NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 504

ตอนที่ 504

บทที่ 504 ระเบิดสโมสรเจียงหนานซะ

โหจื่อพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “คุณชายซือถู ยอมรับตามตรง จักรยานไฟฟ้าคันนี้มันเก่าไปหน่อย แต่ว่ามันก็มีข้อด้อยอยู่อย่าง งั้นก็คือประหยัดเงินดี”

“คุณชายซือถูมีงานการยุ่งวุ่นวายทุกวัน แต่ละวันต้องขับBugatti Veyronไปๆ มาๆ รอบเมือง ทุกๆ วันจะต้องเสียเงินค่าน้ำมันรถไปหลายพันเลยใช่มั้ยล่ะ?”

“แต่ว่าจักรยานไฟฟ้าคันนี้ไม่เหมือนกัน ขอแค่ชาร์จแบตให้เต็ม ก็สามารถขี่ไปรอบเมืองได้ไม่มีปัญหาเลย”

โหจื่อเลิกคิ้ว พลางมองซือถูเฟย ปากบอกว่าเป็นการแลกเปลี่ยน ซือถูเฟยเสียเปรียบมากกว่าชัดๆ

ซือถูเฟยได้ยินประโยคนี้ กล้ามเนื้อบนใบหน้าก็กระตุกทันที

เขาไม่ใช่คนเห่ยมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้เขาเป็นถึงคุณชายของสี่ตระกูลใหญ่ จะให้คุณชายคนนึง ไปขี่จักรยานไฟฟ้า แถมยังเป็นจักรยานไฟฟ้าเก่าๆ คันนึงอีก?

“นี่นายล้อฉันเล่นหรือไง!”

“เงินห้าเหรียญ บวกกับจักรยานไฟฟ้าโง่ๆ นั่นคันนึง แลกกับBugatti Veyronของฉัน? นายเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?” ซือถูเฟยขมวดคิ้ว ทำหน้าดุดันพลางมองโหจื่อ

“สมองนายมีปัญหาใช่มั้ย?” ซือถูเฟยด่าอย่างไม่สบอารมณ์

โหจื่อแค่ยิ้มอยู่นิ่งๆ ไม่พูดอะไรสักคำ

“ห้าสิบล้าน ห้ามขาดสักเหรียญเดียว” ซือถูเฟยทำหน้าแน่วแน่ น้ำเสียงหนักแน่น

“ห้าเหรียญ ไม่เพิ่มให้สักเหรียญเดียว” โหจื่อก็ไม่ยอมถอย แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง

“นาย……” ซือถูเฟยกัดฟันแน่นพลางมองโหจื่อ ขณะที่ปากเพิ่งจะพูดออกมาแค่หนึ่งคำ โหจื่อก็ใช้นิ้วโป้งกดไปที่หน้าจอโทรศัพท์ของตน

“คุณชายซือถู โทรไปหาที่สโมสรเจียงหนานหน่อยเถอะ ผมได้ยินว่าที่นั่นมีระเบิดอีกแล้ว” โหจื่อยิ้มแบบเม้มปาก แล้วพูด

ซือถูเฟยรีบล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรไปที่สโมสรเจียงหนาน

โทรอยู่นานถึงจะมีคนรับ

“คุณชายซือถู แย่แล้ว โรงจอดรถระเบิดแล้ว ไม่ใช่แค่ระเบิดรถไปหลายคัน แถมยังทำให้ไฟลุกใหญ่เลยด้วย…..”

ซือถูเฟยขัดบทสนทนาของอีกฝ่าย แล้วพูด: “รีบดับไฟก่อน”

พูดจบ ซือถูเฟยก็กดวางสาย

“คุณชายซือถู ผมรู้ว่าคุณชายเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น”

“ยังไงคุณชายไม่ยอมขายในราคาห้าเหรียญ ห้าสิบล้านผมก็ซื้อไม่ไหว งั้นผมก็ทำได้แค่เล่นเป็นเพื่อนคุณชายแล้ว”

โหจื่อหัวเราะ ‘ฮี่’ มาคำนึง: “น่าเสียดาย คุณชายหนุ่มๆ ในเมืองเอกนี้ จะต้องมีที่เที่ยวลดไปที่นึงแล้ว”

ขณะที่โหจื่อพูด นิ้วก็กดลงไปที่โทรศัพท์

“อย่า อย่า!”

ซือถูเฟยลนลาน เขาร้องห้ามทันที เรียกให้โหจื่อหยุด

ขณะเดียวกันใบหน้าของซือถูเฟยก็มีรอยยิ้มอย่างฝืนๆ แล้วพูด: “พี่ชาย พวกเรามีอะไรคุยกันดีๆ พี่ว่ามีเรื่องอะไรที่คุยกันไม่ได้จริงมั้ย”

“เอาแบบนี้แล้วกัน รถBugatti Veyronคันนี้ ผมให้พี่เลย ดีมั้ย?”

“ขอร้องพี่ยกนิ้วขึ้น ปล่อยผมไปสักครั้ง”

ท่าทีของซือถูเฟย ดูต่ำเตี้ยมาก

วินาทีที่โรงรถโดนระเบิด ซือถูเฟยถึงได้เข้าใจ ที่โหจื่อพูดมาเมื่อครู่ ทั้งหมดเป็นความจริง ไม่ใช่แค่พูดข่มขู่ และยิ่งไม่ใช่คำพูดล้อเล่น

สโมสรเจียงหนาน เป็นธุรกิจที่ตระกูลซือถูมอบให้ซือถูเฟยดูแล

ถึงแม้ว่าสโมสรเล็กๆ ที่นึงไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตระกูลซือถู แต่ว่าสโมสรเจียงหนานอยู่ในความดูแลของซือถูเฟย แบบนั้น ภายหน้าฐานะในตระกูลซือถูของซือถูเฟย คงจะลดลงอย่างมาก

คนในตระกูล คงจะคิดว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่างดีแต่ทำให้ขายขี้หน้า

พูดอย่างง่ายๆ ถ้าสโมสรเจียงหนานพังไป ก็ความหมายว่าซือถูเฟยก็พังด้วยเช่นกัน

“ให้ฉัน? โห ซือถูเฟย นี่นายหมายความว่าไง ดูถูกเงินห้าเหรียญของฉันเหรอ?” โหจื่อหันหน้ามา ตาสองข้างจ้องซือถูเฟยตาเขม็ง

“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่แค่……”

ซือถูเฟยมองโหจื่ออย่างเลิ่กลั่ก: “โอเค งั้นก็ห้าเหรียญ”

“ฮี่ฮี่ แบบนี้ค่อยดีหน่อย”

โหจื่อทำหน้ามุ่ย แล้วยัดเงินห้าเหรียญใส่มือซือถูเฟย จากนั้นก็แย่งกุญแจรถ จากมือเขามา

แล้วเข้าไปในรถ โหจื่อลิ้มรสเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้นก็แสดงให้เห็นถึงความหลงใหล

“ซือถูเฟย จักรยานไฟฟ้าเก่าๆ คันนั้น เป็นของนายแล้ว”

“นายสามารถขี่มันแล้วไสหัวไปได้แล้ว”

ผ่านไปไม่นาน โหจื่อก็ลงมาจากBugatti Veyronคันนั้น แล้วโยนกุญแจรถจักรยานไฟฟ้าให้ซือถูเฟย

หน้าของซือถูเฟยดูย่ำแย่สุดๆ มันแค่รถจักรยานไฟฟ้าเก่าๆ คันนึง นั่งลงไป ยังรู้สึกว่าเลอะตูดตัวเองเลย เขาก็ขี่ไม่ค่อยเป็นอีก

“ทำไม ดูถูกมันเหรอ? นายดูให้ดีๆ จักรยานไฟฟ้าคันนี้คุ้นๆ มั้ย?”

“นี่มันของคนข้างบ้านฉันนี่!” ซือถูเฟยมองอย่างละเอียด จู่ๆ ก็นึกออก

“ใช่แล้ว ฉันซื้อมาจากคนข้างบ้านเมื่อก่อนของนาย ได้ยินมาว่านายอยากได้มาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงซื้อมาให้นาย”

โหจื่อพูดพลางยิ้ม: “ซือถูเฟย นายควรจะขอบคุณฉันมั้ย?”

ขอบคุณนาย?

ในส่วนลึกของจิตใจของซือถูเฟย เขาล่ะอยากจะถลกหนังโหจื่อออกมาจริงๆ

โหจื่อหัวเราะฮี่ฮี่: “เอาล่ะ รีบขี่ม้าไฟฟ้าของนาย แล้วพาคนของนาย รีบไสหัวออกไปเถอะ”

“รีบใช้โอกาสตอนที่ฉันยังอารมณ์ดีๆ อยู่ ทางที่ดีนายรีบพาคนของนายกลับไปเถอะ ไม่อย่างนั้น……ฮี่ฮี่ ถึงแม้รถพวกนี้สำหรับฉันแล้วล้วนแต่เป็นขยะ แต่ว่า ถ้าขายรถกากๆ ก็ควรจะแลกค่าน้ำมันรถหน่อยใช่มั้ย?” โหจื่อยิ้มพลางข่มขู่ ดึงความสนใจจากรถที่เหลือ

เมื่อซือถูเฟยได้ยินก็ตัวสั่นเทา ทันใดนั้นก็บอกกับคนของตน: “รีบขับรถออกไป เร็วๆ”

หลังจากรถคันอื่นขับออกไปแล้ว ซือถูเฟยก็กำกุญแจรถจักรยานไฟฟ้า ไว้อย่างแน่น

“พี่ชาย ผมถามชื่อของพี่หน่อย ผมอยากรู้ว่าวันนี้ตนอยู่ในกำมือของใคร” ซือถูเฟยมองโหจื่อ แล้วถาม

ซือถูเฟยทำใจไม่ได้สุดๆ เขาไม่อยากจะปล่อยไปแบบนี้

โหจื่อมองความคิดของซือถูเฟยออก: “ทำไม หลังจากวันนี้จะตามมาล้างแค้นฉันเหรอ?”

“อย่าวุ่นวายเลย รีบไสหัวไป พวกเราสองคนไม่ใช่คนระดับเดียวกัน นายไม่มีค่าพอรู้ชื่อของฉันหรอก ถ้าอยากจะรู้ ก็เรียกให้ปู่ของนายมาถาม เขาถึงจะมีค่าพอที่จะรู้”

โหจื่อยิ้มอย่างดูถูก พลางมองซือถูเฟย นั่งลงบนจักรยานไฟฟ้าคันเก่าๆ

“กลับไปฝากทักทายคุณปู่นายหน่อย จำไว้ว่าบอกเขาหน่อยนะ ว่าหลังจากนี้ตอนที่นอน ให้เปิดตาไว้ข้างนึง บอกกับเขา ว่าคนที่จะทำให้เขาร้องขอชีวิตมาแล้ว ให้เขาระวังตัวให้ดี”

โหจื่อพูดกับซือถูเฟย และไม่ลืมที่จะพูดให้เขากลัว

ซือถูเฟยจ้องโหจื่อ มองอยู่หลายวินาที

โก่เอ๋อช็อกไปแล้ว แล้วมองโหจื่ออย่างเคารพ: “โห พี่ชาย พี่ใช้เงินห้าเหรียญซื้อรถBugatti Veyronมาได้คันนึง?”

“ห้าเหรียญอะไรกัน? ยังให้รถจักรยานไฟฟ้าเขาไปคันนึงนะ” โหจื่อยู่ปาก แล้วพูดเสริม

“เงินห้าเหรียญ จักรยานไฟฟ้าคันนึง แลกกับรถBugatti Veyron การซื้อขายนี้ทำได้ดี”

โก่เอ๋อมองโหจื่อ แล้วพูดฮี่ๆ : “พี่ชาย ครั้งต่อไปที่เจอซือถูเฟย ฉันเอาเงินห้าเหรียญ กับจักรยานไฟฟ้าคันนึง ไปแลกรถมาให้ฉันสักคันได้มั้ย?”

โหจื่อไม่ได้สนใจโก่เอ๋อ เขาแค่หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดอยู่ครู่

“อาจารย์……จะปล่อยเขาไปแบบนี้จริงๆ เหรอ?” โหจื่อเดินมาข้างหน้าส้าวส้วย แล้วถามด้วยเสียงไม่ดัง

ส้าวส้วยยืนพิงรถเบนซ์G-Class พลางสูบบุหรี่อย่างไม่ค่อยแฮปปี้: “ฉันเคยสัญญากับชิงฮัวไว้ ว่าจะไม่ทำร้ายมัน”

“แต่มันรังแกชิงฮัว”

โหจื่อส่ายหน้า: “อาจารย์ นี่ไม่ใช่อาจารย์เลย ถ้าเป็นเมื่อก่อน อาจารย์คงไม่สนใจอะไร แล้วเตะไอ้ซือถูเฟยนั่นจนเดี้ยงไปแล้ว”

“ฉันก็เคยคิดจะทำแบบนั้น”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ : “แต่ว่าชิงฮัวไม่อยากเห็นแบบนั้น”

“ทำไมถึงต้องสนใจความรู้สึกของชิงฮัวมากขนาดนั้น? ทำไมไม่คิดถึงตัวเองบ้าง?” โหจื่อมองส้าวส้วยอย่างปวดใจ

ส้าวส้วยไม่ได้พูดอะไร และจุดบุหรี่ให้ตัวเองอีกมวน

“ผมระเบิดสโมสรเจียงหนานแล้ว ถือว่าเป็นการสั่งสอนซือถูเฟยอย่างนึง” โหจื่อพูด

ส้าวส้วยมองโหจื่อ ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่โหจื่อทำนั้นผิด เขาแค่พูดอย่างนิ่งๆ : “บอกลูกพี่ใหญ่หรือยัง?”

“ยังครับ” โหจื่อส่ายหัว

“รีบบอกลูกพี่ใหญ่เถอะ พวกเราฆ่าจูเก่อเจิ้งไปแล้ว ตระกูลจูเก่อต้องมาล้างแค้นพวกเราแน่ๆ ตอนนี้นายยังไประเบิดสโมสรเจียงหนานอีก ยังไงตระกูลซือถูก็ต้องสวนกลับ……นายบอกลูกพี่ใหญ่ ให้เขาเตรียมรับมือฉุกเฉิน”

ส้าวส้วยเม้มปาก แล้วยิ้มออกมา: “ขอบใจนะ โหจื่อ”

“ขอบใจที่นายช่วยให้ฉันระบายความโกรธ”

โหจื่อพลางโทรหาหลี่ต๋าคาง พลางยิ้มแล้วพูด: “อาจารย์ อาจารย์ขอบใจเร็วไปหน่อยแล้ว”

“อาจารย์ดูสินั่นใคร?”

โหจื่อใช้คางชี้ ไปทางผู้หญิงสวมชุดเดรสยาวสีแดงคนนึง กำลังมองมาทางส้าวส้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท