NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่598 เขาเห็นแก่ตัว ส่วนคุณเห็นแก่คนอื่น

บทที่598 เขาเห็นแก่ตัว ส่วนคุณเห็นแก่คนอื่น

ถ้าบอกว่าถ้าถูกหวางเห้าหักหลัง พวกของหลี่ฝางไม่มีทางเชื่อเป็นแน่

หลี่ฝางแบ่งอาณาเขตของตัวเองออกเป็นสามส่วน แต่เขากลับยกเขตอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่ทั้งใหญ่ที่สุดแถมหรูหราที่สุดให้กับหวางเห้า รวมถึงที่สุ่ยหยุ่นเจียนลูกน้องของหวางเห้าที่แย่งอาณาเขตเสือมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ จางกงหมิงกับส้าวส้วย อาณาเขตที่หวางเห้าถือครองอยู่ พอมาคำนวณดูแล้วก็เกือบจะเทียบเท่ากับสัดส่วนทั้งหมดของหวางเสี่ยวหยวนกับเฉินฝูเซิงรวมกัน

ไม่ใช่แค่เรื่องสัดส่วนของอาณาจักร แต่หลี่ฝางก็ดีกับหวางเห้ามาตลอด แม้กระทั่งในด้านลูกมือ หลี่ฝางเองก็ช่วยเหลือหวางเห้ามาไม่น้อย

เมื่อหวางเห้าขาดคน หลี่ฝางก็เป็นฝ่ายเสนอส่งตัวซินปาไปหาทันที มิหนำซ้ำยังแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ช่วยคนสนิทของหวางเห้า

สิ่งที่หลี่ฝางมีต่อหวางเห้าเรียกได้ว่าเป็นความเมตตากรุณา อีกทั้งความสนิทสนมของทั้งคู่ที่มีมาแต่ไหนแต่ไร ให้ตายหลี่ฝางก็ไม่เชื่อว่าหวางเห้าจะหักหลัง

ในเมื่อหลี่ฝางไม่เชื่อ เฉิงหยุนก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแสยะยิ้ม “ในเมื่อคุณชายหลี่ไม่เชื่อ เห็นทีผมคงจะดูผิดไปเอง”

หลี่ฝางเห็นท่าทีของเฉิงหยุนที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนกำลังพูดโกหก ก็ถามขึ้นคำนึง “เวลาที่แน่ชัดคือเมื่อไหร่ ยังจำได้ไหม?”

เฉิงหยุนล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วว่า “คุณชายหลี่โปรดรอสักครู่”

“นายบันทึกเอาไว้ด้วยหรอ?” หลี่ฝางอึ้งไปนิดหน่อย

“แน่นอนว่าไม่ใช่ครับ เพียงแต่ผมจำได้ว่าตอนที่เจอหวางเห้า ตอนนั้นผมกำลังคุยโทรศัพท์กับแฟน ผมขอดูบันทึกการโทรก่อน”

ไม่นาน เฉิงหยุนก็บอกเวลาที่แน่ชัดกันหลี่ฝาง

หลี่ฝางหัวเราะหึๆ “ฉันชักจะเริ่มเชื่อนิดนึงแล้วสิ”

“ถ้านายกับหวางเห้าไม่ได้มีความแค้นอะไรกันล่ะก็”หลี่ฝางมองเฉิงหยุน สายตาดุดัน

หลี่ฝางนึกไม่ออกว่าฉิงหยุนจะโกหกเขาด้วยเหตุผลอะไร นอกจากว่าเมื่อก่อนอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเฉิงหยุนกับหวางเห้า ถ้าเป็นแบบนั้นก็เป็นไปได้ว่าเฉิงหยุนตั้งใจจะใส่ร้ายหวางเห้า

“ผมไม่ได้รู้จักกับหวางเห้าเป็นการส่วนตัว เรื่องความแค้นส่วนตัวยิ่งไม่ต้องพูดถึง” เฉิงหยุนหัวเราะเหอะ

“ในเมื่อไม่รู้จัก ทำไมนายถึงมองเขาออกได้ขนาดนี้?” หลี่ฝางยิงความถามต่อ น้ำเสียงของเขาแฝงความสงสัย

“หวางเห้าเป็นเจ้านายของสุ่ยหยุ่นเจียน ก่อนหน้านี้ผมเคยนัดบอดกับผู้หญิงคนนึง เธอเป็นพนักงานฝีมือดีของสุ่ยหยุ่นเจียน ผมไปที่สุ่ยหยุ่นเจียนบ่อยแล้วก็ได้พบกับหวางเห้าอยู่หลายครั้ง ก็เลยจำเขาได้ค่อนข้างดี”เฉิงหยุนอธิบาย

หลี่ฝางยังคงไม่เชื่อเต็มร้อย “พนักงานที่ว่าชื่ออะไร? มีรูปไหม?”

ถึงแม้หลี่ฝางจะไม่ได้ไปตรวจดูสุ่ยหยุนเจียนบ่อยนัก แต่เขาก็พอจะคุ้นเคยกับพนักงานในสุ่ยหยุนเจียนอยู่ไม่น้อย ยังไงซะช่วงที่ว่างจากงาน หลี่ฝางก็มักจะไปยืดเส้นยืดสายที่นั่นบ้างเป็นบางครั้ง

เฉิงหยุนเปิดวีแชทของตัวเองขึ้น แล้วคลิปไปที่รูปโปรไฟล์ของเธอ “แฟนของผมชื่อฮวนฮวน คุณลองดูสิ สวยใช่เล่นเลยใช่ไหมล่ะ?”

ขณะที่ดูรูปโปรไฟล์อันคุ้นเคย สีหน้าของหลี่ฝางก็นิ่งไปนิดหน่อย “พี่ฮวนเป็นแฟนนายหรอ?”

“ใช่ครับ ทำไมหรอครับ หรือว่าคุณชายหลี่เองก็รู้จักเธอ? จริงสิ เจ้านายตัวจริงของสุ่ยหยุนเจียน เหมือนจะเป็นคุณชายหลี่นี่เอง”

“ผมรู้จักฮวนฮวนผ่านคนที่อยู่ใกล้ๆในแอพวีแชท หลังจากได้คุยกันก็ได้รู้ว่าเพื้นเพของเธอน่าสงสารมาก ตอนเช้าทำงานในร้านขายเครื่องสำอาง ตกเย็นเป็นหมอนวดในสุ่ยหยุนเจียน เพื่อหาเงินซื้อเรือนหอให้น้องชาย ชีวิตเธอลำบากมากทีเดียว ผมเคยจะให้เงินเธออยู่ แต่เธอไม่ยอมรับเลยสักครั้ง”

“คุณชายหลี่ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีคนนึงเลยใช่ไหม? ไม่ว่ายังไงผมก็รู้สึกว่าผู้หญิงดีๆแบบนี้มีไม่เยอะแล้ว เธอไม่คิดจะสูบเงินคุณ มีอยู่ครั้งนึงผมโอนเงินให้เธอเป็นแสน แต่เธอก็โอนคืนผมทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมาผมก็มองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ยืนหยัดอยู่บนลำแข้งตัวเอง ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะทำงานอยู่ในสถานบันเทิงแบบนั้น แต่นั่นก็ตัดสินตัวตนเธอไม่ได้”

“มีคำพูดว่าเกิดจากตม แต่ไม่เปื้อนสกปรก ผมว่านั่นแหละฮวนฮวนล่ะ”เฉิงหยุนพูดด้วยสีหน้ามีความสุข

เห็นท่าทางของเฉิงหยุนแบบนี้แล้ว หลี่ฝางก็ทำใจแฉไม่ลง

ถึงแม้ว่าประวัติพื้นเพของฮวนฮวนจะไม่ได้ดีเด่นอะไร แต่เธอก็ไม่ได้ทำเพื่อซื้อเรือนหอให้น้องชายสักหน่อย ครอบครัวเธอยากจนก็จริงแต่ไม่ได้จนถึงขนาดไม่มีเงินซื้อข้าว

ความจริงฮวนฮวนอาศัยรูปร่างหน้าตาแบบนั้น ก็สามารถหาผู้ชายดีๆสักคนมาเป็นสามีได้

การที่เธอเลือกจากเดินบนเส้นทางนี้ อย่างแรกคือเธอขี้เกียจ สองคือนี่เป็นวิธีหาเงินง่าย ขอแค่มีเงินอยู่ในมือ เธอก็ไม่จำเป็นต้องสนสายตาใครทั้งนั้น

อดพูดไม่ได้ว่าหญิงสาวที่เข้าออกสถานที่อบายมุขแบบนี้ ทุกคนต่างก็เป็นนักแต่งเรื่องที่ดี ถ้าให้พวกเธอมาเขียนนิยาย รับประกันเลยว่าพวกเธอคงเขียนออกมาได้ซาบซึ้งประทับใจคนดูจนน้ำหูน้ำตาไหล

หลี่ฝางได้ยินว่า สาวดริ๊งค์ที่ktv มักจะหลอกเอาทิปราคาสูงๆจากลูกค้าบ่อยครั้งด้วยลูกไม้ฝีมือการแสดงกับเรื่องราวชีวิตอันน่าสังเวชที่ทำให้คนรู้สึกเห็นใจสงสาร

ยังไงซะพวกชายแก่มีตังค์ทั้งหลายพอดื่มจนเมาก็ไม่ต่างอะไรกับหมูอ้วนโง่ๆตัวนึง

‘’จริงสิ คุณชายหลี่ ถ้าฮวนฮวนตกลงปลงใจแต่งกับผม คุณคงจะไม่คัดค้านอะไรใช่ไหมครับ? ได้ยินว่าฮวนฮวนเป็นดาวเด่นประจำร้านคุณซะด้วย ลูกค้าหลายคนชอบเข้ามาซื้อตัวเธอ” เฉิงหยุนมองหลี่ฝาง ถามหยั่งเชิง

“ถ้าฮวนฮวนยินดีจะไปกับนาย ฉันก็ไม่มีอะไรจะคัดค้าน พนักงานทุกคนล้วนมีสิทธิจะเดินตามทางของตัวเอง เราไม่เข้าไปจำกัดอิสระของพวกเธอ” หลี่ฝางตบไหล่ของเฉิงหยุนเบาๆ ลึกๆอดเห็นใจเขาไม่ได้

เมื่อมองดูเฉิงหยุน จู่ๆหลี่ฝางก็รู้สึกเหมือนเห็นเขางอกขึ้นบนหัวอยู่เลือนลาง

แม่ฮวนฮวนคนนี้ไม่ได้ทำงานรับจ้างในร้านเครื่องสำอาง แต่เธอเปิดร้านเครื่องสำอางของตัวเองซึ่งตั้งอยู่ข้างๆสุ่ยหยุนเจียน แถมได้ยินว่าข้างในกว้างขวางไม่ใช่น้อย

แน่นอนว่าเงินทุนจำนวนมากที่เอามาเปิดร้าน มาจากผู้สนับสนุนทางการเงินของเจ้าหล่อน

แถมชายคนนั้น ยังเป็นที่รู้จักในแวดวงไม่น้อย

หลังจากที่ผู้สนับสนุนทางการเงินคนนี้ปรากฏตัว แน่นอนว่าฮวนฮวนก็ไม่ได้ให้บริการทางร่างกายอย่างโจ่งแจ้งเช่นเดิม ส่วนใหญ่เธอจะมีฐานะเป็นหมอนวดฝีมือดีที่โดนลูกค้าแต๊ะอั๋งบ้างบางครั้ง

ส่วนเหตุผลที่ทำไมเสี่ยใหญ่ใจป๋าคนนั้นไม่รับฮวนฮวนไปเลี้ยงดู จนกลายเป็นอาซ้อก็มีอยู่หลายข้อ แต่หนึ่งในนั้นก็คือแบบนี้มันดีต่อการปกปิดตัวตนที่แท้จริง

เสี่ยคนนั้นมีเมียอยู่แต่ไม่วายหนีออกมาเที่ยวเล่น หากเขาใช้เรื่องนวดเป็นข้ออ้างในการพบเจอกับฮวนฮวน แทนที่จะไปหาเธอในบ้านเล็กบ้านน้อยบ่อยๆ นับว่านี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยมาก

“ครับ ฮวนฮวนบอกว่าถ้าเก็บของเรียบร้อยแล้วก็จะมาหาผม” เฉิงหยุนพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ

หลังจากที่เฉิงหยุนออกมา ก็ไปหาน้องสาวของจูเฟิ่งปินที่โรงเรียนมัยมโบตั๋นพร้อมกับจูหยูนและคนอื่นๆ

เวลานี้จูเฟิ่งปินก็ตื่นแล้วเช่นกัน ปากของเขาพร่ำแต่ความซึ้งใจที่มีต่อหลี่ฝางไม่หยุด ในขณะเดียวกันก็ก่นด่ามู่เสี่ยวไป๋อย่างไม่ขาดสาย

ขนาดที่เฉิงหยุนขึ้นโรงพักไปมอบตัวหลายครั้ง เพราะตั้งใจจะลากให้มู่เสี่ยวไป๋จนจมดินแบบไม่ให้ผุดให้เกิด แต่หลี่ฝางก็ห้ามไว้ได้

พูดให้หมด มู่เสี่ยวไป๋ก็แค่คนชักใยเบื้องหลัง

แผนการทั้งหมด มู่เสี่ยวไป๋เป็นคนบอกหวางต้อง แล้วหวางต้องจึงไปลงมือพร้อมกับจูเฟิ่งปิน เฉิงหยุนและคนอื่นๆ ถ้าหวางต้องอยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะทำลายมู่เสี่ยวไป๋จนย่อยยับก็เป็นได้

แต่หวางต้องตายไปแล้ว เมื่อตัดตัวละครอย่างหวางต้องออกไป หลี่ฝางรู้ดี ต่อให้จูเฟิ่งปินกับเฉิงหยุนร่วมมือกัน ก็ไม่มีทางล้มมู่เสี่ยวไป๋แบบถอนรากถอนโคนได้

ตรงกับข้าม จะมีแต่ทำให้ตัวเองซวยแทน

หลี่ฝางพยักหน้าให้จูเฟิ่งปินนิดๆ ‘’ไม่ต้อง ถ้านายมอบตัว ลู่เสี่ยวไป๋ได้ตายหรือไม่ได้ตายก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าความผิดของนายถูกเปิดเผย นายต้องได้รับบโทษตายแน่นอน”

จูเฟิ่งปินอึ้งไปเล็กน้อย เขามองหลี่ฝางด้วยความแปลกใจ จู่ๆก็หัวเราะขึ้นมา “คุณชายหลี่เป็นคนดีจริงๆ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังเคยทำร้ายนักข่าวช่องคุณ แต่คุณกลับยังคิดหน้าคิดหลังแทนผม”

“จริงๆผมทำเรื่องชั่วช้ามากมายขนาดนี้ มันก็สมควรแล้วที่จะต้องตาย” จูเฟิ่งปินยิ้มขมขื่น

“นายเองก็ต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก ทำเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไม่ใช่หรือไง? หลังจากที่พ่อแม่ตาย ก็เหลือแค่นายกับน้องสาวสองคนใช้ชีวิตบนโลก น้องสาวของนายหน้าตาดีขนาดนั้น พวกขี้เมาโรคจิตมันก็เขข้ามายุ่มย่ามบ่อยๆ เพื่อปกป้องน้องสาวนายถึงต้องคว้ามีดขึ้นมาแทงท้องไอ้ลามกนั่น ตอนนั้นนายยังเด็ก แต่หลังจากนั้นนายก็หันไปรับใช้หวางต้อง จนกลายเป็นมือขวาเขา จนมีเพื่อนพี่น้องมากมาย”

หลี่ฝางมองหน้าจูเฟิ่งปิน “ถึงนายจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่นายเป็นพี่ชายที่ดี”

“ถ้านายเข้าคุก แล้วน้องสาวนายล่ะ? เคยคิดบ้างไหม?” หลี่ฝางพูดกับจูเฟิ่งปิน

หลังจากฟังจนจบ จูเฟิ่งปินก็นิ่งสงบ จากนั้นก็พูดประโยคเดียวกับที่เฉิงหยุนพูด นั่นคือหลี่ฝางเป็นคนดี อีกหน่อยจะเสียท่าให้มู่เสี่ยวไป๋

หลี่ฝางได้ยินก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ เขาว่า “ทำไมนายกับเฉิงหยุนถึงมั่นใจขนาดนั้นว่าฉันจะเสียท่าให้มัน?”

“คุณชายหลี่ คำพูดอ่อนหวานถึงจะน่าฟังแต่ผมจะไม่พูด คนแบบคุณคิดอะไรเผื่อคนอื่นมากเกินไป ช่างแตกต่างจากมู่เสี่ยวไป๋สุดๆ คนอย่างเขาคิดทุกอย่างก็แค่เพื่อตัวเอง เขาเห็นแก่ตัว แต่คุณเห็นแก่คนอื่น นี่จะเป็นจุดที่ทำให้คุณพลาดท่า”จู่เฟิ่งปินพูด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท