โจวหยางพยักหน้า เดินไปข้างหน้าโจวเจ๋ และเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ให้โจวเจ๋ฟัง
โจวเจ๋ฟังจบ ก็ลังเลเล็กน้อย และพูดขึ้น: “ที่จริงเรื่องแบบนี้ มันง่ายมาก แจ้งความก็โอเคแล้ว พฤติกรรมที่อีกฝ่ายทำทั้งหมด ส่อให้เห็นว่าผิดกฎหมายแล้ว”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วถาม: “ยังมีวิธีอื่นอีกมั้ย?”
“ถ้าหากแจ้งความ หนึ่งก็ยากที่จะเอาผิดหนักๆ อีกฝ่าย ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนที่คนให้ความสนใจเท่าไหร่ หวางต้องแค่ส่งคนออกมาคนนึง ก็สามารถรับโทษแทนได้แล้ว สอง ถ้าแจ้งความ เป็นไปได้มากที่จะไปกระตุ้นอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายยิ่งระวังตัวมากขึ้น เมื่อวิดีโอในมือพวกเขาถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ นั้นก็จะทำให้ชื่อเสียงของเน็ตไอดอลสังกัดเรา ดับสลายได้เลย”
“เรื่องนี้ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องร้าย คุณชายหลี่ คุณต้องรู้ว่า เน็ตไอดอลต้องการเรทติ้ง เรทติ้งยิ่งแรง คนที่ติดตาม ก็ยิ่งมีมาก คนพวกมากมักจะมาเกาะกระแส”
“ส่วนเรื่องชื่อเสียง ถ้าหากไม่คิดถึงว่าหลังจากนี้จะเปลี่ยนงานล่ะก็ ชื่อเสียงสำหรับเน็ตไอดอลแล้ว ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมาก ชีวิตส่วนตัวของนักข่าวทำตัวไม่เหมาะสม กลับกันมันสามารถดึงความสนใจจากคนใหญ่คนโตได้ด้วย”
โจวเจ๋พูด: “ดังนั้น ผมแนะนำ ให้พวกเราแจ้งความเลยครับ”
“ไม่ได้ ฉันจ่ายเงินไปเพื่อพวกเขา ไม่ใช่แค่ให้มาเป็นคนไลฟ์สด หลังจากนี้ ฉันจะส่งพวกเขาไปถ่ายหนัง ถ่ายละคร เรื่องละครสั้นอะไรพวกนั้นอีก ฉันก็มีคนในแวดวงบันเทิง สามารถให้พวกดาราดันพวกเขาได้ ให้พวกเขาขึ้นหน้าจอ ขยายเส้นทางของพวกเขา”
“เส้นทางของเน็ตไอดอล มันแคบไป ถ้าเพิ่งแต่ไลฟ์สดแล้วมีคนส่งของขวัญให้ ก็ทำรายได้ได้ไม่เท่าไหร่ ถ้าหากสะสมความนิยม แล้วไปถ่ายหนัง ขอแค่คุณภาพของหนังไม่มีปัญหา ตั๋วก็สามารถขายได้เป็นพันล้าน นั่นสิถึงจะเรียกว่าทำกำไรได้จริงๆ”
“ตอนนี้แวดวงภาพยนตร์ ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ขายบัตรได้พันล้านยังมีเลย” หลี่ฝางพูด
โจวเจ๋ขมวดคิ้ว แล้วพูด: “ผมขอคิดดูอีกหน่อย”
โจวเจ๋เดินไปที่หน้าประตู นั่งยองลง แล้วจุดบุหรี่ให้ตัวเอง ผ่านไปสักพัก เขาถึงลุกขึ้นแล้วพูด: “คุณชายหลี่ ความหมายของคุณคือ อีกฝ่ายอยู่ชั้นล่าง ใช่มั้ย?”
“ใช่แล้ว การเจรจา ไม่ต้องพูดถึงเลย อีกฝ่ายกัดพวกเราไม่ปล่อย ไม่มีทางที่จะเจรจาเลย ถึงแม้พวกเราจะจ่ายเงิน พวกเขาก็ไม่ลบวิดีโอนั่น” หลี่ฝางพูด
“พวกเขา ทำอะไรต่ำช้า แต่ว่าฉันเชื่อนะ วิดีโอพวกนั้น พวกเขาไม่ได้ทำสำรองไว้มั่วๆ หรือปล่อยไปมั่วๆ อย่างมากก็มีแค่ในโทรศัพท์คนสองคน”
โจวเจ๋มองหลี่ฝาง แล้วถาม: “ผมได้ยินมาว่าคุณชายหลี่ มีลูกน้องอยู่ไม่น้อยนะ”
“มี” หลี่ฝางพยักหน้า
“ให้ผมยืมสักครู่ได้มั้ย?” โจวเจ๋ถาม
หลี่ฝางมองโจวเจ๋ แล้วถาม: “นายจะทำอะไร?”
“รับมือกับคนแบบนี้ ไม่มีวิธีอื่นแล้ว พวกเขากัดไม่ปล่อย วิธีรับมือกับคนพวกนี้ มีแค่วิธีเดียว” นัยน์ตาของโจวเจ๋ จู่ๆ ก็เย็นวาบ: “ใช้กำลัง”
หลี่ฝางมองโจวเจ๋ แล้วยิ้มเหอะๆ
ประโยคนี้ออกมาจากปากของโจวเจ๋ ทำให้หลี่ฝางประหลาดใจมาก ถึงยังไงเมื่อก่อน โจวเจ๋ก็เป็นคุณชายลูกเศรษฐีเรียบร้อย ความกล้าของเขา ดูแล้วจะมีไม่มากเท่าไหร่
เหมือนครั้งที่แล้วที่หาเรื่องหลินชิงชิง เขากับส้งเสียง ตกใจกลัวแทบตาย
แต่คราวนี้ โจวเจ๋กับจะสั่งนำเอง
“เหมือนว่าคุณชายหลี่จะดูถูกผมนะ” โจวเจ๋พูดขึ้นนิ่งๆ
“บอกแผนของนายให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย” หลี่ฝางมองโจวเจ๋ แล้วถาม
โจวเจ๋เงยหน้ามองท้องฟ้า แล้วพูด: “สายแล้ว ถ้าหากคุณชายหลี่เชื่อผม ยินดีที่จะให้โอกาสผมสักครั้ง ก็ไม่พวกเขาคลุมหน้า แล้วไปที่ตีนเขาเถอะ”
“แล้วก็ หาเรามาสักกลุ่มนึง ให้เขาไปขวาง สะพานด้านหน้าภูเขาเอาไว้ ตอนที่ผมมาผมตรวจสอบดูแล้ว เส้นทางที่จะมาที่บ้านซาน มีอยู่แค่ทางเดียว นั่นก็คือสะพานนั่น”
“ขวางสะพานนั้นไว้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะแจ้งความ ก็ไม่มีประโยชน์”
“สิ่งที่พวกเราจะต้องยืนยันก็คือ ไอ้คนที่ชื่อหวางต้องนั่น อยู่ด้านล่างใช่หรือไม่?” โจวเจ๋พูด
หลี่ฝางมองโจวเจ๋ สายตาลังเลเล็กน้อย ถึงแม้โจวเจ๋จะไม่ได้อธิบาย แต่หลี่ฝางก็พอจะเดาออกว่าเขาจะทำอะไรแล้ว
“มันจะเสี่ยงมากไปมั้ย?”
“ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมอ่อนข้อ ถ้าหากเล่นแรงเกินไป เรื่องนี้ อาจจะยิ่งมีปัญหาเพิ่มมากขึ้น” หลี่ฝางพูดอย่างกังวล
“เมื่อกี้โจวหยางก็บอกแล้ว ที่นี่ มีคนเป็นสิบหลงกับดักของพวกเขาแล้ว และสิบกว่าคนนั้น ถ้าหากจัดการไม่ดีล่ะก็ เป็นไปได้มากว่าจะโดนพ่วงไปทั้งหมด”
“สิบกว่าคนนั้นไปแล้ว ใจก็หายไปเหมือนกัน รับประกันได้ยากว่าพวกเขาจะไม่มีไม้ตายอะไรอีก”
โจวเจ๋พูด: “มีบางครั้ง การใช้กำลังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และมีผลที่สุดในการแก้ไขปัญหา”
หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรหาเฉินฝูเซิง ไม่นานก็โทรติด
เมื่อรับสาย เฉินฝูเซิงก็พูดผ่านสายว่า: “คุณชายหลี่ ได้ยินมาว่าคุณจะไปลงอ่างที่สุ่ยหยุนเทียน แถมยังจะเลี้ยงอาหารซีฟู้ดผมที่โรงแรมว่างโก๋อีก จริงเปล่าเหนี่ย ตอนนี้ผมรอคุณอยู่เหนี่ย”
“นายออกไปแล้วเหรอ” หลี่ฝางพูด
“เพิ่งออกมาครับ กำลังพูดโม้กับจูเปิ่นอยู่เลย เชี่ย คิดไม่ถึงจริงๆ กับถูกวางแผนหลอกได้”
“ฉันบอกแล้วไง ว่าอีกฝ่ายไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น เตะเขาไปนึงที ก็จัดการเขาได้แล้ว แม่ง ฉันนึกว่าฉันมีพลังวิเศษแหนะ เตะไปทีเดียว ก็เตะคนตายไปหนึ่งคนได้ ฮี่ฮี่ คิดไม่ถึง เขาถูกคนฆ่าตาย”
เฉินฝูเซิงหัวเราะฮี่ๆ : “ความเข้าใจผิดนี้เคลียร์เรียบร้อย ผมก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”
“ผมได้ยินจูเปิ่นบอกว่า คุณชายหลี่ให้หลักฐานกับเขา เขาถึงหาผู้ร้ายเจอ บุญคุณนี้ตอบแทนไม่หมดนะ คุณชายหลี่” เฉินฝูเซิงพูด
“นายเป็นคนของฉัน ฉันช่วยนาย นั่นก็สมควรแล้ว นายไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน”
หลี่ฝางพูดอย่างนิ่งๆ : “ที่จริงฉันรู้สึกว่า พานายไปสุ่ยหยุนเทียน หรือไปกินอาหารทะเล ฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เอางี้ ฉันให้ของขวัญนายชิ้นนึงละกัน”
“คุณชายหลี่จะให้ของขวัญอะไรกับผม?” เฉินฝูเซิงถามอย่างอยากรู้
“เรื่องนี้ จับผู้ร้ายได้แล้ว แต่ว่าพวกเขาก็แค่คนที่รับเงินมา แล้วทำงานแค่นั้น คนที่วางแผนลงมือกับนายจริงๆ ที่จริงแล้วยังเป็นคนอื่น”
หลี่ฝางพูด: “อยากล้างแค้นมั้ย?”
“ยังต้องถามอีกเหรอ คุณชายหลี่ บอกผมมามันเป็นใคร ผมจะไปตัดแขนขามันเดี๋ยวนี้แหละ ไอ้หมอนั่นเกือบจะทำผมจนถึงตาย ผมไม่มีทางปล่อยมันไปหรอก” เฉินฝูเซิงพูดเสียงเย็นชา
“ใช่ไอ้หวางต้องนั่นมั้ย ตอนนี้ เขาน่ารังเกียจมากที่สุด” เฉินฝูเซิงพูด: “ไอ้งูพิษนั่น เป็นมันที่หามา ผมสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดนี้ เป็นมันที่วางแผน”
หลี่ฝางพูด: “จะใช่มันมั้ย ฉันไม่รู้ แต่มันก็มีส่วนร่วมแล้ว ดังนั้น พวกเราจะลงมือเอาคืน ก็เริ่มจากที่ตัวของมันแล้ว”
หลี่ฝางพูด: “ถ้าหากนายเห็นด้วย ตอนนี้ก็พาคนมา ที่ฉันฝั่งนี้เถอะ”
“ฉันเตรียมจะลงมือตอนนี้เลย” หลี่ฝางพูด
“ลงมือตอนนี้? คุณชายหลี่ ล้อเล่นอะไรเหนี่ย ตอนนี้เป็นเวลาที่คนมีพลังมากที่สุด มีใครเขาลงมือกันตอนนี้”
เฉินฝูเซิงส่ายหน้า แล้วพูด: “ตีสองถึงตีสาม เป็นเวลาที่คนง่วงและต้องการพักผ่อน เวลานั้น เป็นเวลาที่การระวังตัวของคนต่ำที่สุด เพราะง่วงที่สุด”
“เวลาผ่านไปนานสถานการณ์ก็จะเปลี่ยน ตอนนี้แหละ ฉันไม่อยากรอแล้ว” หลี่ฝางพูด
หลังจากวางสาย หลี่ฝางก็มองโจวเจ๋ โจวเจ๋พยักหน้าให้หลี่ฝาง แล้วพูด: “ถูกแล้ว เรื่องนี้ ให้ดีที่สุดหนึ่งวินาทีก็ช้าไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือก่อนเวลาอาหารเย็น ลงมือ จากที่ผมวิเคราะห์ หลังจากทานอาหารเย็น พวกมันจะต้องเริ่มคุยเรื่องขั้นตอนต่อไป”
“ถึงแม้เวลานี้ จะมีความเสี่ยงสูง แต่เช่นนั้น พวกมันก็คงคาดไม่ถึง ว่าเวลานี้พวกเราจะลงมันกับพวกเขา”
“ก็เหมือนกับตอนตีสองตีสาม ถึงแม้คนมากมายจะนอนแล้ว แต่บ้านพวกพวกเขา ก็ล็อก เวลาตอนนี้ พวกเขาไม่ได้ล็อกแม้แต่ประตู” โจวเจ๋พูด
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร แล้วพูด: “คุณอาหวาง ขอรบกวนลุงสักเรื่องสิครับ ใช่ ฝั่งผมจัดปาร์ตี้ เป็นงานเลี้ยงใส่หน้ากาก อาจจะมีคนขึ้นมากลุ่มนึง ถึงตอนนั้นหวังว่ารปภ.ของลุง จะไม่ขวาง พวกเขานะครับ”
“ครับ ขอบคุณคุณอาหวางแล้วครับ มีเวลาแวะมาดื่มชานะครับ” หลี่ฝางโทรศัพท์ หาเจ้าของที่คฤหาสน์ ให้เขานำรปภ.ออกไปจำนวนนึง