NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 586 ทางเลือกที่มีผลที่สุด

บทที่ 586 ทางเลือกที่มีผลที่สุด

โจวหยางพยักหน้า เดินไปข้างหน้าโจวเจ๋ และเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ให้โจวเจ๋ฟัง

โจวเจ๋ฟังจบ ก็ลังเลเล็กน้อย และพูดขึ้น: “ที่จริงเรื่องแบบนี้ มันง่ายมาก แจ้งความก็โอเคแล้ว พฤติกรรมที่อีกฝ่ายทำทั้งหมด ส่อให้เห็นว่าผิดกฎหมายแล้ว”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วถาม: “ยังมีวิธีอื่นอีกมั้ย?”

“ถ้าหากแจ้งความ หนึ่งก็ยากที่จะเอาผิดหนักๆ อีกฝ่าย ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนที่คนให้ความสนใจเท่าไหร่ หวางต้องแค่ส่งคนออกมาคนนึง ก็สามารถรับโทษแทนได้แล้ว สอง ถ้าแจ้งความ เป็นไปได้มากที่จะไปกระตุ้นอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายยิ่งระวังตัวมากขึ้น เมื่อวิดีโอในมือพวกเขาถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ นั้นก็จะทำให้ชื่อเสียงของเน็ตไอดอลสังกัดเรา ดับสลายได้เลย”

“เรื่องนี้ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องร้าย คุณชายหลี่ คุณต้องรู้ว่า เน็ตไอดอลต้องการเรทติ้ง เรทติ้งยิ่งแรง คนที่ติดตาม ก็ยิ่งมีมาก คนพวกมากมักจะมาเกาะกระแส”

“ส่วนเรื่องชื่อเสียง ถ้าหากไม่คิดถึงว่าหลังจากนี้จะเปลี่ยนงานล่ะก็ ชื่อเสียงสำหรับเน็ตไอดอลแล้ว ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมาก ชีวิตส่วนตัวของนักข่าวทำตัวไม่เหมาะสม กลับกันมันสามารถดึงความสนใจจากคนใหญ่คนโตได้ด้วย”

โจวเจ๋พูด: “ดังนั้น ผมแนะนำ ให้พวกเราแจ้งความเลยครับ”

“ไม่ได้ ฉันจ่ายเงินไปเพื่อพวกเขา ไม่ใช่แค่ให้มาเป็นคนไลฟ์สด หลังจากนี้ ฉันจะส่งพวกเขาไปถ่ายหนัง ถ่ายละคร เรื่องละครสั้นอะไรพวกนั้นอีก ฉันก็มีคนในแวดวงบันเทิง สามารถให้พวกดาราดันพวกเขาได้ ให้พวกเขาขึ้นหน้าจอ ขยายเส้นทางของพวกเขา”

“เส้นทางของเน็ตไอดอล มันแคบไป ถ้าเพิ่งแต่ไลฟ์สดแล้วมีคนส่งของขวัญให้ ก็ทำรายได้ได้ไม่เท่าไหร่ ถ้าหากสะสมความนิยม แล้วไปถ่ายหนัง ขอแค่คุณภาพของหนังไม่มีปัญหา ตั๋วก็สามารถขายได้เป็นพันล้าน นั่นสิถึงจะเรียกว่าทำกำไรได้จริงๆ”

“ตอนนี้แวดวงภาพยนตร์ ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ขายบัตรได้พันล้านยังมีเลย” หลี่ฝางพูด

โจวเจ๋ขมวดคิ้ว แล้วพูด: “ผมขอคิดดูอีกหน่อย”

โจวเจ๋เดินไปที่หน้าประตู นั่งยองลง แล้วจุดบุหรี่ให้ตัวเอง ผ่านไปสักพัก เขาถึงลุกขึ้นแล้วพูด: “คุณชายหลี่ ความหมายของคุณคือ อีกฝ่ายอยู่ชั้นล่าง ใช่มั้ย?”

“ใช่แล้ว การเจรจา ไม่ต้องพูดถึงเลย อีกฝ่ายกัดพวกเราไม่ปล่อย ไม่มีทางที่จะเจรจาเลย ถึงแม้พวกเราจะจ่ายเงิน พวกเขาก็ไม่ลบวิดีโอนั่น” หลี่ฝางพูด

“พวกเขา ทำอะไรต่ำช้า แต่ว่าฉันเชื่อนะ วิดีโอพวกนั้น พวกเขาไม่ได้ทำสำรองไว้มั่วๆ หรือปล่อยไปมั่วๆ อย่างมากก็มีแค่ในโทรศัพท์คนสองคน”

โจวเจ๋มองหลี่ฝาง แล้วถาม: “ผมได้ยินมาว่าคุณชายหลี่ มีลูกน้องอยู่ไม่น้อยนะ”

“มี” หลี่ฝางพยักหน้า

“ให้ผมยืมสักครู่ได้มั้ย?” โจวเจ๋ถาม

หลี่ฝางมองโจวเจ๋ แล้วถาม: “นายจะทำอะไร?”

“รับมือกับคนแบบนี้ ไม่มีวิธีอื่นแล้ว พวกเขากัดไม่ปล่อย วิธีรับมือกับคนพวกนี้ มีแค่วิธีเดียว” นัยน์ตาของโจวเจ๋ จู่ๆ ก็เย็นวาบ: “ใช้กำลัง”

หลี่ฝางมองโจวเจ๋ แล้วยิ้มเหอะๆ

ประโยคนี้ออกมาจากปากของโจวเจ๋ ทำให้หลี่ฝางประหลาดใจมาก ถึงยังไงเมื่อก่อน โจวเจ๋ก็เป็นคุณชายลูกเศรษฐีเรียบร้อย ความกล้าของเขา ดูแล้วจะมีไม่มากเท่าไหร่

เหมือนครั้งที่แล้วที่หาเรื่องหลินชิงชิง เขากับส้งเสียง ตกใจกลัวแทบตาย

แต่คราวนี้ โจวเจ๋กับจะสั่งนำเอง

“เหมือนว่าคุณชายหลี่จะดูถูกผมนะ” โจวเจ๋พูดขึ้นนิ่งๆ

“บอกแผนของนายให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย” หลี่ฝางมองโจวเจ๋ แล้วถาม

โจวเจ๋เงยหน้ามองท้องฟ้า แล้วพูด: “สายแล้ว ถ้าหากคุณชายหลี่เชื่อผม ยินดีที่จะให้โอกาสผมสักครั้ง ก็ไม่พวกเขาคลุมหน้า แล้วไปที่ตีนเขาเถอะ”

“แล้วก็ หาเรามาสักกลุ่มนึง ให้เขาไปขวาง สะพานด้านหน้าภูเขาเอาไว้ ตอนที่ผมมาผมตรวจสอบดูแล้ว เส้นทางที่จะมาที่บ้านซาน มีอยู่แค่ทางเดียว นั่นก็คือสะพานนั่น”

“ขวางสะพานนั้นไว้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะแจ้งความ ก็ไม่มีประโยชน์”

“สิ่งที่พวกเราจะต้องยืนยันก็คือ ไอ้คนที่ชื่อหวางต้องนั่น อยู่ด้านล่างใช่หรือไม่?” โจวเจ๋พูด

หลี่ฝางมองโจวเจ๋ สายตาลังเลเล็กน้อย ถึงแม้โจวเจ๋จะไม่ได้อธิบาย แต่หลี่ฝางก็พอจะเดาออกว่าเขาจะทำอะไรแล้ว

“มันจะเสี่ยงมากไปมั้ย?”

“ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมอ่อนข้อ ถ้าหากเล่นแรงเกินไป เรื่องนี้ อาจจะยิ่งมีปัญหาเพิ่มมากขึ้น” หลี่ฝางพูดอย่างกังวล

“เมื่อกี้โจวหยางก็บอกแล้ว ที่นี่ มีคนเป็นสิบหลงกับดักของพวกเขาแล้ว และสิบกว่าคนนั้น ถ้าหากจัดการไม่ดีล่ะก็ เป็นไปได้มากว่าจะโดนพ่วงไปทั้งหมด”

“สิบกว่าคนนั้นไปแล้ว ใจก็หายไปเหมือนกัน รับประกันได้ยากว่าพวกเขาจะไม่มีไม้ตายอะไรอีก”

โจวเจ๋พูด: “มีบางครั้ง การใช้กำลังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และมีผลที่สุดในการแก้ไขปัญหา”

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรหาเฉินฝูเซิง ไม่นานก็โทรติด

เมื่อรับสาย เฉินฝูเซิงก็พูดผ่านสายว่า: “คุณชายหลี่ ได้ยินมาว่าคุณจะไปลงอ่างที่สุ่ยหยุนเทียน แถมยังจะเลี้ยงอาหารซีฟู้ดผมที่โรงแรมว่างโก๋อีก จริงเปล่าเหนี่ย ตอนนี้ผมรอคุณอยู่เหนี่ย”

“นายออกไปแล้วเหรอ” หลี่ฝางพูด

“เพิ่งออกมาครับ กำลังพูดโม้กับจูเปิ่นอยู่เลย เชี่ย คิดไม่ถึงจริงๆ กับถูกวางแผนหลอกได้”

“ฉันบอกแล้วไง ว่าอีกฝ่ายไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น เตะเขาไปนึงที ก็จัดการเขาได้แล้ว แม่ง ฉันนึกว่าฉันมีพลังวิเศษแหนะ เตะไปทีเดียว ก็เตะคนตายไปหนึ่งคนได้ ฮี่ฮี่ คิดไม่ถึง เขาถูกคนฆ่าตาย”

เฉินฝูเซิงหัวเราะฮี่ๆ : “ความเข้าใจผิดนี้เคลียร์เรียบร้อย ผมก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”

“ผมได้ยินจูเปิ่นบอกว่า คุณชายหลี่ให้หลักฐานกับเขา เขาถึงหาผู้ร้ายเจอ บุญคุณนี้ตอบแทนไม่หมดนะ คุณชายหลี่” เฉินฝูเซิงพูด

“นายเป็นคนของฉัน ฉันช่วยนาย นั่นก็สมควรแล้ว นายไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน”

หลี่ฝางพูดอย่างนิ่งๆ : “ที่จริงฉันรู้สึกว่า พานายไปสุ่ยหยุนเทียน หรือไปกินอาหารทะเล ฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เอางี้ ฉันให้ของขวัญนายชิ้นนึงละกัน”

“คุณชายหลี่จะให้ของขวัญอะไรกับผม?” เฉินฝูเซิงถามอย่างอยากรู้

“เรื่องนี้ จับผู้ร้ายได้แล้ว แต่ว่าพวกเขาก็แค่คนที่รับเงินมา แล้วทำงานแค่นั้น คนที่วางแผนลงมือกับนายจริงๆ ที่จริงแล้วยังเป็นคนอื่น”

หลี่ฝางพูด: “อยากล้างแค้นมั้ย?”

“ยังต้องถามอีกเหรอ คุณชายหลี่ บอกผมมามันเป็นใคร ผมจะไปตัดแขนขามันเดี๋ยวนี้แหละ ไอ้หมอนั่นเกือบจะทำผมจนถึงตาย ผมไม่มีทางปล่อยมันไปหรอก” เฉินฝูเซิงพูดเสียงเย็นชา

“ใช่ไอ้หวางต้องนั่นมั้ย ตอนนี้ เขาน่ารังเกียจมากที่สุด” เฉินฝูเซิงพูด: “ไอ้งูพิษนั่น เป็นมันที่หามา ผมสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดนี้ เป็นมันที่วางแผน”

หลี่ฝางพูด: “จะใช่มันมั้ย ฉันไม่รู้ แต่มันก็มีส่วนร่วมแล้ว ดังนั้น พวกเราจะลงมือเอาคืน ก็เริ่มจากที่ตัวของมันแล้ว”

หลี่ฝางพูด: “ถ้าหากนายเห็นด้วย ตอนนี้ก็พาคนมา ที่ฉันฝั่งนี้เถอะ”

“ฉันเตรียมจะลงมือตอนนี้เลย” หลี่ฝางพูด

“ลงมือตอนนี้? คุณชายหลี่ ล้อเล่นอะไรเหนี่ย ตอนนี้เป็นเวลาที่คนมีพลังมากที่สุด มีใครเขาลงมือกันตอนนี้”

เฉินฝูเซิงส่ายหน้า แล้วพูด: “ตีสองถึงตีสาม เป็นเวลาที่คนง่วงและต้องการพักผ่อน เวลานั้น เป็นเวลาที่การระวังตัวของคนต่ำที่สุด เพราะง่วงที่สุด”

“เวลาผ่านไปนานสถานการณ์ก็จะเปลี่ยน ตอนนี้แหละ ฉันไม่อยากรอแล้ว” หลี่ฝางพูด

หลังจากวางสาย หลี่ฝางก็มองโจวเจ๋ โจวเจ๋พยักหน้าให้หลี่ฝาง แล้วพูด: “ถูกแล้ว เรื่องนี้ ให้ดีที่สุดหนึ่งวินาทีก็ช้าไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือก่อนเวลาอาหารเย็น ลงมือ จากที่ผมวิเคราะห์ หลังจากทานอาหารเย็น พวกมันจะต้องเริ่มคุยเรื่องขั้นตอนต่อไป”

“ถึงแม้เวลานี้ จะมีความเสี่ยงสูง แต่เช่นนั้น พวกมันก็คงคาดไม่ถึง ว่าเวลานี้พวกเราจะลงมันกับพวกเขา”

“ก็เหมือนกับตอนตีสองตีสาม ถึงแม้คนมากมายจะนอนแล้ว แต่บ้านพวกพวกเขา ก็ล็อก เวลาตอนนี้ พวกเขาไม่ได้ล็อกแม้แต่ประตู” โจวเจ๋พูด

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร แล้วพูด: “คุณอาหวาง ขอรบกวนลุงสักเรื่องสิครับ ใช่ ฝั่งผมจัดปาร์ตี้ เป็นงานเลี้ยงใส่หน้ากาก อาจจะมีคนขึ้นมากลุ่มนึง ถึงตอนนั้นหวังว่ารปภ.ของลุง จะไม่ขวาง พวกเขานะครับ”

“ครับ ขอบคุณคุณอาหวางแล้วครับ มีเวลาแวะมาดื่มชานะครับ” หลี่ฝางโทรศัพท์ หาเจ้าของที่คฤหาสน์ ให้เขานำรปภ.ออกไปจำนวนนึง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท