บทที่386 ใส่ร้ายหลี่ฝาง
สิ้นเสียงร้องของหลี่ฝาง ความโมโหที่หยูเถิงระงับไว้ ก็พุ่งขึ้นทันที
“ไอ้สัตว์นี่ ไม่จบใช่ไหม?”
เห็นหลี่ฝางเข้ามายั่วยุ ถังจิ้นขมวดคิ้วทันที ยื่นมือไปผลักหลี่ฝาง
เมื่อกี๊หลี่ฝางเรียกได้ว่าแยบยลมาก ถือว่ายืมมือของฉินวี่เฟย ตบเข้าหยูเถิงแรงๆไปฉาดหนึ่ง
หยูเถิงในตอนนี้ถือว่าถูกหักหน้าสุดๆ ขายขี้หน้าขายไปถึงตระกูล
ตอนนี้หลี่ฝางเดินขึ้นไปอีกครั้ง ไปที่หน้าหยูเถิง บอกว่าเขาเป็นขยะ
นี่ไม่ใช่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหรอ?
ถ้าเป็นคนทั่วไป ก็น่าจะทนไม่ไหว แล้วนับประสาอะไรกับคุณชายแห่งตระกูลหยู?
หยูเถิงที่เพิ่งได้รับตำแหน่งหัวหน้าห้องไป เรียกได้ว่าเพิ่งเป็นหัวหน้าห้องคนใหม่ที่เห่อกันอยู่นั้น ของใหม่ที่เห่อนี้ยังไม่ทันไร ก็ถูกหลี่ฝางตบหน้า ทำลายหมด
ความสง่าผ่าเผยของห้องที่หยูเถิงเป็นนั้น ได้รับความสูญเสียอย่างมาก
ถ้าให้หลี่ฝางเหยียบย่ำอีกครั้ง งั้นหัวหน้าห้องนี้ หยูเถิงก็อย่าเป็นอีกเลย จะมีหน้าเป็นอีกได้ไง?
หยูเถิงยืนขึ้นทันที เขามองหลี่ฝาง ใบหน้าดุร้าย:“คุณคิดว่าเป็นใคร กล้าว่าผมว่าขยะเหรอ?”
“ถังจิ้น จัดการเขาให้ผม!”
หยูเถิงชี้ไปที่จมูกหลี่ฝาง สั่งถังจิ้น
ถังจิ้นพยักหน้า รีบปล่อยหมัดไปที่หลี่ฝาง
ทำให้หลี่ฝางพอการถังจิ้นไม่กล้า แต่ถ้าต่อยหลี่ฝางสักหมัด ถังจิ้นนั้นกล้า
ถังจิ้นยกหมัดเข้าไป กลับไม่คิดว่าหลี่ฝางจะปล่อยหมัดมาก่อน ยกเท้าขึ้นมา กันถังจิ้นไว้ แล้วเตะออกไป
“ห่า!”
ถังจิ้นถูกเตะ ก็ล้มลงไปที่พื้น
หมัดเท้าของหลี่ฝางนี้ ถือว่าโหดพอควร ถีบเข้าใส่ของรักของสำคัญของถังจิ้น
พวกลูกน้องกลุ่มนั้นของถังจิ้น รีบวิ่งเข้ามา ล้อมรอบหลี่ฝางไว้
ตอนนี้เอง อาจารย์ก็เข้ามา
โทรศัพท์ในมือหลี่ฝาง ไม่ได้โทรไป
“ทำอะไรเนี่ย!”
อาจารย์มองหลี่ฝางกับถังจิ้น แล้วถาม
หลี่ฝางคิดว่าถังจิ้นจะฟ้องอาจารย์ แต่ใครจะไปคิดว่า ถังจิ้นได้แต่ยืนขึ้นมา ฉีกยิ้มนิดๆให้กับอาจารย์:“อาจารย์ครับ ของผมหล่น ผมเก็บของเฉยๆ”
ใบหน้าถังจิ้น ยังคงเจ็บปวด
เขาจับเป้ากางเกง กลับไปที่นั่งตัวเอง จากนั้นก็ฟุบลงที่โต๊ะ หน้าตะแคงข้างมา จ้องหลี่ฝาง ปรากฏสายตาสุดแค้น
หลี่ฝางรู้ว่า ถังจิ้นนี้อยากทำร้ายตัวเองส่วนตัว
ถังจิ้นคือนักเลง ที่เขาพูดถึงนั้น คือกำปั้นตัวเอง
สำหรับพวกเขาแล้ว เกิดเรื่องไปแจ้งตำรวจ ฟ้องอาจารย์ คือการกระทำที่น่าละอาย
หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูก ยื่นนิ้วกลางให้ถังจิ้น แล้วชี้ไป
ทำเอาถังจิ้นโกรธมาก เกือบจะตีกับหลี่ฝาง ต่อหน้าอาจารย์
หลี่ฝางกลับไปที่นั่งตัวเอง หวางเสี่ยวโก๋ก็เอื้อมมาที่หูหลี่ฝาง ถามเบาๆ:“นี่คุณทำอะไร ไม่ใช่ว่าไปยั่วยุเหรอ?”
“ถ้าลูกน้องของถังจิ้นมาทำคุณ จะทำไง?”
“ห้องของเรา คนเดียวที่ช่วยคุณได้ ก็คือผม คุณคิดว่าผมจะสู้กับพวกเขาจำนวนมากขนาดนั้นไหวเหรอ?”
“ผมเหงื่อแตกเพราะคุณเลยเมื่อกี๊ ทำเอาผมตกใจแทบตาย”
เมื่อกี๊หวางเสี่ยวโก๋คิดดีแล้ว ถ้าหลี่ฝางถูกทำร้าย เขาก็จะเข้าไปโดนด้วยกัน
นี่ใช่ว่ามีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้านหรือเปล่า?
หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“ผมสู้ไม่ได้ แล้วหนีไม่ได้เหรอ?แค่ผมออกจากห้องนี้ได้ พวกเขากล้าทำผมเหรอ?”
หลี่ฝางขำไปพูดไป เขาวางแผนให้ตัวเองนานแล้ว
ถ้าคนของถังจิ้นเข้ามาจัดการตัวเองพร้อมกันหมด ตัวเองก็จะหนีออกจากห้อง ไปหาส้าวส้วย
ใครจะไปคิดว่า อาจารย์มา แล้วช่วยชีวิตเขาพอดี
ตอนพักเที่ยง ส้าวส้วยมาที่หน้าห้อง
ส่วนถังจิ้น เขาพาคนวิ่งเข้ามา ล้อมรอบหลี่ฝางไว้
หลี่ฝางเห็นส้าวส้วย ความมั่นใจในใจก็มา
“ทำไม อยากทำผมเหรอ?”
หลี่ฝางยืนขึ้น ตบหน้าถังจิ้น พูดว่า:“คุณกล้าไหม?”
“ลูกพี่ ทนไว้นะ ผู้ชายหน้าประตูไม่ควรยุ่งด้วย ได้ยินว่าโหดมาก หลายวันก่อนยังทำร้ายแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจครูฝึก”
“ใช่ เขาโหดมาก คนเดียวสู้ได้ตั้งหลายคน”
“ลูกพี่ ตกอยู่ในที่นั่งลำบากก็ต้องยอม พวกเราทนไว้ก่อนดีกว่า แค่พวกเราไม่กี่คนเอง กลัวว่าพวกเราจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ชายหน้าห้องนะ”
ตอที่ฝึกทหาร ส้าวส้วยอยู่หน้าโรงอาหาร แค่คนเดียว ชนะคนตั้งหลายคน
แล้วยังสู้จนครูฝึกแพ้ตลอด
แม้แต่ตอนคาบฝึก ครูฝึกตั้งหลายคนต่างไปขอคำแนะนำจากส้าวส้วย แต่นัดสุดท้าย ต่างชนะหมด ชนะอย่างหวุดหวิด
ที่จริงคนที่มีแววหน่อยก็จะมองออก ส้าวส้วยนี้ อ่อนข้อให้
ครูฝึกทุกคนถูกต่อยจนจมูกบวมเขียวไปหมด สุดท้ายก็ชนะอย่างหวุดหวิด
ส้าวส้วยหน้าตาดีอยู่แล้ว บวกกับฝีมือเขา แป๊บเดียวจึงกลายเป็นคนมีชื่อเสียงแห่งมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่
และตอนที่เลือกเดือนของโรงเรียน ส้าวส้วยก็ยังคว้าที่หนึ่งด้วยชัยชนะที่แท้จริง
ก็แค่ส้าวส้วยเองที่ไม่รู้
ตอนนี้ ชื่อเสียงของส้าวส้วย ในสาขาเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ เป็นรองแค่ฉินวี่เฟยเท่านั้น
“เจ้านาย เกิดเรื่องอะไร คนตั้งมากมายล้อมคุณไว้”
ส้าวส้วยค่อยๆเดินเข้ามา เงยหน้าเหลือบมองถังจิ้น ถาม:“ทำไมอยากหาเรื่อง?”
สีหน้าถังจิ้นดูอึดอัด ไม่พูดอะไร
“ไสหัวไป!”ส้าวส้วยพูดด้วยเสียงเย็นชา จ้องถังจิ้นเขม็ง
ถังจิ้นขมวดคิ้ว สีหน้าบึ้งตึง:“ห่า เจ๋งมาจากไหนเหรอแม่เอ๊ย คุณรู้ไหมลุงผมคือใคร?”
“ใครเหรอ?”ส้าวส้วยถามนิ่งๆ
“ลุงผมเป็นถึงพี่ห้าวหนานที่มีชื่อเสียงแห่งยุทธภพ”ถังจิ้นหัวเราะ ใบหน้าปรากฏความพอใจ
คนพื้นเพเมืองเอก แทบจะมีไม่กี่คนที่ไม่รู้จักพี่ห้าวหนาน
ส้าวส้วยส่ายหน้า หัวเราะสบายๆ พูดว่า:“ไอ้นั่นไม่ใช่พิการไปแล้วเหรอ?”
เสียงดังแปะ ส้าวส้วยตบไปที่หน้าถังจิ้น:“เมื่อกี๊ผมให้คุณไสหัวไป คุณไม่ได้ยินเหรอ?”
“คุณ คุณกล้าตบผม?”
ถังจิ้นโกรธมาก มองส้าวส้วย:“คุณอยากตายใช่ไหม เชื่อไหมว่าผมโทรเรียกก็ยกพวกมาหลายสิบคนได้แล้ว เอาคุณให้แย่เลย?”
ถังจิ้นพูดจาคลุ้มคลั่ง:“ถึงลุงผมจะพิการ แต่เขายังไม่ตาย!”
“ดูว่าคุณจะมีความสามารถไหม”
ส้าวส้วยดูถูกมาก ฝ่ามือเมื่อกี๊ ส้าวส้วยไม่ได้ออกแรงเลย แค่ให้เขาไสหัวไป
ตบดังแปะ
ส้าวส้วยตบไปอีกครั้ง ฝ่ามือนี้ ส้าวส้วยใช้แรงไปครึ่งหนึ่ง
แต่แรงครึ่งหนึ่งนี้ ถังจิ้นถูกตบลอยไปที่พื้น
“โอเค ขู่ผมให้มันน้อยๆหน่อย อยากโทรเรียกคน ก็ทำสิ”
ส้าวส้วยหลอกตาใส่ถังจิ้นที่พื้น:“ทางที่ดีก็เรียกให้เยอะหน่อยนะ เอาให้พอที่ผมจะจัดการด้วย”
“ทำไม พวกคุณยังไม่เปิดทางให้อีก?อยากลองฝ่ามือยูไลของผมใช่ไหม?”ส้าวส้วยมองพวกลูกน้องของถังจิ้น
พวกลูกน้องถังจิ้น รีบแยกออก เปิดทางให้หลี่ฝาง
“เจ้านาย พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ”ตอนนี้เอง ส้าวส้วยพูดกับหลี่ฝาอย่างเคารพ
หลี่ฝางพยักหน้า เดินออกไปจากนอกห้องเรียน
“ห่า นี่ต่างหากที่เป็นลูกพี่!”
“ใครว่าหลี่ฝางกระจอก?ครอบครัวคนจนในห้องเรียน คุณได้ยินที่ส้าวส้วยเรียกหลี่ฝางไหม เรียกเขาว่าเจ้านาย แล้วก็ดาวโรงเรียนอย่างคุณหนูฉิน ยังขอโทษหลี่ฝาง ถ้าเขากระจอก งั้นกระจอกย่างผมก็เทียบไม่ติด”
“ใช่ หลี่ฝางทำให้คนแปลกใจจริงๆ คุณว่าเขาปิดบังตัวตนลูกคนรวยหรือเปล่า”
“ดูจากสภาพเขาแล้ว น่าจะเจ๋งจริงแต่ไม่ขี้อวด”
เวลานี้ ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ฝางอย่างแปลกหูแปลกตา
เดิมทีหยูเถิงแล้วก็ถังจิ้นที่ดูสง่างาม ก็ตกอยู่ในมือของหลี่ฝาง ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกเยาะเย้ยทันที
ถังจิ้นคลานขึ้นมา หยิบโทรศัพท์ แล้วเริ่มเรียกพวกมา
“แม่เอ๊ย กล้าทำผม ผมจะหาคนมาจัดการเขาให้น่วมจริงๆ”ถังจิ้นโทรหาพวกแก๊งลูกน้องของห้าวหนาน
ส่วนคนพวกนั้น ยังไงก็เป็นหนี้ห้าวหนาน สำหรับการขอความช่วยเหลือของถังจิ้น จึงไม่นั่งอยู่เฉยๆแน่
“โอเค ถังจิ้น วางใจเถอะ ตอนเลิกเรียนเย็นนี้ พวกเราทำได้แน่ สักยี่สิบสามสิบคนพอใช่ไหม?วางใจเถอะ จะต้องช่วยสนับสนุนคุณแน่นอน จะทำให้คุณยืนหยัดได้ที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่”
คนที่อยู่ตรงข้ามตบหน้าอกพูดรับประกัน ได้ยินคำนี้ ในใจของถังจิ้น ก็เหมือนกับกินน้ำตาล ใบหน้าที่ถูกตบนั้น ไม่เจ็บในทันที
“ถือโอกาสที่ไม่มีคน รีบๆเถอะ”หยูเถิงหยิบเงินมาหมื่นหนึ่ง ยื่นให้ตู้เฟย ให้ตู้เฟยยัดใส่กระเป๋าในเก๊ะหนังสือของหลี่ฝาง
“ผมจะดูสิว่าครั้งนี้จะเถียงยังไง”