NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 442

ตอนที่ 442

บทที่442 ฉินวี่เฟยมึน

“ปู่คุณตายแล้ว ตระกูลฉินจะต้องมีคนยืนอยู่เป็นผู้นำเสมอ”

หลี่ฝางจับไหล่ของฉินวี่เฟย พูดว่า“ตอนนี้ทั้งเมืองเอกมีตั้งกี่คนที่คอยจับตาดูตระกูลฉินน่ะ พวกเขารอดูตระกูลฉินพังทลาย คุณจะทำให้คนพวกนี้สมหวังไม่ได้นะ”

“ฉัน……”ฉินวี่เฟยรู้สึกถึงความกดดันขนาดใหญ่

“ถึงแม้ตั้งแต่เด็กฉันจะเติบโตในครอบครัวที่ทำธุรกิจ และก็เข้าใจในการทำธุรกิจอย่างดี แต่ให้ฉันเป็นประธานกรรมการของบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ปในทันที นี่มันจะ……”

“ก็ถือว่าเล่นๆ”หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์นัก

“ด้านเงินทุนคุณไม่ต้องกังวล นายท่านฉินเสียแล้ว ต้องส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นของบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ปแน่นอน แต่ไม่เป็นไร ผมจะช่วยสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่ คุณอยากทำอะไร ก็เอามือของคุณไปลงมือทำให้ดี”

หลี่ฝางหัวเราะ พูดว่า“พ่อผมก็ทำกับผมแบบนี้ ผมบอกว่าจะทำแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด เขาก็ใช้เงินไปอย่างน้อยห้าร้อยล้านเพื่อซื้อแพลตฟอร์มถู่โต้ว”

“พวกเรายังหนุ่มยังสาว หกล้มตีลังกาสักหน่อยก็ไม่เป็นไร”

“เดิมทีผมอยากเอาทรัพย์สินพวกนี้โอนไปให้ฉินเพ่ยพ่อของคุณ แต่พอคิดๆดู ให้คุณดีกว่า”

“ยังไง นี่ก็คือความตั้งใจของพ่อคุณ”หลี่ฝางพูดขำๆ

ตอนนั้นที่นายท่านฉินเอาตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉินให้ฉินวี่เฟย จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันการแก้แค้นต่อของตระกูลหลี่

ก่อนตายนายท่านฉินมองออกว่า ในใจของหลี่ฝาง แคร์ฉินวี่เฟยมาก

ดังนั้นฉินวี่เฟยเป็นหัวหน้าครอบครัว หลี่ฝางจะต้องปกป้องตระกูลฉินแน่นอน

แบบนี้ ตระกูลฉินก็จะรักษาไว้อยู่

“หลี่ฝาง คุณรู้ไหมว่าสัญญาฉบับนี้ มีมูลค่าเท่าไหร่?”ฉินวี่เฟยถาม

หลี่ฝางส่ายหน้า“รู้ มูลค่าตลาดของตระกูลฉินน่าจะอยู่ที่ประมาณหมื่นล้าน ที่จริงแล้ว ถึงมูลค่าไม่ถึงหมื่นล้าน ก็ต้องถึงสักหกถึงเจ็ดพันล้าน สัญญาหุ้นที่เกือบ 40% ก็คือสองสามพันล้าน”

“ทั้งที่รู้ว่าสัญญานี้มีมูลค่าถึงสองสามพันล้าน คุณก็เอาคืนฉัน?”ฉินวี่เฟยตะลึงเล็กน้อย

สองสามพันล้านหยวน เท่ากับอะไรเหรอ?

เครื่องบินลำหนึ่งก็แค่ร้อยเจ็ดสิบล้าน!

แล้วนี่ซื้อเครื่องบินได้กี่ลำ

เวลานี้ ฉินวี่เฟยประทับใจหน่อยๆ เธอยังคิดว่าหลี่ฝางจะไม่รู้มูลค่าของสัญญาฉบับนี้ซะอีก

ยังไงสองสามพันล้าน ก็เอาไปสนุกกับพวกดารานางแบบได้ตั้งกี่คน?

เอาให้ตัวเองโดยไม่ว่าอะไร แล้วยังสนับสนุนเงินทุนที่ตามมาให้ตัวเองอีก

นายท่านฉินตาย พันธมิตรดั้งเดิมทั้งหลายของตระกูลฉิน กำลังอยู่ในสถานะจับตาดู

เงินกู้ที่เดิมทีทางธนาคารรับปากไว้นั้น จู่ๆก็เปลี่ยนใจกะทันหัน

อย่างที่ว่าไว้ว่าหมดอำนาจก็ไม่มีคนสนใจ ตอนนี้ ตระกูลฉินกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้

คอนเนคชั่นส่วนมาก ต่างเป็นของนายท่านฉิน

ฉินเพ่ยก็แค่รุ่นน้องเท่านั้น เขาไม่มีปฏิสัมพันธ์มากนักกับพวกคนใหญ่โต แม้กระทั่งสี่ตระกูลใหญ่ ก็เป็นนายท่านฉินที่คบค้าสมาคม

ฉินเพ่ยก็รู้จักแค่มู่หรงฉางเฟิงเท่านั้น

หลี่ฝางพยักหน้า“นั่นเดิมทีเป็นของพวกคุณอยู่แล้ว”

“คนตายไปหนี้ก็หายกัน ปู่คุณติดหนี้พวกเราตระกูลหลี่ จากการตายของเขา ก็ได้รับการชดเชยแล้ว”

หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยแล้วพูด“ผมรู้ว่าคุณยังปล่อยวความเคียดแค้นไม่ได้ในทันที แต่คุณลองคิดดูดีๆละกัน”

“ทำไมสุดท้ายปู่คุณถึงเลือกกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ให้คนขับรถอัดคลิปไว้อีก ……”

หลี่ฝางอยากโน้มน้าวให้ฉินวี่เฟยยอมแพ้กับการแก้แค้น แต่เขายังไม่ทันพูดจบ ดวงตาทั้งคู่ที่เย็นชาของฉินวี่เฟยก็เงยขึ้น“คุณจะบอกว่าการตายของคุณปู่นั้นสมควรใช่ไหม?”

หลี่ฝางส่ายหน้า“ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้น”

“งั้นคุณหมายความว่าไง?คุณพูดให้มันชัดเจนหน่อย”

ทันใดนั้นสีหน้าของฉินวี่เฟยก็หม่นลง“ก่อนหน้านี้ปู่ฉันทำอะไรผิดฉันไม่รู้หรอก แต่ถ้าเขาทำผิด พวกคุณก็สามารถเอาหลักฐานกระทำผิดของคุณปู่ฉันไปส่งให้ตำรวจได้นี่ แบบนั้น พวกเราตระกูลฉินก็จะยอมรับ”

“แต่ปู่ของฉันเป็นพลเมืองดีที่ปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด ไม่เคยทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย”

“ถึงแม้เขาจะโลภเห็นผลประโยชน์ บางครั้งก็ทำเรื่องผิดศีลธรรมไปบ้าง แต่ไม่เคยเหยียบย่ำกฎหมาย”

“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกคุณถึงทำร้ายปู่ของฉัน!”

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชา“ฉันอยากรู้มาก พวกคุณเป็นใครกันแน่?เอากฎหมายอะไร มาลงโทษปู่ของฉัน!”

เวลานี้ หลิงหลงก็พันแผลให้ฉินหมิงจนเสร็จ

คำพูดเมื่อกี๊ของฉินวี่เฟย หลิงหลงได้ยินเข้าไปในหูหมดแล้ว

เธอเดินเข้ามา มองฉินวี่เฟยอย่างเย็นชา“คุณอยากรู้จริงๆเหรอว่าปู่ของคุณทำบาปอะไรไว้?”

“คุณคิดว่าปู่ของคุณคือคนดีเหรอ?”

หลิงหลงหัวเราะเหอะเหอะอย่างเย็นชา“โอเค คุณมากับฉัน ฉันจะให้คุณดูว่าปู่คุณทำบาปอะไรไว้!”

หลิงหลงพูดจบ ก็เข้าไปในห้องเล็กๆ

ฉินวี่เฟยมองแผ่นหลังของหลิงหลงออกไป ลังเลอยู่เล็กน้อย สุดท้ายก็ก้าวเข้าไป

หลี่ฝางคิด และก็ตามเข้าไป

ยังไงหลิงหลงผู้หญิงคนนี้ ความโหดในตัวก็เยอะมาก

และอารมณ์ก็ไม่มั่นคงสุดๆ หลี่ฝางกลัวฉินวี่เฟยจะเกิดเรื่อง จึงตามเข้าไป

หลิงหลงคิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางจะเข้ามา สีหน้าเธอตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็พูดอย่างไม่แคร์“ช่างเถอะ ยังไงซะร่างของฉันก็ถูกคนจำนวนไม่น้อยเห็นหมดแล้ว”

พูดจบ หลิงหลงก็เริ่มถอดเสื้อผ้า หลี่ฝางหลับตาแน่น เดินออกไป

และฉินหมิงในตอนนี้ก็มาตรงหน้าห้อง ตอนที่เขาจะเข้ามา ก็ชนเข้ากับหลี่ฝางพอดี

“คุณอย่าเข้าไป”หลี่ฝางขวางฉินหมิงไว้

“ไม่ได้ คุณหนูจะเกิดเรื่องไม่ได้”ฉินหมิงพูดยืนหยัด จะบุกเข้าไป

“คุณคิดว่าถ้าพี่หลิงหลงฆ่าฉินวี่เฟย คุณจะห้ามอยู่เหรอ?”หลี่ฝางมองฉินหมิงอย่างเหยียดหยามเล็กน้อย

“พอเถอะ คุณเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์ รออยู่ข้างนอกดีกว่า”

หลี่ฝางก็ไม่รู้ว่าหลิงหลงจะทำอะไรกันแน่ แต่ตอนที่เขากลับตา เหมือนจะมองเห็นบางอย่าง

ด้านหลังของหลิงหลง ต่างเต็มไปด้วยรอยแผล ไม่มีความเป็นผู้หญิงเลย

หลี่ฝางคิด แล้วก็รู้สึกเวทนา

ฉินหมิงยังกังวลหน่อยๆ แต่ไม่ได้บุกเข้าไป ในมือของเขา ถือจดหมายเลือดที่เสี่ยวชิงให้เขาไว้

มองจดหมายเลือดฉบับนั้น ขอบตาของฉินหมิง ก็มีน้ำตาไหล

หลี่ฝางตบไหล่ของฉินหมิง พูดว่า“ลืมได้ก็ลืมเถอะ ยังไงเธอก็ไม่อยู่แล้ว”

ฉินหมิงไม่พูด ได้แต่น้ำตาไหล

จดหมายเลือดนั้น เขียนไว้บนผ้าขาว

หลี่ฝางเดาออกว่า จดหมายเลือดนี้ จะต้องเป็นเสี่ยวชิงเขียนตอนที่ตกอยู่ในอันตรายแน่

หลี่ฝางไม่ได้มองเนื้อหา คิดว่าแบบนั้นไม่ให้เกียรติผู้ตาย แต่หลี่ฝางมองเห็นฉินหมิงที่เป็นคุณชายร้องไห้จนสภาพเป็นแบบนี้ ก็ไม่แน่ว่าอาจจะเขียนอะไรที่ทำให้คนรู้สึกซาบซึ้งแน่

สุดท้ายฉินหมิงก็ได้แต่ใช้น้ำตามาล้างหน้า

“น้องชาย มีบุหรี่ไหม?”ทันใดนั้น ฉินหมิงก็ใช้มือเช็ดหน้า หันหน้าไปถามหลี่ฝาง

“มี”

หลี่ฝางรีบยื่นให้หนึ่งมวน แล้วก็ช่วยจุด“ดีขึ้นยัง?”

ฉินหมิงส่ายหน้า“ผมรอเสี่ยวชิงมาสามปี คิดไม่ถึงว่า กลับรอการตายของเธอ”

“ก่อนที่เธอจะตายไปคิดว่าผมเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว ที่จริง ผมอยากแต่งกับเธอมาตลอด”ฉินหมิงร้องไห้ไปพูดไป

หลี่ฝางถอนหายใจ ไม่พูดอะไร

หลี่ฝางแค่คิดว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย มองออกว่า ฉินหมิงคือคนดี ทำไมโชคชะตาของคนดีถึงล้มลุกคลุกคลานขนาดนี้

“คุณชอบคุณหนู ใช่ไหม?”สักพักหนึ่ง ทันใดนั้นฉินหมิงก็ถาม

หลี่ฝางพยักหน้า“ก็ใช่แหละ แต่ว่าในใจของผมยังมีผู้หญิงคนหนึ่ง”

ฉินหมิงได้ยินคำนี้ ก็ตะลึง เหมือนว่าตกใจหน่อยๆ

ยังไงผู้หญิงสวยอย่างไม่มีใครเทียบได้เหมือนฉินวี่เฟยนี้ มีได้ก็ไม่เลวแล้ว หลี่ฝาง กลับคิดถึงสาวคนอื่นๆ?

ฉินหมิงส่ายหน้า“คุณหนูคือผู้หญิงที่ไม่เลว ถ้าเธอให้อภัยคุณได้ ผมหวังว่าคุณจะรักษาเธอไว้ดีๆ”

หลี่ฝางพยักหน้า“อีกอย่าง เรื่องความรักนี้ ใครก็พูดไม่ได้ถูกนักหรอก”

“ผู้หญิงคนนั้นที่คุณชอบ ดีกว่าคุณหนู?”ฉินหมิงถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เหอะเหอะ ผมไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่ผมรู้จักอีกคนนานกว่า ดังนั้นเธอจึงอยู่ในใจผม โดยสำคัญมากกว่าเล็กน้อย”หลี่ฝางพูด

ฉินหมิงส่ายหน้า“คุณเอาสัญญาหลายพันล้านให้คุณหนูได้ แล้วยังยอมเอามีดแทงไปที่หน้าอกตัวเองอีก ผมว่า คุณรักคุณหนูลึกซึ้งมากพอแล้วนะ”

“แล้วคุณดันบอกว่าคุณรักผู้หญิงอีกคนรักเป็นอย่างมากด้วย หรือว่าคุณสามารถตายเพื่อผู้หญิงคนนั้นได้?”ฉินหมิงถามอย่างแปลกใจ

หลี่ฝางพยักหน้า“ก็ใช่แหละ”

หลี่ฝางกับฉินหมิงกำลังคุยกันอยู่นั้น ประตูข้างในห้องก็เปิดออก ฉินวี่เฟยออกมาจากในห้อง สีหน้าเธอตะลึง ในดวงตาไม่มีร่องรอยใดๆ ดูเหมือนจะมึนไปหมด

“คุณหนู คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”ฉินหมิงเดินเข้าไปถาม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท