NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 455

ตอนที่ 455

บทที่ 455 ส้าวส้วย ไม่ได้พบกันนาน

มือปืนก็ตายไปทั้งๆ อย่างนั้น

ครั้งนี้ หลี่ฝางถือว่าเฉยๆ อยู่

ยังไงในคืนนี้ หลี่ฝางได้เห็นหลายชีวิตต้องตายไป

หลังจากที่มู่หรงฉางเฟิงเห็นภาพนี้ ใจของเขาก็เย็นวาบ

ไม่ว่าจะยังไงเขาก็คาดไม่ถึง ว่าคนของตนในมือถือปืนไว้อยู่ ยังตายด้วยน้ำมือของส้าวส้วย……

ใจของมู่หรงฉางเฟิง ก็ร้อนรนขึ้นมาทันที

มือปืนก็ถูกฆ่าไปแล้ว งั้นเขาล่ะ?

มู่หรงฉางเฟิงรู้ว่า ต่อมาชีวิตของเขา ก็คงไปดีได้ไม่เท่าไหร่

มู่หรงฉางเฟิงใจลนลาน สายตามองไปถามหลี่ฝาง

หลี่ฝาง เป็นความหวังเดียวของมู่หรงฉางเฟิงแล้ว

ตอนที่ส้าวส้วยกระโดดลงจากรถ เขาไม่ได้ปิดประตูรถ

และหลี่ฝางก็ไม่ได้ปิดมัน

มู่หรงฉางเฟิงฉวยโอกาสนี้ กระโดดเข้าไป

เมื่อเห็นเงาร่างของมู่หรงฉางเฟิง หลี่ฝางก็ตกใจ

“เชี่ยแม่ง!” เมื่อเห็นสองมือของมู่หรงฉางเฟิงเกาะประตูรถไว้ หลี่ฝางก็ตกใจจนเผลอสบถออกมา

พอดีกับที่เขาสบถ ส้าวส้วยก็หันมามอง

มู่หรงฉางเฟิงจ้องหลี่ฝาง ด้วยสายตาอันแรงกล้า

เขาพุ่งเข้าไปในรถ โดยไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย

ในมือของมู่หรงฉางเฟิง มีมีดอยู่หนึ่งเล่ม เป้าหมายของเขา ไม่ใช่การฆ่าหลี่ฝาง เขาเป็นอยากเอาตัวหลี่ฝางมาเป็นตัวประกัน

ถ้าฆ่าหลี่ฝางทิ้ง ตัวเขาก็จะโดนส้าวส้วยฆ่าทิ้ง

หลี่ฝาง ถือว่าเป็นทางรอดเส้นสุดท้ายของเขาแล้ว

หลี่ฝางถีบ เข้าไปที่หัวของมู่หรงฉางเฟิง

มู่หรงฉางเฟิงถูกเตะ ใบหน้าก็แสดงให้เห็นถึงความเหี้ยม

เขาใช้มีดของเขา ตัดขากางเกงของหลี่ฝางทันที

ถึงแม้จะไม่ได้เฉือนถูกเนื้อของหลี่ฝาง แต่หลี่ฝางก็ตกใจมาก

“ฮาโหล”

และในตอนนั้น ส้าวส้วยก็มาแล้ว

ส้าวส้วยคว้าเท้าของมู่หรงฉางเฟิงไว้ จากนั้นก็กระชาก กระชากทีเดียวทำเอาเขาออกไปอยู่นอกรถ

มู่หรงฉางเฟิงหันกลับมา มองส้าวส้วย นัยน์ตาเขา แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังทันที

“นาย……”

มู่หรงฉางเฟิงมองส้าวส้วย: “นายฆ่าฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นคนของสี่ตระกูลใหญ่นะ”

“ก็ใช่ไง เป้าหมายที่กลับมาในครั้งนี้ ก็เพื่อมาชำระแค้นสี่ตระกูลใหญ่ไง” ส้าวส้วยหัวเราะอย่างสนุกสนาน: “ทำไม หรือว่านายลืมไปแล้วเหรอ?”

ริมฝีปากของมู่หรงฉางเฟิงสั่นเทา พูดอะไรไม่ออก

ตามเดิม ทั้งสองตระกูลนี้ก็มีความแค้นต่อกัน

แล้วก็เมื่อกี้เขาก็พามือปืนมาฆ่าส้าวส้วย

มู่หรงฉางเฟิงยกแขนขึ้น มีดเล่มที่อยู่ในมือนั้น เหวี่ยงไปทางส้าวส้วย

แต่ฝีมือของมู่หรงฉางเฟิง สำหรับคนอื่นแล้วถือว่าใช้ได้ แต่สำหรับส้าวส้วยนั้น ก็เหมือนกับเด็กสู้กับยอดมนุษย์

เปรียบได้ว่าใช้ไข่มาทุบหิน

ส้าวส้วยคว้าแขนของมู่หรงฉางเฟิงไว้: “เจ็บแล้วไม่จำจริงๆ !”

สีหน้าของส้าวส้วยเย็นชา อยู่ๆ ก็เพิ่มแรงที่มือ

มู่หรงฉางเฟิงเจ็บ จนปล่อยมีดหลุดออกจากมือ

เสียงร้องโอดครวญ ดังออกมาจากปากของมู่หรงฉางเฟิง

สุดท้ายมู่หรงฉางเฟิงเจ็บจนคุกเข่าลงไปกองกับพื้น

ส่วนส้าวส้วย ก็กำหมัดแน่น แล้วเล็งไปที่แขนของมู่หรงฉางเฟิง และต่อยลงไป

กร๊อบ!

แขนข้างนึงของมู่หรงฉางเฟิง หักจนไม่รู้จะหักยังไงแล้ว

“ทำแขนนายหักหนึ่งข้าง ถือซะว่าเป็นการเตือนนาย” ส้าวส้วยพูดอย่างเย็นชา

“ส่งข่าวไปให้ตระกูลมู่หรงของนาย ว่าหลอซ่ากลับมาแล้ว บอกพวกเขาว่าหลังจากนี้เวลานอนหลับ ให้เปิดตาไว้” ส้าวส้วยพูดจบ ก็ปล่อยมู่หรงฉางเฟิง

มู่หรงฉางเฟิงกัดฟันกรอด แขนของเขา ยกไม่ขึ้น

กระดูกแขนของเขา ถูกส้าวส้วยทุบซะแตกเป็นเสี่ยงๆ

“นายมันร้ายกาจ”

มู่หรงฉางเฟิงมองส้าวส้วย แล้วพูดอย่างเย็นชา

นัยน์ตาของมู่หรงฉางเฟิง เต็มไปด้วยความเคียดแค้น

ส้าวส้วยหันกลับมา มองมู่หรงฉางเฟิง: “ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมองฉันด้วยสายตาแบบนี้”

“นายไม่อยากเก็บดวงตาทั้งสองข้างของนายไว้แล้ว ใช่มั้ย?” ส้าวส้วยข่มขู่ ด้วยสีหน้าเย็นชา

มู่หรงฉางเฟิงตกใจจนไม่กล้าพูดอะไร

“ไสหัวไป”

ส้าวส้วยไล่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา

มู่หรงฉางเฟิงได้ยินคำว่าไป ราวกับถูกนิรโทษกรรม เขารีบลุกแล้ววิ่งหนีทันที

“ปล่อยเขาไปแบบนี้เลยเหรอ?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยสะใจ

“มือปืนของเขาเมื่อกี้เกือบจะฆ่าพวกเราเลยนะ” หลี่ฝางพูดขึ้น

“เจ้านายอยากได้ชีวิตของมู่หรงฉางเฟิง?”

มู่หรงฉางเฟิงไปได้ไม่ไกล ถ้าหากหลี่ฝางสั่ง ส้าวส้วยสามารถตามไป ฆ่าเขาได้

“ช่างเถอะ นายก็ปล่อยไปแล้วนี่ นั่นแสดงว่านายก็มีเหตุผลของนาย”

หลี่ฝางรู้ว่าส้าวส้วยเป็นคนที่ไม่มีความเมตตา สำหรับศัตรูแล้วยิ่งไม่มี

แต่หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะถาม: “ทำไมนายถึงปล่อยเขาไป?”

ส้าวส้วยหัวเราะ แล้วพูด: “ปล่อยเบ็ดไป ตกปลาตัวใหญ่ มู่หรงฉางเฟิงคนนี้เป็นคนที่อาฆาตแค้น ฉันหักแขนมันไปข้างนึง เมื่อมันกลับไปที่ตระกูล มันจะต้องพาคนฝีมือดีมาล้างแค้นฉันแน่”

ส้าวส้วยพูด พลางยิ้ม อย่างมีเลศนัย

“ซือถูเฟยรอพวกเราอยู่”

หลี่ฝางเห็นข้อความของซือถูเฟย

ระหว่างนี้ ซือถูเฟยโทรมาหาหลายสาย แต่หลี่ฝางไม่ได้รับ

“หน้าซื่อใจคด” ส้าวส้วยมองข้อความ แล้วพูดอย่างเหยียดหยาม

หลี่ฝางก็แสดงว่าเห็นด้วย

ถ้าหากซือถูเฟยเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของหลี่ฝางจริงๆ ละก็ โดยปกติแล้ว เขาก็ควรจะเลี้ยวรถ กลับมาดูหน่อยไม่ใช่เหรอ?

“โทรหาหูเฟยเถอะ”

ส้าวส้วยพูด: “ให้เขามาเคลียร์”

“ให้เขามาเคลียร์?” หลี่ฝางสับสนเล็กน้อย: “เขาเป็นตำรวจนะ ที่นี่มีคนตาย ให้เขามา นั่นจะพาปัญหามาด้วยไม่ใช่เหรอ?”

หลี่ฝางรู้ ว่าฝั่งตระกูลหลี่ ก็มีเส้นสายไม่น้อย

ถ้าไม่งั้น หลังจากที่ลูกน้องของเหยสงตั้งมากมาย บุกถล่มบ้านตระกูลสวี จะถูกจับได้ยังไง?

หลี่ฝางเดาออก ว่าพ่อของตนนั้น ก็พอมีเส้นสายไม่น้อย

“ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ต้องหาหนีคดี หูเฟยอยากจะจับมันมานานแล้ว อีกอย่างเมื่อไม่นานมานี้ มันฆ่าคนไปครอบครัวนึง กองบัญชาการตำรวจเลยต้องปวดหัวกับการไล่ล่าตัวมัน”

ส้าวส้วยหัวเราะ แล้วพูด: “พอดีเลยไม่ใช่เหรอ ช่วยเขาปิดคดี”

“หูเฟยอยากจะร่วมมือกับตระกูลหลี่ของพวกเราไม่ใช่เหรอ? ถึงกับอยากจะร่วมมือ งั้นก็ให้ของขวัญเขาสักชิ้น ให้เขาเลื่อนขั้น” ส้าวส้วยก็ยังคงหัวเราะอยู่

หลี่ฝางมองส้าวส้วย แล้วถามขึ้น: “นี่เป็นความต้องการของพ่อฉัน หรือว่าของนาย?”

“แน่นอนว่าเป็นความต้องการของลูกพี่ใหญ่ ฉันมีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ แบบนี้ที่ไหน” ส้าวส้วยยักไหล่พลางพูด

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วก็โทรหาหูเฟย

เมื่อหูเฟยได้ยินว่าจับผู้ร้ายหนีคดีได้ เขาก็ตื่นเต้น

ที่จริง หูเฟยอยู่ที่โรงพยาบาล แต่เมื่อได้ยินข่าวนี้ เขาก็รีบเรียกลูกน้องของตนทันที แล้วก็วิ่งออกมาจากโรงพยาบาล

เรื่องตำแหน่งสำคัญกว่า

สามารถ เลื่อนตำแหน่งได้

“พวกเราจะไปเลย? หรือว่ารอหูเฟยมาก่อน” หลังจากวางสาย หลี่ฝางก็ถามขึ้น

ส้าวส้วยหยิบบุหรี่ขึ้นมาซองนึง แล้วยื่นให้หลี่ฝางหนึ่งมวน: “รอก่อนเถอะ ให้ซือถูเฟยนั่น รออีกหน่อย”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วสูบบุหรี่

เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที ก็มีรถตำรวจขับมาสองคัน

และในตอนนี้ ส้าวส้วยก็เริ่มเคลื่อนรถ ตามซือถูเฟยไป

ซือถูเฟยเห็นหลี่ฝาง จึงถาม: “คุณชายหลี่ ทำไมถึงเพิ่งมาล่ะ เกิดอุบัติเหตุเหรอ? เมื่อกี้เหมือนกับเห็นว่ามีรถตำรวจขับผ่านไป”

“นายไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย ซือถูเฟย นายให้มู่หรงฉางเฟิงพามือปืนมาเล่นงานพวกเราใช่มั้ย” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย

“มู่หรงฉางเฟิง? เขามาวุ่นวายกับพวกนายเหรอ?”

ซือถูเฟยส่ายหน้า แล้วพูด: “เรื่องนี้ฉันไม่รู้จริงๆ ”

“รีบนำไปเถอะ” ส้าวส้วยไม่ได้พูดอะไร

“นายจะพาพวกเราไปบ้านนายไม่ใช่เหรอ?” ส้าวส้วยมองบนใส่ซือถูเฟย

ซือถูเฟยพยักหน้า แล้วออกรถไป: “ฉันรู้ว่าพวกนายไม่เชื่อฉัน แต่อีกเดี๋ยว พวกนายก็จะเชื่อ”

ก่อนจะออกรถ ซือถูเฟยก็ทิ้งคำพูดไว้หนหนึ่งประโยค

หลี่ฝางหันไปมองส้าวส้วย: “เรื่องที่มู่หรงฉางเฟิงลอบทำร้ายเรา นายว่าซือถูเฟยรู้อยู่ก่อนหน้าแล้วมั้ย?”

“เมื่อกี้ที่หน้าบ้านตระกูลฉิน พวกเขาสองคนพูดไปหัวเราะไป คุยกันอยู่นาน” หลี่ฝางถาม

ส้าวส้วยส่ายหน้า: “สัมผัสที่หกของฉันบอกฉันว่า ซือถูเฟยไม่เหมือนคนที่ต้องการทำร้ายเรา”

“ไปเถอะ ไปดูว่าสรุปแล้วเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ ที่เขาพูดเมื่อกี้ ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจ” ส้าวส้วยเร่งความเร็ว

ตอนนี้ ก็สายมากแล้ว

ซือถูเฟยขับรถ เข้าไปในหมู่บ้านธรรมดาที่นึง

หลังจากลงจากรถ ส้าวส้วยก็มองซือถูเฟย แล้วพูด: “อย่าบอกนะ ว่าที่นี่คือแหล่งกบดานของพวกนายสี่ตระกูลใหญ่”

สีหน้าของส้าวส้วย เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“ส้าวส้วย ไม่ได้เจอกันนานนะ”

ในตอนนั้น ก็มีเสียงที่คมชัด ดังมาจากด้านหลังของส้าวส้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท