ในขณะที่กำลังเดินอยู่บนถนน โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ได้ดังขึ้น เป็นเบอร์ที่โทรมาจากต่างประเทศ
หลี่ฝางลังเลอยู่สักครู่ ถึงกดรับสาย จากปากของส้าวส้วย หลายวันมานี้หลี่ฝางได้ยินชื่อของกลุ่มคนต่างชาติกลุ่มนั้นอยู่หลายครั้ง ซึ่งมีลำดับขั้นอยู่ด้านหน้าของลูกพี่หลิน
ชั่วขณะ เมื่อหลี่ฝางเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่โชว์ ก็นึกถึงคนกลุ่มนั้นขึ้นมาทันที
หลังจากที่รับโทรศัพท์ หลี่ตั้งใจมองไปที่ส้าวส้วยเป็นพิเศษ ใครจะไปรู้ กลับมีเสียงที่คุ้นเคยดังออกมาจากอีกด้านของสาย”
“เสี่ยวฝาง นายทำอะไรอยู่น่ะ หลายวันมานี้นายยุ่งอะไรอยู่เหรอ บริษัทผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อีกไม่นานก็จะสิ้นสุดแล้ว ถ้านายยังไม่ลงมือล่ะก็ พวกเขาก็คงแบ่งเงินกับมู่เสี่ยวไป๋และหนีไปแล้ว” อีกด้านหนึ่งของสาย กล่าวด้วยท่าทางร้อนรนจางกงหมิง
“เชรด ฉันลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน เร็ว ส่งที่อยู่ของพวกเขามาให้ฉัน ฉันจะไปจักการพวกมันตอนนี้เลย” หลี่ฝางกล่าวอย่างรีบร้อน
เมื่อหลายวันก่อนในตอนที่จางกงหมิงติดต่อตัวเองมา ได้บอกกับตัวเองว่า มู่เสี่ยวไป๋และพวกนักต้มตุ๋นจากต่างเมือง กำลังทำโครงการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
ผลกำไรเยอะมาก แน่นอน ก่อนหน้านั้นตระกูลมู่ก็ได้ใช้เงินลงทุนไปไม่น้อย ทั้งหมดถูกใช้ในการทำโฆษณา
บำรุงสมองทำให้สดชื่น ยืดอายุขัยอะไรต่าง ๆ ตอนนี้ทุกซอกทุกมุมที่ของเมืองเอก ล้วนมีโฆษณาของพวกเขา เมื่อผู้คนได้มองเห็น ทำให้รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพนี้มีความน่าเชื่อถือ ราวกับเป็นสินค้าที่มียี่ห้อ
“ได้ มีตั้งหลายที่อยู่แหนะ พวกเขาได้เริ่มเก็บงานกันแล้ว ก่อนหน้านี้มีแต่มอบให้ฟรีมาโดยตลอด วันนี้ถึงเริ่มขายเป็นวันแรก ถ้าหากนายเข้าไปสร้างความวุ่นวายล่ะก็ ตระกูลมู่นั่น จะต้องลุกเป็นไฟแน่นอน”
“อ้อใช่ ยังจำชุมชนที่เราเจอกันก่อนหน้านี้ได้ไหม? มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังจัดตั้งสังคมสงเคราะห์อะไรสักอย่างนี่แหละ พูดตรง ๆ ก็คือเพื่อหลอกนาย ให้นายทำแชร์ลูกโซ่ อะไรจ่ายสามหมื่นหยวน เพียงแค่สามปี ก็จะได้เงินสิบกว่าล้าน แม่ง เรื่องแบบนี้พวกมันยังกล้าโม้ ฉันละยอมจริง ๆ แต่ฉันนับถือพวกที่เข้าร่วมมากกว่า เป็นไปได้ยังไงที่ยังมีคนเชื่อ และไม่ใช่เพียงคนเดียว หลายคนด้วยซ้ำ”
“ได้ยินว่าภายในหนึ่งวัน พวกเขาก็สามารถหาคนใหม่เข้ามาเพิ่มได้หลายสิบคน ได้เงินไปล้านกว่าแล้ว”
“เชรด เส้นทางหาเงินของคนภาคใต้นี่ ป่าเถื่อนจริง ๆ แค่สร้างความเชื่อขึ้นมา จากนั้นก็วาดรูปให้พวกเขา แค่นี้ก็ยังมีคนเชื่อ”
“ฉันรับผิดชอบสอดแนมอยู่ทางนี้ ถ้ามีใครมาก่อเรื่อง พวกเราทำหน้าที่จัดการ ทางฝั่งฉันมีคนอยู่หลายสิบคน นายพาคนมาเยอะหน่อย พอถึงตอนนั้นลงมือขึ้นมา ฉันจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน”
หลังจากที่จางกงหมิงพูดจบ หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว: “นายพูดบ้าอะไร เรียกฉันไปจัดการนาย? นายเป็นถึงลูกพี่ของฉันเชียวนะ ไม่ไป ไม่ไป”
“ไม่มาไม่ได้ คนกลุ่มนี้น่าสงสารเกินไป ต่างก็เป็นคนจน เดิมทีก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร แต่ถูกพวกนั้นหลอกลวง ต่างก็ยืมซ้ายยืมขวา ใช้กำลังสมองทั้งหมดเพื่อหาเงินมาให้พวกมัน”
“ฉันทนดูต่อไปไม่ได้จริง ๆ นายทำตัวเป็นพระเจ้าสักครั้ง ช่วยพวกเขาเถอะนะ ฉันจะบอกนายให้ ในกลุ่มคนพวกนี้ นอกจากคนหนุ่มสาวเพียงไม่กี่คนแล้ว ต่างก็มีอายุห้าสิบกว่าขึ้นไป ในนี้ยังมีคนแก่ตัวคนเดียวอยู่หลายคน เงินสามหมื่นนี่ สามารถพูดได้ว่าเป็นชีวิตของพวกเขา ถ้าหากคนพวกนี้รู้ว่าตัวเองถูกหลอก สุดท้ายแล้ว ต้องมีคนไม่น้อยที่จะฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน”
“วันนั้นตอนที่ดื่มเหล้า ฉันได้ยินอาจารย์ที่บรรยายพูด ทุกครั้งหลังจากที่พวกมันหนีไป ก็จะปรากฏข่าวฆ่าตัวตายอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นเพราะพวกมัน แต่ว่าในตอนที่พวกมันพูดถึงเรื่องนี้ กลับไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับพูดกันอย่างสนุกสนาน ราวกันว่าตัวเองได้ทำเรื่องอะไรที่ยอดเยี่ยมยังไงอย่างนั้น”
“งั้นหลังจากที่พวกเราไปถึงแล้ว จะต่อยจริงหรือแสดงละครล่ะ?” หลี่ฝางกลืนน้ำลาย พลางเอ่ยถาม
“ถามมาได้ แน่นอนว่าจะต้องต่อยจริง มู่เสี่ยวไป๋มันไม่ได้โง่นะ ถ้าหากนายออมมือให้ฉัน เรื่องจบมันจะต้องมองออกแน่ว่าฉันขายมัน พอถึงตอนนั้น ฉันจะต้องแย่แน่ ๆ เลย”
จางกงหมิงกล่าว: “ให้เร็วล่ะ ถือโอกาสที่เงินของพวกมัน ยังไม่ได้โอนออกไป จัดการพวกมันให้หมดในครั้งเดียว ก็จะแย่งเงินกลับมาได้”
“นายว่าคนพวกนั้น ทำไมถึงได้ฉลาดแบบนี้ พวกเราทำแทบเป็นแทบตาย ต้องให้ชีวิตบนความเสี่ยงในแต่ละวัน วันหนึ่งก็ไม่ได้เงินมากมายอะไร แต่ดูพวกมันสิ เพียงแค่เล่นลิ้นนิดหน่อย คุยโวเล็กน้อย เชรด เงินนั่น ก็วิ่งเข้าไปในกระเป๋าพวกมันแล้ว อีกอย่างคนที่ให้เงินเหล่านั้น ราวกับยังกลัวว่าจะจ่ายช้าเกินไป”
“ฉันละยอมเลย ยอมจริง ๆ นายรีบพาคนมาจัดการกับพวกมันให้สิ้นซากซะ” จางกงหมิงกล่าวด้วยความอิจฉาริษยาเล็กน้อย
หลี่ฝางหัวเราะชอบใจ: “แล้วพวกมันให้เงินนายเท่าไหร่”
“สี่ห้าแสนมั้ง” จางกงหมิงกล่าวอย่างเรียบ ๆ
“เยอะขนาดนั้นเชียว?” หลี่ฝางตะลึง เงินเยอะขนาดนี้ มีพวกอันธพาลมากมายแค่ใน ที่ทำหนึ่งปียังได้ไม่เยอะขนาดนี้แลย
“ใช่ พวกมันใจใหญ่จะตาย ตอนเย็นของหลายวันมานี้ พาฉันไปกินไปดื่มทุกวัน กินจนฉันเบื่อแทบตายอยู่แล้ว พอกินเสร็จนะ ก็พาฉันเล่นภาพยอดแห่งอาชาทั้งแปด เฮ้อ จนระยะนี้ฉันผอมไปหมดทั้งตัวแล้ว” จางกงหมิงกล่าวพลางถอนหายใจ
“ภาพยอดแห่งอาชาทั้งแปด อะไรคือภาพยอดแห่งอาชาทั้งแปดเหรอ” หลี่ฝางถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ทึ่มเอ๊ย ก็คือสาวฝรั่งแปดคนยังไงล่ะ เข้าใจหรือยัง หาให้ฉันแปดคนในคืนหนึ่ง สองหมื่นกว่าบาทแหนะ ดูแลแบบนี้อยู่ทุกวัน” จางกงหมิงกล่าวพลางหัวเราะคิกคัก
“นายมันก็ร้ายไม่เบานี่นา คนอื่นช่วยนายขนาดนี้ นายยังลอบกัดเขา” หลี่ฝางส่ายหัวอย่างพูดไม่ออก
“วิญญูชนรักในเงินทองทรัพย์สินหากแต่ต้องหามาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต” จางกงหมิงหัวเราะคิกคัก กล่าว: “แค่นี้แหละ ฉันต้องวางแล้ว มู่เสี่ยวไป๋สั่งคนคอยจับตาดูฉันอยู่ ฉันจะคุยกับนายนานมากไม่ได้”
“นี่เป็นเบอร์ใหม่ของนายเหรอ? ฉันจะบันทึกไว้” หลี่ฝางอืมตอบรับ แล้วกล่าวถาม
“เบอร์ใหม่ห่าอะไร นี่เป็นโทรศัพท์ออนไลน์ เป็นแอปพลิเคชันที่ฉันพึ่งโหลดมาใหม่ ไม่เสียค่าโทร หมายเลขก็เป็นหมายเลขสุ่ม ถ้าเติมVIP ยังสามารถตั้งเบอร์เองได้ด้วย นายไปที่ทางเข้าซอยสิบแปดถนนหนังเฟิง แล้วมองหาร้านตัดผมที่มีชื่อว่ากั่งจ๋าย พอเข้าไปในร้าน นายก็แจ้งชื่อของนายไป เถ้าแก่ของที่นั่นจะให้ที่อยู่พวกนั้นกับนาย ที่อยู่เหล่านี้ ล้วนเป็นจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่สำคัญ ต่างก็มีนักเลงเจ้าถิ่นคอยเป็นโล่กำบังให้พวกมัน แต่ละจุดนายจะต้องพาคนไปเยอะหน่อย อย่างน้อยต้องทีมละยี่สิบคน……”
หลี่ฝางรับคำ จากนั้นก็วางสายไป
หลี่ฝางรู้ดี ว่าจางกงหมิงถูกมู่เสี่ยวไป๋จับตาดูอย่างเคร่งครัด เบอร์โทรศัพท์ก็จะต้องถูกจับตาดูอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ เขาไม่มีทางที่จะไปโหลดแอปฯโทรศัพท์ออนไลน์อะไรนั่นแน่
“ถนนหนังเฟิง ทางเข้าซอยหมายเลขสิบแปด” หลี่ฝางหันหน้า แล้วพูดกับส้าวส้วย: “ตามหาร้านตัดผมที่มีชื่อว่ากั่งจ๋าย”
ส้าวส้วยเอ่ยถาม: “มีข่าวมาจากทางจางกงหมิง?”
“ใช่ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นที่นิยมในเมืองเอกนั่น ได้ยินว่ามีตระกูลมู่อยู่เบื้องหลัง ดังนั้นจางกงหมิงจึงโทรมาหาฉัน ต้องการให้ฉันไปขัดขวาง” หลี่ฝางกล่าว
เมื่อส้าวส้วยได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้วแน่น: “ที่โล่กำบังของพวกมัน ก็คือตระกูลมู่แห่งเมืองเอกนี่เอง”
“เหอะ ๆ ที่จริงแล้วพวกคนเหล่านี้ ลูกพี่ใหญ่ได้จับตาดูพวกมันมานานแล้ว เพียงแต่ว่า เบื้องหลังที่มาของพวกมันสลับซับซ้อน ถ้าหากทำลายลงจริง ๆ จะต้องล่วงเกินคนมากมายอย่างแน่นอน คนที่ขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพพวกนี้ กล้ามาหลอกเงินที่เมืองเอก นั่นหมายความว่า พวกมันได้จัดการเรื่อง ๆ ไว้ดีแล้ว”
“แต่ว่าในเมื่อมีตระกูลมู่เป็นหัวหลัก งั้นก็ไม่สนว่าธุรกิจนี้จะมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องใครบ้าง ยังไงจะต้องจัดการพวกมันซะ” ส้าวส้วยทำเสียงฮึดฮัด เข้ากล่าวด้วยท่าทางเยือกเย็น
“จะให้ตระกูลมู่ฟื้นกลับขึ้นมาไม่ได้เด็ดขาด” ส้าวส้วยกล่าว
ส้าวส้วยเพิ่มความเร็วรถขึ้นอีก หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง หลี่ฝางก็ได้รับกระดาษแผ่นนั้น จากร้านตัดผมเป็นที่เรียบร้อย
บนกระดาษเขียนที่อยู่ไว้ทั้งหมดเจ็ดสิบกว่าแห่ง และสถานที่พวกนี้ ต่างเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเมืองเอก แน่นอนว่า ยังมีเทศบาลระดับจังหวัดอย่างตงไห่ ทะเลตะวันตกและที่อื่น ๆ ต่างก็มีอยู่ในแผนการ
ในขณะที่หลี่ฝางเห็นกระดาษแผ่นนี้ เขาก็หน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมาทันที
หลังจากที่ขึ้นรถ ส้าวส้วยก็มองหลี่ฝางแล้วเอ่ยถาม: “ได้ที่อยู่มาหรือยัง?”
“ทางได้น่ะได้มาแล้ว แต่ว่าจางกงหมิงบอกกับฉันว่า แต่ละที่ จะต้องส่งคนไปอย่างน้อยยี่สิบคน ถ้าคนน้อยไป จะถูกพวกนักเลงท้องถิ่นจัดการเอาง่าย ๆ ”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว และส่งกระดาษให้กับส้าวส้วย กล่าว: “นายดูสิ ทั้งหมดเจ็ดสิบกว่าแห่ง ทั้งยังล้วนเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สถานที่พวกนี้ มีกล้องวงจรปิดอยู่เต็มไปหมด ปะทะกันอยู่ภายใต้กล้องวงจรปิด มันไม่เท่ากับหาที่ตายหรอกเหรอ?”
หลี่ฝางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาทันที แต่ส้าวส้วยกลับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากขึ้นมา และกล่าวอย่างไร้กังวล: “เดี๋ยวผมจะจัดการเอง”