NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 475

ตอนที่ 475

บทที่475 หลอซ่า เป็นคุณที่ฆ่าท่านซุน?

“พวกเขา ก็เป็นสาเหตุที่ผมกลับมา”

หลี่ต๋าคางพูดด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว:“เมืองเอกผมไม่สนหรอก เงินผมก็ไม่สน ผมแค่อยากให้สี่ตระกูลใหญ่ ชดใช้อย่างสาสมเท่านั้น”

“เพื่อนๆของผม ตายฟรีๆไม่ได้”

“ยิ่งไปกว่านั้นไม่สามารถตายอย่างไร้ความเป็นธรรมได้”

“ก่อนพวกเขาตาย ผมเคยรับปากพวกเขาไว้ จะต้องหวนกลับมามีอำนาจอีกครั้ง จะเอาความรุ่งโรจน์ที่เป็นของพวกเรา กลับคืนมาอย่างแน่นอน”

“ผมรับปากพวกเขาไว้แล้ว ……”

คำพูดของหลี่ต๋าคางยังพูดไม่จบ ท่านซุนก็วางหมากในมือ พูดว่า:“ผมแพ้แล้ว”

อย่างที่หลี่ต๋าคางบอก ระดับการเล่นหมากรุกของท่านซุนนั้นไม่แพรวพราว

ท่านซุนยืนขึ้นถอนหายใจ มองหลี่ต๋าคางแล้วพูด:“คุณถอยกลับไม่ได้แล้ว”

“ตอนนี้พูดกับคุณคำว่ากลับเนื้อกลับใจก็ยังไม่สาย คิดๆดูแล้วคุณน่าจะไม่ชอบฟัง”

ท่านซุนพูด:“แล้วแต่คุณเถอะ ผมขอร้องแค่อย่างเดียว”

“ท่านซุนเชิญพูด”หลี่ต๋าคางพูดตาม

“ผมหวังว่าในชื่อที่คุณท่องนี้ จะมีชื่อซุนจิ้นเพิ่มอีกคน ถึงแม้เขาไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของผม แต่ก็คือคนที่ผมเลี้ยงแต่เด็กจนโต”

ท่านซุนส่ายหน้า:“นั่นใช่ความคิดของเหล่าเฉียนไหม?”

“คนอย่างเหล่าเฉียน น้ำมือยิ่งสกปรกมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ซุนจิ้นทำงานให้ตัวเอง ก็ไม่คำนึงถึง……”

คำพูดของท่านซุนยังพูดไม่จบ ก็ถูกหลี่ต๋าคางตัดบท:“ซุนจิ้นมีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริง”

“มือของเหล่าเฉียน ไม่ได้สกปรก ที่สกปรกน่ะคือคุณ ถ้าให้ซุนจิ้นรู้ว่า คุณคือคนของสี่ตระกูลใหญ่ แบบนั้นสิถึงจะโหดร้าย”

“คนที่เลี้ยงเขาแต่เด็กจนโตกับมือ ดันเป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่เขา ความรู้สึกที่รับโจรมาเป็นพ่อ ผมว่าซุนจิ้นไม่มีทางรับได้”

หลี่ต๋าคางพูดจบ สีหน้าของท่านซุน ก็เปลี่ยน

ท่านซุนใช้น้ำเสียงอ้อนวอนมองหลี่ต๋าคาง:“อย่าบอกซุนจิ้น ว่าผมทำร้ายพ่อของเขา”

“ผมไม่พูดแน่”หลี่ต๋าคางส่ายหน้า:“ความลับนี้ ผมจะเก็บไว้มันเข้าลึกสู่หัวใจ”

“เห้อ”

ท่านซุนถอนหายใจ เสียใจเล็กน้อยกับบาปที่ตัวเองทำหนักเกินไป

“ผมไม่อยากขอร้องให้สี่ตระกูลใหญ่ พวกเขาทำเรื่องแย่ๆไว้มากมายจริงๆ ที่จริงผมก็คิดไว้แล้วว่าพวกคุณจะต้องกลับมาแก้แค้นพวกเขา แค่ผมไม่คิดว่า……”

ท่านซุนมองหลี่ต๋าคาง สายตามีความกลัวแพร่ออกมา:“พวกคุณแข็งแกร่งมาก กว่าสามปีก่อนจริงๆ”

“ถึงผมกลับไปในสี่ตระกูลใหญ่ ก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้”

ท่านซุนพูด:“ผมรู้สึกได้ว่า การกลับมาของพวกคุณ คือหายนะของสี่ตระกูลใหญ่ จนสามารถพูดได้ว่าเป็นการตายของพวกเขา แค่น่าเสียดาย ที่พวกเขายังตระหนักไม่ได้”

“พวกเขาจะตระหนักได้ และก็เร็วมากด้วย”

หลี่ต๋าคางหรี่ตาลงแล้วหัวเราะ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ท่านซุนไม่พูด แค่ที่ใบหน้าของเขา ดูมีความโชกโชนมากขึ้น

เหมือนกับว่า จู่ๆท่านซุนก็แก่ลง

ความเฉียบคมในสายตาเขา และก็ความองอาจภายใต้ริ้วรอยนั้น ต่างหายไปในเวลานี้หมด

“ไปเถอะ เสี่ยวฝาง พวกเราควรจะไปได้แล้ว”หลี่ต๋าคางมองหลี่ฝาง แล้วพูด

หลี่ฝางพยักหน้า ลุกขึ้นมองท่านซุนแล้วพูด:“ท่านซุน ถ้าไม่ใช่พ่อผมเอาแต่รบกวนผม คนที่ชนะต้องเป็นคุณแน่”

“แพ้ก็คือแพ้ อย่าหาเหตุผลให้ผมเลย”

ท่านซุนส่ายหน้า พูดว่า:“หรือว่าผมแพ้แล้วยังอนาถไม่พอ?”

ใบหน้าหลี่ฝางอึดอัดหน่อยๆ ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

“ต่อไปผมว่าง จะมาเล่นกับคุณอีกตา”ทันใดนั้นหลี่ฝางก็รู้สึกได้ว่า ท่านซุนสงสารหน่อยๆ

ซุนจิ้นถูกส้าวส้วยพาออกไป และจะต้องไม่กล้ากลับมาอีกสักพัก

ยังไงตอนนี้ซุนจิ้นก็คือฆาตกร เขาถูกตำรวจออกหมายจับ ไม่กล้าโผล่หน้า กลับบ้านมาเยี่ยมท่านซุนแน่

ท่านซุนอยู่โดดเดี่ยวคนเดียว น่าสงสารหน่อยๆ

ดังนั้นหลี่ฝางตัดสินใจว่าถ้ามีเวลา จะต้องมาเยี่ยมเขา

“ช่างเถอะ”

ท่านซุนส่ายหน้า พูดว่า:“ต่อไปไม่มีโอกาสนี้แล้ว”

หลี่ต๋าคางได้ยินคำนี้ ทันใดนั้นก็สำลัก:“ท่านซุน คุณคงไม่ ……”

“คุณไปเถอะ”

ท่านซุนหันหน้าไป โบกมือให้หลี่ต๋าคางแล้วพูด:“ดึกมาแล้ว ผมควรพักผ่อนแล้ว”

ริมฝีปากหลี่ต๋าคางขยับ จะพูดอะไร แต่ท่านซุนกลับก้าวเท้าออก หมุนตัวกลับไปในห้อง

ฝีเท้าท่านซุนไวมาก ความเร็วที่เกือบจะไม่เหมือนที่ชายหนุ่มคนหนึ่งจะมี

หลี่ต๋าคางมองห้อง ใบหน้ามีความซับซ้อน

“ทำไมเหรอ พ่อ”หลี่ฝางมองสีหน้าผิดปกติของหลี่ต๋าคาง จึงถาม

“ไม่มีอะไร ไปเถอะ”

หลี่ต๋าคางส่ายหน้า พูดไป

ตอนที่หลี่ต๋าคางหมุนตัวออกไปจากห้องของท่านซุน มาที่ในรถ ทันใดนั้นก็มีรถมาคันหนึ่ง

นั่นคือรถเก๋งสีดำคันหนึ่ง ในรถเก๋งนั้น มีคนสองคนนั่งอยู่

คนวัยหนุ่มคนหนึ่ง กับคนแก่คนหนึ่ง

หลี่ต๋าคางมองคนสองคนในรถ ที่มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มที่น่ากลัว

“มาส่งถึงที่”

หลี่ต๋าคางพูดกับตัวเอง

“หลอซ่า?”

วินาทีที่เห็นหลี่ต๋าคาง คนในรถ ก็แสดงความกลัวออกมาทันที

“คุณมาอยู่นี่ได้ไง?”คนแก่คนนั้นมองหลี่ต๋าคาง แล้วถามไป

คนแก่คนนี้ หน้าตาเหมือนท่านซุนมาก

เวลานี้เอง หูของหลี่ต๋าคางก็ขยับ เหมือนเขาจะได้ยินเสียงอะไร จึงพูดกับคนในรถ:“วันนี้ผมไม่ฆ่าคุณ!”

“รีบเข้าไปเถอะ”หลี่ต๋าคางพูด

“หลอซ่า คุณกลับมาแล้วจริงๆ”คนแก่คนนั้นมองหลี่ต๋าคาง แล้วสูดหายใจเข้า

ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะสงสัย แต่ยังไงก็ไม่เห็นหลอซ่าเลย ดังนั้นสี่ตระกูลใหญ่ก็ไม่แน่ใจข่าวนี้

ตอนนี้ ถือว่าแน่ใจแล้ว

“รีบเข้าไปดูในห้องเถอะ ดึกแล้ว คนที่คุณจะมาหาตายแล้ว”หลี่ต๋าคางพูด แล้วเข้าไปในรถ

ส่วนคนแก่คนนั้น ได้ยินคำนี้ ก็วิ่งเข้าในลานบ้านทันที

“พ่อ พ่อพูดถึงท่านซุน?”หลี่ฝางถาม

หลี่ต๋าคางพยักหน้า:“เมื่อกี๊สีหน้าของท่านซุน ไม่มีโอกาสของการอยู่รอดแล้ว”

“เขาเตรียมจะฆ่าตัวตาย”หลี่ต๋าคางพูด

“คนแก่คนนี้คือใคร?หน้าตาเหมือนกับท่านซุนเลย”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

“จูเก่อเจิ้ง เขาคือน้องชายของท่านซุน ชื่อที่แท้จริงของท่านซุน ชื่อว่าจูเก่อชื่อ”

หลี่ต๋าคางพูดว่า:“พวกเขาล้วนแต่เป็นคนของสี่ตระกูลใหญ่ ที่จริง หัวหน้าครอบครัวของตระกูลจูเก่อ เป็นจูเก่อชื่อ ก็คือท่านซุน แต่คนอย่างท่านซุน ไม่รักเงินทอง ไม่รักอำนาจ และก็ยิ่งไม่ชอบการฆ่าฟัน ดังนั้นเขาถอยออกมาจากสี่ตระกูลใหญ่ตั้งนานแล้ว แล้วไปเป็นผู้ดูแลศิลปะการต่อสู้ที่สมถะ”

“แต่ยังไงเขาก็คือคนของสี่ตระกูลใหญ่ การต่อสู้ตอนนั้นของพวกเรากับสี่ตระกูลใหญ่ เขาวางแผนให้สี่ตระกูลใหญ่ไม่น้อย”

หลี่ต๋าคางส่ายหน้า พูดว่า:“เขาคือคู่ต่อสู้ที่คุ้มค่าต่อการน่านับถือ มือสะอาดมาก นอกจากเขาแล้ว วิธีการของคนพวกนั้นในสี่ตระกูลใหญ่ ก็สกปรกมาก”

หลี่ฝางได้ยินคำพวกนี้ ก็ตกใจเล็กน้อย

หลี่ฝางไม่ได้ตกใจกับเรื่องเล่านี้ แต่ตกใจที่พ่อของตัวเอง ในที่สุดก็เอาเรื่องเมื่อสามปีก่อน พูดให้ตัวเองฟังกับตัว

ผ่านไปไม่นาน จูเก่อเจิ้งก็ออกมา

ที่ใบหน้าจูเก่อเจิ้ง ดูไม่ดีนัก

หลังจากเขาออกมา ตาก็จ้องไปที่หลี่ต๋าคาง:“หลอซ่า คุณทำใช่ไหม?”

“คุณไปพูดอะไรกับพี่ชายผมกันแน่?”จูเก่อเจิ้งใช้น้ำเสียงสอบถามถามหลี่ต๋าคาง

หลี่ต๋าคางไม่ตอบ แต่ยื่นมือออกไป คว้าไปที่คอของจูเก่อเจิ้งโดยตรง:“จูเก่อเจิ้ง ท่านซุนฆ่าตัวตาย ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย เข้าใจไหม?”

“ถ้าคุณอยากเอาบัญชีนี้คิดไว้ที่ตัวผม ผมก็ไม่แคร์ ยังไงซะแค้นระหว่างพวกเรา ก็ลึกมากพอ”

“เดิมทีวันนี้ผมคิดจะฆ่าคุณ แต่เห็นแก่หน้าของท่านซุน ผมเลยไว้ชีวิตคุณก่อน”

หลี่ต๋าคางพูดอย่างเย็นชา:“กลับไปบอกอีกสามตระกูล บอกพวกเขา ว่าผมหลอซ่ากลับมาแล้ว”

หลอซ่าพูดจบ ก็ปล่อยจูเก่อเจิ้ง

และตอนนี้เอง คนหนุ่มที่อยู่ในรถ ไม่รู้ว่าเดินออกมาเมื่อไหร่

เขาเห็นหลี่ต๋าคางจู่โจมจูเก่อเจิ้ง ก็ลงมือทันที

“อย่า!”

จูเก่อเจิ้งห้ามออกไป แต่เสียดายที่สายไป

หลี่ต๋าคางพุ่งออกจากรถ ยื่นหมัดออกไป ตบไปที่ศีรษะของคนหนุ่มคนนี้

ทันใดนั้น คนหนุ่มคนนี้ก็ตายลง

“จูเก่อเจิ้ง คุณขับรถเป็นสินะ?”

หลังจากฆ่าคนหนุ่มคนนี้ไป หลี่ต๋าคางก็ตบมือ มองจูเก่อเจิ้งแล้วหัวเราะ:“คนขับรถของคุณอยากตายเอง อย่าว่าผมล่ะ”

“ถ้าคุณขับรถไม่เป็น ในฐานะชดเชย ผมสามารถไปส่งคุณนั่งไปได้ ส่งคุณกลับตระกูลจูเก่อ”

หลี่ต๋าคางมองจูเก่อเจิ้ง แล้วถาม:“ว่าอย่างไร?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท