NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 369

ตอนที่ 369

บทที่ 369 พวกเราเลิกกันเถอะ

เมื่อได้ยินชื่อของเฉินเสี้ยว สีหน้าขอหลี่ฝางที่เคยเย็นชา ก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายทันที ทันใดนั้นหลี่ฝาง ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และโมโหจนตัวสั่น: “เธอเรียกหาเฉินเสี้ยว?”

“ฉัน……” ลู่หลุ่ยตกใจหมด ตกใจจนสะดุ้ง จนพูดไม่จบประโยค

“ฉัน……กลัวว่าเฉียนเฟิงจะทำร้ายฉัน ดังนั้นจึงเรียกหาเฉินเสี้ยว”

“หลี่ฝาง นายอย่าโกรธเลยนะ นายฟังฉันอธิบายให้จบก่อนได้มั้ย?” สีหน้าของลู่หลุ่ยดูร้อนรน

หลี่ฝางโมโหจนกัดฟันกรอด: “ฉันล่ะยอมใจเธอเลยจริงๆ พับผ่าสิ เธอไม่ใช่แค่แอบนัดเดทส่วนตัวกับเฉียนเฟิง เธอยังนัดเฉินเสี้ยวด้วย ดีนี่ หน้าหนึ่งหลังหนึ่ง เธอสวมเขาให้ฉันตั้งสองครั้ง ตอนนี้ยังมาบอกฉันว่าอย่าโกรธ……”

“ลู่หลุ่ย เธอเห็นฉันเป็นอะไร? สัตว์เลือดเย็น ไร้ความรู้สึกเหรอ!” หลี่ฝางตะคอกใส่ลู่หลุ่ย

“เอาล่ะ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น เธออยากจะไปกับใครก็เรื่องของเธอ เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันเข้าไปยุ่งได้ด้วยเหรอ? เชี่ยเอ๊ย!”

หลี่ฝางด่าออกมาเสียงดัง พอด่าเสร็จในใจก็รู้สึกปวด ปวดจิ๊ดๆ แบบอธิบายไม่ถูก

ในตอนนั้น หลี่ฝางก็หันหลัง แล้วเดินออกไปนอกห้องพักผู้ป่วย ลู่หลุ่ยที่อยู่ด้านหลังตะโกนเรียกเขา แต่หลี่ฝางกลับทำเป็นไม่ได้ยิน

ลู่หลุ่ยลงจากเตียงผู้ป่วย แล้วตามเขาไป แต่ยังไม่ทันได้ตามหลี่ฝางไปทัน

หลี่ฝางก็วิ่งขึ้นไปในรถ และก็บิดกุญแจสตาร์ทรถ จากนั้นก็เคลื่อนรถออกไปแล้ว

จากกระจกรถ หลี่ฝางก็เห็นลู่หลุ่ยวิ่งตามมาอย่างบ้าคลั่ง ตอนแรก หลี่ฝางขับรถไม่ได้เร็วนัก และลู่หลุ่ยก็วิ่งเร็ว

แต่จู่ๆ ลู่หลุ่ยกลับสะดุดล้มลง

หลังจากหลี่ฝางเห็น ในใจก็ลังเล เขาไม่รู้ว่าควรหยุดรถแล้วลงไปช่วยพยุงเธอ หรือว่าจะทำเป็นมองไม่เห็น

แต่เมื่อนึกถึงเฉินเสี้ยวกับเฉียนเฟิง ศัตรูหัวใจสองคนนั้นของตน แม่งเอ๊ย หลี่ฝางก็เหยียบคันเร่ง แล้วเพิ่มความเร็ว แล้วหายไปจากสายตาของลู่หลุ่ย

“กลับไปเถอะ หล่อนหกล้มแล้วนะ”

หลินชิงชิงที่นั่งอยู่ด้านหลังพูดขึ้น: “ถ้าหล่อนไม่รักนาย หล่อนคงไม่ทำแบบนี้”

“นายก็รักหล่อน ไม่ใช่หรือไง?”

“มองดูผู้หญิงที่ตัวเองล้ม แล้วจากไปแบบแม้แต่หัวยังไม่หันกลับมามองแบบนี้ พูดตามตรง มันไม่ได้ดูดีเลยสักนิด แถมยังทำให้ฉันดูแคลนนายอีกด้วย”

หลินชิงชิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “กลับรถเถอะ”

หลี่ฝางอืมใส่ ใจของเขา ก็อ่อนเหมือนกัน

ถึงแม้จะไม่มีคำพูดประโยคนี้ของหลินชิงชิง เขาก็คงจะกลับรถอยู่ดี

“แม่งเอ๊ย คิดซะว่าชาติที่แล้วติดหนี้หล่อนไว้” หลี่ฝางสบถออกมา จากนั้นก็เลี้ยวรถ กลับไป

เมื่อกลับไป ลู่หลุ่ยกับยังคงล้มอยู่ที่พื้น

หลี่ฝางเปิดประตูรถ และเดินลงไปพยุงลู่หลุ่ยขึ้นมา

“เธอโง่หรือไง? โตป่านนี้แล้ว หกล้มยังไม่รู้จักลุกขึ้น?” หลี่ฝางมองลู่หลุ่ย และพูดอย่างเอือมระอา

ลู่หลุ่ยยังพูดไม่จบ แต่แค่ตอนที่หลี่ฝางพยุงเธอกลับไป หัวเข่าเธอก็ถลอก

เมื่อหลี่ฝางเห็น ในใจก็เริ่มร้อนรน

ถ้าให้บอกว่าหลี่ฝางไม่เป็นห่วง คงจะโกหก

เมื่อพยุงลู่หลุ่ยมาถึงเตียงผู้ป่วย ขณะที่หลี่ฝางก็กำลังจะหันหลังเดินไป ลู่หลุ่ยก็พูดขึ้น: “นายจะให้ฉันวิ่งตามนายอีกรอบเหรอ?”

หลี่ฝางก็ไม่ได้โง่ ที่ลู่หลุ่ยพูดหมายความได้ชัดเจนว่า ถ้าตนยังเดินหนีอีก เธอก็จะตามไปอีก

หลี่ฝางนั่งลงบนเก้าอี้ และก็สงบจิตใจและอารมณ์ของตนเอง แล้วพูด: “เธอโง่เหรอ? คำเพ้อเจ้อพวกนั้นเธอก็เชื่อ หน้าตาเหมือนรักแรกอะไรนั่น? ทำไม เธอมีพี่สาวฝาแฝดหรือไง? มุขจีบหญิงนี่ ก็เก่าแก่ไปนะ?”

“เฉียนเฟิงนั่นยอมเปย์เงินให้เธอเป็นล้าน เห็นได้ชัดว่ามันมีเจตนาแอบแฝง”

หลี่ฝางพูดสีหน้าเข้ม: “แล้วก็เฉินเสี้ยว แม่งเอ๊ย อันนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย”

ในใจของหลี่ฝางเอือมระอา ลู่หลุ่ยบ้าไปแล้วเหรอ หาใครไม่หา ไปเรียกเฉินเสี้ยวให้มาช่วย?

“ฉันไม่มีใครให้เลือก เลือกได้แต่เฉินเสี้ยว”

“ถ้าหากเฉียนเฟิงล่วงเกินฉันขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ เฉินเสี้ยวก็จะพาคนเข้ามาช่วยฉัน……” ลู่หลุ่ยพูด

“อย่างมันเหนี่ยนะ? เหอะๆ มันจะไปช่วยเธอได้ยังไง?” หลี่ฝางไม่ได้ดูถูกเฉินเสี้ยว แต่เมื่อเอาเฉินเสี้ยวไปเทียบกับเฉียนเฟิง มันเทียบไม่ได้เลยสักนิด

“เฉินเสี้ยวไม่ได้มาคนเดียว ยังมีพี่ชายของเขา เป็นลูกพี่ย่านนี้”

“เหอๆ ลูกพี่? เฉียนเฟิงขยับหน่อยก็กี่ล้านแล้ว คนแบบนี้ จะกลัวพวกนักเลงหรือไง? เธอคิดว่า ลูกกระจ๊อกพวกนั้นเห็นเฉียนเฟิง แล้วจะกล้าทำอะไรเขามั้ย?”

“ให้พูด นักเลงพวกนั้น เห็นเงินเป็นพระเจ้า แค่เฉียนเฟิงให้เงินพวกมันนิดหน่อย พวกมันจะสนเหรอว่าเธอจะอยู่หรือตาย?”

“ฉันไม่รู้จะว่าเธอยังไงดี ทำไมเธอถึงไม่บอกฉัน?” หลี่ฝางพูดอย่างโมโห

หลี่ฝางคือคนที่สามารถปกป้องลู่หลุ่ยได้ อีกอย่าง หลี่ฝางก็หวังว่า เมื่อลู่หลุ่ยมีปัญหา หรือในเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ คนที่นึกถึงเป็นคนแรก ก็คือตน ไม่ใช่คนอื่น

ถึงแม้จะเป็นคนอื่น ก็ไม่ควรจะเป็นเฉินเสี้ยว

เฉินเสี้ยวเป็นใคร มันคือศัตรูหัวใจของหลี่ฝาง เป็นหนึ่งในคนที่หลี่ฝางเกลียด

ไปขอให้เขาช่วย หลี่ฝางจะไปเป็นบ้าได้ยังไง?

“ฉันไม่อยากบอกนาย ฉันคิดว่านายจะไม่รู้ และจะจับไม่ได้ ใครจะไปรู้ ว่าจะไปบังเอิญเจอนาย”

ลู่หลุ่ยพูด พลางหัวเราะเหอๆ : “นี่ชีวิต? พวกเราถูกกำหนดให้ไม่มีชะตาร่วมกันเหรอ?”

“หลี่ฝาง ฉันกับเฉินเสี้ยวตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน อีกอย่างเฉินเสี้ยวก็มีแฟนแล้ว ส่วนเฉียนเฟิงนั่น ก็แค่ทางผ่าน เขาช่วยฉัน ฉันก็เที่ยวเป็นเพื่อนเขาสองวัน ก็แค่นั้น ระหว่างพวกเราไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย แม้แต่จับมือ ฉันไม่ได้นอกใจ นอกกายก็ไม่มี ฉันกล้าสาบานเลย ฉันลู่หลุ่ยไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต่อนายเลย”

ลู่หลุ่ยชูสามนิ้ว ทำท่าสาบาน

คำพวกนี้ หลี่ฝางยังคงเชื่อ

หลี่ฝางส่ายหน้า: “ให้ฉันใจเย็นลงก่อนเถอะนะ ที่จริง เธอควรจะบอกฉัน ฉันมีไม่น้อยไปกว่าเฉียนเฟิง เธอบอกฉัน อย่างมากฉันก็คืนเงินนั่นให้มันไป เธอจะเป็นต้องไปเที่ยวกับเขาด้วยเหรอ?”

“ฉันบอกเธอตามตรงนะ ใจของฉันมันมีช่องว่างแล้ว ตอนนี้เมื่อฉันคิดถึงว่าเธอกับผู้ชายอีกคน แอบไปเดทลับหลังฉันสองวัน ฉันก็อยากจะฆ่าไอ้เฉียนเฟิงนั่นจริงๆ”

หลี่ฝางไม่ได้งี่เง่าเรื่องที่ลู่หลุ่ยเอาตัวเข้ามาบังกระสุนแทนเฉียนเฟิง

ที่ลู่หลุ่ยเข้าไปรับแทน ไม่ใช่เพราะว่าเฉียนเฟิง แต่เป็นเพราะหลี่ฝาง เธอกลัวว่าหลี่ฝางจะยิงคนตาย ถ้าเป็นอย่างนั้น หลี่ฝางก็จะกลายเป็นฆาตกร

ดังนั้น ลู่หลุ่ยยอมเข้าไปรับกระสุน ดีกว่าเห็นหลี่ฝางอนาคตดับ

ตอนแรกหลี่ฝางโมโห แต่เมื่อหลังจากใจเย็นลง หลี่ฝางก็เข้าใจได้ คนที่ลู่หลุ่ยรัก นั่นก็คือตนจริงๆ

“ขอโทษ ขอโทษนะ”

“ฉันแค่อยากจะคืนเงินนายไวๆ ฉันไม่อยากติดหนี้นาย วันสุดท้าย ฉันก็ไม่คิดว่านายจะเข้ามาในห้องไลฟ์ แถมยังให้ของขวัญแข่งกับเฉียนเฟิงอีกตั้งเยอะ”

“ลู่หลุ่ย……พวกเราเลิกกันเถอะ” จู่ๆ หลี่ฝางก็อดกลั้นและพูดอย่างเจ็บปวด: “บางทีในใจของเธอ ไม่เคยเห็นว่าฉันเป็นแฟนของเธอเลย”

“จะเป็นไปได้ยังไง? ฉันจะไม่เห็นว่านายเป็นแฟนของฉันได้ยังไง? ฉันชอบนาย เรื่องนี้ ฉันมั่นใจ คืนนั้นที่นายไม่รับวิดีโอคอล ฉันกลัวและกังวลทั้งคืน เมื่อฟ้าสว่าง ฉันจึงเรียกรถแท็กซี่กับเหมิงเหมิง ไปหานายที่บ้านพักตากอากาศ” ลู่หลุ่ยพูดอย่างร้อนรน

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ฉันไม่ได้บอกว่าเธอไม่ชอบฉัน ฉันแค่บอกว่า เธอไม่เห็นฉันเป็นแฟน ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เธอเห็นฉันเป็นแค่คนนอก”

“ฉันใช้หนี้แทนตระกูลเธอ พ่อเธอเข้าใจฉันผิด ฉันก็พูดอะไรไม่ได้ บางทีฉันอาจจะทำผิดไปจริงๆ แต่เธอก็เข้าใจฉันผิด ฉันรับไม่ได้”

“เธอลำบาก ฉันในฐานะที่เป็นแฟนของเธอ ไม่ควรช่วยเธองั้นเหรอ? ช่วยเธอฉันผิดเหรอ? เรื่องนั้นทำให้เธอต้องแยกจากฉันนานขนาดนี้เลยเหรอ?”

“เธอไม่ลังเลที่จะให้เงินคนอื่นมาคืนฉัน ก็เพื่อที่จะไม่ติดหนี้ฉัน? เหอๆ ฉันไม่เข้าใจ ระหว่างคนรัก จำเป็นจะต้องคิดให้มันละเอียดขนาดนั้นมั้ย?”

“เพราะเหตุนี้ เธอยังไม่ลังเลที่จะถวายตัว ไปเดทกับผู้ชายคนอื่น? ถ้าหากเธอถูกไอ้เฉียนเฟิงมัน……”

หลี่ฝางพูดไปพูดมา ก็กัดฟันกรอด: “ถ้าหากเธอถูกเฉียนเฟิงทำอย่างว่า……งั้นฉันควรทำยังไง?”

“หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี้ เธอไม่เคยคิดเลยใช่มั้ย? ไม่กลัวเลยใช่มั้ย?”

“เธอยังเข้าห้องส่วนตัวกับเฉียนเฟิงสองต่อสอง กินเหล้ากับมัน ใจเธอใหญ่แค่ไหนกัน ถึงได้ไว้ใจมันขนาดนี้?” หลี่ฝางพูดจบ ก็จ้องลู่หลุ่ยด้วยตาแดงก่ำ

“เอาล่ะ ฉันไปและ เธอไม่ต้องตามมา” หลี่ฝางยืนขึ้น และเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท