NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 434

ตอนที่ 434

บทที่434 มู่หรงฉางเฟิงซาดิสม์

มู่หรงฉางเฟิงอยากทดสอบหลี่ฝาง ดูว่าหลี่ฝางฝึกกังฟูเป็นหรือไม่ ……

เขากำหมัด ชูกำปั้นขึ้นมาอย่างฉับพลัน เป้าหมายพุ่งไปที่หน้าของหลี่ฝาง

แต่ตอนนี้เอง ส้าวส้วยกลับเดินหน้าเข้าไปก่อน มือข้างหนึ่งหยุดการโจมตีนี้ของหรงฉางเฟิง

ส้าวส้วยยื่นมือออกไป ใช้มือจับกำปั้นของมู่หรงฉางเฟิงไว้ แล้วยิ้มให้“คุณชายมู่หรง นี่คุณจะทำอะไรเหรอ?แอบโจมตีคุณชายผมเหรอไง!”

“คุณชายของพวกเราไม่เล่นชกเตะหรอก เรื่องชกเตะเป็นคนใช้อย่างพวกเราที่เล่นต่างหาก”

ประโยคนี้ของส้าวส้วย ชัดเจนว่ากำลังว่ามู่หรงฉางเฟิงว่าเป็นคนใช้คนหนึ่ง

มู่หรงฉางเฟิงขมวดคิ้วแน่น มองส้าวส้วยอย่างเย็นชา“คุณ……”

มู่หรงฉางเฟิงพูดจบ จู่ๆส้าวส้วยก็เพิ่มแรงหมัด จนมู่หรงฉางเฟิงกัดฟันแน่น

“ในเมื่อคุณชายมู่หรงอยากเล่นชกเตะ งั้นผมเล่นกับคุณละกัน!”ส้าวส้วยหรี่ตายิ้มๆ

“คุณมันเป็นใคร!”

มู่หรงฉางเฟิงพูดจบ ก็เตะออกมา

แต่ขานี้ยกขึ้นมา ก็ถูกส้าวส้วยบล็อกไว้

“ช้าไปนะ”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ“ปล่อยหมัดขา ต้องไว!”

พูดจบ ส้าวส้วยก็ยกเท้าขึ้นอย่างไว เตะไปที่ท้องน้อยของมู่หรงฉางเฟิง

“และก็ต้องแรง!”

ส้าวส้วยพูดจบอย่างเบาๆ มู่หรงฉางเฟิงก็คุกเข่าลง อ้วกออกมา

“โอ๊ย โจมตีอย่างสุดที่จะรับได้!”

ส้าวส้วยส่ายหน้า พูดอย่างผิดหวัง“ได้ยินว่าคุณชายมู่หรงเคยฆ่าคนมากมายที่กรงแปดเหลี่ยม……ผมคิดว่าคุณจะเป็นคนโหดเสียอีก”

“ดูเหมือน พวกเขาจะกลัวตัวตนของคุณ เลยออมมือกับคุณ”

“เป็นพวกเขาที่ทำร้ายคุณ”

พอส้าวส้วยพูดจบ ก็เตะออกไปอีก เตะจนเอวของมู่หรงฉางเฟิงยืดไม่ตรง

จากนั้น ส้าวส้วยกำหมัด ต่อยไปที่หลังของมู่หรงฉางเฟิง

มู่หรงฉางเฟิง สบถออกมาแล้วคุกเข่าลงพื้น

จุดที่มู่หรงฉางเฟิงคุกเข่าลงนั้น ตรงกับจุดที่หลี่ฝางยืนอยู่พอดี

มู่หรงฉางเฟิงเงยหน้าขึ้น มองส้าวส้วย ตอนที่มีสีหน้าเจ็บปวด สายตาก็เต็มไปด้วยความตกใจ

มู่หรงฉางเฟิงไม่อยากจะเชื่อ!

เขาไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนที่มีฝีมือดีได้ขนาดนี้

สถานที่ที่ตัวเองเจอในกรงแปดเหลี่ยม ไม่เคยอ่อนให้ตัวเองเลย จุดนี้ ในใจมู่หรงฉางเฟิงรู้ดี

ถ้าอ่อนให้ล่ะก็ ผู้สืบทอดตระกูลมู่หรงคนอื่นๆจะตายที่กรงแปดเหลี่ยมได้ไงล่ะ?

น้องชายฉินเสี่ยวหู่ แล้วจะถูกตัวเองโจมตีจนโค่นล้มได้ไง?

ทักษะกังฟูของตัวเอง ไม่ใช่ว่าแค่ดูดีแต่นำไปใช้จริงไม่ได้

ก็แค่ ตัวเองเจอคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวกว่าเท่านั้นเอง

คู่ต่อสู้นี้ ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว

มู่หรงฉางเฟิงเจ็บจนเหงื่อที่ใบหน้าไหล“คุณ……คุณเป็นใครกันแน่?”

“เมื่อกี๊ไม่ได้บอกคุณแล้วเหรอ ผมก็แค่คนใช้ตัวเล็กๆเท่านั้น”

ส้าวส้วยมองบนลงมาที่มู่หรงฉางเฟิง เย้ยหยันเขา“คุณชายมู่หรง ทำไมคุณไร้ประโยชน์แบบนี้ แค่คนใช้อย่างผมก็สู้ไม่ได้ ……”

มู่หรงฉางเฟิงทำเสียงฮึดฮัด กัดฟันพูด“คนใช้?ถ้าคุณเป็นแค่คนใช้ จะรู้เรื่องราวของผมได้ไง”

“คุณจะรู้ว่ากังฟูของผมฝึกมาจากกรงแปดเหลี่ยม?”

“แค่คนคนใช้ จะรู้มากมายแบบนี้ได้ไง?”มู่หรงฉางเฟิงถามพลางจ้องส้าวส้วย

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ“คุณชายมู่หรง ผู้สืบทอดของตระกูลมู่หรงพวกคุณ เป็นแค่เตะต่อย ฝึกออกมาจากกรงแปดเหลี่ยมทั้งนั้นสินะ?”

“กรงแปดเหลี่ยม……นอกจากทำให้พวกคุณสามารถฝึกการเตะต่อยกังฟูแล้ว ก็ยังฝึกความชั่วร้ายในตัวพวกคุณด้วย ดังนั้นผู้สืบทอดของตระกูลมู่หรงของพวกคุณ แต่ละคนต่างโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่เอาด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล”

ส้าวส้วยพูดไป สีหน้าก็เย็นชา“ดูเหมือนตระกูลมู่หรงแต่ละรุ่นจะสู้รุ่นก่อนๆไม่ได้ สามปีก่อน ผมเจอคู่ต่อสู้ของตระกูลมู่หรงแต่แข็งแกร่งกว่าคุณเยอะเลย”

ได้ยินคำนี้ ทันใดนั้นมู่หรงฉางเฟิงก็ตาโตจ้องมองส้าวส้วย“คุณคือผู้ชายคนนั้นที่หนีไปเมื่อสามปีก่อน?”

ส้าวส้วยไม่ตอบ แต่มองมู่หรงฉางเฟิง“คุณชายมู่หรง คุณว่าคุณ ในฐานะที่เป็นลูกเขยที่ดีของฉินเพ่ย ทำไมต้องช่วยฉินเสี่ยวหู่ที่เป็นคนนอกด้วย?นี่คุณเห็นขี้ดีกว่าไส้หรือเปล่า?แล้วถ้าให้ฉินหยีหรันภรรยาคุณรู้ เธอจะเสียใจแค่ไหน”

เสียงตบดังเพียะ ส้าวส้วยตบมู่หรงฉางเฟิงไปหนึ่งฉาด

ฉาดนี้ ตบใส่ที่หน้ามู่หรงฉางเฟิง ตบจนเป็นรอยเลือด

“ฉาดนี้ ผมตบแทนภรรยาคุณ”

ส้าวส้วยด่า“กินบนเรือนขี้บนหลังคา”

พอด่าจบ ส้าวส้วยก็ตบใส่มู่หรงฉางเฟิงอีกฉาด

สองฉาดนี้ ตบไปที่ตำแหน่งเดียวกัน แม้แต่รอยเส้นก็ไม่เปลี่ยน

ที่ใบหน้าของมู่หรงฉางเฟิง มีเลือดซิบจางๆ

“ฉาดนี้ ผมตบแทนฉินเสี่ยวหู่”

“ถ้าไม่ใช่คุณที่ชักจูงฉินเสี่ยวหู่ ให้เขาแย่งชิงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ป กับหัวหน้าครอบครัวตระกูลฉิน เขาคงไม่ตกต่ำถึงจุดนี้”

ส้าวส้วยพูดเบาๆ

ฉินเสี่ยวหู่ที่อยู่ในรถได้ยินคำนี้ สีหน้าก็ตะลึงไปก่อน จากนั้น เขาก็เข้าใจทันที

ที่จริงหลอซ่ามีหลักฐานที่ตัวเองกระทำผิดไว้นานแล้ว ก็แค่ ไม่คิดจะจะเอาคืนเขา

ตอนนี้ สี่ตระกูลใหญ่มาหาตัวเอง เวลานี้ หลอซ่าจึงต้องเริ่มจัดการตัวเอง

หลังจากคาดเดาไปถึงความจริง ใบหน้าฉินเสี่ยวหู่ ก็ปรากฏความเสียใจ

เห้อ ถ้ารู้แบบนี้ ก็ไม่รับปากมู่หรงฉางเฟิงแล้ว

มู่หรงฉางเฟิงถูกตบไปสองฉาดติดกัน จนคุกเข่าลงที่พื้น แต่ไม่ส่งเสียงร้องออกมา จะเห็นว่าจิตใจและนิสัยนั้นสูงกว่าคนทั่วไป

“จะโทษใครได้?”

“บนโลกนี้ จะมีใครปฏิเสธอำนาจที่จุดสูงสุด แล้วก็เพลิดเพลินไปกับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งไม่รู้จบได้บ้างล่ะ?”

“ผมไปหาฉินเสี่ยวหู่ เพื่อให้โอกาสเขาขึ้นตำแหน่ง ผิดตรงไหนครับ?”

“ที่ทำลายเขาจริงๆ คือพวกคุณ”

มู่หรงฉางเฟิงชี้แจ้งความจริงให้ตัวเอง

ส้าวส้วยพูดจบ ก็พยักหน้า“คุณพูดถูก ดูเหมือนผมจะตำหนิคุณมั่วๆ”

“แบบนี้ ฉาดนี้ ก็ไม่สมควรตบ”

ส้าวส้วยส่ายหน้า มองมู่หรงฉางเฟิง“แต่ตบไปแล้วก็ตบไป คุณจะทำอะไรผม?”

“เจ้านาย คุณมีอะไรจะพูดกับผู้ชายคนนี้ไหม?”

ส้าวส้วยหันหน้ามองหลี่ฝาง

หลี่ฝางมองมู่หรงฉางเฟิงแวบหนึ่ง ลังเลสักพักจึงพูด“มู่หรงฉางเฟิง ความแค้นของเราสองคน โอกาสที่จะสู้กันต่อไปยังมีอีกเยอะ ”

“ผมแค่จะเตือนคุณ อย่าคิดอุบายให้ฉินวี่เฟย”

“ไม่อย่างนั้น ผมจะฆ่าคุณโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด”

“มู่หรงฉางเฟิง คุณน่าจะรู้ความแข็งแกร่งของตระกูลหลี่พวกเราอย่างดี ตอนแรก พวกคุณสี่ตระกูลใหญ่ร่วมมือกันจึงไล่พ่อผมออกไปจากเมืองเอกได้……หมายความว่า พวกคุณสี่ตระกูลใหญ่ร่วมมือกัน ก็คงจะแข็งแกร่งกว่าพ่อผมขึ้นมาหน่อยเท่านั้น”

“ถ้าคุณแตะต้องเส้นตายของผม ผมจะบอกพ่อผม ให้นำกองกำลังทั้งหมอ ไปทำลายแค่ตระกูลมู่หรงของคุณ”

“ถึงตอนนั้น กลัวว่าสี่ตระกูลใหญ่ จะกลายเป็นสามตระกูลใหญ่น่ะสิ?”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ พูดขู่“ถ้าคุณไม่อยากให้ตระกูลมู่หรงสูญหายไป ก็จำคำผมไว้ดีๆ”

พูดไป หลี่ฝางก็ตบไปเล็กน้อย ที่หน้าของมู่หรงฉางเฟิง

“โอเค มู่หรงฉางเฟิง ผมไปแล้ว พวกเรายังมีโอกาสเจอกันอีก ครั้งนี้ ถือว่าพวกเราเสมอกัน คุณหลอกใช้ความสัมพันธ์ของตัวเองปกป้องฉินเสี่ยวหู่ แต่กลับแพ้ในเงื้อมมือของส้าวส้วย”

“คนหนึ่งชนะหนึ่งนัด ครั้งหน้าเราค่อยมาดูว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน”

พูดจบ หลี่ฝางกับส้าวส้วยหันหน้าไปพร้อมกัน และเดินไปที่รถ

เวลานี้เอง มู่หรงฉางเฟิงก็ประคองรถ ลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบาก

ดวงตาของมู่หรงฉางเฟิง จ้องไปที่ส้าวส้วยเขม็ง

มู่หรงฉางเฟิงไม่กลัวหลี่ฝาง แต่สำหรับส้าวส้วย เกิดความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

มู่หรงฉางเฟิงรู้ว่า คนๆนี้ปล่อยไม่ได้

ถ้าไม่ทำลายเขา งั้นอนาคตคนๆนี้ก็จะเป็นอุปสรรคในการกำจัดหลอซ่า

ยื่นมือชี้ไปทางที่ส้าวส้วยอยู่ มู่หรงฉางเฟิงส่งสายตาให้ฉินเสี่ยวหู่ ที่อยู่ในรถ

ฉินเสี่ยวหู่มองส้าวส้วย ในใจรู้สึกขี้ขลาด

ฉินเสี่ยวหู่รู้ฝีมือของมู่หรงฉางเฟิง ลูกน้องหลายสิบคนของตัวเอง ต่างถูกเขาคนเดียวโค่นล้มหมด

มู่หรงฉางเฟิงคือคนฝีมือดี

แต่คนฝีมือดีเช่นนี้ อยู่ต่อหน้าส้าวส้วย กลับถูกตบตีแม้แต่แรงที่จะสู้กลับยังไม่มี

ส้าวส้วยนี้ เรียกได้ว่าเป็นคนฝีมือดีในกลุ่มคนฝีมือดีอีก

ฉินเสี่ยวหู่รู้ว่า ถ้าปืนนี้ยิงไม่โดนส้าวส้วย งั้นตัวเอง ก็จบเห่แล้ว

มู่หรงฉางเฟิงจ้องฉินเสี่ยวหู่แวบหนึ่ง ความหมายก็คือให้เขาไวหน่อย ฉินเสี่ยวหู่จึงยกปืนขึ้นมา ปากปืนเล็งไปที่ส่วนหัวของส้าวส้วย

แต่ทันใดนั้น ลูกกระสุน ก็ลอยมาไกล ยิงใส่ที่ข้อมือของฉินเสี่ยวหู่

“โอ๊ย!”

ฉินเสี่ยวหู่ร้องออกมา ปืนในมือ ก็ร่วงลงพื้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท