NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 501

ตอนที่ 501

บทที่500 ซือถูเฟยหาเรื่อง

ชายสวมแว่นกันแดดไม่ได้ล้อเล่น เขามีความสามารถนี้ และก็มีความกล้า

เขามีน้องสาวแค่คนเดียว ก็คือโก่เอ๋อ

กล้าทำให้โก่เอ๋อเสียใจ ชายสวมแว่นกันแดดนี้ ก็จะไม่ปล่อยเขา

โก่เอ๋อเบะปาก พูดว่า:“ฉันได้ยินเองกับหู ถือว่าจริงไหม?และผู้หญิงคนนั้น ฉันก็เห็นแล้วด้วย ไม่สวยเท่าฉัน ไม่น่ารักเท่าฉัน ไม่สาวเท่าฉัน และก็ไม่ได้หน้าอก ……ใหญ่กว่าฉัน”

พูดถึงตรงนี้ โก่เอ๋อก็ทำเสียงฮึดฮัด แล้วจึงพูดต่อ:“ไม่รู้ว่าซือถูเฟยตาบอดหรือไง ถึงได้หาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นภรรยา!”

ตอนที่ได้ยินคำนี้ สีหน้าของส้าวส้วย ก็หม่นลงอย่างชัดเจน

หลี่ฝางรีบดึงแขนของส้าวส้วย แล้วพูด:“อย่าใจร้อน”

“เมื่อกี๊คุณบอกแล้วนี่ คนพวกนี้พวกเราแตะต้องไม่ได้”หลี่ฝางพูดโน้มน้าวไป

ส้าวส้วยหรี่ตาลง สายตาก็เปลี่ยนเป็นดูถูกขึ้นมา:“ก็แค่ไม่อยากสร้างความเดือดร้อนก็เท่านั้น”

“ไม่งั้น พวกทายาทพวกนี้ ในสายตาผมแล้วก็เทียบไม่ได้แม้แต่มด”

หลี่ฝางตกใจท่าทางของส้าวส้วย ดูเหมือนชิงฮัวในสายตาของส้าวส้วยนั้น มีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

ถึงแม้ชิงฮัวมีความรักของตัวเอง แล้วยังมีลูกกับซือถูเฟยอีก ส้าวส้วยก็ยังไม่อนุญาตให้ใครมาว่าเธอไม่ดีได้

ถึงแม้คนๆนี้จะมีหัวนอนปลายเท้าที่ดี ก็ไม่ได้

แน่นอนว่า ส้าวส้วยไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา ยังไงส้าวส้วยก็มีความสามารถ

ฆ่าโก่เอ๋อกับชายสวมแว่นกันแดดให้หมด ก็ไม่มีใครหาส้าวส้วยเจอได้

“เกินไปแล้ว”

หลังจากชายสวมแว่นกันแดดได้ยินคำพูดของโก่เอ๋อ ดวงตาก็มองไปรอบๆ:“ตระกูลซือถูไม่เห็นหัวพวกเรามากไปแล้ว”

“ใช่ ใช่”

โก่เอ๋อรีบพยักหน้า แสดงออกอย่างเห็นด้วย:“ซือถูเฟยนี้ ทำยิ่งกว่าหลอกฉัน เขาทำแบบนี้ เท่ากับว่าเล่นงานพวกเราทั้งตระกูล เรื่องนี้ถ้าพูดไปถึงเมืองหลวงหน้าของพวกเราทั้งตระกูล ได้ถูกตระกูลซือถูหักหมดแน่”

“ใช่ไหม พี่”โก่เอ๋อถามชายสวมแว่นกันแดด

“ไป ตอนนี้ผมจะพาคุณไปที่ตระกูลซือถู ไปพูดเหตุผลกับพวกเขา”

ชายสวมแว่นกันแดดพูดด้วยความโกรธ:“ถ้าพวกเขาไม่ได้ให้คำอธิบายที่น่าพอใจแก่พวกเรา ผมก็จะจัดการตระกูลซือถูของพวกเขา”

พูดจบ ชายสวมแว่นกันแดดดึงแขนของโก่เอ๋อ บังคับให้ไปที่รถของเขา

“พี่ พี่ไปเองก็ได้ ฉันยังต้องเข้าเรียนอีก”โก่เอ๋ออยากสะบัดมือของพี่ชายตัวเองออก แต่สะบัดไม่ออก

ภายใต้การทำอะไรไม่ได้ โก่เอ๋อได้แต่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้หลี่ฝาง หลังจากหลี่ฝางเห็น ก็หันหน้าไปทางส้าวส้วยทันที แล้วก็พูด:“ส้าวส้วย วันนี้พระอาทิตย์ดีมากเนอะ”

“ใช่”ส้าวส้วยพยักหน้า เงยหน้ามองพระอาทิตย์:“เดี๋ยวผมก็จะไปซื้อแว่นกันแดด”

“หลี่ฝาง คุณรีบช่วยฉันสิ”

โก่เอ๋อเริ่มตะโกนเสียงดังไปที่หลี่ฝาง แต่หลี่ฝางทำเหมือนหูตึง เงยหน้าขึ้น หลับตาลง เริ่มรับแสงแดด

โก่เอ๋อเห็นตัวเองจะถูกพี่ชายลากขึ้นรถ เธอจึงรีบดึงสายเสื้อในของตัวเอง ตะโกนไปที่ตนอยู่รอบๆ:“เเต๊ะอั๋ง เเต๊ะอั๋ง มีคนมาเเต๊ะอั๋งฉัน”

เสียงของโก่เอ๋อมีพลังมาก เธอตะโกนไป คนที่อยู่รอบหลายสิบเมตรนั้น ก็เริ่มวิ่งมาทางนี้

“ห่า ทำบ้าอะไรเนี่ย กลางวันแสกๆยังจะมาเเต๊ะอั๋งผู้หญิงอีก ทำไมคนๆนี้กล้าขนาดนี้!”

“ผู้ชายสวมแว่นกันแดดนั่น ดูแต่งตัวสิ แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี”

ทุกคนชี้ไปที่ชายสวมแว่นกันแดด แล้วถกเถียงกันขึ้นมา

มีผู้ชายสองสามคนท่าทางล่ำๆ เดินเข้ามาทันที ชี้ไปที่ชายสวมแว่นกันแดดแล้วพูด:“คุณรีบปล่อยสาวสวยคนนี้ ไม่อย่างนั้น พวกเราจะเกรงใจแล้วนะ”

“ใช่ ปล่อยมือ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะลงมือแล้วนะ”

มองเหล้าผู้ชายที่กล้าหาญพวกนี้ ชายสวมแว่นกันแดดขมวดคิ้ว แล้วพูดอธิบาย:“เธอคือน้องสาวผม”

“ห่า แม่เอ๊ยคิดว่าเราเป็นเด็กสามขวบหรอกเหรอ?น้องสาวคุณ?เธอเป็นน้องสาวคุณ ทำไมจึงตะโกนว่าแต๊ะอั๋งล่ะ?”

“ผู้หญิงใจดีคนหนึ่งช่วยแจ้งความไว้แล้ว เราหนุ่มๆลุยไปพร้อมกันเถอะ จับเขาไว้ ก่อนตำรวจมา อย่าให้เขาหนี”

พวกผู้ชายพูดจบ ก็พุ่งไปที่ชายสวมแว่นกันแดดพร้อมกัน

และชายสวมแว่นกันแดดก็ปล่อยโก่เอ๋อในเวลานี้

“อย่ามายุ่งนักเลย”

ชายสวมแว่นกันแดดขากน้ำลายลงพื้น แล้วเริ่มตอบโต้ศัตรู

โก่เอ๋อได้รับอิสระ ก็วิ่งเข้าไปในรถทันที

“หลี่ฝาง คุณยังจะตะลึงอะไรอีก รีบขึ้นรถสิ”หลังจากโก่เอ๋อวิ่งขึ้นไปที่รถ ก็ตะโกนไปทางหลี่ฝางกับส้าวส้วย

ส้าวส้วยกับหลี่ฝางสบตากัน ไม่อยากขึ้นรถ

โก่เอ๋อนั้นเป็นตัวปัญหา ให้ชายสวมแว่นกันแดดเอาเธอไป หลี่ฝางกับส้าวส้วยคิดมาตลอดว่าเป็นตัวเลือกที่ดี

แต่ใครจะไปรู้ว่าโก่เอ๋อไปนั่งที่นั่งคนขับทันที สตาร์ทรถ มาตรงหน้าหลี่ฝาง:“ขึ้นไหม?ไม่ขึ้นฉันไปเองนะ!”

“คุณนี่เยี่ยมจริงๆ”หลี่ฝางยกนิ้วโป้งให้โก่เอ๋อ จึงกระโดดขึ้นรถ

ชายสวมแว่นกันแดดที่อยู่ข้างๆมองเห็นฉากนี้ ร้อนรนขึ้นมาทันที

“โก่เอ๋อ หยุดเดี๋ยวนี้!”ชายสวมแว่นกันแดดตะโกนเสียงดัง

“พี่ ขอร้องล่ะอย่าตามฉันไม่ปล่อย น้องอยากได้อิสระ!”โก่เอ๋อพูดจบ ก็สตาร์ทรถออกทันที

ชายสวมแว่นกันแดดถูกคนหลายคนล้อมไว้ ผ่านไปสักพักถึงจะหลุดออกมาได้

ตอนที่ชายสวมแว่นกันแดดกระโดดเข้าไปที่รถของตัวเอง โก่เอ๋อก็ขับรถออกไปเป็นกิโลเมตรแล้ว

“หลี่ฝาง คุณมันไร้น้ำใจจริงๆ?เมื่อกี๊คุณมองฉันถูกคนขับตัวไปเนี่ยนะ?มีเพื่อนที่ขายเพื่อนอย่างคุณด้วยเหรอ?”โก่เอ๋อมองหลี่ฝางด้วยความโกรธ พูดอย่างเซ็งๆ

หลี่ฝางหัวเราะ:“ขอร้องล่ะ คุณหนู เขาคือพี่ชายคุณ และคุณก็เห็นแล้วว่า พี่คุณสู้ได้ พวกเราเป็นคู่ต่อสู้เขาที่ไหนกัน เข้าไปห้าม ก็ได้แต่ถูกพี่ชายคุณต่อยออกมาสิ”

“อือ พี่ชายฉันสุดยอดมาก แต่คุณโคตรขี้ขลาดเลย ความเป็นยุทธภพสักนิดก็ไม่มี ต่อไปฉันจะอยู่ให้ไกลจากคุณ”โก่เอ๋อพูดดูถูกหลี่ฝาง

มุมปากของหลี่ฝางยกขึ้น:“งั้นผมต้องขอบคุณคุณแล้ว”

โก่เอ๋อพ่นลมออกมาจากปาก มองหลี่ฝางอย่างเย็นชา:“หลี่ฝาง แม่เอ๊ยคุณหมายความว่าไง จะทิ้งฉันใช่ไหม?”

“คุณเขื่อไหมว่าฉันจะทำให้คุณ……”

หลี่ฝางตกใจ จึงรีบพูด:“คุณหนู ผมผิดไปแล้ว คุณขับรถดีๆได้ไหม?”

หลี่ฝางกลัวโก่เอ๋อจะพูดจาเหลวไหล บอกลู่หลุ่ยเรื่องที่ตัวเองจูบเธอด้วยความบังคับ

โก่เอ๋อขับรถไป พร้อมกับเอาเงินทีละกองๆ มาไว้ที่ต้นขาของตัวเอง หลี่ฝางเห็นจึงถาม:“โก่เอ๋อ คุณเอาเงินผมไปทำไม?”

“ใครให้คุณไม่มีน้ำใจล่ะ!”

โก่เอ๋อพูดอย่างน่าสงสาร:“ฉันบอกคุณให้นะ หลี่ฝาง ครั้งนี้ฉันเห็นแก่เงิน ถึงให้อภัยคุณ ถ้าครั้งหน้าคุณยังกล้าทิ้งฉันอีก ฉันจะสู้กับคุณแล้ว”

หลี่ฝางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ ปล่อยให้โก่เอ๋อเอาเงินมาคลุมขาทั้งสองของตัวเอง

“หลี่ฝาง คุณรับปากฉัน ครั้งต่อไปจะไม่ทิ้งฉันอีก เข้าใจไหม?”โก่เอ๋อขับรถไปก็พูด เสียงมีความสะอึกสะอื้นหน่อยๆ

สีหน้าหลี่ฝางนิ่งไปเล็กน้อย ประโยคของโก่เอ๋อนี้ เหมือนจะคลุมเครือหน่อยๆ

อย่างที่คิดไว้ สีหน้าของลู่หลุ่ยหม่นลง ตาจ้องไปที่หลี่ฝาง

หลี่ฝางหัวเราะแห้งๆ แล้วตอบ:“ผมว่านะโก่เอ๋อ เราสองคนไม่ใช่ญาติหรือคนสนิทกัน เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง คุณอย่าเอาแต่มาพัวพันกับผมได้ไหม ผมมีแฟนแล้ว”

“มีแฟนแล้วไง?แล้วฉันก็ไม่ได้จะจีบคุณ ปู่ฉันก็ไม่เอาแล้ว แล้วยังตัดขาดสังคมของฉันอีก ตอนนี้ฉันไม่มีเพื่อนสักคน เหลือแค่คุณคนเดียวแล้ว คุณไม่ต้องการฉันอีก ฉันว่าตายๆไปก็ดี”โก่เอ๋อพูดอย่างหดหู่

“คุณยังมีฉินวี่เฟยนี่ คุณสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

จู่ๆหลี่ฝางก็คิดถึงฉินวี่เฟย จึงพูดกับโก่เอ๋อ:“ใช่ คุณไปหาฉินวี่เฟยได้นี่”

และก็จริงๆ หลังจากพูดถึงฉินวี่เฟย ใบหน้าของโก่เอ๋อก็ดูสดใสขึ้นมาทันที

“ใช่ ยังมีพี่วี่เฟย เขาแข็งแกร่งกว่าแฟนคุณเยอะเลย”โก่เอ๋อไม่เลี่ยงเลย เธอกลอกตาใส่ลู่หลุ่ย แล้วพูดกับหลี่ฝาง:“ฉันว่านะหลี่ฝาง หรือว่าพี่วี่เฟยไม่เอาคุณ คุณถึงได้กลับมากินของเก่าน่ะ”

“หุบปาก อย่าพูดเหลวไหล พูดเหลวไหลอีกผมจะเตะคุณออกไป”หลี่ฝางขมวดคิ้วทันที

“โอเค นี่คือรถของคุณ ฉันจะยอมคุณสักครั้ง”

ไม่นานนัก รถก็ขับมาหน้าประตูมัธยมสุ่ยมู่

และที่หน้าประตูมัธยมสุ่ยมู่ ถูกรถหรูเป็นแถวๆ กั้นขวางทางไว้ไม่ให้ผ่าน

หลี่ฝางมองเห็นฉากนี้ ขมวดคิ้วถาม:“นี่ใครกันเนี่ยคิดจะมาทำศึก?หัวหน้าคนไหนมาตรวจสอบสุ่ยมู่”

“ซือถูเฟยนั่นเอง”

ส้าวส้วยพูดขำๆ:“น่าจะมาหาโก่เอ๋อ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท