NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 488

ตอนที่ 488

บทที่448 การดวลกันของส้าวส้วยกับหมาทิเบตัน

ดวลไป ก็ต้องหลบการเหนี่ยวไกของโหจื่อไปอย่างอกสั่นขวัญแขวนด้วยเนี่ยนะ?

แบบนั้น ตัวเองได้แพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

หมาทิเบตันรู้สึกอึดอัดใจสุดๆ จึงพูดคำขอไป“ส้าวส้วย คุณก็อยากดวลกับผมสักครั้งอย่างสง่าผ่าเผยสินะ?”

“เอ่อ……”

ส้าวส้วยลังเลเล็กน้อยแล้วจึงพูด“ผมไม่ให้ความสำคัญกับกระบวนการนัก”

“ผมสนใจผลลัพธ์มากกว่า”ส้าวส้วยหัวเราะออกมา

“พูดอีกอย่างนะ ผมที่ขาไม่ยาว เขาอยากตามมาด้วย แล้วผมจะทำไงได้?”

หมาทิเบตันที่เพิ่งเข้าไปในป่า สีหน้าก็เปลี่ยนทันที

หมาทิเบตันโมโหมาก คำพูดของส้าวส้วยนี้กำลังบอกว่า โหจื่อลงมือก็ไม่มีปัญหาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“คุณไม่ใช่อาจารย์เขาเหรอ?”

หมาทิเบตันขมวดคิ้ว เขาคิดว่าส้าวส้วยกำลังหลอกเขาอย่างเห็นได้ชัด

“โหจื่อ เอาปืนของคุณ เก็บไปก่อนไป”

ตอนนี้ส้าวส้วยจึงพูด

โหจื่อพูดอย่างไม่เต็มใจนัก“ก็ได้”

โหจื่อพูดจบ ก็เปิดประตูรถ

สีหน้าของหมาทิเบตัน เปลี่ยนไปอีกครั้ง

กุญแจถูกเขาบดขยี้ไปแล้วชัดๆ แล้วโหจื่อเปิดประตูรถได้ไง?

โหจื่อหัวเราะ มองความตะลึงของหมาทิเบตันออก จึงพูด“เมื่อก่อนผมคือขโมย”

ทักษะขโมยรถของส้าวส้วย ยังต้องเรียนจากโหจื่อ

พอเปิดประตูรถ โหจื่อก็เอาปืนทองในมือ ทิ้งไปที่นั่งคนขับในรถ

“แบบนี้ได้แล้วใช่ไหม?”

โหจื่อกางมือออกแล้วพูด

“บนตัวถานเหิน ไม่เคยพกปืนแค่กระบอกเดียว อย่ามองว่าผมหมาทิเบตันนั้นโง่”หมาทิเบตันพูดด้วยเสียงฮึดฮัด

โหจื่อส่ายหน้า ถอนหายใจ แล้วพูด“เห้อ ดูเหมือนมีชื่อเสียงมากไปไม่ใช่เรื่องดี”

“แม้แต่ปืนก็ยังซ่อนไม่อยู่”

โหจื่อหัวเราะอย่างขมขื่น หยิบออกมาอีกสองกระบอกจากตัวของตัวเอง

แต่ หมาทิเบตันยังไม่เชื่อเขา

“ผมจะค้นตัว”

หมาทิเบตันเดินไปทางโหจื่อ ใบหน้าเขาดูระวังตัว ตอนที่เดินไปก็ระมัดระวัง กลัวจู่ๆโหจื่อจะยิงใส่เขา

“ห่า คุณสงสัยในตัวผมน่ะสิ”

โหจื่อพูดอย่างโกรธๆเล็กน้อย“ผมบอกคุณให้ คนอย่างผมซื่อสัตย์มาก”

โหจื่อเพิ่งพูดจบ ในแขนเสื้อเขา ก็มีปืนกระบอกหนึ่งตกลงมา

“เหอะเหอะ ลืมไป ลืมไป”

โหจื่อหัวเราะด้วยใบหน้าอึดอัด

สีหน้าหมาทิเบตันหม่นลง มาตรงหน้าโหจื่อ“ผมไม่ได้สงสัยในตัวคุณ ผมแค่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง”

หมาทิเบตันตบๆไปที่ตัวของโหจื่อสองสามปี แล้วก็ตบเจอปืนหนึ่งกระบอก

หมาทิเบตันขมวดคิ้ว“ที่ตัวคุณมีปืนซ่อนไว้กี่กระบอกกันแน่?”

“เหอะเหอะ นี่คือปืนฉีดน้ำ ทำไม คุณลืมแล้วเหรอ?”

โหจื่อหยิบออกมา หัวเราะไปก็พูดไป“ไม่งั้น คุณลองไหมล่ะ?”

โหจื่อพูดไป ก็เอาปากกระบอกปืนไปจ่อที่หมาทิเบตัน หมาทิเบตันดูเกร็ง เกือบจะลงมือกับโหจื่อ

ดีที่โหจื่อเอาปากกระบอกปืนเล็งไปที่หัวของตัวเองทันที“ดูสิทำคุณตกใจหมด คุณเป็นถึงคนของสำนักหยิ่งซาเชียว!”

“คนของสำนักหยิ่งซานี้ ขี้ขลาดขนาดนี้เลยเหรอ?”

โหจื่อหัวเราะอย่างเหยียดหยาม ถือปืนเล็งมาที่หัวของตัวเอง เหนี่ยวไกยิงใส่

สายน้ำ ก็ยิงเข้าใส่เส้นผมของโหจื่อโดยตรง

“เห็นไหม?นี่มันปืนฉีดน้ำ!”โหจื่อพูดเบาๆ

หมาทิเบตันมองสำรวจโหจื่อหัวจรดเท้าอยู่นาน โหจื่อเริ่มทนไม่ไหวแล้ว“ห่า คุณจ้องน้องชายผมทำห่าไร ผมจะเอาปืนไปซ่อนในนั้นได้เหรอไง?”

“ช่างเถอะ เดี๋ยวผมถอดกางเกง ให้คุณดูเอง!”

โหจื่อพูดจบอย่างหมดคำพูด ก็แกะเข็มขัดของตัวเองออกโดยตรง

หมาทิเบตันจ้องโหจื่อ และก็ไม่ได้ห้าม

เป็นไปไม่ได้ที่โหจื่อจะหยุดครึ่งทาง ดูท่าทางแล้ว หมาทิเบตันคงสงสัยจริงๆว่าเขากำลังเอาปืนซ่อนไว้ในกางเกง

“ถอดสิ”

มองโหจื่อไม่ยอมถอดต่อ หมาทิเบตันก็สงสัยมากขึ้น

“แม่เอ๊ย ผมจะถอดก็ถอดให้สาวๆดู ทำไมต้องถอดให้พวกคุณชายอย่างคุณดูด้วย”โหจื่อดึงกางเกงขึ้น

และในตอนนี้ส้าวส้วยกลับเดินเข้ามา“โหจื่อ เอาปืนในกางเกงออกมาเถอะ”

หมาทิเบตันขมวดคิ้ว“ซ่อนปืนไว้จริงๆเหรอ?”

โหจื่อจึงเอามือใส่เข้าไปในกางเกงอย่างเซ็งๆ แล้วเอาปืนเล็กๆออกมา

ปืนที่ตัวโหจื่อ ล้วนแต่เป็นสั่งทำโดยเฉพาะ เป็นปืนที่ไม่เห็นบนท้องตลาด

“อาจารย์ ตอนนี้ผมช่วยคุณไม่ได้แล้ว”

โหจื่อมองส้าวส้วยอย่างทำอะไรไม่ได้ พูดว่า“เดี๋ยวต้องพึ่งตัวคุณเองแล้ว”

“อือ”

ส้าวส้วยตอบรับไปหนึ่งคำ แล้วพูด“วางใจเถอะ ผมไม่แพ้หรอก”

“ก็ไม่แน่หรอก”

หมาทิเบตันหัวเราะอย่างร้ายกาจ มองเห็นปืนของโหจื่อต่างเอาออกมาหมดแล้ว ความกังวลในใจของหมาทิเบตัน ก็ไม่มีแล้ว

ไม่มีอะไรให้ต้องห่วง หมาทิเบตันสามารถดวลกับส้าวส้วยได้ทั้งตัวและจิตใจแล้ว

“ไปเถอะ”ส้าวส้วยมองหมาทิเบตันแวบหนึ่งแล้วพูด

หมาทิเบตันพยักหน้า เริ่มลุกขึ้น

ส่วนโหจื่อก็ตามมาด้วยกัน

“ปืนในมือคุณนี้ก็เอาวางลงด้วยเถอะ”หมาทิเบตันพูดกับโหจื่อ

“แม่เอ๊ย นี่มันปืนฉีดน้ำ ปืนฉีดน้ำ?ปืนฉีดน้ำคุณก็กลัวเหรอ!”พูดไป โหจื่อก็ยิงใส่พื้น แล้วก็จริงๆด้วย ที่ออกมาคือน้ำ

“ผมเดินอยู่ในยุทธภพนี้มีกฎอยู่หนึ่งอย่าง ก็คือไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ตัวต้องพกปืนอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะเป็นปืนฉีดน้ำก็ตาม”

“ผมจะทำลายกฎของตัวเองไม่ได้”โหจื่อพูดยืนหยัด

“แม่เอ๊ยถ้าคุณไม่พอใจ ตอนนี้ผมจะกลับไปแล้วเอาปืนของผมเก็บขึ้นมา ยิงใส่คุณ”โหจื่อมองหมาทิเบตันอย่างไม่พอใจ พูดอย่างโกรธๆ

“โอเค”

หมาทิเบตันพูดอย่างดูถูก“ดูสิว่าคุณอายุมากเท่าไหร่แล้ว ทำไมยังเล่นปืนฉีดน้ำอยู่อีก!”

“เกี่ยวอะไรกับคุณ!”

ไม่นานนัก พวกเขาต่างก็มาที่กลางป่า

ค่ำคืนอันมืดสลัว ในป่านอกจากจะมีแสงจันทร์ส่องแล้ว ส่วนมากก็มืดสนิท

หลี่ฝางก็อยากไปดูการดวลกันของสุดยอดฝีมือดีในครั้งนี้ แต่หูเฟยได้รับบาดเจ็บ หลี่ฝางไม่สามารถปล่อยและไม่สนใจเขาได้

ยังไงหูเฟยก็ได้รับบาดเจ็บเพราะว่าช่วยตัวเอง

“หูเฟย ผมส่งคุณไปโรงพยาบาลละกัน”

หลี่ฝางพูดกับหูเฟยอย่างใส่ใจ“เหมือนข้อมือคุณจะหัก”

หูเฟยส่ายหน้า“ไปเถอะ พวกเราก็ไปดูกันเถอะ”

หูเฟยพูดอย่างตกใจ“ตอนที่ผมเข้าร่วมฝึกอบรมตำรวจ ก็เคยเห็นการแข่งขันประลองกันมาไม่น้อย และก็เคยเข้าร่วมด้วย แต่ผมรู้สึกว่า เหมือนผมจะเป็นกบในกะลา”

“ฝีมือของหมาทิเบตันนี้ สูงกว่าผมเยอะเลย”

“แล้วก็ส้าวส้วยที่อยู่ข้างกายคุณนั่น เขาก็ยิ่งลึกระดับก้นสมุทรเข้าไปอีก”หูเฟยสูดหายใจลึกๆ“ข้อมือของผมไม่เป็นไร รอพวกเขาสู้กันเสร็จ ค่อยไปโรงพยาบาลก็ไม่สาย”

หูเฟยก็คือคนโหด อดทนความเจ็บไว้ จะไปดูการดวลนัดนี้

หมาทิเบตันเพิ่งเข้าไปในส่วนลึกของป่า จู่ๆก็หันหน้าไป จากนั้นก็กำหมัด แล้วปล่อยไปที่ส้าวส้วย

“คุณแอบโจมตีอีกแล้ว”

ส้าวส้วยตระหนักได้นานแล้ว เขายื่นมือออกไป รวบหมัดของหมาทิเบตันนี้ไว้

สีหน้าหมาทิเบตันเกร็ง เขาคิดไม่ถึงว่าส้าวส้วยจะสามารถรับหมัดของตัวเองได้อย่างง่ายดาย

หมายความว่า กำลังของส้าวส้วย อยู่เหนือกว่าเขา

แต่ว่า หมาทิเบตันไม่กลัวเท่าไหร่

การดวล พละกำลังเป็นด้านหนึ่ง ทักษะก็เป็นอีกด้านหนึ่ง

ส้าวส้วยแค่มีประวัติเป็นทหารรับจ้างสามปี ส่วนหมาทิเบตัน เขาเป็นถึงคนเก่าแก่ของแวดวงทหารรับจ้าง มีผลการรบยาวนานกว่าสิบปี

อาศัยประสบการณ์การฆ่ามามากกว่าสิบปี หมาทิเบตันคิดว่าตัวเองไม่แพ้แน่

จากนั้น เท้าทั้งสองของหมาทิเบตันขยับ ออกแรงใช้หันใต้เท้า บีบใส่ส้าวส้วยจนถอยหลังไปหลายก้าว

ปล่อยหมัดดังปัง หมาทิเบตันปล่อยออกไปอีกหมัด

ส่วนส้าวส้วย ก็กำหมัดแน่น ลุยเข้าไป

ฝ่ามือทั้งสองชนเข้ากันอย่างหนัก กระดูกของทั้งสอง ต่างส่งเสียงดังกึก

ไม่ว่าจะเป็นส้าวส้วยหรือว่าหมาทิเบตัน พวกเขาต่างไม่ออมมือ

กำปั้นนี้ ต่างออกแรงอย่างหนัก

หมาทิเบตันกลับสูดลมหายใจอันเยือกเย็น ถอยหลังออกไปทันที กำปั้นของเขา แม้กระทั่งทั้งแขน ก็เริ่มสั่นขึ้นมา

แต่ส้าวส้วย กลับเหมือนคนไม่เป็นไร

ส้าวส้วยได้แต่ยิ้ม แล้วปล่อยหมัดออกไปอีก

“คุณมันบ้า!”

หมาทิเบตันด่าออกไป แล้วชักดาบออกมา จากช่วงเอวของตัวเอง

นี่คือดาบนุ่มหนึ่งเล่ม ปกติหมาทิเบตันเอามาเป็นเข็มขัด คาดไว้ที่เอวของตัวเอง

หมาทิเบตันชักดาบนุ่มออกมา ชี้ไปที่ท้องฟ้า

ทันใดนั้น ส้าวส้วยถูกบีบจนถอยหลังไปหลายก้าว

จนกระทั่งเสื้อผ้าที่ตัวส้าวส้วย หลายๆจุดต่างถูกบาดจนขาด

“นานแล้วที่ไม่มีคนบีบให้ผมต้องใช้ดาบ”หมาทิเบตันถอนหายใจ แล้วพูด“นี่เป็นถึงดาบอันเลื่องลือชื่อ ตายใต้ดาบนี้ ก็ถือว่าเป็นเกียรติของคุณ”

“เกียรตินี้ผมรับไว้ไม่ได้หรอก เก็บไว้ให้ตัวคุณเองเถอะ”

สีหน้าส้าวส้วยได้แต่ปรากฏความเคร่งขรึมอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ลุยเข้าไปอีกครั้ง

“อยากตายสินะ!”

หมาทิเบตันขมวดคิ้ว ดาบแทงเข้าไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท