บทที่ 508 หวังว่าจะเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด
“สวย ใจกว้าง ฉลาด บ้านรวย……”
หลี่ฝางยังไม่ทันพูดจบ ฉินวี่เฟยก็แทรกขึ้นมา: “งั้นนายล่ะ? นายก็อดใจไหวไม่ใช่เหรอ? จากที่ฟังนายพูด นายก็ไม่ใช่คนปกตินี่?”
“ฉันก็เกือบ เกือบไปแล้ว ฉันเป็นคนที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่ดันไปตกหลุมเธอ” หลี่ฝางยิ้มแห้งๆ
“ถ้ารู้แบบนี้ ฉันพยายามอีกหน่อยก็คงจะดี” ฉินวี่เฟยพูดเองตอบเอง
หลี่ฝางได้ยินประโยคนี้ ในใจอยู่ๆ ก็ทรมาน เขาอยากจะคว้าฉินวี่เฟยเข้ามา กอดเอาไว้ในอ้อมแขน
แต่สติสัมปชัญญะของหลี่ฝางบอกไว้ ว่าตนไม่สามารถทำแบบนั้นได้
หลี่ฝางรีบเปลี่ยนประเด็น แล้วถามขึ้น: “ใช่แล้ว ด้านฉินเสี่ยวหู่มีข่าวคราวบ้างหรือยัง?”
ฉินวี่เฟยส่ายหน้า แล้วพูด: “เมื่อคืนฉินเสี่ยวหู่แอบกลับบ้านมารอบนึง ให้ฉันเอาตำแหน่งประธานของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ยกให้พ่อของเขา แถมยังขู่ฉัน ถ้าหากฉันไม่ยอม ก็จะไม่ให้ฝังคุณปู่”
หลี่ฝางได้ฟังก็ขมวดคิ้ว: “เขาบ้าไปแล้วเหรอ? ถึงกับขู่เธอเรื่องนี้”
“หรือว่าเขาไม่ใช่หลานของนายท่านฉินเหรอ?” หลี่ฝางถามฉินวี่เฟยอยากผิดคาด
ถ้าหากเป็นหลาน ทำไมถึงใช้เรื่องนี้มาข่มขู่
ไม่ให้ฝังคุณปู่ตัวเอง ไอ้สวะฉินเสี่ยวหู่นี่ ไม่เลวไปหน่อยเหรอ?
“แน่นอนว่าเขาเป็น แต่แค่ เขาคิดว่าคุณปู่ลำเอียงรักพวกเรามากกว่า แล้วทำไม่ดีกับพ่อของเขา” ฉินวี่เฟยถอนหายใจ: “ลุงสองก็ด่าเขา แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ก่อนที่คุณปู่จะเสีย ท่านก็ด่าฉินเสี่ยวหู่ไว้ไม่น้อย ถ้าหากไม่เป็นเพราะทุกคนห้ามไว้ อยู่หลายหน คุณปู่คงจะอยากตัดชื่อฉินเสี่ยวหู่ออก”
ฉินวี่เฟยพูด พลางถอนหายใจ แล้วพูด: “ฉินเสี่ยวหู่ทำไปได้”
“แล้วยังไง?”
หลี่ฝางพูดอย่างดูถูก: “วันพิธีงานศพบอกฉัน ถ้าหากฉินเสี่ยวหู่กล้าเสนอหน้ามา ให้ฉันจัดการเอง”
“เห้อ ทำได้แต่แบบนั้นแล้ว ฉินเสี่ยวหู่เป็นคนไม่มีเหตุผล พวกเราใครก็จนปัญญา แม้แต่ลุงสองก็เอาเขาไม่อยู่”
“พรุ่งนี้ตอนเช้า ก็จะนำร่างของคุณปู่ไปฝังแล้ว”
“ถ้าหากทำพิธีเลยฤกษ์ จะมีผลกระทบเป็นอย่างมาก” ฉินวี่เฟยพูดอย่างจนปัญญา
คนมีเงิน ยิ่งเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “พรุ่งนี้ฉันจะส่งคนไปจัดการ”
“โอเค รบกวนนายแล้ว” ฉินวี่เฟยพูดอย่างขอบคุณ
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้ ความสัมพันธ์ของพวกเรา มีอะไรที่รบกวนไม่ได้ นี่ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเอง”
“ฉันไปก่อนนะ หลี่ฝาง” ถึงแม้ฉินวี่เฟยจะไม่อยากจากไป แต่ยังคงต้องเดินจากไป
เมื่อเดินมาถึงบริเวณสวนของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ ตาสองข้างของฉินวี่เฟย ก็มีน้ำตาไหลออกมา
ออกมาจากมหาลัย เข้าสู่แวดวงธุรกิจ ถึงแม้จะไม่ได้ขีดเส้นแบ่งฝ่ายชัดเจนกับหลี่ฝาง แต่มันก็ห่างออกไปมากอยู่ดี
“พ่อ” ฉินวี่เฟยมองชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่หน้าประตูมหาลัย แล้วเรียกเขา
“ทำใจจากเพื่อนสนิทพวกนั้นของลูกไม่ได้เหรอ?” ฉินเพ่ยถามขึ้น จากนั้นก็ถอนหายใจ แล้วพูด: “ไม่เป็นไร รอให้เรื่องที่บริษัทสงบลงหน่อย ลูกก็ไม่ค่อยยุ่งแล้ว ถึงเวลานั้นลูกค่อยกลับมาที่มหาลัยหาพวกเขา หรือจะเรียกพวกเขาไปเที่ยวเล่นที่บ้านก็ได้นะ”
“หนูยังไม่ได้บอกกับพวกเพื่อนสนิทหนู”
ฉินวี่เฟยพูด
ฉินวี่เฟยบอกเรื่องที่ตัวเองพักการเรียน กับหลี่ฝางแค่คนเดียว
“งั้นลูกร้องไห้ทำไม?” ฉินเพ่ยมองลูกสาวของตนอย่างไม่เข้าใจ
“พ่อ ไปบริษัทเถอะ”
“พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ หนูจะสายไม่ได้” ฉินวี่เฟยเช็ดน้ำตา แล้วพูดขึ้น
ต่อมาฉินวี่เฟยก็ไปที่บริษัท ประชุมกับบอร์ดผู้บริหาร
ในวันนี้ ฉินวี่เฟยคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป อีกไม่นาน เธอก็จะเป็นประธานบริษัทแล้ว
จากนักศึกษามหาวิทยาลัยคนนึง กลายมาเป็นประธานบริษัทชั่วพริบตา
ไม่พูดก็ไม่ได้ การก้าวกระโดดนี้ เหมือนจะใหญ่ไปหน่อย
หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยจากไป ในใจของเขา การรู้สึกไม่อยากจากจริงๆ
หลี่ฝางคิดอยู่ในใจ ถ้าหากเขาเกิดในสมัยก่อนก็คงจะดี แบบนั้น ตนสามารถมีภรรยาสามสี่คนได้เลย
พูดตามตรง ไม่ว่าจะเป็นฉินวี่เฟย หรือว่าลู่หลุ่ย หลี่ฝางไม่อยากปล่อยใครไปเลย
แต่ลู่หลุ่ยขี้น้อยใจ บอกอย่างชัดเจนเลยว่าไม่สามารถรับการมีอยู่ของฉินวี่เฟยได้
เมื่อเลิกเรียน เหยนเสี่ยวน่าก็มาหาหลี่ฝางที่หน้าห้อง แล้วเรียกหลี่ฝางออกไป
“หลี่ฝาง เมื่อกี้อาจารย์บอกกับพวกเรา ว่าฉินวี่เฟยพักการเรียน โห เมื่อเช้านางยังดีๆ อยู่เลย แค่ออกไปข้างนอกรอบเดียว ก็ไม่กลับมาแล้ว ฉันรู้สึกแปลกๆ จึงไปถามอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ที่ปรึกษาจึงบอกฉันว่า ฉินวี่เฟยยื่นเรื่องขอพักการเรียนแล้ว”
“เรื่องนี้ นายรู้มั้ย?” เหยนเสี่ยวน่ามองหลี่ฝางอย่างสงสัย
หลี่ฝางมองเหยนเสี่ยวน่า: “ทำไมถึงต้องถ่อมาถามฉันด้วย?”
“ก่อนที่ฉินวี่เฟยจะไป มาหานายรอบนึงใช่มั้ย? อย่ามาปฏิเสธ ฉันมั่นใจว่านางต้องมาหานายแล้ว นางชอบนาย คนตาบอดยังดูออกเลย”
“ฉันถามนาย พวกนายสองคนสรุปแล้วมีคมสัมพันธ์อะไรกัน? คบกันแล้วเหรอ? ตอนที่อยู่ที่บ้านพักตากอากาศ ฉันเคยถามฉินวี่เฟย นางไม่ยอมตอบฉันตามตรง แต่หน้านี่แดงก่ำ” เหยนเสี่ยวน่าส่งสายตาถามลองเชิงใส่หลี่ฝาง
“พวกฉันเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดาแค่นั้น” หลี่ฝางตอบปฏิเสธ
“ไปหลอกผีไปนาย ถ้าพวกนายสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน ตอนที่แช่น้ำพุร้อน ทำไมถึงต้องไปแช่กันแค่สองคนด้วย? แล้วก็ตอนกลางคืน ฉินวี่เฟยไม่ได้กลับห้องมานอน ฉันรอนางอยู่หน้าห้องทั้งคืน คืนนั้น พวกนายไปนอนด้วยกันใช่มั้ย?”
หลังจากที่เหยนเสี่ยวน่ายิงคำถามใส่จบ น้ำเสียงก็เย็นชาลง: “หมายความว่าไงห้ะ หลี่ฝาง คุณชายอย่างนาย คิดว่าฉินวี่เฟยไม่คู่ควรอย่างนั้นเหรอ?”
“ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นต่อไปพวกเราก็ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันแล้ว แม้แต่ฉินวี่เฟยยังไม่คู่ควร พวกเราก็ไม่คู่ควร”
เหยนเสี่ยวน่าพูดอย่างไม่สบอารมณ์
หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วขมวดคิ้วพลางพูด: “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
“งั้นนายหมายความว่าไง?”
“นายเลิกกับลู่หลุ่ยแล้วไม่ใช่เหรอ? งั้นพอดีเลย พวกนายก็พอกันซะเลย” เหยนเสี่ยวน่ายิ้ม แล้วพูดแซว: “พวกนายสองคนอย่างกับกิ่งทองใบหยก เหมาะสมกันจะตาย”
“ฉันคืนดีกับลู่หลุ่ยแล้ว” หลี่ฝางพูดขึ้น
ประโยคนี้ ทำเอารอยยิ้มบนหน้าของเหยนเสี่ยวน่าหายไปทันที
เหยนเสี่ยวน่ายู่ปาก แล้วถาม: “หลี่ฝาง นายไม่ชอบฉินวี่เฟยจริงๆ เหรอ?”
“ฉันมองออกนะ ว่าฉินวี่เฟยชอบนายด้วยใจจริง อีกอย่างฉันก็มองออก ตอนที่พวกนายสองคนอยู่ด้วยกัน พวกนายสองคนมีความสุขมาก ฉินวี่เฟยเหมาะกับนายมากกว่าลู่หลุ่ย ไม่ว่าจะเป็นนิสัย หรือว่าพื้นเพฐานะ” เหยนเสี่ยวน่าพูดเตือนสติ
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “แค่คบเป็นแฟนไม่ได้แต่งงานสักหน่อย ทำไมถึงต้องคิดให้เยอะว่าจะเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมด้วย ฉันรู้จักกับลู่หลุ่ยก่อน ความรู้สึกจึงได้แน่นแฟ้นกว่า”
“พูดตามตรง ถ้าหากฉันไม่ได้คืนดีกับลู่หลุ่ย บางทีฉันก็อาจจะคิดทบทวนเรื่องฉินวี่เฟย แต่วันนี้……” หลี่ฝางส่ายหน้า
เหยนเสี่ยวน่าถอนหายใจ: “พูดแบบนี้ ฉินวี่เฟยก็หมดโอกาสแล้วสินะ ใช่มั้ย?”
“เหอๆ คิดไม่ถึงจริงๆ แม้แต่ฉินวี่เฟยยังโดนปฏิเสธ” เหยนเสี่ยวน่ายู่ปาก แล้วฝืนยิ้ม
ในตอนนี้ หลี่ซ่วยซ่วยก็วิ่งเข้ามา แล้วพูดกับหลี่ฝาง: “ที่แท้อยู่นี่เอง ฉันหานายตั้งครึ่งค่อนวัน ไห่เย่นมาแล้ว”
หลี่ฝางพยักหน้าให้หลี่ซ่วยซ่วย จากนั้นก็หันไปถามเหยนเสี่ยวน่า: “เสี่ยวน่า ไปกินข้าวด้วยกันเถอะ”
“ไม่ละ ฉันไปหาอะไรกินกับรูมเมทก็โอเคแล้ว” เหยนเสี่ยวน่าส่ายหน้า แล้วบอกลา และขอตัวไป
ถึงแม้ว่าเหยนเสี่ยวน่ายังคงพูดจาเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ว่าหลี่ฝางก็พอสังเกตได้
ตอนที่เหยนเสี่ยวน่าเอ่ยถึงฉินวี่เฟย นั้นเรียกชื่อเต็ม เมื่อก่อน เธอเรียกหล่อนแค่วี่เฟย เรียกอย่างสนิท
หรือว่าจะรู้ว่าฉินวี่เฟยคือคุณหนูใหญ่ฉิน จึงไม่กล้าแล้วมั้ง?
หลี่ฝางพอเข้าใจอยู่บ้าง ถึงยังไงเมื่อก่อนเหยนเสี่ยวน่าคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูแสนสวย แต่ใครจะรู้ เมื่อเทียบกับเพื่อนสนิทของตน ที่แท้ก็เทียบไม่ติดเลย
มีความรู้สึกสูญเสีย ระยะห่าง จึงมีออกมามากขึ้น
แต่มีสิ่งนึงที่ไม่เปลี่ยน นั่นก็คือความรู้สึกที่เหยนเสี่ยวน่ามีต่อฉินวี่เฟย
“เรียกพวกหวางเสี่ยวโก๋มาเถอะ” หลี่ฝางมองหลี่ซ่วยซ่วย แล้วพูด
หลี่ซ่วยซ่วยพยักหน้า: “เลี่ยวข่ายรออยู่ หวางเสี่ยวโก๋ให้ตายก็ไม่ไป เห้อ……เหมือนกับว่าเขายังเข้าใจผิดไห่เย่นอยู่”
“อืม หวังว่าหวางเสี่ยวโก๋จะเข้าใจแฟนนายผิดไปจริงๆ” หลี่ฝางพูดเสียงเบา
หลี่ซ่วยซ่วยยู่ปาก แล้วพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ: “หลี่ฝาง ไห่เย่นไม่มีทางหลอกฉันหรอก เมื่อกี้เธอคุยกับฉันเรื่องแต่งงานด้วย”