NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 357

ตอนที่ 357

บทที่357 ลู่หลุ่ยที่น่าสงสาร

“เธออยู่กับชายคนหนึ่งใช่ไหม?”หลี่ฝางมองไปที่ส้าวส้วย ถามด้วยใบหน้ากังวล

หลี่ฝางหวังมากว่าตัวเองจะประสาทหลอน ตัวเองตาฝาดมองผิด……

แต่แม้แต่ส้าวส้วยก็เห็น งั้นก็หมายความว่า ……

เวลานี้ ในใจของหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความผิดหวัง

“ใช่”ส้าวส้วยเงียบอยู่นาน จึงพยักหน้าไปที่หลี่ฝาง

“เหอะเหอะ”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ ถามต่อ:“ผู้ชายคนนั้นโอบกอดลู่หลุ่ยด้วยใช่ไหม?”

“ไม่นะ……”ส้าวส้วยส่ายหน้า:“แค่ตัวแนบชิดกัน”

สีหน้าส้าวส้วยมองหลี่ฝางอย่างสับสนหน่อยๆ:“เจ้านาย อย่าเพิ่งใจร้อน คุณโทรถามลู่หลุ่ยเถอะ หรือว่าจะเป็นพี่ชายเธอไม่ก็น้องชายเธอก็ได้”

“ช่างเถอะ ไม่โทรแล้ว”

“เข้าไปเลยเถอะ”

หลี่ฝางถอนหายใจ เหมือนว่าลมหายใจนี้ ที่คาดหวังไปที่ลู่หลุ่ยทั้งหมด

เวลานี้ ไม่มีหมดแล้ว

“ห้องไหน?”หลี่ฝางถามอย่างหมดกำลัง

ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง:“เจ้านาย ตอนนี้สภาพคุณแย่มาก คุณจัดการอารมณ์ของตัวเองก่อนสิ”

“เสียงผมไม่ดังพอเหรอ?โอเค ผมถามคุณอีกครั้ง!”หลี่ฝางพูดเสียงดังขึ้น ตะโกนไป:“ส้าวส้วย ผมถามคุณว่าห้องไหน?”

“ด้านหน้าของ777”ส้าวส้วยพูดอย่างทำอะไรไม่ได้

หลี่ฝางรีบก้าวไป วิ่งไปที่ด้านหน้าของ777

หลี่ฝางไม่เคาะประตู แต่ใช้เท้าเตะไป เตะต่อไปหลายที ประตูก็ยังไม่เปิด

ทุกครั้งที่เตะไป ในใจของหลี่ฝาง ก็ตื่นตระหนก!

ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองด้านใน ก็ยังล็อกประตูข้างในอีก

พวกเขาทำไรกันแน่?

หลี่ฝางไม่อยากคิดต่อไป!

ปัง เตะไปเจ็ดแปดทีต่อ ในที่สุดประตูก็เปิดออก

เห็นหลี่ฝางบุกเข้ามา สีหน้าลู่หลุ่ยก็กลายเป็นกังวล เธอรีบยืนขึ้น มองไปที่หลี่ฝางแล้วพูดพึมพำเบาๆ:“หลี่……หลี่ฝาง คุณมาได้ไง?”

หลี่ฝางเดินไปด้านหน้า ปรากฏรอยยิ้มที่ขี้เล่นและดุร้ายออกมา:“เหอะเหอะ ผมรู้ว่าผมไม่ควรมา รบกวนเรื่องราวดีๆของคุณใช่ไหม?ไม่งั้น ผมไปรอพวกคุณข้างนอกไหมล่ะ?สิบนาทีพอไหม?ไม่พอก็ครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงก็ได้ ไม่ได้จริงๆผมก็รอพวกคุณข้างนอกทั้งชีวิตเลยได้”

เสียงของหลี่ฝางยิ่งดังขึ้น ส่วนสีหน้าของลู่หลุ่ย ก็กังวลขึ้นมา

“หลี่ฝาง คุณฟังฉันนะ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันกับเขา ……”ลู่หลุ่ยคว้าแขนของหลี่ฝาง แล้วอธิบาย

หลี่ฝางหัวเราะ หันคอไปแล้วพูด:“อย่ามาอธิบายอะไรกับผม ผมไม่ได้ตาบอด เมื่อกี๊ผมเห็นชัดเจน เขาโอบไหล่คุณเข้าไปในสโมสร ……”

“จากนั้นฉันก็สะบัดมือเขาออก”ลู่หลุ่ยตัดบทของหลี่ฝาง พูดแก้ตัวให้ตัวเอง

“เหรอ?ยังไงซะผมก็ไม่เห็น ผมว่านะลู่หลุ่ย นี่คือเหตุผลที่คุณไปจากสถานตากอากาศโดยไม่ลาสินะ?ผมคิดซะว่าเรื่องสำคัญซะอีก แม้แต่ทักทายก็ยังไม่ทักทายผม ที่แท้ก็คู่รักลับๆ”

“หน้าตาไม่เลว ดูมีมารยาทดี มีความสามารถ อืม หล่อกว่าผมเยอะเลย”

“ลู่หลุ่ย ตอนนี้ผมควรจะอวยพรคุณใช่ไหม?”หลี่ฝางฉีกยิ้ม หัวเราะ น้ำตาหลายหยดไหลลงจากตา

“พี่ชายทั้งหลาย คุณคือแฟนของลู่หลุ่ยสินะ?”คนข้างๆลู่หลุ่ย ในที่สุดก็พูด:“ทำไม คุณมาหาถึงนี่ หมายความว่าไง จะทำผมหรือว่าอะไรเหรอ?”

หลี่ฝางมองผู้ชายคนนี้ หยิบขวดเหล้ามา ตบใส่หัวเขา

ผู้ชายคนนั้นล้มลงไปที่โซฟา จับหัวของตัวเอง ลู่หลุ่ยโกรธจนนั่งลง มองหลี่ฝาง:“คุณทำอะไร!”

“ไม่ได้ทำอะไร เขาไม่ได้ถามผมเหรอว่าจะให้ตีเขาไหม?ผมก็มาตีเขาไง ทำไม คุณปวดใจ?”หลี่ฝางกัดฟันถาม

พูดจบ หลี่ฝางก็เดินเข้ามา คว้าคอเสื้อผู้ชายที่สวมเสื้อลายพราง ปล่อยหมัดไปที่หน้าเขาหลายที ลู่หลุ่ยดึงไว้ ก็ไม่สามารถหยุดหลี่ฝางได้

ตีไปประมาณหนึ่งนาที ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางก็ถูกตีจนหน้าเต็มไปด้วยเลือด

“หลี่ฝาง คุณคิดจะทำอะไรกันแน่!”ลู่หลุ่ยยืนขึ้น วิ่งเข้ามาที่หลี่ฝาง

“คุณถามผมว่าจะทำอะไร ผมก็อยากถามตัวเอง ผมอยากทำอะไร?”

“ลู่หลุ่ย คุณบอกผมได้ไหม ผมควรจะทำไง ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือว่า เดินออกไป ทำเป็นว่าผมไม่เคยรักคุณ”หลี่ฝางส่ายหัว ร้องไห้ไปถามลู่หลุ่ยไป

“หลี่ฝาง คุณก็รู้ว่าทำร้ายคน เมื่อไหร่กันที่คุณจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาบ้าง?”ลู่หลุ่ยขมวดคิ้ว พูดอย่างสงสัย

“เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด คุณใจเย็นหน่อย คุณฟังฉันอธิบายโอเคไหม?”ลู่หลุ่ยคว้ามือของหลี่ฝาง พูดไป

หลี่ฝางสะบัดมือของลู่หลุ่ย จ้องลู่หลุ่ยด้วยตาแดงๆ:“ผมเป็นผู้ใหญ่ไม่พอ รู้จักทะเลาะเบาะแว้ง ใช่ ผมมันเด็ก ผมมันโง่โอเคไหม?”

“คุณให้ผมใจเย็นฟังคุณอธิบาย เหอะเหอะ ตอนนี้ คุณให้ผมใจเย็นยังไงเหรอ?คุณหายไปสองวันนี้ มใจเย็นมาตลอด ทำไมสองวันนี้ คุณไม่อธิบายกับผมสักหน่อยล่ะ?ทำไมผมโทรหาคุณ ไม่เคยรับเลย ไม่รับสาย วีแชทก็ไม่ตอบ ทุกนาทีทุกวินาทีของผมต่างสงสัยว่าคุณจะไปทำอะไร คุณเกิดเรื่องหรือไม่ ผมเป็นห่วงคุณอยู่ คุณรู้ไหม?”

“แต่ผมกังวลตัวเองมากกว่า กังวลว่าตัวเองจะถูกทิ้ง กังวลว่าคุณจะนัดเดทกับชายอื่น ฮ่าฮ่า ผมคิดไม่ถึงเลยจริงๆ เรื่องที่ผมกังวลที่สุด จะเกิดขึ้นจริงๆแล้ว ลู่หลุ่ย คุณว่าผมตลกไหม?”

“ขอโทษ……หลี่ฝาง ขอโทษ”ลู่หลุ่ยฟังคำนี้จบ ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหล เริ่มขอโทษหลี่ฝาง

“ฉันไม่กล้าบอกคุณ ฉันกลัวว่าบอกคุณไป คุณจะไม่เห็นด้วย”

“เหอะเหอะ น่าตลกมากจริงๆ ลู่หลุ่ย ฟังคำนี้คุณแล้ว ยังคิดจะยื่นเรื่องกับผมเหรอ?ใช่แบบนี้หรือเปล่า ที่รัก ฉันจะไปเดทกับผู้ชายอื่น สองวันนี้ อย่ามารบกวนฉัน?”

หลี่ฝางโค้งตัวลง ยื่นหน้าไปที่หน้าของลู่หลุ่ย:“ใช่แบบนี้ไหม?ลู่หลุ่ย!”

ลู่หลุ่ยร้องไห้ไป ส่ายหน้าอย่างสุดชีวิต

“เหอะเหอะ ไม่ใช่แบบนี้?งั้นคุณอธิบายกับผมดีๆ ทำไมคุณปรากฏตัวที่นี่ สองวันนี้คุณไปทำอะไร?ทำไม เขาบังคับคุณเหรอ?ตอนที่ผมเข้าไป ทำไมผมเห็นคุณสองคนพูดคุยหัวเราะกินเหล้าไปร้องเพลงไปล่ะ?ลู่หลุ่ย คุณไม่ได้บอกว่าไม่ชอบร้องเพลงเหรอ?ลู่หลุ่ย คุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่ดื่มเหรอ?”

“ผมเข้าใจแล้ว ที่แท้ก็หลอกผมมาตลอด”

“ลู่หลุ่ย คุณคิดอย่างไร บอกผมได้นะ ถ้าคุณไม่ชอบผม บอกผมได้ตรงๆ ชี้ไปที่จมูกผมแล้วบอกผม‘หลี่ฝาง ฉันไม่ชอบคุณ กรุณาออกไปจากโลกของฉัน’ลู่หลุ่ย ผมไม่ใช่คางคก ที่จะพัวพันกับคุณไม่ปล่อย”

“พอเถอะ ผมกับลู่หลุ่ยไม่ได้ทำอะไรกัน คุณต้องก้าวร้าวกับคนอื่นแบบนี้เหรอ?ทำไมคุณไม่เคยร้องเพลงกับสาวคนอื่นเหรอไง?”พอผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางถามไปที่หลี่ฝางเสียงดัง ก็ยืนขึ้นมา กอดลู่หลุ่ยในอ้อมแขน

“ลู่หลุ่ย ไม่เป็นไร ก็แค่ผู้ชายจนๆไม่ใช่เหรอ?ในเมื่อเขาไม่เอาคุณ ก็ดี ผมเอาเอง”ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพลางพูดอย่างมีความสุขบนความทุกข์คนอื่น

ลู่หลุ่ยรีบปล่อยผู้ชายที่สวมเสื้อลายพราง พุ่งเข้ามา กอดหลี่ฝางไว้

“หลี่ฝาง ฉันผิดไปแล้ว คุณให้อภัยฉันสักครั้งได้ไหม ฉันไม่ได้ทำอะไรจริงๆ ฉันไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีต่อคุณ คุณเชื่อฉันโอเคไหม?”

“หลี่ฝาง คุณอย่าทิ้งฉันสิ”

ลู่หลุ่ยกอดเอวหลี่ฝาง พูดอย่างน่าสงสาร

“ปล่อยผม”

หัวใจของหลี่ฝางกำลังสั่น ในใจของหลี่ฝาง มีตำแหน่งของลู่หลุ่ยขนาดใหญ่

เป็นรักแรกที่ชายหนุ่มไม่ลืมเลือน

เห็นลู่หลุ่ยร้องไห้แบบนี้ หัวใจของหลี่ฝาง จุกเสียดมาก

หลี่ฝางอยากปล่อยมือตัวเอง กอดลู่หลุ่ย ขยี้หัวเธอ พูดว่า:ที่รัก อย่าร้องไห้

แต่ การกระทำพวกนี้ หลี่ฝางกลับทำไม่ได้

ที่รัก อย่างร้องไห้ ห้าคำนี้ หลี่ฝางกัดลิ้นตัวเอง พูดไม่ออก

“แม่เอ๊ย เด็กอย่างคุณมีอะไรดี ถึงมีค่าให้ลู่หลุ่ยตายใจไปที่คุณเช่นนี้!”

“ยอมจริงๆเลยแม่เอ๊ย!”

เช็ดเลือดที่หน้าตัวเอง ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพลางพูดว่า:“ผมตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยถูกใครทำร้ายแบบนี้!”

“คุณอยากตายใช่ไหม!”ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางหยิบโทรศัพท์มา เรียกคน

“ลู่หลุ่ย ปล่อยผม!”หลี่ฝางพูดอีกครั้ง

ลู่หลุ่ยได้ยินคำนี้ ไม่ใช่แค่ไม่ปล่อย แต่ยังกอดหลี่ฝางแน่นขึ้น

“หลี่ฝาง คุณอย่าไปจากฉันได้ไหม”ลู่หลุ่ยกอดหลี่ฝางแน่นๆ ร้องไห้ไปพูดไป

คำว่าได้ กดทับไปที่ใจของหลี่ฝาง ติดอยู่ที่คอเขา

หลี่ฝางไม่พูดอะไร ดันลู่หลุ่ยออกไปทันที ล้มลงไปที่โซฟา

จากนั้น หลี่ฝางก็กระโดดขึ้นมา เตะไปที่ท้องผู้ชายที่สวมเสื้อลายพราง ทำเขาล้มลงพื้น

“ทำไม คุณเจ๋งมากเหรอ?”

หลี่ฝางวิ่งเข้ามา คว้าคอเสื้อผู้ชายที่สวมเสื้อลายพราง ถามว่า:“คุณคือคุณชายตระกูลไหน พูดมาให้ผมฟัง!”

“เหอะเหอะ ผมกลัวว่าพูดแล้วคุณจะตกใจ!”

“ช่างเถอะ ผมไม่บอกคุณแล้วว่าผมคือใคร ยังไงซะเดี๋ยวคนของผมก็ถึงแล้ว”

“ไม่ใช่ว่าคุณจะทำร้ายผมเหรอ?มาสิ ทำเลย คุณต่อยผมสักหมัด ผมเอาคืนสิบหมัดแน่ นอกจากคุณจะเอาผมตาย ไม่งั้น ผมจะเอาให้คุณตายซะยังดีกว่ามีชีวิตอยู่!”ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพลางพูดขำๆอย่างเย็นชา

“เหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ ปล่อยผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางออก มาตรงหน้าส้าวส้วย

“ทำไม กลัวเหรอ?ไม่กล้าทำ?ความสามารถแค่นี้?ที่เจ๋งๆเมื่อกี๊ล่ะ?”

“แม่เอีย ผมคิดว่าจะเป็นคนโหดซะนี่ ที่แท้ก็คนขี้ขลาด!”ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพลางพูดดูถูก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท