NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 481

ตอนที่ 481

บทที่481 ตู้เฟย ผมจะฆ่าคุณด้วยมือผมเอง

แสงจ้าแยงเข้ามา แยงไปที่ดวงตาของตู้เฟย

ตู้เฟยวิ่งลงจากรถแล้วด่าไปชุดใหญ่:“แม่เอ๊ยคุณคือใครน่ะ!”

แต่ตู้เฟยที่เพิ่งด่าชุดใหญ่อย่างคำรามไปนั้น ก็ตะลึงไปทั้งตัว เพราะว่าหญิงสาวที่แต่งงานแล้วที่ลงมาจากบนรถ เรียกว่า:“เสี่ยวเฟย!”

และข้างในเสียงของหญิงสาวที่แต่งงานแล้วนั้น มาพร้อมกับน้ำเสียงร้องไห้

“แม่!”

เห็นแม่ของตัวเอง ตู้เฟยก็ตะลึงไปทั้งตัว

ส้าวส้วยนั่งอยู่ในรถ และด้านหลังของหญิงสาวที่แต่งงานแล้วนั้น ยังมีผู้ชายอีกคนอยู่ นั่นก็คือซุนจิ้น

ซุนจิ้นผลักหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว จากนั้นก็พูด:“ไปดูเรื่องดีๆที่ลูกชายคุณแสนดีของคุณทำซะสิ”

“แถวแรก ตำแหน่งที่เจ็ด”

ซุนจิ้นพูดเบาๆ

หญิงสาวที่แต่งงานแล้วเดินเข้ามา มองไปที่ตู้เฟย:“เสี่ยวเฟย ลูกบอกแม่มา ลูกฆ่าพ่อลูกจริงๆเหรอ”

ในดวงตาของหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“แม่ แม่อย่าไปฟังพวกเขาพูดเหลวไหล”

ตู้เฟยส่ายหน้า ไม่กล้าเอาความจริงบอกแม่ของตัวเอง

ถึงแม้แม่ของตู้เฟย ไม่มีความรู้สึกต่อตู้ต้าไห่มานานแล้ว แต่ ยังไงตู้ต้าไห่ก็เป็นพ่อแท้ๆของตู้เฟยนี่

ลูกชายของตัวเอง ฆ่าพ่อแท้ๆของตัวเองตาย

แค่คิด หญิงสาวที่แต่งงานแล้วก็รู้สึกปวดหัว ลูกชายของตัวเอง ทำไมถึงได้ทำเรื่องที่บ้าคลั่งเช่นนี้ออกมาได้

ซุนจิ้นหัวเราะ มองตู้เฟย:“ลูกผู้ชายอกสามศอกกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ในเมื่อลูกทำไปแล้ว จะมีอะไรให้ไม่กล้ายอมรับอีก?”

“ทำไม จะต้องให้แม่ของลูกไปดูหลุมศพของพ่อลูกให้ได้เหรอ ถึงจะยอมรับใช่ไหม?”

“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ”

ซุนจิ้นทำเสียงหึ แล้วพูด

“แถวแรกหลุมที่เจ็ด แม่จะไปดู”หญิงสาวที่แต่งงานแล้วพูดกับตัวเองจบ จากนั้นก็เดินออกไป

“แม่ ทำไมแม้แต่ลูกแท้ๆของแม่แม่ก็ไม่เชื่อล่ะ”ตู้เฟยตะโกนตามหลัง แต่หญิงสาวที่แต่งงานแล้วกลับไม่หยุดเลยสักนิด

ตอนที่ตู้เฟยอยากตามออกไป กลับถูกมือข้างหนึ่งของหลี่ฝางขวางไว้

“พวกคุณหาแม่ผมเจอได้ไง!”

“ตระกูลจูเก่อรับปากผมแล้ว ว่าจะดูแลแม่ผม”

ตู้เฟยหันหน้าไป มองซุนจิ้นด้วยสายตาน่ากลัว:“พวกคุณพาแม่ผมมาที่นี่ทำไม?”

“เหอะเหอะ ความสามารถในการซ่อนคนของตระกูลจูเก่อ คุณคิดว่าปกปิดใครได้บ้างเหรอ?”

ซุนจิ้นหัวเราะอย่างดูถูก แล้วพูด:“ส่วนที่พาแม่คุณมาที่นี่นั้น ไม่ใช่ความคิดของผม ผมก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น”

มองแม่ของตู้เฟย ในใจของหลี่ฝาง จู่ๆก็มีความมั่นใจในการช่วยลู่หลุ่ยมากขึ้น

ที่มือของตัวเอง ก็ถือว่ามีหมากแล้วเหมือนกัน

บนโลกใบนี้ ตู้เฟยไม่มีพันธะอะไรเหลืออีกแล้ว เชื่อว่าในครอบครัวเพียงอย่างเดียวของเขา ก็เหลือเพียงแค่แม่ของตัวเองแล้ว

หลี่ฝางกลับอยากดูว่า ตู้เฟยแค้นฝังลึกกับตัวเอง หรือว่ารักลึกซึ้งกับแม่ของตัวเองมากกว่ากัน

“เอาลู่หลุ่ยคืนมาให้ผม ผมก็จะปล่อยแม่ของคุณ”

หลี่ฝางมองตู้เฟยนิ่งๆ แล้วพูดว่า:“เธอคือคนในครอบครัวเพียงคนเดียวของคุณบนโลกใบนี้แล้ว คุณคงไม่อยากให้เธอตายหรอกใช่ไหม?”

พอหลี่ฝางพูดจบ ก็เห็นอาการของตู้เฟยเปลี่ยนไป

จริงๆด้วย ที่หน้าของตู้เฟย ปรากฏความกลัวและความกังวล

“ตระกูลจูเก่อไอ้พวกขยะ!”ตู้เฟยกำหมัดแน่น ด่าว่าด้วยความโกรธ

“เป็นไง?”

หลี่ฝางมองตู้เฟย แล้วถามต่อ:“ข้อตกลงนี้ คุณจะตอบตกลงไหม?”

สีหน้าของตู้เฟย ดูแย่อย่างมาก เขาไม่อยากปล่อยโอกาสที่จะฆ่าหลี่ฝางตาย แน่นอนว่า เขาก็ไม่อยากให้แม่ของตัวเองเกิดเรื่อง

“เดี๋ยวหลังจากแม่ผมกลับมา ให้ความร่วมมือผมหน่อย อย่าให้เธอรู้ว่า เป็นผมที่ฆ่าพ่อผมเอง”

“เธอรับไม่ได้แน่”

ตู้เฟยสูดหายใจลึกๆ แล้วพูด:“แค่พวกคุณให้ความร่วมมือผม ผมก็จะปล่อยลู่หลุ่ย”

“ได้สิ”หลี่ฝางพยักหน้า และก็พยักหน้าให้ซุนจิ้น

ตอนที่หญิงสาวที่แต่งงานแล้วกลับมาจากสุสาน ดวงตาของเธอ ก็บวมแดงขึ้นมา

ดูเหมือน เธอเพิ่งจะร้องไห้ไป

ตู้ต้าไห่ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้ชายที่ดีเท่าไหร่ เขาไปมีกิ๊กข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นผู้ชายที่เลว อย่างน้อย เขาก็ไม่เคยทิ้งภรรยาของตัวเอง และลูกของตัวเอง

หลังจากที่หญิงสาวที่แต่งงานแล้วกลับมา ก็มองตู้เฟย:“พ่อลูก ถูกลูกแทงตายจริงๆเหรอ?”

ตู้เฟยส่ายหน้าอย่างแรง:“แม่ ผมจะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ไง ถึงผมแย่แค่ไหน เสียสติแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะฆ่าพ่อผมได้ เขาเป็นพ่อผมนะ พ่อแท้ๆผม”

“เรื่องไม่ดีที่เขาทำเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ว่าเขาแค่ไปหากิ๊กข้างนอกเหรอ”ตู้เฟยคว้าแขนของแม่ตัวเองแล้วพูด

“งั้นเขาตายได้ยังไง?แม่แอบไปดูเขามา ภายใต้การดูแลของผู้หญิงคนนั้น เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทุกวันเขาจะนั่งรถเข็น ในตอนเย็น ก็จะไปรอบๆสวนสาธารณะ”

“เขากับผู้หญิงคนนั้นรักกันมาก ที่แม่ไม่รับเขาเข้ามาที่ตระกูลหยู ก็เพราะว่าแม่คิดว่าพ่อลูกหาความสุขของตัวเองเจอแล้ว ไม่ใช่เพราะแม่เกลียดเขา”

“รับเขาเข้ามาที่ตระกูลหยู ไม่มีอะไรมากไปกว่าได้กินของดีๆ มีชีวิตที่ดี แต่ขณะเดียวกัน เขาก็จะได้รับคำวิจารณ์ เยาะเย้ยถากถาง เขาคือคนที่รักษาหน้ามาก ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้ เขาอยู่อย่างไม่มีความสุขแน่”

“เขาตายยังไง?อย่าบอกแม่ว่าเขาฆ่าตัวตายเด็ดขาด แม่ไม่เชื่อ”

หญิงสาวที่แต่งงานแล้วจ้องตาของตู้เฟยเขม็ง

“เขา เขาฆ่าตัวตายจริงๆ”

ตู้เฟยพูดอย่างอ้ำๆอึ้ง​ๆ:“พ่อผมบอกว่าตัวเองถูกผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงดู อยู่อย่างอึดอัดใจมาก เขาไม่อยากเป็นตัวถ่วงผู้หญิงคนนั้น ดังนั้นก็เลย ……”

“เสี่ยวเฟย ลูกยังจำตอนเด็กๆที่มาเอาเงินกับแม่ได้ไหม?ก็เป็นแบบนี้ สายตาล่อกแล่ก พูดจาอ้ำๆอึ้ง​ๆ”

หญิงสาวที่แต่งงานแล้วแค่มองก็รู้ว่าตู้เฟยกำลังโกหก

“ลูกกำลังหลอกแม่”

“ลูกฆ่าพ่อของลูกไป จากนั้นก็แลกมากับความรุ่งเรืองมั่งคั่ง ใช่ไหม?”

“คฤหาสน์นั่นที่แม่อยู่ เป็นของตระกูลจูเก่อ ใช่ไหม?คนพวกนั้นที่ปกป้องแม่ ก็คือคนของตระกูลจูเก่อหมดเลย ใช่ไหม?พวกเขาไม่ใช่เพื่อนของคุณตาลูก”

“แม่เข้าใจเรื่องในสังคมมากกว่าลูกเยอะ คุณตาลูกได้พังทลายลงไปแล้ว แม้แต่เขายังไม่มีคนไปดูแล แล้วทำไมคนพวกนั้นต้องมาดูแลลูกสาวของเขาเป็นพิเศษด้วย?ตอนนั้นแม่ก็สงสัยว่าคนพวกนี้ดูแปลกๆ แม่ก็แค่ผู้หญิงแก่คนหนึ่ง ที่ตัวไม่มีสิ่งของอะไรที่คุ้มค่าต่อพวกเขา ดังนั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องมาแสวงหา”

“พวกเขาคือคนที่ลูกจัดการให้มาดูแลแม่ ใช่ไหม?”หญิงสาวที่แต่งงานแล้วถาม

แม่ของตู้เฟย คือผู้หญิงที่ฉลาดมากคนหนึ่ง

ทุกอย่างที่เธอวิเคราะห์ออกมาเองนั้น แม้แต่หลี่ฝางที่จะโกหกแทนตู้เฟย ก็หมดหนทาง

หน้าของตู้เฟย ดูแย่ถึงขั้นสุดทันที เขาก้มหน้าลงทันที พูดไม่ออก

นี่เท่ากับยอมรับการเดาของหญิงสาวที่แต่งงานแล้วโดยไม่ต้องสงสัย

เสียงดังแปะขึ้นมา หญิงสาวที่แต่งงานแล้วตบไปหนึ่งฉาดแรงๆ ที่ใบหน้าของตู้เฟย:“ลูกบ้าไปแล้วเหรอ เขาเป็นพ่อลูกนะ ลูกเอาความรุ่งเรืองมั่งคั่ง มาแลกกับพ่อลูกได้อย่างไร!”

“แม่เคยบอกลูกแล้ว ที่ตัวแม่มีงเงินอยู่ เป็นเงินที่พ่อลูกแอบทิ้งไว้ให้แม่ เงินก้อนนี้ เพียงพอที่จะให้ลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย พอที่จะให้ลูกแต่งงาน เพียงพอที่จะเอาไปเลี้ยงแม่ตอนแก่ ทำไมลูกถึงยังไป……”

หญิงสาวที่แต่งงานแล้วกัดฟัน โกรธจนแทบกระอักเลือด

“ลูกไม่เคยดื่มด่ำกับความรุ่งเรืองมั่งคั่งเหรอ?”หญิงสาวที่แต่งงานแล้วถามตู้เฟย

ตู้เฟยยังคงไม่พูด เขาไม่สามารถบอกแม่ของตัวเองได้ว่า ความจริงทั้งหมดนี้ ก็แค่เพราะว่าความแค้นในใจของเขา

หญิงสาวที่แต่งงานแล้วโกรธจนหอบ และตอนนี้เอง หลี่ฝางก็เข้าไปคว้าตู้เฟยไว้ แล้วพูด:“ลู่หลุ่ยอยู่ไหน?”

“ผมไม่มีเวลามายื้ออยู่กับคุณต่อไปแล้ว รีบบอกผมมา”

หลี่ฝางถามอย่างร้อนรน เขากลัวว่ารอต่อไป ลู่หลุ่ยจะเกิดอะไรไม่คาดคิด

ยังไงลู่หลุ่ยก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ถ้าคนพวกนั้นทำอะไรไม่ดีต่อเธอ ชาตินี้หลี่ฝางไม่ให้อภัยตัวเองแน่

“ผมจะพาคุณไป”

ตู้เฟยหมุนตัวทันที ขึ้นรถไป เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับแม่ของตัวเอง คิดแต่จะรีบออกไปจากตรงนี้

หลี่ฝางส่งสายตาให้ซุนจิ้น ซุนจิ้นเข้ามา เอาหญิงสาวที่แต่งงานแล้วขึ้นไปที่รถของตัวเอง

หลี่ฝางเพิ่งสตาร์ทรถไป ก็พบว่าตู้เฟยร้องไห้

หลี่ฝางคิดว่าน่าตลกมากๆ มองตู้เฟยแวบหนึ่ง หลี่ฝางก็ยื่นทิชชูให้ จากนั้นจึงถาม:“เสียใจเหรอ?”

“คุณฆ่าพ่อแท้ๆของคุณ ตอนนี้แม่ของคุณมาแค้นคุณเข้ากระดูกดำอีก คิดแล้วเธอไม่มีทางยกโทษให้คุณแน่”

“แล้วคุณยังขุดหลุมฝังตัวเองเข้าไปอีก”

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า:“ตู้เฟย ที่จริงผมให้อภัยคุณไปนับไม่ถ้วนแล้ว แค่คุณไม่มาหาเรื่องผม ผมก็จะไม่ไปแก้แค้นคุณ”

“ถึงคุณไม่ไปหาเรื่องลู่หลุ่ย ผมก็จะปล่อยไปคุณไปสักครั้ง”

หลี่ฝางส่ายหน้า พูด:“คุณไม่ควรลงมือกับรักแท้ของผม ครั้งนี้ ผมจะไม่ปล่อยคุณ”

พูดจบ หลี่ฝางมองตู้เฟยอย่างเย็นชา แล้วพูด:“ช่วยลู่หลุ่ยได้แล้ว ผมจะฆ่าคุณกับมือตัวเอง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท