NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 446

ตอนที่ 446

บทที่446 หมาทิเบตัน ช่วยผมเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อหน่อย

หลี่ฝางหันไปมองอย่างตระหนักได้ ก็เป็นหมาทิเบตันตามขึ้นมาจริงๆ

หัวใจของหลี่ฝาง สั่นทันที

แต่หลี่ฝางคิดๆดู หมาทิเบตันน่าจะไม่กล้าขนาดนั้นหรอกนะ?

ข้างกายตัวเองไม่ใช่แค่มีผู้บัญชาการตำรวจอยู่ ด้านหน้าของตระกูลฉิน ก็ยังมีคนจำนวนมากอยู่ด้วย

ถ้าหมาทิเบตันกล้าฆ่าคนในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ไม่มีกฎหมายของบ้านเมืองแล้วจริงๆ

หลี่ฝางมองหมาทิเบตันแวบหนึ่ง จึงหันไปอย่างกะทันหัน

“วางใจเถอะ มีผมคุ้มกันคุณ เขาไม่ทำอะไรแน่”หูเฟยมองความกลัวของหลี่ฝางออก จึงปลอบใจหลี่ฝาง

หลี่ฝางพยักหน้า พูด“ยังไงคุณก็มีปืน ผมจะกลัวอะไร?ใช่ไหม!”

พูดคำนี้จบ ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว

ปืน!

ทำไมถึงลืมเรื่องนี้ได้

หูเฟยมีปืน!

หมาทิเบตันก็มีปืนนี่!

“เอาปืนของคุณออกมา!”หลี่ฝางพูดเบาๆ

“เอาปืนมาทำอะไร?เขาก็ไม่กล้าทำอะไรซี้ซั้วหรอก”

หูเฟยกลับมีใบหน้าไม่แคร์“คุณกลัวอะไร มีผมอยู่ คุณวางใจเถอะ”

“ผมไปส่งคุณขึ้นรถ รอคุณขึ้นรถแล้ว คุณก็จะปลอดภัยแล้ว”

“ผมยังต้องกลับไป ยังไงผมก็เป็นตัวแทนตระกูลสวีมาที่นี่ จะไปแบบนี้ไม่ได้”

หูเฟยพูด“พวกเราตระกูลสวีกับตระกูลฉินมีการไปมาค้าสู่ของธุรกิจ นายท่านฉินจากไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าใครจะมารับต่อ”

“เห้อ คุณว่าเมืองเอกนี้ ทำไมจู่ๆก็ไม่ยุติธรรมนะ สวีส้าวชิวเพิ่งตายไม่กี่วันเอง นายท่านฉินก็กระโดดน้ำอีก เห้อ ……”

หูเฟยถอนหายใจอย่างไม่รู้ความจริง

ส่วนในใจของหลี่ฝางกลับรู้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสวีส้าวชิว หรือว่าฉินเฟิง การตายของพวกเขา ต่างเกี่ยวข้องกับตระกูลหลี่อย่างสลัดไม่ออก

แต่ความลับนี้ ไม่สามารถให้โลกภายนอกรู้ได้

ถ้าให้โลกภายนอกรู้ว่าหัวหน้าครอบครัวสองตระกูลนี้ต่างถูกตระกูลหลี่ฆ่าตาย งั้นทุกครอบครัว ก็จะหวาดกลัวตระกูลหลี่ เกิดความเป็นศัตรูกัน

สถานการณ์เช่นนี้ หลี่ฝางไม่อยากเห็น

ตามองเห็นว่าจะเดินไปถึงตรงหน้ารถแล้ว หลี่ฝางก็หยิบกุญแจออกมา เตรียมจะเปิดประตูรถ

หลี่ฝางก็ถอนหายใจในเวลานี้

แต่ตอนที่หลี่ฝางเอามือไปวางไว้ที่ประตูรถ หมาทิเบตันก็ปรากฏตัว

มือข้างหนึ่งของหมาทิเบตันจับมือของหลี่ฝาง หัวเราะหึหึ“คุณชายหลี่ ทำไมต้องรีบไปขนาดนี้ล่ะ?”

“คุณ……คุณมาอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หลี่ฝางกังวลจนเกือบจะพูดไม่ออก

หลี่ฝางกับหูเฟย ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลย

แต่หมาทิเบตัน ที่จริงตามหลังพวกเขามาอยู่

“นี่ไม่ใช่รถของคุณสินะ?ผมจำได้ว่านี่คือรถของตระกูลฉิน ทำไมคุณขับรถของคนอื่นล่ะ คุณชายหลี่?”หมาทิเบตันยื่นมือออกไป แย่งกุญแจในมือของหลี่ฝางไป

“เกี่ยวอะไรกับคุณ เอากุญแจมาคืนผม!”หลี่ฝางพูดอย่างเซ็งๆ

หูเฟยในตอนนี้ก็เอาปืนออกมา“ผู้ชายคนนี้อย่าทำอะไรมั่วๆนะ”

“เอาบัตรประชาชนมาให้ผมดู ผมสงสัยว่าคุณคือผู้ร้ายที่ต้องการตัว”หูเฟยเอาปืนจ่อไปที่หมาทิเบตัน

หมาทิเบตันหัวเราะเบาๆ“ผู้ร้ายที่ต้องการตัว?เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเป็นไปได้ไง ผมคือพลเมืองดี”

“ถึงผมจะดูโหด แต่ไม่ใช่ผู้ร้ายที่เป็นที่ต้องการตัวอะไรทั้งนั้น”

หมาทิเบตันยื่นมือออกไป หยิบบัตรประชาชนยื่นไป ตอนที่หูเฟยรับไป หลี่ฝางก็ตะโกนออกมาจากจิตใต้สำนึก“ระวัง!”

สัมผัสที่หกของหลี่ฝางบอกตัวเองว่า หมาทิเบตันจะลงมือแล้ว

เป็นอย่างที่คาดไว้ ตอนที่หูเฟยยื่นออกไปรับบัตรประชาชนนั้น หมาทิเบตันก็คว้าข้อมือของหูเฟย จากนั้นก็ออกแรงบิด

เสียงร้องโอ๊ยออกมา ออกมาจากปากของหูเฟย

ที่มุมปากของหมาทิเบตันหัวเราะ แย่งปืนไปจากมือของหูเฟย ได้อย่างง่ายดาย“หึหึ ผมว่าผู้บัญชาการตำรวจอย่างคุณนี่ไร้ความสามารถจริงๆ แม้แต่ปืนของตัวเองก็ถือไว้ไม่มั่นคง ”

“ผมถือแทนคุณเองละกัน”

หมาทิเบตันถือปืนไว้ ถือไว้ในกำมือ แต่เขาไม่ได้จะเหนี่ยวไก ก็แค่เปิดออก แล้วเอากระสุนทั้งหมดออกมา

“คุณชายหลี่ คิดไม่ถึงว่าการตอบสนองของคุณจะดีขนาดนี้”

“คุณรู้ได้ไงว่าผมจะลงมือน่ะ?”

หมาทิเบตันมองไปที่หลี่ฝาง ถามอย่างแปลกใจ

การลงมือของหมาทิเบตันนั้นไวมาก ไวจนถึงรู้ว่าเขาจะลงมือ การกระทำของคุณ ก็ยังไม่ได้สติคืนมา

“เดาน่ะ”หลี่ฝางพูดอย่างซื่อสัตย์

“คุณเดาได้ตรงมาก”

หมาทิเบตันหัวเราะเหอะเหอะ มองไปที่หลี่ฝาง พูดว่า“งั้นคุณเดาอีกครั้งสิ”

“เดาว่าผมจะฆ่าคุณไหม?”

หมาทิเบตันมองไปที่หลี่ฝาง หรี่ตาลงหัวเราะออกมา

ในสายตาของหมาทิเบตัน หลี่ฝางก็เหมือนมดอ่อนแอตัวหนึ่ง

หมาทิเบตันอยากจะขย้ำให้ตาย ก็สามารถขย้ำให้ตายได้เลย

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองไปที่หมาทิเบตัน“ผมเดาว่าคุณไม่ฆ่าผมหรอก”

“ทำไม?”หมาทิเบตันถามเบาๆ

“เพราะว่าคุณไม่โง่ขนาดนั้น ฆ่าผมไม่มีประโยชน์ใดๆกับคุณ กลับกันยังไปยั่วโมโหตระกูลหลี่ของพวกเราอีก แบบนั้น ตระกูลหลี่ก็จะไล่ฆ่าคุณ”

“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ขายชีวิตเพื่อตระกูลมู่ แต่ไม่ว่าคุณจะขายชีวิตเพื่อใคร ผมจะแนะนำคุณอย่าง รักษาชีวิตของตัวเองไว้ดีๆ”หลี่ฝางพูด

“ความหมายของคุณ ก็คือผมไม่กล้าฆ่าคุณ?”มุมปากของหมาทิเบตัน ทันใดนั้นก็เย็นชาทันที

“ไม่ใช่ไม่กล้า แต่ไม่คุ้มค่า ฆ่าผมไป นอกจากจะมีความแค้นกับพวกเราตระกูลหลี่แล้ว คุณยังจะได้อะไรอีกล่ะ?”หลี่ฝางถามย้อน

หลี่ฝางในตอนนี้ ตกใจแทบตาย แต่ยังจงใจทำนิ่งๆ

“คุณชายหลี่ คุณเดาไม่ผิด ผมไม่ได้ขายชีวิตให้ตระกูลมู่จริงๆ”

“ที่จริงแล้ว ผมไม่ได้ทำงานให้ตระกูลไหนทั้งนั้น”

“ผมมาที่เมืองเอกด้วยตัวเอง จากต่างประเทศ เป็นหมื่นกิโลเพื่อมาถึงที่นี่”

หมาทิเบตันพูดเบาๆ“จุดประสงค์ที่ผมมา ก็เพื่อแก้แค้น”

“แก้แค้น?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“ใช่ บอดี้การ์ดข้างกายคุณคนนั้น ผู้ชายคนนั้นที่ชื่อส้าวส้วย ผมเคยเป็นบอดี้การ์ดให้คนสำคัญคนหนึ่ง แต่ส้าวส้วย กลับถือเวลาที่ผมไม่ทันสังเกต ฆ่าเขาตาย”

“นี่สำหรับผมแล้ว เป็นเรื่องน่าละอายทั้งชีวิต และก็เป็นรอยด่างในชีวิตของผมด้วย”

“ดังนั้น ผมอยากฆ่าคุณ บีบให้เขาลงมือกับผม”

“หรือว่า คุณจะโทรเรียกเขามา ……”

หมาทิเบตันหรี่ตาลงแล้วหัวเราะ“คุณเรียกเขามา ผมจะฆ่าคุณต่อหน้าเขา ให้เขาได้ลิ้มลองรสชาติแห่งความแพ้พ่ายในการคุ้มครองเจ้านาย”

“ไม่ต้องหรอก ผมมาแล้ว”

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ส้าวส้วยก็ปรากฏตัวที่หน้ารถแล้ว

หลี่ฝางเห็นส้าวส้วย เดิมทีหัวใจที่หมดหวัง จู่ๆก็มีความหวังเพิ่มเข้ามา

หลี่ฝางหมดคำพูดหน่อยๆ คนฝีมือดีพวกนี้ ทำไมถึงผีเข้าผีออกกันหมด

เห็นได้ชัดว่า ส้าวส้วยมาตั้งนานแล้วแน่ๆ

ก็แค่ไม่ได้ปรากฏตัวเท่านั้น

ส้าวส้วยเดินไปทางหมาทิเบตัน มาตรงหน้าเขา

ที่จริงหมาทิเบตันสามารถใช้กังฟูในตอนที่ส้าวส้วยเดินมา ฆ่าหลี่ฝางได้

ยังไงคนอย่างหลี่ฝางที่เล่นกังฟูไม่ได้ หมาทิเบตันสามารถฆ่าได้แน่นอน

ก็แค่ เวลานี้หมาทิเบตันนั้นตะลึงงัน

เขาคิดไม่ถึงว่า ส้าวส้วยจะอยู่ตรงหน้าเขา

หมาทิเบตันไม่รู้ว่าส้าวส้วยมาเมื่อไหร่ คนฝีมือดีอย่างส้าวส้วย มาตรงหน้าหมาทิเบตัน หมาทิเบตันกลับไม่รู้สึกใดๆ

นี่มันน่ากลัวมาก

หมายความว่า ส้าวส้วยสามารถแอบโจมตีหมาทิเบตันได้ตลอดเวลา ถือโอกาสที่หมาทิเบตันไม่ทันสังเกต

ดังนั้นเวลานี้ ที่ใบหน้าของหมาทิเบตัน ก็ปรากฏความกังวล

“ลูกพี่ไม่ให้ผมแตะต้องคุณ”

ส้าวส้วยมองไปที่หมาทิเบตัน พูดว่า“ไม่อย่างนั้น ผมก็จัดการไปนานแล้ว”

“หมาทิเบตัน คุณคือคู่ต่อสู้ที่ฝีมือไม่เลว”

ส้าวส้วยหยิบบุหรี่ออก ยื่นให้หมาทิเบตัน“ตั้งแต่กลับมา ที่ผมเจอล้วนแต่เป็นพวกขยะ ไม่มีใครเคยให้ผมจัดการดีๆสักคน”

“ช่วยผมหน่อย ให้ผมได้เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อดีๆ ได้ไหม?”

ส้าวส้วยเลิกคิ้วใส่หมาทิเบตัน ด้วยท่าทางนิ่งๆ

หมาทิเบตันไม่ได้รับบุหรี่ในมือของส้าวส้วย แต่มองเขาด้วยใบหน้าซีเรียส“คุณ……น่ากลัวเหมือนที่เล่ากันมา”

เวลานี้หมาทิเบตันเสียใจเล็กน้อย

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงคุ้มกันเจ้านายอย่างแพ้พ่าย

คนอย่างส้าวส้วยนี้ เขาเอาไม่อยู่โดยสิ้นเชิง ดีที่ส้าวส้วยถือโอกาสตอนที่หมาทิเบตันไม่สังเกตแล้วแอบโจมตีเจ้านายเขา

นี่ถ้าหากหมาทิเบตันอยู่ในตอนที่ส้าวส้วยลงมือ เกรงว่าหมาทิเบตันคงเสียชีวิตไปนานแล้ว

เวลานี้ ทันใดนั้นหมาทิเบตันก็ตระหนักได้ ส้าวส้วยตรงหน้าคนนี้ ฝีมือไกลเกินตัวเองมาก

“ทำไม กลัวเหรอ?”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ มองที่หมาทิเบตันแล้วหัวเราะ“เมื่อกี๊คุณไม่ได้บอกเหรอว่าจะฆ่าเจ้านายของผม ต่อหน้าผมน่ะ?”

“มาสิ คุณฆ่าให้ผมดู”

พูดไป ส้าวส้วยก็จุดบุหรี่ให้ตัวเอง

วินาทีที่ส้าวส้วยจุดบุหรี่นั้น หมาทิเบตันก็ลงมือ

หมาทิเบตันคิดว่า นี่คือโอกาสแอบโจมตีเพียงอย่างเดียวของเขา

และมุมปากของส้าวส้วย ก็ปรากฏรอยยิ้มที่ขี้เล่น

เวลานี้ ส้าวส้วยรอมานานมากแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท