บทที่447 โหจื่อก็มาแล้ว
ส้าวส้วยถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลบการโจมตีของหมาทิเบตัน
“แอบโจมตี?”
ส้าวส้วยมองหมาทิเบตัน แล้วหัวเราะเหอะเหอะออกมา“คุณนี่มันขายขี้หน้าจริงๆ”
“พูดตรงๆนะ ตอนแรกที่เห็นข้อมูลของคุณ ผมยังคิดว่าคุณคือคู่ต่อสู้แน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณมาจากสำนักหยิ่งซา องค์กรลอบสังหารอันดับ 1 ของโลกนี้ ก็ยิ่งทำให้ผมหวาดกลัว”
“ชื่อของหมาทิเบตัน ในแวดวงทหารรับจ้าง ก็ดังพอนี่”
“ก็แค่……”
ส้าวส้วยจุดบุหรี่ แล้วสูดเข้าไปหนึ่งที“ก็แค่ลักษณะท่าทางก็ไม่เท่าไหร่ ทำอะไรลับหลังเล็กๆน้อยๆ อย่างเทคนิคการแอบโจมตีนี้”
สีหน้าหมาทิเบตันหม่นลง ได้ยินคำนี้ของส้าวส้วย เขาก็โกรธอย่างชัดเจน
“ทำให้สำนักหยิ่งซาเสียหน้าจริงๆ”ส้าวส้วยหัวเราะในลำคอ พูดอย่างดูถูก
หมาทิเบตันหรี่ตา ยื่นแขนออกไป
เหมือนกับข้อต่ออักเสบอย่างรุนแรง เสียงฉีกขาด ก็ดังออกมาจากตัวของหมาทิเบตัน
หมาทิเบตันหัวเราะอย่างเย็นชา พูดว่า“ลักษณะท่าทางของผมไม่ต้องให้คุณมาวิจารณ์หรอก”
หลี่ฝางคิดว่า หมาทิเบตันใจแคบเล็กน้อย
ส้าวส้วยก็แค่ฆ่าเจ้านายคนหนึ่งของหมาทิเบตัน ก็ทำให้หมาทิเบตันทำเสียหน้าที่ไปครั้งหนึ่งเลยเหรอไง?
ถึงกับต้องจากต่างประเทศระยะทางกว่าหมื่นโลมาที่เมืองเอก เพื่อมาแก้แค้นเลยเหรอ?
หลี่ฝางไม่รู้ว่าเคสที่ล้มเหลวครั้งหนึ่งสำหรับทหารรับแล้วจ้างสำคัญแค่ไหน
ล้มเหลวไปครั้งหนึ่ง พอที่จะทำให้หมาทิเบตันไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกต่อไป
จนตอนนี้ ไม่มีคนใหญ่โตมาหาหมาทิเบตัน ให้หมาทิเบตันมาเป็นบอดี้การ์ดของตัวเอง
ส่วนคนธรรมดาไม่ใหญ่โตพวกนั้น กลับเลือกหมาทิเบตัน
แต่หมาทิเบตันไม่สนใจพวกเขา เงินน้อยไม่พูดถึง แต่ที่สำคัญคือการลดมาตรฐานของตัวเอง
หมาทิเบตันเป็นคนมีชื่อเสียงในแวดวงทหารรับจ้างที่สง่างาม ไปคุ้มกันพวกบุคคลที่มีสถานะสู้ตัวเองไม่ได้เนี่ยนะ?
ล้อเล่นหรือไง?
“มาสิ อย่าให้ผมผิดหวัง”
บุหรี่ที่มุมปากของส้าวส้วยสูบหมด ก็กวักมือให้หมาทิเบตัน
มุมปากของหมาทิเบตันหัวเราะ“ได้ ผมจะสู้กับคุณ”
“แต่ ก่อนตรงนี้ ผมมีของขวัญชิ้นหนึ่งจะให้คุณ”
หมาทิเบตันพูดไป ที่หน้าเขา ก็ปรากฏรอยยิ้มที่ร้ายกาจ
เสียงพูดจบ ทันใดนั้นหมาทิเบตันก็หันหน้า มองไปที่หลี่ฝาง
ถึงหลี่ฝางจะโง่แค่ไหนก็เข้าใจทันที ของขวัญจากปากของหมาทิเบตันที่จะให้ส้าวส้วย ก็คือหัวของหลี่ฝาง
“คุณชายหลี่ ลาก่อน”
ที่ใบหน้าของหมาทิเบตัน ปรากฏรอยยิ้มที่ร้ายกาจ
หมาทิเบตันยื่นมือไป คว้าหลี่ฝางเข้ามา
เมื่อกี๊ส้าวส้วยเพื่อที่จะหลบการแอบโจมตีของหมาทิเบตัน ก็ถอยไปหลายก้าวติดกัน
ความเร็วของส้าวส้วยจะเร็วแค่ไหน กลัวว่าก็ไม่สามารถพอที่จะรีบเข้ามาช่วยหลี่ฝางไว้ได้
เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย หลี่ฝางหลับตาสนิท
ไม่รู้ว่าทำไม หลี่ฝางไม่มีความกลัวขนาดนั้น
อย่างน้อย ก็ไม่น่ากลัวเท่าหลายครั้งก่อน
น่าจะเป็นเพราะว่าทุกครั้งหลี่ฝางหนีตายได้หมด
ดังนั้นลึกไปในใจของหลี่ฝาง มักจะห้อมล้อมไปด้วยโชคอยู่ คิดว่าตัวเองพอที่จะหนีพ้นได้ทุกครั้ง
เสียงดังปังขึ้นมา
จริงๆด้วย คนที่ช่วยหลี่ฝางมาแล้ว
แต่ต้นจนจบ ใบหน้าของส้าวส้วย ก็ยังคงนิ่งสงบอยู่อย่างนั้น
รวมถึงหมาทิเบตันลงมือกับหลี่ฝางแล้ว ส้าวส้วยไม่กังวลเลย
นี่ก็คือเหตุผลที่หลี่ฝางไม่กลัว
แสงไฟ ผ่านไปตรงหน้าหลี่ฝาง
หลี่ฝางลืมตา ฝ่ามือของหมาทิเบตัน อยู่ตรงหน้าลูกตาของเขา
ด้วยระยะไม่ถึงหนึ่งนิ้ว
แค่หมาทิเบตันเดินหน้าไปนิ้วเดียว เขาก็คว้าหลี่ฝางได้แล้ว
หลี่ฝางก็จะตาย
แต่ หมาทิเบตันไม่กล้าเดินหน้าไป
ถึงแม้แค่หนึ่งมิล หมาทิเบตันก็ไม่กล้า
ผมหลายเส้น ค่อยๆร่วงลง จากหัวของหมาทิเบตัน
จอนผมของหมาทิเบตัน มีเหงื่อเย็นๆไหล
เขาหันหน้าทันที มองเห็นไม่กี่สิบเมตร ปรากฏตัวคนผอมๆคนหนึ่ง
โหจื่อมาแล้ว
ในมือของโหจื่อถือปืนทอง ภายใต้การสาดของแสงจันทร์ ก็ส่องแสงสีทองระยิบระยับ
มุมปากของโหจื่อยิ้ม เขาเดินเข้ามาทีละก้าวๆ ตาจ้องโหจื่อ
รูม่านตาของหมาทิเบตันหด
เขาไม่อยากจะเชื่อ
เขาเคยเห็นมีคนใช้ดาบตัดผมของคนอื่น แต่ไม่เคยเห็นว่ามีใครสามารถใช้ปืนไปตัดผมของคนอื่นได้!
นี่……นี่เทคนิคการใช้ปืนไปถึงขอบเขตไหนกันเนี่ย?
ถึงใช้กระสุนตัดผมได้?
หมาทิเบตันมองสายตาของโหจื่อ กลัวยิ่งกว่ามองสายตาของส้าวส้วย
ถึงจะบอกว่าโหจื่อคือศิษย์น้องของส้าวส้วย แต่โหจื่อใช้ปืน ระดับความอันตรายไม่ด้อยไปกว่าส้าวส้วย
นึกว่าจะช้า แต่กลับเร็วกว่าที่คิด
แค่พริบตาเดียว โหจื่อก็มาตรงหน้าของหมาทิเบตัน
ตอนที่ระยะห่างอยู่ไกลหมาทิเบตันไม่กี่ฝีเท้า โหจื่อก็ยกก้นขึ้น นั่งไปที่กระโปรงรถ
“ผมมาดูความคึกคัก”
ในมือของโหจื่อถือปืนทองกระบอกนั้น นั่งตรงหน้าของหมาทิเบตัน
หมาทิเบตันยังมีอารมณ์ด่ากราดด้วยคำหยาบ
คุณถือปืนมากระบอกหนึ่ง เข้ามาบอกผมว่า คุณมาดูความคึกคัก?
จะให้หมาทิเบตันลงมือยังไงล่ะ?
นี่ไม่ใช่รังแกคนเหรอ?
ถ้าโหจื่อยิงใส่หมาทิเบตันโดยฉับพลัน งั้นหมาทิเบตัน ไม่ตายเลยเหรอ?
ในใจของหมาทิเบตันด่าอย่างเย็นชาคุณจะมาดูความคึกคักแล้วจะเอาปืนมาทำไม?ทิ้งปืนแล้วค่อยดูสิ
“ลงมือสิ
โหจื่อมองหมาทิเบตัน พูดเร่งใส่“ทำไมไม่ลงมือล่ะ ไม่ใช่ว่าคุณจะดวลกับอาจารย์ผมเหรอ ทำสิ”
ตอนที่พูดไปนั้น โหจื่อก็ยังใช้มือที่ถือปืน ทำท่าทางชี้ใส่หมาทิเบตันด้วย
หมาทิเบตันขมวดคิ้ว ในที่สุดก็ทนไม่ไหว“คุณอยู่นี่แล้วผมจะลงมือยังไง?”
การพูดไม่ออกในใจของหมาทิเบตัน ตัวเองถือปืนเล็งใส่ตัวเอง แล้วตัวเองจะกล้าลงมือเหรอ?
อย่าว่าแต่อีกฝ่ายคืออาจารย์เลย ถึงไม่ใช่ พวกคุณก็เป็นพวกเดียวกัน
“นอกจากคุณจะไป”หมาทิเบตันเสนอเงื่อนไขของตัวเอง
โหจื่อหัวเราะเหอะเหอะ“ไป?”
โหจื่อไปไม่ได้ จุดประสงค์ที่เขามา นอกจากเพื่อช่วยหลี่ฝางแล้ว เขาจะดูหมาทิเบตันอีกหน่อยด้วย
ในเมื่อตัดสินใจว่าจะลงมือ งั้นก็จะให้หมาทิเบตันหนีไปไม่ได้
ส้าวส้วยไม่เคยสู้กับหมาทิเบตัน ถึงแม้ส้าวส้วยต้องมีชัยชนะแน่นอน แต่ยังไงหมาทิเบตันก็เป็นคนมีชื่อของแวดวงทหารรับจ้าง
ถึงสุดท้ายหมาทิเบตันสู้ไม่ได้ การหลบหนีก็ไม่มีปัญหาแน่นอน
แต่การอยู่ของโหจื่อ ตัดทางหนีของหมาทิเบตัน
“ทำไม หมาทิเบตันผู้สง่างาม กลัวผมด้วย?”
โหจื่อหัวเราะ พูดว่า“โอเค ในเมื่อคุณกลัวผม งั้นเรียกผมว่าพี่โหคำหนึ่ง ผมจะไป”
สีหน้าหมาทิเบตันหม่นลง ไม่อยากจะเรียกเท่าไหร่
“ช่างเถอะ ผมไม่สู้แล้ว”หมาทิเบตันส่ายหน้า มองโหจื่อแวบหนึ่งแล้วพูด
จากนั้น หมาทิเบตันก็มองส้าวส้วย แล้วพูด“ไว้วันอื่นพวกเราค่อยสู้กันเถอะ”
พูดจบ หมาทิเบตันก้าวเท้า เดินไปทางตระกูลฉิน
แต่ตอนนี้เอง จู่ๆส้าวส้วยก็เคลื่อนไหว เขาไปทางด้านหลังของหมาทิเบตัน แล้วคว้าไว้โดยตรง
หมาทิเบตันป้องกันไว้แล้ว เขาหมุนตัวทันที ยื่นมือไปตัดการคว้านี้ของส้าวส้วย
สีหน้าของหมาทิเบตัน เปลี่ยนไปหม่นลงทันที“คุณก็แอบโจมตีด้วย?”
“ในเมื่อคุณทำได้ ทำไมผมจะทำไมได้ล่ะ?”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า“ผมเหมือนกับคุณ ไม่ใช่สุภาพบุรุษอะไร”
“อย่าเดินหน้าเลย”
ส้าวส้วยเลิกคิ้วขึ้น“เดินหน้าไปอีก คนก็จะเยอะมาก”
“ก็จะไม่สะดวกให้พวกเราดวลกัน”ส้าวส้วยพูด
“ผมรู้ว่าคุณกลัวโหจื่อ แต่ผมรับประกันกับคุณ แค่คุณไม่ลงมือกับเจ้านายผม โหจื่อ ก็จะไม่เหนี่ยวไก”ส้าวส้วยพูดรับประกัน
แต่ รับประกันแบบนี้ หมาทิเบตันจะเชื่อไหม?
ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด
นี่คือการดวลถึงเป็นถึงตายเลย จะล้อเล่นอะไรกันล่ะ
คำสัญญาคำเดียว ใครจะไปเชื่อ
ถ้าโหจื่อเหนี่ยวไก งั้นหมาทิเบตันก็ตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย คำสัญญาในตอนนี้ ก็กลายเป็นแค่คำพูดเหลวไหล
“ทำไมผมต้องเชื่อคุณ?”หมาทิเบตันขมวดคิ้วพูดไป
“ใช่ ทำไมคุณต้องเชื่อผม?”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ จากนั้นก็เดินหน้าเข้าไป“ก็ถือว่าผมเป็นสุภาพบุรุษที่พูดคำไหนคำนั้นละกัน”
“และคุณก็ไม่มีตัวเลือกอื่น”
“คุณไม่ลงมือ ผมก็จะบีบบังคับให้คุณลงมือ ……อย่างน้อยตอนนี้ ผมก็ยังสัญญากับคุณ ถ้าคุณเกินหน้าไปอีก คำสัญญาของผม ก็จะกลายเป็นโมฆะ”
“ผมกับโหจื่อ จะร่วมกันลงมือ”
ส้าวส้วยหัวเราะอย่างเย็นชา หรี่ตาลง
สีหน้าของหมาทิเบตัน บูดเบี้ยว ส้าวส้วยเพิ่งพูดว่าตัวเองไม่ใช่สุภาพบุรุษอะไร แล้วตอนนี้จะให้หมาทิเบตันเห็นเขาเป็นสุภาพบุรุษที่พูดคำไหนคำนั้น!
หมาทิเบตันหมดคำพูดสุดๆ
แต่ตอนนี้หมาทิเบตันตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนอื่นช่วย เขาจะทำอะไรได้?
ตัวเองไม่มีทางถอยอย่างอื่นแล้ว
“พวกเราไปดวลกันในป่าเถอะ”หมาทิเบตันพูดจบ ก็ก้าวออกไป เข้าไปที่กลางป่า
ตอนที่เข้าไปในป่านั้น หมาทิเบตันมองโหจื่อแวบหนึ่ง พูดว่า“ถานเหินตามไปด้วยไม่ได้”
“เขาตามไปด้วย แล้วผมจะมีอารมณ์อยากจะดวลกับคุณได้ไง?”หมาทิเบตันพูดคำรามอย่างทำอะไรไม่ได้