะ จึงพูดอย่างอวดดี: “ทำไม อยากมีเรื่อง? มาดิ!”
“นายลองต่อยฉันดูสิ”
ที่จริง แค่หลี่ฝางร้องเรียก ส้าวส้วยก็มาแล้ว
มองเวลา หลี่ฝางเริ่มรู้สึกรีบนิดหน่อย
เสี่ยวจางคนนั้น ทำไมยังไม่มาอีก?
หลี่ฝางควักโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรเร่ง อีกครั้ง
“ทำไม เรียกพวกเหรอ? คิดว่านายมีพวกคนเดียวหรือไง ฉันจะบอกให้……”
ชายสวมแจ็คเก็ตดำยังไม่ทันพูดจบ เสี่ยวจางก็พารปภ.สองคน เดินเข้ามา
“คุณ…..คุณผู้ชาย มีอะไรให้รับใช้?” เสี่ยวจางเกือบจะเรียกหลี่ฝางว่า ‘คุณชาย’ แล้ว ดีที่คิดได้ทัน
“ไล่พวกเขาออกไป” หลี่ฝางใช้คางชี้ไปทางชายสวมแจ็คเก็ตดำและพวก แล้วพูดอย่างเย็นชา
“ครับ คุณผู้ชาย”
เสี่ยวจางพยักหน้า แล้วหันไปพูดกับรปภ.ที่อยู่ด้านหลังทันที: “เชิญพวกเขาออกไป”
“เห้ย อะไรกันเหนี่ย?”
“เดี๋ยวก่อน พวกนายมีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเรา ถึงแม้พวกนายจะเป็นคนของบ้านพักตากอากาศแห่งนี้ ก็ทำแบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราซื้อบัตรเข้ามานะ”
“ถ้าจะไล่ ก็ไล่มันนู่น”
ชายสวมแจ็คเก็ตดำชี้ไปที่หลี่ซ่วยซ่วย: “เขาต้องปีนด้านหลังภูเขาขึ้นมาแน่ๆ ”
“ปืนขึ้นมาทางด้านหลังเขา? เด็กน้อย พวกนายโง่หรือเปล่า ด้านหลังภูเขาเป็นหน้าผานะ นายไปปีนให้ฉันดูหน่อย” เสี่ยวจางพูดอย่างเอือมระอา
“วางใจเถอะ เงินค่าเข้า พวกเราจะคืนให้” หลี่ฝางพูดอย่างนิ่งๆ
“พาพวกเขาไปทำเรื่องคืนเงิน” เสี่ยวจางพูดเสริม
“มีสิทธิ์อะไรมาคืนเงินค่าเข้าพวกเรา? บ้านพักตากอากาศของพวกนาย ไม่มีเหตุผลเลยเหรอ?” ชายสวมแจ็คเก็ตดำพูดอย่างไม่พอใจ
เสี่ยวจางหัวเราะ แล้วพูด: “นายอยากรู้ว่าทำไม ใช่มั้ย? ”
“ฉันอยากรู้ว่าทำไม? นอกจากนายต้องหาเหตุผลที่ฟังขึ้นมาบอกได้ ไม่อย่างงั้น ไม่ใช่แค่ไม่ยอมคืนบัตร และฉันยังจะร้องเรียนนายอีก!” ชายสวมแจ็คเก็ตดำพูดขึ้น
“เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะว่าพวกเขาเป็นแขกวีไอพีของบ้านพักเรา”
เสี่ยวจางพูดอย่างนิ่งๆ : “ส่วนนาย คือลูกค้าทั่วไป ลูกค้าธรรมดา”
“พวกนาย รบกวนแขกวีไอพีของเราอ่านหนังสือ จะไล่พวกนายออกไปแล้วมันทำไม?” เสี่ยวจางพูดอย่างดูถูก
“แขกวีไอพี?”
หน้าของชายสวมแจ็คเก็ตดำ ชาอยู่ครู่ เขาชี้ไปทางหลี่ซ่วยซ่วย แล้วพูด: “นายจะบอกว่าหลี่ซ่วยซ่วยเป็นแขกวีไอพีของที่นี่? ”
“ล้อเล่นอะไรเหนี่ย? ไอ้หมอนั่นมันก็แค่ยาจก จะเป็นแขกวีไอพีได้ยังไงกัน!” ชายสวมแจ็คเก็ตดำหัวเราะเหอๆ คนที่อยู่ด้านหลัง ก็ไม่เชื่อด้วยเช่นกัน
“ถ้าหลี่ซ่วยซ่วยเป็นแขกวีไอพีได้ งั้นพวกเราเป็นอะไร? พวกเราคงไม่ใช่เจ้าของบ้านพักเลยเหรอ?”
“ฮ่าๆ น่าขำจริงๆ แม่ของหลี่ซ่วยซ่วยเป็นคนเก็บขยะ ลูกของคนเก็บขยะคนนึง กลับมาเป็นแขกวีไอพีของบ้านพักตากอากาศ? บ้านพักของพวกนายมีอะไรผิดพลาดแล้วมั้ง”
“ทางที่ดีฉันแนะนำให้พวกนายหุบปาก”
สีหน้าของเสี่ยวจาง ค่อยๆ เข้มขึ้น: “หลี่ซ่วยซ่วยเป็นเพื่อนของคุณชายพวกเรา”
“คุณชาย?”
“และคุณชายพวกเราก็เป็นเจ้าของบ้านพักแห่งนี้” เสี่ยวจางพูดขึ้นต่อ
“หลี่ซ่วยซ่วยเป็นเพื่อนพวกคุณชายพวกนาย? พระเจ้าช่วย คุณชายของพวกนายบ้าหรือเปล่า ถึงได้มาเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้?” ชายสวมแจ็คเก็ตหัวเราะอย่างเอือม
มีเสียงดังเพี๊ยะ
เสี่ยวจางส่งสายตาให้รปภ. แล้วรปภ.คนนั้น ก็เข้าไปตบหน้าชายสวมแจ็คเก็ต อย่างแรงทันที
“คุณชายของพวกเรา นายมาดูถูกได้ยังไง?”
น้ำเสียงของเสี่ยวจางเย็นชา สายตาเย็นชา มองไปทางชายสวมแจ็คเก็ตดำ: “ทางที่ดีนายขอโทษท่านเดี๋ยวนี้”
หลังจากชายสวมแจ็คเก็ตดำถูกตบ ก็งงสุดๆ
“นาย……นายกล้าตบฉัน? ฉันเป็นแขกของบ้านพัก ฉันจ่ายเงินมา พวกนายไม่ใช่แค่ไม่บริการฉัน แล้วยังกล้าตบฉัน?”
“ได้ พวกนายคอยดู ฉันจะไปเรียกทนายมาฟ้องพวกนาย”
ชายสวมแจ็คเก็ตดำกัดฟันแน่น แล้วพูดอย่างเย็นชา: “พวกนายรอหมายเรียกได้เลย!”
“ตบเขาอีกสักหลายๆ ที”
หลี่ฝางมองเสี่ยวจาง แล้วพูดอย่างนิ่งๆ : “ทีเดียวมันน้อยไป”
เสี่ยวจางส่งสายตาให้รปภ. รปภ.จึงเข้าไป เพี๊ยะๆๆ ตบชายสวมแจ็คเก็ตดำไปอีกหลายที
“อย่าคิดว่าตัวเองจ่ายเงินแค่ไม่กี่พัน แล้วจะมาทำตัวอย่างกับเป็นพระเจ้า”
“ปากหมาๆ อย่างนาย อยากจะตบมันให้แตกจริงๆ”
“ส่วนเรื่องที่นายอยากจะฟ้องบ้านพักตากอากาศ ก็ฟ้องไปเลย บ้านพักนี้ไม่ได้ขาดเงินชดใช้ให้นาย”
หลี่ฝางพูด: “แต่ก็ไม่ได้ต้อนรับคนปากหมาอย่างนาย”
“ก่อนจะไสหัวไป หนังสือที่อยู่บนพื้น เก็บมันขึ้นมาทีละแผ่นๆ แล้วก็ประกอบมันซะ”
หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูก: “ความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้เล่มนี้ เป็นฉบับสะสม”
“มันเป็นคอลเลคชั่นพิเศษของบ้านพักนี้ ราคาก็……ถ้าหากนายประกอบมันไม่สมบูรณ์ งั้นก็รอชดใช้ค่าเสียหายเถอะ” หลี่ฝางพูด แบบทิ้งระเบิดไว้
ชายสวมแจ็คเก็ตดำ ทำสีหน้าสับสน: “นายเป็นใครกันแน่? ”
“ฉันเหรอ? ฉันก็เหมือนหลี่ซ่วยซ่วย เป็นเพื่อนของคุณชาย” หลี่ฝางพูดอย่างนิ่งๆ
ต่อมา นอกจากชายสวมแจ็คเก็ตดำ คนที่เหลือ ก็ถูกรปภ.ไล่ออกไปจากบ้านพักตากอากาศ
ส่วนชายสวมแจ็คเก็ตดำ ถึงแม้จะไม่เชื่อว่าความลับในโลกที่ยังคำอธิบายไม่ได้เล่มนี้เป็นฉบับสะสม แต่ว่าเพราะการบังคับของหลี่ฝางกับรปภ. เขาจึงต้องเก็บมันขึ้นมาทีละแผ่นๆ
หลังจากเก็บขึ้นมา เขาก็ค่อยๆ ประกอบมัน
เมื่อกี้เขาฉีกแรงไปหน่อย เกือบทุกหน้า ถูกเขาฉีกออกเป็นสิบๆ ชิ้น
มองไปทางชายสวมแจ็คเก็ตดำ ที่ค่อยๆ เก็บหน้าหนังสือ หลี่ซ่วยซ่วยก็ขอบคุณหลี่ฝาง: “ขอบคุณนะ หลี่ฝาง”
“ขอบคุณที่นายช่วยฉันเอาคืน” สีหน้าของหลี่ซ่วยซ่วย นั้นซับซ้อน
มีความรู้สึกปลื้มใจ และปวดใจ
จากใบหน้านี้ หลี่ฝางก็มองเห็นเงาของตัวเองเมื่อก่อน
เมื่อก่อน ตนได้รับโทรศัพท์จากพ่อ แล้วได้เงินล้าน ก็มีสีหน้าแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?
แต่ก่อนยังไงตอนนี้ก็อย่างนั้น คนจนมักถูกรังแก
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วโอบไหล่หลี่ซ่วยซ่วย พูด: “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายก็คือพี่น้องของฉันหลี่ฝางแล้ว จากนี้ ฉันจะไม่ให้ใครมารังแกนาย ดูถูกนาย ถ้าหากมีคนมารังแกนาย หรือดูถูกนาย นายต้องบอกฉัน เข้าใจมั้ย? ”
หลี่ซ่วยซ่วยพยักหน้าแรงๆ
และในตอนนั้น ประตูห้องสมุด ก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง
หวางเฉินได้พาเหยโก่ว กลับมาที่ห้องสมุดอีกครั้ง