NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 507

ตอนที่ 507

บทที่ 507 การอำลาของฉินวี่เฟย

หน้าของหวางเสี่ยวโก๋ชะงักอยู่ครู่ ต่อมาก็มีรอยยิ้ม: “หลี่ฝาง มีพี่น้องที่ดีแบบนาย เป็นโชคดีของพวกเราจริงๆ”

หวางเสี่ยวโก๋รู้ว่าหลี่ฝางไม่ใช่คนลำเอียง

หลี่ฝางไม่เพียงดีต่อเพื่อนของหวางเสี่ยวโก๋เท่านั้น ยังดีกับเพื่อน ดีกับตน และยังทำดีกับ เลี่ยวข่ายอีกด้วย

ลูกน้องในบ้านหวางเสี่ยวโก๋ ที่จริงอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่หลี่ฝางพูดคำเดียว ก็สามารถช่วยไว้ได้ไม่ใช่ไง?

ถึงแม้สำหรับหลี่ฝางแล้ว ก็แค่คำพูดปลุกใจ เพียงแค่หนึ่งประโยค แต่ว่าสำหรับครอบครัวหวางเสี่ยวโก๋แล้ว กระทบราวกับพลิกแผ่นดิน

รวมไปถึงลูกพี่ลูกน้องของหวางเสี่ยวโก๋เหยนเสี่ยวน่า ธุรกิจโรงบ่มเหล้าของที่บ้านเธอ ทำให้มีชื่อเสียงขึ้นมา

ถึงแม้ว่ารายได้ที่โรงบ่มเหล้าของเหยนเสี่ยวน่า จะต้องแบ่งครึ่งนึงให้กับหลี่ฝาง แต่ว่าอีกครึ่งที่เหลือ มันก็มากกว่ารายได้ที่หาได้เมื่อก่อนเยอะมาก

ในวันนี้ มีใครไม่อยากทำธุรกิจกับตระกูลหลี่บ้าง?

ในชั้นเรียนของหลี่ฝาง สามารถเทียบได้กับพายุ ตั้งแต่เปิดเรียนมาไม่กี่วัน ก็มีคนตายไปสองคน ถังจิ้นก็ตาบอดไปแล้ว ไม่สามารถมาเรียนต่อได้

คิดๆ ดู หลี่ฝางยังเสียดายแทนถังจิ้นอยู่บ้าง

หลี่ฝางยิ้มให้หวางเสี่ยวโก๋อย่างไม่คิดอะไร: “ที่จริงฉันก็พอจะเข้าใจว่ามันเรื่องอะไร ไห่เย่นคนนี้ ไม่ได้คิดอะไรไม่มากกว่าอยากร่วมงานกับฉัน และกอบโกยเงินจากฉัน”

“หลังจากที่เหยสงหนีไป ที่ดินของเขา ก็มาอยู่ในมือของฉัน เมื่อก่อนเหยสงมีถนนเส้นนึงที่มีแต่ร้านบาร์ ตรงนั้นถือว่าเป็นที่ที่ศรีวิไลที่สุดในเมือกเอกได้เลย พวกคนวัยหนุ่มสาว แต่ละคนก็ไปเที่ยวเมาหัวราน้ำกันที่นั่นทุกวันทุกคืน ที่นั่นต้องการหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ดีอย่างมาก และสิ่งที่ต้าหัวกรุ๊ป ทำได้ดีที่สุดส่วนนึง ก็คือระบบรักษาความปลอดภัยนี่แหละ”

“ช่วงนี้ต้าหัวกรุ๊ปอยากจะติดต่อฉันมาตลอดเลย แต่ว่าโดนฉันปฏิเสธไป ฉันคิดว่า ครั้งนี้ไห่เย่น คงจะมุ่งประเด็นโครงการรักษาความปลอดภัยในถนนร้านบาร์แน่ๆ” หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้านิ่ง

“ต้าหัวกรุ๊ป? เชี่ยแม่ง นั่นไม่ใช่ธุรกิจของไอ้สวะหยิ่นเหล่ย แฟนเก่าไห่เย่นเหรอ? พูดไปพูดมา ไห่เย่นยังคงทำเพื่อประโยชน์ของหยิ่นเหล่ยสินะ” จู่ๆ หวางเสี่ยวโก๋ก็ไม่สบอารมณ์

“อาจจะไม่ใช่ จริงอยู่ที่ไห่เย่นเป็นฝ่ายการตลาดของต้าหัวกรุ๊ป แล้วก็ทำงานมาได้ปีกว่าแล้ว ไม่แน่เธออาจจะทำเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของตัวเอง ถึงยังไงโครงการนี้ อย่างน้อยเธอสามารถเรียกได้ถึงหนึ่งแสน” หลี่ฝางพูด

“หนึ่งแสน?” ตัวเลขนี้สำหรับคนธรรมดา ก็ถือว่าไม่น้อยเลย พนักงานขายธรรมดา ทำงานแทบตายปีนึงกว่าจะได้หนึ่งแสน แต่โครงการนี้โครงการเดียวไห่เย่นสามารถหาเงินได้หนึ่งแสนแล้ว สามารถพูดได้เลยว่าโครงการนี้มันใหญ่แค่ไหน

หวางเสี่ยวโก๋พูดถอนหายใจ: “เงินหนึ่งแสน ไม่ต้องพูดถึงว่าจะต้องนอนกับหลี่ซ่วยซ่วย ถึงแม้จะต้องนอนกับขอทานข้างทาง ผู้หญิงคนนั้นก็คงไม่ลังเล”

“เรื่องนี้พูดกับฉันก็พอ อย่าให้หลี่ซ่วยซ่วยมาได้ยิน ไม่งั้นเขาคงนายแน่ๆ” หลี่ฝางพูดเตือน

“ไอ้หมอนั่นความคิดไม่ปกติ ฉันยังปกติดีอยู่” หวางเสี่ยวโก๋พูดยู่ปาก

เมื่อเรียนจบคาบแรก ฉินวี่เฟยก็มาถึง

ครั้งนี้ เสียงถอนหายใจของคนในชั้นเรียนเบาลงมาก เพราะว่าพวกเขารู้ถึงฐานะของหลี่ฝาง

รูปหล่อแถมยังรวยอีก

คนแบบนี้ จะมีแฟนเป็นคนสวยอย่างฉินวี่เฟย ในสังคมทุกวันนี้ ก็ไม่แปลกเลยสักนิด

แต่ว่าสายตาที่ทุกคนมองหลี่ฝาง ยังเต็มไปด้วยความอิจฉา

หลี่ฝางเดินไปข้างหน้าฉินวี่เฟย และยังคงรักษาระยะห่างระหว่างเธอ ถึงยังไงเขาเพิ่งจะคืนดีกับลู่หลุ่ย ถ้าหากมีการแตะเนื้อต้องตัวอะไร แล้วถูกลู่หลุ่ยเห็น คงจะแย่แน่เลย

“เธอมาเรียนแล้วเหรอ?” หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยอย่างแปลกใจ ถึงยังไงนายท่านฉินก็เพิ่งตายไป ยังไม่ถึงเจ็ดวันเลย ทำไมถึงมาเรียนได้ล่ะ

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า: “เมื่อฉันมาหาผู้อำนวยการ ยื่นเรื่องขอพักการเรียนน่ะ ฉันในตอนนี้ถือได้ว่าอยู่ในช่วงพักการเรียน ความจริงแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเรียนมั้ย”

“คุณปู่ท่านให้ฉันรับช่วงดูแลตระกูลฉินต่อ ฉันต้องทำตามความปรารถนาของท่าน ลองรับช่วงต่อดู ถ้าหากทำได้ ก็ทำต่อไป ถ้าหากทำไม่ได้ ก็ให้พ่อฉันขึ้นมาทำ จากนั้นฉันก็ไปเป็นเลขาของเขา เรียนรู้ประสบการณ์การบริหารจากเขา ถ้าหากฉันไม่มีความสามารถจริงๆ คงทำได้แต่ต้องกลับมาเรียน” ฉินวี่เฟยฝืนยิ้มพลางพูด

“พูดแบบนี้ เธอจะมาบอกลาฉัน?” หลี่ฝางยิ้มเบาๆ

“ไม่ถือว่าบอกลา ถือว่าฉันมาบอกให้นายรู้ไว้ เกรงว่าหลังจากนี้โอกาสที่จะได้เจอ จะน้อยลงไปมาก แต่ว่าฉันจะคิดถึงนายนะ หากมีเวลา ฉันจะกลับมาหานาย” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางอย่างทำใจไม่ค่อยได้

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ฉันก็เหมือนกัน”

ฉินวี่เฟยจริงใจ แต่หลี่ฝางแค่พูดไปงั้น

ในใจของหลี่ฝางมีฉินวี่เฟย แต่ไม่สามารถจับปลาสองมือได้

ฉินวี่เฟยคือคนที่ลู่หลุ่ยระแวงมากที่สุดคนนึง ดังนั้นหลี่ฝางจึงต้องรักษาระยะห่างกับฉินวี่เฟย

“นายคืนดีกับลู่หลุ่ยแล้วเหรอ?” ฉินวี่เฟยเงยหน้า สายตาเต็มไปด้วยความซับซ้อน

หลี่ฝางพยักหน้า และมองฉินวี่เฟยอย่างประหลาดใจเล็กน้อย: “เธอรู้ได้ยังไง?”

“ฉันเห็นแล้ว”

ฉินวี่เฟยยิ้ม: “วันนี้ที่หน้าประตูมหาลัยก่อเรื่องซะขนาดนั้น ใครจะไม่ไปดูเรื่องครึกครื้นล่ะ”

หลี่ฝางยิ้มแห้งๆ ถึงยังไงฉินวี่เฟย ก็เป็นเหมือนนางฟ้าที่ไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่น คิดไม่ถึงว่าจะสนใจเรื่องวุ่นวายด้วย

“คนๆ นั้น คือซือถูเฟยเหรอ?” ฉินวี่เฟยถามขึ้นเสียงเบา

“อืม” หลี่ฝางพยักหน้า: “ใช่ เธอรู้จักเหรอ?”

“เมื่อก่อนพวกเราเคยเจอกันครั้งนึง คุณปู่อยากจะให้ฉันแต่งเข้าตระกูลซือถู แต่ว่าไม่สำเร็จ” ฉินวี่เฟยหัวเราะเหอะๆ

“เธอไม่ชอบเขา?” หลี่ฝางถามต่อ

“เป็นคุณชายของสี่ตระกูลใหญ่ ฉันไม่มีสิทธิ์ไปปฏิเสธเขาหรอก เป็นเขาที่ปฏิเสธฉัน” ฉินวี่เฟยยิ้มแห้งๆ : “ดูเหมือนเขามีความคิดอยู่”

“ใช่แล้ว เมื่อพ่อโทรมาหาฉัน บอกว่าตระกูลจูเก่อเกิดเรื่องแล้ว เป็นตระกูลนายทำใช่มั้ย?”

“อำนาจในเมืองเอกของตระกูลจูเก่อ ถือว่าลึกล้ำมากๆ นายต้องระวังหน่อยนะ” ฉินวี่เฟยพูดเตือนหลี่ฝาง

หลังจากพูดจบ ฉินวี่เฟยก็โบกมือบ๊ายบายให้หลี่ฝาง

“เดี๋ยวก่อน”

หลี่ฝางเรียกฉินวี่เฟยไว้ แล้วล้วงนามบัตรใบนึงออกมาจากกระเป๋า: “นี่คือเบอร์ของลุงเฉียน มีอะไรก็โทรหาเขา ฉันรู้ว่านายท่านฉินเสียแล้ว หุ้นส่วนหลายคนถอนหุ้น คนจะจากไปก็จากไป สัญญาที่ทำไว้เมื่อก่อน ก็ถูกเอาไปเกินครึ่ง”

“ลุงเฉียนจะช่วยเธอเคลียร์ปัญหาพวกนี้นะ” หลี่ฝางพูด

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า: “ไม่ต้องหรอก หลี่ฝาง ขอบคุณนะ ฉันจัดการเองได้ ถึงแม้ฉันจะจัดการไม่ได้ ก็ยังมีคุณพ่ออยู่นะ”

“เรื่องที่เธอจัดการไม่ได้ ใช่ว่าพ่อเธอจะจัดการได้ มีหลายอย่าง ไม่ได้ดูที่ทักษะของคน เขาดูที่ความสามารถ ตอนนี้หลายคนรอดูท่าทีของตระกูลฉิน ดังนั้น ตระกูลฉินของพวกเธอต้องมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งไว้ แม้แต่ตระกูลมู่หรง ก็ยังเพิ่งไม่ได้”

หลี่ฝางยัดนามบัตรใส่มือฉินวี่เฟย แล้วพูด: “ทำไม หรือว่าให้ฉันช่วยเล็กน้อย เธอยังจะปฏิเสธ?”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความขอบคุณ

“เอาไปเถอะ ฉันติดค้างเธออยู่” หลี่ฝางพูดเสียงเบา

“นายติดค้างอะไรฉัน? ชีวิตของปู่ฉันเหรอ? นั่นเป็นหลิงหลงที่ติดค้าง และอีกอย่างคุณปู่ตัดก็เป็นคนติดค้างหลิงหลง พวกเราสองคนถือว่าหายกันแล้ว” ฉินวี่เฟยพูด

“ไม่ใช่……” หลี่ฝางส่ายหน้า ที่หลี่ฝางติดค้าง ก็คือความรู้สึกของฉินวี่เฟย

ฉินวี่เฟยเข้าใจความหมายของหลี่ฝาง และยิ้มออกมา: “ที่จริงแล้วระหว่างเรา มันก็แค่การแลกเปลี่ยน นายไม่ต้องรับผิดชอบฉันหรอก ฉันก็ไม่ได้ต้องการ”

“นายไม่ได้ทำผิดอะไรต่อฉัน เป็นฉันที่ผิด ฉันเข้าไปแทรกกลางระหว่างนายกับลู่หลุ่ย ไปเป็นมือที่สาม วันนี้ที่ลู่หลุ่ยกลับมาคืนดีกับนายได้ ฉันดีใจด้วยจริงๆ”

ฉินวี่เฟยยิ้ม แล้วพูด: “ฉันยินดีกับพวกนายด้วย จริงๆ นะ”

“ไม่ต้องฝืนแล้ว ถ้าหากผู้หญิงที่ฉันชอบไปคบกับผู้ชายคนอื่น ฉันก็คงร้องไห้ตาย” หลี่ฝางพูด

“ร้องไห้มีประโยชน์เหรอ? ถ้ามีประโยชน์ ฉันก็จะร้อง” ฉินวี่เฟยตาแดงอยู่ครู่

“ช่างเถอะ เรื่องความรู้สึก ต้องดูโชคชะตา จะไปบังคับมันไม่ได้” ฉินวี่เฟยถอนหายใจ จากนั้นก็เงยหน้ามองหลี่ฝาง แล้วพูด: “หลี่ฝาง ฉันอยากถามนายหนึ่งคำถาม”

“เธอถามมาเถอะ” หลี่ฝางพยักหน้า

“ถ้าหากฉันรู้จักนายก่อนที่นายจะรู้จักกับลู่หลุ่ย นายจะชอบฉันมากว่าเธอมั้ย?” ฉินวี่เฟยคิดว่าตนไม่ได้ด้อยไปกว่าลู่หลุ่ย แต่แค่แพ้ให้กับโชคชะตาเท่านั้น

หลี่ฝางยิ้ม: “ขอแค่ในใจไม่มีใครอยู่ หากพบเธอ คงจะชอบเธอ”

“ฉินวี่เฟย พูดตามตรง ออร่าที่เปล่งประกายบนตัวเธอ มีผู้ชายไม่กี่คนที่จะอดใจไหว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท