NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 301

ตอนที่ 301

บทที่ 301 สวีเถิงเฟยกลัวจนร้องไห้

สวีเถิงเฟยไม่อาจที่จะเข้าใจได้เลย ส้งเคอ หวงเจ๋และคนอื่นๆ ที่เป็นเพื่อนกันมาหลายปี เพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันทั้งนั้น ทำไมจึงได้ตัวซ้อมเขาหนักขนาดนี้?

เป็นเพราะอะไรกันแน่?

เพียงหันหลัง สวีเถิงเฟยก็เดินมาถึงด้านหน้าของส้งเคอ แล้วถาม: “เพราะอะไร?”

“ทำไมต้องซ้อมฉันด้วย? เราเป็นเพื่อนกัน ฉันสวีเถิงเฟยทำอะไรที่ผิดต่อพวกนายเหรอ?” สวีเถิงเฟยมองส้งเคอด้วยสายตาที่โกรธเคือง มองไปที่หวงเจ๋………มองไปที่ทุกคน

ส้งเคอเงยหน้าขึ้น จ้องมองสวีเถิงเฟยโดยไม่ขยับสายตา: “แม่งนายยังจะแกล้งโง่อีกเหรอ นายให้ฉันไปเยาะเย้ยหวางเสี่ยวโก๋ แต่นายกลับปกปิดความจริง แบบนี้ก็เท่ากับนายขุดหลุมพรางให้ฉันตกลงไปไงละ”

“นายยังจะมาถามฉัน ฉันต่างหากที่ต้องถามนาย สวีเถิงเฟย ฉันทำอะไรผิดต่อนายเหรอ ถึงทำให้นายทำแบบนี้กับฉัน? ทำให้ฉันต้องเป็นศัตรูกับคุณชายหลี่” ส้งเคอดวงตาเบิกกว้างพูดด้วยความโมโห

“เดี๋ยวก่อน!”

ได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวสมองของสวีเถิงเฟยมึนงงเล็กน้อย

ปกปิดความจริง หลุมพราง?

คุณชายหลี่?

สวีเถิงเฟยขมวดคิ้ว มองส้งเคอแล้วถาม: “คุณชายหลี่อะไร คุณชายหลี่มาจากไหน?”

“แม่งยังจะมาแกล้งโง่อีก สวีเถิงเฟย นายแสดงเก่งแบบนี้ ทำไมไม่ไปเป็นนักแสดงละ? หากนายไปเป็นนักแสดง รางวัลออสการ์ ต้องเป็นของนายอย่างแน่นอน”

ชี้อยู่ที่จมูกของสวีเถิงเฟย ทุกคนก็หัวเราะแล้วกล่าว: “พวกนายว่ามั้ย?”

“ใช่ สวีเถิงเฟย นายก็อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้อีกเลย พวกเรารู้เรื่องหมดแล้ว”

“สวีเถิงเฟย ยังคิดจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไปถึงเมื่อไหร่”

“โชคดีที่คุณชายหลี่ใจกว้าง ไม่ถือสาเอาความพวกเรา ไม่อย่างนั้น พวกเราก็จะเป็นเหมือนนาย ต้องตายแน่นอน” มองดูสวีจื่อเม่ยที่ถูกตบบ้องหู ส้งเคอ หวงเจ๋และพวก ต่างรู้สึกขอบคุณหลี่ฝาง

หากเมื่อกี้หลี่ฝางไม่อภัยให้พวกเขา พวกเขาก็คงจะถูกตบบ้องหูไปด้วยมั้ง?

รีสอร์ตแห่งนี้เป็นของตระกูลหลี่ หากอยู่ในสมัยโบราณ ทรัพย์สมบัตินั้นมากพอๆกับของประเทศ

คนที่ไปล่วงเกินตระกูลแบบนี้ มันก็จะซวยแล้ว

“คุณชายหลี่?”

สวีเถิงเฟยขมวดคิ้ว ถามไปหนึ่งประโยค: “คุณชายหลี่ที่พวกนายพูดถึง คงไม่ใช่หลี่ฝางนะ?”

สวีเถิงเฟยคิดไปตั้งนาน ก็คิดถึงหลี่ฝางเพียงคนเดียว

“ใช่ หลี่ฝางก็คือคุณชายหลี่ สวีเถิงเฟย นายอย่าบอกพวกเรานะ ว่านายไม่รู้น่ะ” ส้งเคอพยักหน้า กล่าวอย่างเย็นชา

“พวกนาย คงไม่ใช่ว่าโดนไอ้หลี่ฝางหลอกแล้วมั้ง? มันเป็นคุณชายอะไรกัน!”

สวีเถิงเฟยหัวเราะจนน้ำตาเล็ด กล่าวโดยตรง: “ไอ้หลี่ฝาง พ่อแม่ของมันเป็นชาวบ้านธรรมดา เมื่อสองปีก่อนทำเกี่ยวกับขายตรง หลอกคนเก่งเป็นบ้าเลย”

“พวกนายโดนมันหลอกแล้วอย่างแน่นอน” สวีเถิงเฟยกล่าวสีหน้าที่มั่นใจ

“โดนหลอก? คิดว่าพวกเราเป็นเด็กอายุสามขวบเหรอไง พ่อบ้านเฉียน เรียกเขาว่าคุณชาย ฮีโร่รองเท้าหนัง ก็เรียกเขาว่าเจ้านาย เมื่อกี้ได้ยินมาว่าเขายังทำร้ายหยิ่นเหล่ยผู้สืบทอดของต้าหัวกรุ๊ป เมื่อกี้ฉันเห็นไอ้หยิ่นเหล่ยคนนั้น บนหน้าผากถูกเขียนไว้ด้วยคำว่าขยะ เดินอย่างน่าสังเวชวนอยู่ในวิลล่าหนึ่งรอบ แล้วก็หนีไป”

“ตอนนี้ นายบอกว่าหลี่ฝางเป็นลูกของชาวบ้านธรรมดา? ลูกของชาวบ้านธรรมดา ทำร้ายหยิ่นเหล่ยแล้ว ยังสามารถบังคับเขียนคำว่าขยะบนหน้าผากของหยิ่นเหล่ยได้เหรอ? ลูกชาวบ้านธรรมดาอย่างหลี่ฝาง สามารถทำให้นายสวีเถิงเฟยขายหน้าได้เหรอ? สวีเถิงเฟย นายก็อย่าดูถูกไอคิวของพวกเราเลย ได้มั้ย?” ขณะที่พูด สีหน้าของส้งเคอ ก็ค่อยๆกลายเป็นความมืดมน

“พวกเราน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรก คนที่นายสวีเถิงเฟยยังไม่สามารถจะจัดการได้ ทำไมถึงจะไม่มีเบื้องหลังเลย?”

“สวีเถิงเฟย นายมันชั่วช้ามาก นายอยากจะดึงพวกเราตกลงไปในน้ำด้วย บังคับพวกเราไปต่อกรกับตระกูลหลี่พร้อมกับนาย ใช่มั้ย?”

“สวีเถิงเฟย แผนการในมันช่างแยบยลจริงๆ”

เผชิญกับการถูกต่อว่า ภายในใจของสวีเถิงเฟย รู้สึกแย่มาก

“เฮ้ย เราเป็นเพื่อนกัน ฉันจะหลอกพวกนายทำไม? หลานของคุณท่านหลี่ ชื่อถังหยู่ซวน จะเป็นหลี่ฝางได้ยังไง?” สวีเถิงเฟยไม่รู้จะพูดยังไงดี

“สวีเถิงเฟย เพลาๆหน่อย ไม่ยอมรับไม่ได้แล้ว หน้านายมันช่างหนาจริงๆ การแสดงก็ไม่เลว ไม่คิดว่าถึงตอนนี้แล้ว นายยังไม่ยอมรับความจริงอีก”

“หลี่ฝางสวมสูท ที่สั่งตัดโดยพิเศษ เป็นดีไซเนอร์ที่ตัดให้กับผู้นำทั่วโลก ดีไซเนอร์โทมัส ได้วัดตัวของหลี่ฝางเพื่อตัดโดยเฉพาะ และทุกวันนี้ ชุดที่ดีไซเนอร์ โทมัสตัดเย็บออกมา มีเพียงราชวงศ์เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์สวมใส่”

“ชุดสูทที่อยู่บนตัวของเขา ก็ได้เป็นตัวแทนบ่งบอกสถานะของเขาแล้ว”

เวลานี้เฝิงจื่อหลินได้เอ่ยปากพูดขึ้น มองสวีเถิงเฟยด้วยสายตาที่เย็นชา: “สวีเถิงเฟย ไม่ว่านายจะแสดงให้พวกเราดูก็ดี หรือว่าไม่รู้ฐานะจริงๆของหลี่ฝางก็ช่าง นายลองคิดดูดีๆ ทำไมพ่อบ้านเฉียนถึงได้ตบหน้าพี่สาวนาย?”

“ทำไมตอนที่พวกเราทำร้ายนาย บอดี้การ์ดในรีสอร์ต ไม่มีใครมาขัดขวางเลยละ?”

“เพราะคนที่นายล่วงเกิน ก็คือเจ้าของรีสอร์ต”

เฝิงจื่อหลินค่อยๆลุกขึ้น ไปที่ข้างหูของสวีเถิงเฟย กระซิบบอก: “และพวกเราก็ได้รับคำแนะนำจากเจ้าของรีสอร์ต จึงได้มาทำร้ายนายไง”

เวลานี้ สวีเถิงเฟยเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ตกตะลึงอยู่ตรงที่เดิม

ใช่

ทำไมหลายต่อหลายครั้งตัวเองถึงทำอะไรหลี่ฝางไม่ได้เลยละ?

ทำไมตู้เฟย หยูเถิง มู่เสี่ยวไป๋ หวางเฉิน คนเยอะแยะมากมาย ล้วนตกอยู่ในกำมือของหลี่ฝาง

ที่แท้ไอ้หมอนี่ มันแกล้งแต่งเป็นหมูกินเพื่อกินเสือ

เมื่อคิดทบทวนแล้ว สวีเถิงเฟยเสียใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แต่ว่ามันสายไปแล้ว

เขาหันหน้ากลับไป มองหลี่ฝางแวบหนึ่ง และหลี่ฝาง ก็กำลังสองเขา

สี่ตาประสานกัน มุมปากของหลี่ฝาง เผยให้เสียที่รอยยิ้มที่ไร้เดียงสา

ทันใดนั้น สวีเถิงเฟยก็ตัวสั่น

จู่ๆเขาก็คิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน ตัวเองได้จัดชุนเซิงและพวก ไปลอบฆ่าหลี่ฝาง

สวีเถิงเฟยกำลังคิด หลี่ฝางน่าจะรู้เรื่องนี้แล้วใช่มั้ย?

หากรู้เรื่องแล้ว งั้นตัวเอง……ไม่ต้องตายจริงๆหรอกเหรอ?

ตระกูลหลี่ไม่มีทางปล่อยตัวเขาอย่างแน่นอน

หันหลังกลับมา สวีเถิงเฟยดึงแขนของสวีจื่อเม่ยเอาไว้ แล้วกล่าว: “พี่ เรารีบไปจากที่นี่เถอะ”

สวีเถิงเฟยเดินเร็วมาก ดึงแขนของสวีจื่อเม่ย ก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว และสวีจื่อเม่ยนั้นที่ใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ เกือบจะทำให้สวีจื่อเม่ยล้มไปหลายที

เดินออกมานอกวิลล่า ก็เจอกับเหยสงและเหยโก่วพอดี

“คุณชายสวี คุณหนูสวี ทำไมออกมาเร็วจัง?”

“คุณชายสวี หน้าของคุณ………”

เหยโก่วและเหยสง ทักขึ้นมากะทันหัน แต่สวีเถิงเฟยทำเหมือนกับไม่ได้ยิน ดึงแขนของสวีจื่อเม่ย ไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

สวีเถิงเฟยยิ่งคิดยิ่งกลัว

เดิมทีนึกว่า คนที่ตัวเองจะฆ่านั้น เป็นธรรมดาคนหนึ่ง แต่วันนี้มาคิดๆดูแล้ว ตัวเองนั้นคิดผิดอย่างมาก!

สวีเถิงเฟยดึงแขนของพี่สาวตัวเองไว้ ออกไปจากรีสอร์ต นั่งรถอยู่ในเบนท์ลีย์ของตัวเอง

เวลานี้ สวีเถิงเฟยถึงได้โล่งอก

“เถิงเฟย นายเป็นอะไร? หน้าของนาย ทำไมเหงื่อถึงไหล ไม่ใช่สิ เหงื่อนายเต็มตัวเลย นายเป็นอะไร ไตของนายคงไม่มีปัญหานะ?”

มองเสื้อเชิ้ตของสวีเถิงเฟย ที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ สวีจื่อเม่ยจึงได้ถามอย่างเป็นห่วง

“พี่ ผมก่อเรื่องใหญ่แล้ว”

สวีเถิงเฟยหายใจเข้าอย่างลึกๆ มองดูพี่สาวของตัวเอง เกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว: “พี่ครับ ครั้งนี้ผมตายแน่เลย,

“พอแล้ว ดูนายสิกลัวจนไม่ดีเลย ก็แค่ทะเลาะแตกคอกับพวกไม่ใช่เหรอ แตกคอก็แตกคอสิ มันจะเรื่องใหญ่แค่ไหนเชียว” สวีจื่อเม่ยพูดอย่างไม่สนใจไยดี

“พี่ ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ที่ผมพูดถึงก็คือ ผมก่อเรื่องแล้ว” สวีเถิงเฟยส่ายหัว

“นายก่อเรื่องอะไร?”

สวีจื่อเม่ยขมวดคิ้ว มองสวีเถิงเฟยอย่างโกรธเคือง: “นายคงไม่ใช่ไปยืมเงินกับเหยสงหรอกนะ? เมื่อกี้เห็นสีหน้านายเร่งรีบ แม้แต่เหยสงทักทายนาย นายยังไม่กล้าสนใจ……..พี่รู้สึกว่ามันต้องมีเรื่อง”

“พูดมาเถอะ ครั้งนี้ยืมไปเท่าไหร่”

สวีจื่อเม่ยทำหน้าเคร่งขรึม แล้วกล่าว: “นายอย่าบอกพี่นะ ว่านายยืมไปสิบล้านน่ะ หากเป็นแบบนั้น ต่อให้คุณปู่ของเราไม่ตีนาย พ่อก็ต้องตีนายให้ตาย”

“พี่ครับ ไม่ใช่เรื่องเงิน” สวีเถิงเฟยดวงตาแดงก่ำ

“แล้วมันคือเรื่องอะไรละ?” สวีจื่อเม่ยจี้ถาม

“พี่ครับ หลี่ฝางคนนั้น เขานั้นเป็นคุณชายของรีสอร์ต เป็นหลานของหลี่เจียเฉิน” หลังจากที่สวีเถิงเฟยพูดจบ จากนั้นก็กอดพี่สาวของตัวเอง ร้องไห้ออกมา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท