ตอนแม่ของจ้าวเสี่ยวตาวถือเนื้อวัวที่หั่นแล้วขึ้นมา คุณชายคนหนึ่งก็ยืนขึ้นดังฟุ่บทันที พูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ:“น้าเฉิน ผมเองละกัน”
“เสี่ยวซวง คุณนั่งเถอะ”
แม่ของจ้าวเสี่ยวตาวชินกับบทบาทแม่บ้านนี้แล้ว:“วันนี้คุณคือแขก น้าจะปรนนิบัติคุณเอง”
คุณชายที่เพิ่งยืนขึ้นนี้ ชื่อเสี่ยวซวง บ้านเขา สนิทกับตระกูลจ้าวมาก
ให้คนสูงอายุมาปรนนิบัติตัวเอง เสี่ยวซวงรู้สึกอึดอัดสุดๆ ที่จริงนอกจากเสี่ยวซวงแล้ว ทุกๆคุณชายบนโต๊ะ ต่างรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติไม่มากก็น้อย
อยู่ในแวดวงเดียวกัน ปีใหม่ก็ต้องไปทักทายอยู่แล้ว
หลังจากแม่ของจ้าวเสี่ยวตาวเอาเนื้อวัวจานนั้นวางไว้บนโต๊ะที่ตำแหน่งถูกต้องแล้ว ก็เข้าไปในครัว แล้วก็ทำงานต่อ
ตอนนี้ นอกจากพวกคุณชายจะมองหน้ากันแล้ว สีหน้าพวกพิธีกรสาวสวย ก็ดูเหยเกขึ้นมา
มองหวงเจ๋และพวกคุณชาย พวกพิธีกรสาวก็ซุบซิบขึ้นมา
“พี่หวง ยามหน้าประตูที่คุณพูดถึง คือพ่อของคุณชายจ้าว ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทจ้าวซื่อ และผู้รักษาการกรรมการ?”
“คุณชายส้ง พวกคุณล้อพวกเราเล่นใช่ไหม?”
“นี่จะเป็นไปได้ไง?คุณดูพวกเขาสองสามีภรรยาคนหนึ่งคือผู้รักษาการประธานกรรมการ อีกคนคือคนดังตระกูลเฉินและคุณนายแห่งตระกูลจ้าว แต่กลับมาเป็นยาม เป็นแม่บ้านในที่นี้ ปรนนิบัติดูแลพวกเราเน็ตไอดอลตัวเล็กๆ นี่มันเหลือเชื่อไปแล้ว?”
“ใช่ ใช่ คุณดูสิยามที่นี่เป็นผู้จัดการทั่วไป แม่บ้านเป็นคุณนายตระกูลจ้าว แล้วพวกเราล่ะ?ดาราดังเบอร์ต้นๆ?ไม่สิ ถึงเป็นดาราเบอร์ต้นๆก็ไม่ได้รับการดูแลเช่นนี้ อย่างน้อยต้องเป็นดาราดังระดับประเทศ”
“พอเหอะ ดาราดังระดับประเทศยังไม่กล้าให้ผู้รักษาการกรรมการเป็นยามเลย”
ใบหน้าของพวกสาวสวย ต่างปรากฏความไม่อยากจะเชื่อ
ใช่ ไม่ว่าอย่างไรพวกเธอก็ไม่เชื่อความจริงนี้ พวกเธอคิดว่า คุณชายพวกนี้ร่วมมือกันเล่นตลกขึ้นมา
“ฉันรู้แล้ว พี่หวง คุณชายส้ง พวกคุณจะต้องร่วมมือกันหลอกพวกเราแน่ ใช่ไหม?”
พิธีกรคนหนึ่งจู่ๆก็พูด พิธีกรที่เหลือ ทั้งหมดต่างหัวเราะฮ่าฮ่าออกมา ไม่หยุดโทษส้งเคอ หวงเจ๋และคนอื่นๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสี่ยวซวง กลายเป็น‘หนามยอกอก’ของพวกพิธีกร
“คุณชายหวาง คุณแสดงได้เหมือนมากเลย?เมื่อกี๊คุณน่ะ ทำพวกเราเชื่อหมดเลย”
“ใช่ คุณชายหวาง คุณล้อเล่นก็ต้องมีมาตรฐานหน่อยสิ เรียกแม่บ้านคนหนึ่งว่าน้า?ไม่กลัวลดทอนคุณค่าของคุณเลย!”
“คุณชายหวาง คุณยังไม่รีบไปช่วยน้าเฉินของคุณที่ครัวอีก เธอกำลังทำปลาอยู่?”
“ใช่ รอพวกเรากินข้าวเสร็จ คุณชายหวางก็จะช่วยน้าเฉินของเขาล้างถ้วยล้างชาม”
พวกพิธีกรสาวเยาะเย้ยเสี่ยวซวง จากนั้น สีหน้าของเสี่ยวซวง ก็ค่อยๆหม่นลง
เวลานี้ แม่ของจ้าวเสี่ยวตาว กำลังถือปลาจานหนึ่งออกมาจากครัว
เสี่ยวซวงมองเห็นตรงนี้ ก็ยืนขึ้นทันที แล้วเดินเข้าไป
“น้าเฉิน ผมเอง”
เสี่ยวซวงหัวเราะ พูดว่า:“ให้คุณปรนนิบัติผม ผมจะอายุสั้นเอาได้”
“อีกอย่าง ถ้าให้พ่อแม่ผมรู้ พ่อแม่ผมจะต้องตีผม ถ้าเสี่ยวตาวรู้ เสี่ยวตาวตัดเพื่อนกับผมแน่”
“ต่อไปผมก็ไปเป็นแขกบ้านคุณไม่ได้แล้ว”
“ให้ผมจัดการเถอะ”
เสี่ยวซวงพูดถึงตรงนี้ แม่ของจ้าวเสี่ยวตาว ก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ แต่เธอยังมองไปที่หลี่ฝาง เห็นหลี่ฝางไม่สังเกตมาทางนี้ แม่ของจ้าวเสี่ยวตาวจึงเอาปลายื่นให้เสี่ยวซวงแล้วพูด:“งั้นเสี่ยวซวง คุณต้องระวังหน่อยนะ จานมันร้อนมาก”
“ไม่เป็นไร เนื้อผมหนามาก น้าเฉินไม่ต้องห่วงผม”
เสี่ยวซวงช่วยแม่ของจ้าวเสี่ยวตาวแล้ว พวกพิธีกรก็มองหน้ากัน ไม่รู้ว่านี่จริงหรือหลอกอีกครั้ง
ถ้าเป็นจริงล่ะ?นี่มันเป็นไปไม่ค่อยได้เลย
ผู้จัดการทั่วไปมาเป็นยาม?
คุณนายตระกูลจ้าวมาเป็นแม่บ้าน?
มีใครเชื่อบ้าง?
คนใหญ่โตแบบนี้ ไม่ใช่ว่าควรจะมีท่าทีสูงส่งหน่อยเหรอ?ทำไมทำงานอย่างพวกคนใช้ได้?
อีกทั้งตระกูลจ้าวก็ไม่ได้ล้มละลาย ธุรกิจกำลังเติบโตนี่?
ดังนั้น พิธีกรพวกนี้คิดว่าพวกคุณชาย จะต้องแกล้งแน่
แต่ถ้าแกล้ง พวกเขากลับเป็นหนึ่งเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสี่ยวซวง ก็ยิ่งทำงานแทนแม่บ้านด้วยตัวเอง
“มา กินปลา”เสี่ยวซวงวางปลาลง มองคุณชายหลี่แวบหนึ่ง
คุณชายหลี่เบะปาก:“มีอะไรจะพูดเหรอ?”
“อือ ผมอยากขอร้องคุณ เมื่อกี๊ผมแอบส่งข้อความหาจ้าวเสี่ยวตาว จึงรู้ว่า ที่แท้เมื่อก่อนเขาไปแตะต้องคุณ คุณว่า ……คุณเห็นแก่หน้าผมได้ไหม?”
พูดจบ สีหน้าของเสี่ยวซวง ก็ยิ่งอึดอัด
พูดตรงๆนะ เสี่ยวซวงคิดว่าตัวเองพูดคำนี้ มีความโม้อย่างไม่ละอายใจแฝงอยู่
เทียบกับมู่เสี่ยวไป๋แล้ว เสี่ยวซวงก็เทียบไม่ติด นับประสาอะไรกับหลี่ฝาง
และนี่ก็เพิ่งรู้จัก ยังพูดกันไม่กี่คำเลย ก็มาพูดถึงเรื่องไว้หน้า ตัวเองทำไมหน้าด้านแบบนี้
“ช่างเถอะ ถือว่าผมไม่ได้พูด คุณชายหลี่ ผมขอชนคุณหนึ่งแก้ว”
ทันใดนั้นเสี่ยวซวงก็หุบปาก ก้มหน้าพูดกับหลี่ฝาง
หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“อยากขอร้องแทนพวกเขาเหรอ?ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แบบนี้ไหมล่ะ คุณไปทำอาหารสักอย่างที่ครัว อะไรก็ได้ แค่กินได้ก็พอ”
“จากนั้น ความแค้นของผมกับจ้าวเสี่ยวตาว ก็หายกัน จ้าวควนกับภรรยาของเขา วันนี้ก็กลับไปได้แล้ว”
สีหน้าเสี่ยวซวงตะลึงไป มองหลี่ฝางด้วยสีหน้าดูไม่ดี พูดว่า:“คุณชายหลี่ ผมไม่เคยเข้าครัว และก็ไม่เคยทำอาหาร”
“ผมว่านะเสี่ยวซวง คุณโง่เปล่า คุณทำอาหารไม่ได้ แล้วทำยำไม่ได้เหรอไง?เอาแตงกวามาหั่นๆ ก็ไม่ใช่ยำแตงกวาแล้วเหรอ?”
“เอามะเขือเทศมาหั่นๆ จากนั้นก็ใส่น้ำตาล ก็ถือว่าเป็นยำแล้ว”
เฝิงจื่อหลินที่ฉลาดขมวดคิ้ว กลอกตาใส่เสี่ยวซวง พูดว่า:“เด็กอย่างคุณปกติก็ฉลาดนะ ทำไมเวลาที่สำคัญนี้ สมองถึงไม่แล่นเลยล่ะ”
“นี่หมายความว่าคุณชายหลี่ไว้หน้าคุณไง”เฝิงจื่อหลินมองหลี่ฝาง แล้วพูดกับเสี่ยวซวง
หลี่ฝางหัวเราะ พูดกับหลี่ฝาง:“ไม่ได้จริงๆก็เรียนกับน้าเฉินคุณสิ ให้เธอสอนคุณ เธอทำอาหารได้ไม่เลว พูดตรงๆนะ คุณอยากให้เธอไป พวกพิธีกรของผม ก็อาลัยอาวรณ์เธอหน่อยๆ”
เสี่ยวซวงยืนขึ้นมา ยิ้มขอบคุณหลี่ฝาง:“ขอบคุณครับ คุณชายหลี่”
หลี่ฝางไม่พูดอะไร ที่จริง หลี่ฝางไม่ได้ไว้หน้าให้เสี่ยวซวง แต่ไว้หน้าให้ทุกคน
คนพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นสังคมเล็กๆที่ดี ถ้าไม่ไว้หน้าเสี่ยวซวง ต่อไปมีเรื่องทุกคนก็จะไม่พอใจ
แต่ไว้หน้าเสี่ยวซวง คนพวกนี้ ก็จะคิดว่าหลี่ฝางเป็นคนเข้าถึงง่าย คบได้
หลี่ฝางยิ้ม:“ในเมื่อส้งเคอแนะนำพวกคุณให้ผม งั้นทุกคนก็คือเพื่อนกัน ระหว่างเพื่อนต้องการอะไร ก็พูดเลย”
“เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ช่วยได้ผมช่วยแน่”หลี่ฝางพูดเหมือนไม่แคร์
ที่จริงหลี่ฝางอยากให้จ้าวควนกับภรรยาเขาไปนานแล้ว เท่ากับว่าถือโอกาสแสดงน้ำใจต่อเสี่ยวซวง
ดูเหมือนไม่สำคัญอะไร แต่วันข้างหน้า จ้าวควนกับภรรยาของเขา รวมทั้งจ้าวเสี่ยวตาว จะต้องกตัญญูต่อเสี่ยวซวง จดจำน้ำใจของเขา
ส่วนเสี่ยวซวงนั้น ก็จะจำน้ำใจอันยิ่งใหญ่นี้ของหลี่ฝาง
ไม่นานนัก เสี่ยวซวงก็ออกมา ในมือเขาถือมะเขือเทศผัดไข่ชามหนึ่งจริงๆ ทันใดนั้น พวกคุณชายบนโต๊ะ ต่างหัวเราะเสียงดังออกมา
“หัวเราะอะไรกัน?ทำไม พวกคุณทำอาหารเป็นไหมล่ะ?ถ้าเป็น พวกคุณก็เข้าครัวโชว์ฝีมือสิ”
พวกคุณชายพวกนี้ ทุกคนล้วนแต่เป็นเจ้าคนนายคนที่อยู่ดีกินดี จะไปเข้าครัวได้ไงกันล่ะ?
ทันใดนั้น ทุกคนต่างไม่กล้าหัวเราะเสี่ยวซวง
“คุณชายหลี่ คุณลองสักคำ นี่เป็นมะเขือเทศที่เพิ่งตัดมาทั้งนั้น”เสี่ยวซวงพูดกับหลี่ฝางด้วยคาวมเคารพ
หลี่ฝางตอบอืมไป แล้วใช้ตะเกียบคีบมาหนึ่งชิ้น แล้วใส่เข้าปาก จากนั้นก็พูด:“สดๆ แล้วก็หวานด้วย รสชาติดีมาก ทุกคนชิมฝีมือของคุณชายหวางเถอะ”
เสี่ยวซวงหัวเราะหึหึ:“งั้น……”
“เรียกลุงจ้าวกับน้าจ้าวให้ไปล้างมือ มากินด้วยกันหน่อยสิ ยังไงซะพวกคุณก็รู้จักหมด”หลี่ฝางพูดทันที
เสี่ยวซวงดีใจมาก รีบวิ่งออกไปจากครัว แล้ววิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ เอาข่าวดีนี้ บอกจ้าวควนกับภรรยาเขา
พวกพิธีกรที่นำโดยหงหง ก็มีสีหน้าอึดอัดอีกครั้ง
“คุณชายหลี่ พวกเขาเป็นจริงๆเหรอ?