NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 472

ตอนที่ 472

บทที่472 ผมมีความลับของสี่ตระกูลใหญ่

ที่หลี่ฝางไม่ได้เอาถิ่นทั้งหมดให้หวางเห้า มีอยู่ทั้งหมดสองสาเหตุ หนึ่งคือตัวหวางเห้าไม่มีพรรคพวกมากนัก เขาคุมถิ่นใหญ่ขนาดนั้นไม่ได้ อย่างที่สองคือเอาทั้งหมดให้หวางเห้า ตัวหวางเห้าก็จะเป็นคางคกขึ้นวอ และก็ทำให้กลายเป็นเป้าสายตาของคนจำนวนมาก

เมืองเอก มีผู้มีอิทธิพลไม่น้อยเลย

หยุนเฉิงด้านตกวันออก เย่ฉิวด้านตะวันตก แล้วก็มีจางกงหมิง

คนหลายคนนี้ ต่างกำลังจ้องพร้อมตะครุบถิ่นของเหยสง

ให้ตระกูลหลี่กับท่านจวนยึดครอง พวกเขาไม่กล้าแตะต้อง ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น นั่นก็ไม่แน่หรอก

หวางเห้าไม่มีอะไรจะพูด

หวางเสี่ยวหยวนเป็นคนช่ำชองในยุทธภพแล้ว ถึงแม้เขาจะออกจากวงการแล้ว แต่บรรดาพรรคพวกที่เป็นลูกน้องก็ยังอยู่

แค่พูดคำเดียว พรรคพวกกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เมื่อก่อนของเขา ก็จะกลับมาตรงหน้าของหวางเสี่ยวหยวน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวงว่างโก๋ เป็นถึงเจ้าของของโรงแรมห้าดาว และก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากที่เมืองเอก

แต่คนแบบนี้ กลับยอมเป็นผู้ตามต่อหวางเสี่ยวหยวน

ดังนั้น ตอนที่หลี่ฝางเอาถิ่นหนึ่งในสามของเหยสงให้หวางเสี่ยวหยวน ถึงแม้หวางเห้าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่กล้าสงสัยอะไรหวางเสี่ยวหยวน

ส่วนเฉินฝูเซิง ถึงแม้เขาจะอายุน้อย แต่เขาเป็นถึงลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นั่นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงไปทั้งประเทศ

อีกอย่าง กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังส่งผู้ช่วยมาด้วย เพื่อช่วยเฉินฝูเซิง

คนหนึ่งคือผู้ช่ำชองในยุทธภพ อีกคนคือลูกชายคนมีอิทธิพล

เทียบกับสองคนนี้แล้ว จู่ๆหวางเห้าก็น้อยเนื้อต่ำใจเล็กน้อย

ตอนนี้ หลิวต้าหนึงไปขัดใจหลี่ฝาง จนถูกถีบออกไป

เพื่อนๆข้างกายของหวางเห้า ควบคุมดูแลถิ่นของเสือต่างก็ไม่ง่ายเลย แล้วจะมีพลังไปจัดการถิ่นหนึ่งในสามของเหยสงที่ไหนกัน?

“เข้าใจแล้ว”

หวางเห้าพยักหน้า ที่ใบหน้ามีความละอายหน่อยๆ

อิทธิพลทั้งสามด้านนี้ ตัวเองไร้ประโยชน์ที่สุด แต่ยึดถิ่นไปมากที่สุด ทำให้หวางเห้ารู้สึกละอายใจเล็กน้อย

คิดถึงฉากเมื่อกี๊ที่หัวเราะเยาะเฉินฝูเซิง หวางเห้าก็ยิ่งรู้สึกอับอายมากๆ

“ร่างกายผมจู่ๆก็ไม่สบาย ขอตัวก่อนล่ะ”

หวางเห้ายืนขึ้น ลากับทุกคน แล้วเตรียมออกไป

“เดี๋ยวผมไปส่งคุณ”

หลี่ฝางยืนขึ้นมา ตามหวางเห้าออกไปจากประตูห้องด้วยกัน

ตอนที่เดินไปหน้าประตูร้านอาหาร จู่ๆหวางเห้าก็หันหน้า มองหลี่ฝางแล้วพูด:“คุณชายหลี่……ช่างเถอะ ผมเรียกคุณว่าเจ้านายดีแล้ว”

“เจ้านาย ถิ่นของเหยสงผมไม่เอาแล้ว”หวางเห้าพูด

“ทำไมล่ะ ใส่อารมณ์กับผมเหรอ?”

หลี่ฝางพูด:“ผมจะบอกให้นะ คุณคือคนที่ติดตามผมมานานสุด และก็ช่วยผมมาหลายครั้ง ผมจำมิตรภาพของคุณได้ แต่เรื่องมันจะผสมปนเปไม่ได้ ผมก็อยากให้หวางเสี่ยวหยวน หวงว่างโก๋ทั้งสองทำงานให้คุณ เป็นลูกมือใต้เงื้อมมือคุณ แต่ว่า พวกเขาจะยอมคุณไหม?”

“ถ้าผมพูดแบบนี้ งั้นเรื่องนี้ ก็จะกลับตาลปัตร”

หลี่ฝางพูดอย่างทำอะไรไม่ได้:“ในมือคุณก็ไม่มีพรรคพวกมากนัก เอาถิ่นของเสือไป ก็กินแรงมากแล้ว ถ้าให้คุณมากอีก คุณก็ดูไม่ไหว”

“ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า คุณใช้ความคิดหน่อย ปลูกฝังบรรดาพรรคพวกของตัวเอง อีกอย่าง รอชางสู่กลับมา ผมค่อยแบ่งถิ่นให้คุณอีกหน่อยก็ได้”

“ถ้าคุณยังคิดว่าข้างในใจไม่โอเค งั้นแบบนี้ ต่อไปคุณไม่ต้องให้เงินผม คุณแบ่งกับพวกเพื่อนๆของคุณไป ยังไงซะทางผมก็มีเงิน”

หลี่ฝางพูดอย่างใจกว้างมาก

พอหลี่ฝางพูดจบ ที่ใบหน้าของหวางเห้า จู่ๆก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น

“เจ้านาย คุณอย่าดีกับผมนักสิ ในใจผมรู้สึกผิด เมื่อกี๊ผมยังว่าคุณจากใจอยู่เลย”

หวางเห้าพูดด้วยใบหน้ารู้สึกผิด:“อีกอย่าง ผมก็ไม่ได้ใส่อารมณ์กับคุณ ที่ผมเอาถิ่นออกมา ก็มาจากใจ กำลังคนของผมไม่พอ ไม่งั้นคุณเอาถิ่นพวกนี้ให้เฉินฝูเซิงกับหวางเสี่ยวหยวนก่อน รอเมื่อไหร่ที่ชางสู่กลับมา คุณค่อยเอาถิ่นพวกนี้ ให้พวกเขาคืนผมไหม”

หวางเห้าพูดคำนี้ออกมาได้ ในใจของหลี่ฝาง มีความสุขมากๆ

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ มองหวางเห้าแล้วถาม:“งั้นชางสู่กลับมาเมื่อไหร่ คุณรู้ไหม?”

หวางเห้าส่ายหน้า

“ชางสู่กลับมาเมื่อไหร่คุณก็ไม่รู้ คุณยังให้ผมเอาถิ่นของคุณแบ่งให้เฉินฝูเซิงกับหวางเสี่ยวหยวนเนี่ยนะ?คุณโง่เหรอ!”

“ถ้าเวลาผ่านไปนาน ต่อไปคุณจะกลับมาเอาอีก ก็ยากแล้วนะ”

“ผมคิดให้คุณไว้หมดแล้ว พอห้าวหนานพิการ พรรคพวกของเขาพวกนั้นก็ระหกระเหินกันมาตลอด”

หลี่ฝางพูดไป ก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า:“เบอร์หนึ่งของซินปา ซินปาคุณน่าจะเคยได้ยินมานะ?นักฆ่ามือหนึ่งภายใต้เงื้อมมือของห้าวหนาน ก็ถือว่าเป็นคนโหดคนหนึ่ง”

“เจ้านาย ความหมายของคุณคือ?”หวางเห้าไม่ได้โง่ เขาฟังความหมายของหลี่ฝางออกทันที

ทันใดนั้น สายตาที่หวางเห้ามองหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ

“ผมพูดกับซินปาแล้ว เดิมที ผมคิดจะเรียกซินปามาด้วยกัน แต่ทางด้านซินปาเกิดเรื่องนิดหน่อย มาไม่ได้ คุณว่างก็ไปติดต่อเขาสิ”

“ทางด้านซินปาผมไปเจรจามาแล้ว เขาจะติดตามคุณ คุณก็จะมีกำลังคนแล้ว”

หลี่ฝางตบไหล่ของหวางเห้า แล้วพูด

“เจ้านาย ทำไมคุณไม่รีบพูดล่ะ”หวางเห้าขมวดคิ้ว พูดบ่นหน่อยๆ:“ถ้าคุณพูดไวกับผมหน่อย ผมก็ไม่ต้องแกล้งออกมาอย่างไม่สบายใจ”

“เอาน่า ในเมื่อคุณออกมาแล้ว ไม่งั้นคุณก็ซื้อเหล้าสักหน่อย ซื้ออาหารเล็กหน่อย ไปหาซินปาในโรงพยาบาลสิ”

“อาหารเย็นมื้อนี้ ไม่มีความหมายกับคุณหรอก หวางเสี่ยวหยวนกับเฉินฝูเซิง ต่างเป็นคนกันเองทั้งนั้น ถึงแม้จะเป็นพี่น้องกับคุณได้ ก็ไม่กลายเป็นศัตรูคุณแน่ไม่ใช่ ตรงจุดนี้ คุณวางใจเถอะ”

“คุณไปโรงพยาบาล เป็นมิตรที่ดีต่อซินปา วันข้างหน้า คุณจะต้องกลายเป็นพี่ใหญ่ในที่นั่นแน่”

หลี่ฝางพูด:“ตอนนี้หลายๆคนต่างจับจ้องถิ่นของเหยสงอยู่ ไม่ว่าจะคุณ หรือว่าเฉินฝูเซิงหรือหวางเสี่ยวหยวน หลังจากที่ได้ครอบครองถิ่นของเหยสงแล้วจริงๆ จะต้องมีปัญหาเล็กน้อยแน่ๆ ถึงตอนนั้น ก็อยู่ที่ความสามารถของพวกคุณเองแล้ว”

พอหลี่ฝางพูดจบ ก็พูดเสริม:“มีปัญหาอะไรบอกผมเลย ถ้าช่วยได้ ผมช่วยแน่”

“ครับ ขอบคุณเจ้านาย”ใบหน้าหวางเห้า เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ

“คุณจะเกรงใจผมทำห่าไร!”

หลี่ฝางผลักหวางเห้าไปหน่อย แล้วพูด:“ไปเถอะ”

พอส่งหวางเห้าออกไป ก็หันหน้า ปะเข้ากับหวงว่างโก๋พอดี

“หวางเห้าไปได้ไง?”หวงว่างโก๋มองแผ่นหลังของหวางเห้าที่ออกไป ก็ถาม:“ผู้ชายคนนี้คงไม่โกรธหรอกนะ?”

“ไม่เป็นไร”

“เหอะเหอะ ขอบคุณครับ คุณชายหลี่ เอาถิ่นใหญ่ขนาดนี้แบ่งให้บรรดาพรรคพวกผม”

หวงว่างโก๋โอบไหล่ของหลี่ฝาง:“คุณชายหลี่ คุณดูได้เลย พี่ใหญ่ของพวกเรา ไม่แย่ไปกว่าเหยสง”

“ผมรู้”

หลี่ฝางพยักหน้า ลุงเฉียนเคยบอกความสามารถของหวางเสี่ยวหยวนกับตัวเองไปแล้ว

หวางเสี่ยวหยวนนี้ มีความคิดรอบคอบ

เขาไม่ใช่แค่เจอกันครั้งแรก ก็มองทะลุเลยว่าหลี่ฝางมีสถานะเป็นเจ้านายผับ แต่ยังสงสัยมาก่อนด้วยว่าหลอซ่ากลับมาแล้ว

ประสาทรับรู้เช่นนี้ แตกต่างจากคนทั่วไป

นี่ก็คือสาเหตุที่ทำไมลุงเฉียนแนะนำหวางเสี่ยวหยวนให้หลี่ฝาง

หลังจากดื่มเหล้าไปสามรอบ เฉินฝูเซิงกับเฉินเจียโล่ก็กลายเป็นคนเดียวกันทันที ทั้งสองเกือบจะคุกเข่าคำนับเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน

หวางเสี่ยวหยวนกลับไม่ได้ดื่มมากนัก ก็แค่ตอนที่หลี่ฝางลุกขึ้นจะออกไป หวางเสี่ยวหยวนก็ยืนขึ้นมา ส่งที่หน้าประตูแล้วพูด:“คุณชายหลี่ ถ้ามีโอกาส ให้ผมไปเจอหลอซ่าหน่อยได้ไหม”

“มีเรื่องอะไรเหรอ?”ส้าวส้วยถามเบาๆ

“ใช่ ผมรู้ความลับนิดหน่อยของสี่ตระกูลใหญ่”หวางเสี่ยวหยวนพูด

ทันใดนั้น สีหน้าของส้าวส้วย ก็ซีเรียสขึ้นมา

ส้าวส้วยถามเค้นทันที:“ความลับอะไร?”

“ผมบอกได้แค่หลอซ่า”หวางเสี่ยวหยวนพูดยืนหยัด

“แม้แต่ผมก็ไม่บอกเหรอ?”หลี่ฝางก็ถามตาม

หวางเสี่ยวหยวนส่ายหน้า。

“หลอซ่าคือพ่อของผม”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่ค่อยพอใจหน่อยๆ

“คุณชายหลี่ แต่เรื่องของพ่อคุณ คุณรู้แค่ไหนเหรอ?”

หวางเสี่ยวหยวนหัวเราะ พูดว่า:“นามบัตรผมให้คุณไปแล้ว ด้านบนมีเบอร์ของผม รอผมเจอหลอซ่า ก็จะบอกความลับออกมา”

“ทำไมคุณต้องเจอหลอซ่าให้ได้?”

มองไปที่หวางเสี่ยวหยวน ส้าวส้วยก็ถามเค้น

“ผมไม่ได้มีแผนชั่วอะไรหรอก ตรงนี้คุณวางใจเถอะน่า”

หวางเสี่ยวหยวนแค่มองก็ตระหนักได้ถึงความกังวลของส้าวส้วย เขาแค่หัวเราะนิ่งๆ พูดว่า:“คนระดับอย่างหลอซ่า ถึงผมเป็นสิบคน ก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้เลยแม้แต่น้อย?”

“ก็แค่ เขาคือไอดอลของผม ก่อนหน้านี้ผมอยากติดตามเขา แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเกิดเรื่องด้วย……เห้อ”หวางเสี่ยวหยวนถอนหายใจ

หวางเสี่ยวหยวนเพิ่งพูดจบไม่นาน โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดัง

และคนที่โทรศัพท์มา ก็เป็นพ่อของตัวเอง หลี่ต๋าคาง และก็เป็นหลอซ่าด้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท