NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่600 การจากไปของหวางเห้า

บทที่600 การจากไปของหวางเห้า

หวางเห้าเงียบไปนาน ความเงียบของเขาคือคำตอบ

หลี่ฝางฉีดยิ้ม ตั้งแต่วินาทีนั้นเขาก็เข้าใจความหมายของหวางเห้าทันที “เอาเถอะ นายไม่ต้องตอบฉันแล้วล่ะ ฉันรู้คำตอบแล้ว”

“ที่นายจะสื่อก็คืออยู่ข้างเดียวกับชางสู่ไง?” หลี่ฝางแค่นหัวเราะเสียงเย็น พูดด้วยความไม่สบอารมณ์นัก

ถึงยังไงหวางเห้าก็เป็นคนที่เขาอุ้มชูขึ้นมา ถ้าไม่เพราะหลี่ฝาง เกรงว่าคนอย่างหวางเห้าแค่ค่าซ่อมแซมศูนย์อาบน้ำก็คงไม่มีปัญญาจ่าย

แต่บัดนี้ หวางเห้าเป็นถึงคนยุทธภพที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองเอก

ซึ่งนั่นไม่ได้มาจากความทุ่มเทของชางสู่ แต่เป็นความทุ่มเทของหลี่ฝาง

แต่วันนี้หวางเห้ากลับเลือกจะเคียงข้างชางสู่ เล่นเอาหลี่ฝางรู้สึกชาขึ้นมา

หวางเห้ามองหลี่ฝาง แล้วเอ่ย “เจ้านาย ยังไงผมก็ไม่มีวันทำร้ายนาย”

“ต่อให้ชางสู่จะบีบบังคับให้ตายยังไง ผมก็ไม่มีทางทำร้ายคุณ”

หลี่ฝางมองหวางเห้าอย่างไม่เชื่อนัก “จริงหรอ?”

“ถึงผมจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ไม่ใช่พวกลืมพระคุณคนแน่นอน คุณชายหลี่ช่วยเหลือผมมากขนาดไหน ผมรู้ดีแก่ใจ ถ้าไม่มีคุณ คนอย่างหวางเห้าคงไม่ใช่หวางเห้าอย่างทุกวันนี้”

“ถ้าแค่เพราะคำพูดของชางสู่ แล้วหักหลังคุณ ผมยังสมควรจะเป็นคนอยู่อีกหรอ? เหอะ ถึงตอนนั้นแม้แต่ผมก็คงแขยงตัวเอง”

หวางเห้ามองหน้าหลี่ฝาง แล้วเสริมต่อ “แต่เจ้านายต้องรับปากผมเรื่องนึง”

“อะไร?”

หลี่ฝางถาม

“ผมขอไว้ก่อนว่าห้ามทำร้ายชางสู่ ถ้าคุณลงมือกับชางสู่ ผมจะไม่ยอมแน่” หวางเห้าพูดด้วยใบหน้านิ่ง “คุณพูดถูก คุณเป็นเจ้านายผม แต่ชางสู่เองก็เป็นพี่น้องผมเหมือนกัน คุณมีบุญคุณกับผม แต่ก็ลงทุนในตัวผมเช่นกัน แต่ระหว่างผมกับชางสู่ เราสามารถสละชีวิตแทนกันได้ ไม่ว่าใครก็ตามในโลกใบนี้ผมก็ไม่ยอมให้เขามาทำร้ายชางสู่แน่”

“ไม่งั้น ผมเองก็จะขอสู้ยิบตาเหมือนกัน”

หลี่ฝางหัวเราะ เขาส่ายหัวเบาๆ “ไม่ว่าจะพูดยังไง ให้ตายนายก็เลือกจะอยู่ข้างชางสู่”

หวางเห้าได้ยินคำนั้น สีหน้าก็เปลี่ยน ก่อนจะรีบพูดต่อ “เช่นเดียวกัน ผมเองก็จะไม่ยอมให้ชางสู่ทำร้ายคุณ ถ้ากระบอกปืนของชางสู่หันมาหาคุณ ผมพร้อมจะวิ่งไปรับกระสุนลูกนั้นแทนคุณแน่นอน”

“แล้วถ้านายวิ่งมารับแทนไม่ทันล่ะ? ถ้ากระสุนลูกนั้นมันพรากชีวิตฉันไปจริงๆ นายจะแก้แค้นให้ฉันไหม?” หลี่ฝางถาม สีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

สีหน้าของหวางเห้านิ่งไปเล็กน้อย ชัดเจน คำตอบของเขาก็คือไม่

หลี่ฝางส่ายหน้า มือหนาตบบ่าหวางเห้าเบาๆ “ช่างเถอะ นายไปเถอะหวางเห้า ไปหาชางสู่ ฉันไม่อยากทำให้นายลำบากใจ”

“เจ้านาย คุณ…” พอได้ยินคำนั้น สีหน้าของหวางเห้าก็เปลี่ยนแบบฉับพลัน

“เจ้านายหมายความว่ายังไงครับ?” ลมหายใจของหวางเห้าทั้งเร็วและแรงขึ้น

“ศูนย์อาบน้ำนั่นเป็นของนาย ส่วนแบ่งที่นายแย่งชิงมาจากมือของเสือก็เป็นของนาย แต่ต้องคืนถนนบาร์ให้ฉัน เพราะนั่นเป็นส่วนของฉัน ต่อจากนี้ซินปาจะเป็นคนดูแลถนนบาร์” หลี่ฝางขมวดคิ้วพูด

“คุณจะไล่ผมหรอ?”

หวางเห้าไม่อยากจะเชื่อหู ถึงยังไงก็ร่วมงานกันมาอย่างดีตั้งนาน จู่ๆหลี่ฝางก็จะไล่หวางเห้าไป นาทีนั้นหวางเห้าแทบไม่อยากจะยอมรับ

“ผมยังจะไปไหนได้อีก?” มุมปากของหวางเห้ายกยิ้ม

“ไปอยู่กับชางสู่ รับใช้มู่เสี่ยวไป๋ คนมีความสามารถอย่างนาย เมื่อไปถึงที่นู่นก็จะได้รับความสำคัญเช่นเดียวกับที่นี่” หลี่ฝางพูดเชิงเล่นลิ้น

“คุณกำลังจะบอกว่า ให้ผมเป็นศัตรูกับคุณ?” หวางเห้าขมวดคิ้ว

“ผมทำไม่ได้” หวางเห้าพูด

“หวางเห้า ฉันไม่เชื่อใจนายอีกแล้ว นับตั้งแต่วินาทีที่นายแอบไปเจอกับชาสู่ ฉันก็เริ่มสงสัยในตัวนาย ตอนแรกฉันยังหวังอยู่ลึกๆ แต่คำพูดของนายเมื่อกี้ บอกฉันอย่างชัดเจนว่าระหว่างฉันกำลังชางสู่ นายเลือกที่จะทิ้งฉันไปหาชางสู่”

“ฉันเป็นศัตรูตัวฉกาจของมู่เสี่ยวไป๋ มู่เสี่ยวไป๋จะต้องส่งชางสู่มาเล่นงานฉันแน่นอน ทหารรบที่แอบไปนัดพบกัน ถ้าหากนายเลือกจะปลดปลอกคอในวินาทีสำคัญ ฉันอาจจะตายด้วยกำมือของชางสู่ อย่ามาบอกว่าจะไม่ให้ชางสู่ทำร้ายฉัน นายคิดว่าตัวเองจะห้ามชางสู่ได้หรอ? ถ้าจะพูดให้ดี ชางสู่ถือว่าเป็นอาจารย์ของนายนี่? วิทยายุทธ์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในตัวนาย ชางสู่เป็นคนสอนไม่ใช่หรือไง?”

“ความสัมพันธ์ระหว่างพวกนาย ฉันรู้ดีว่ามันมากมายขนาดไหน”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นชา “นี่ไม่ใช่ข้อสอบที่สามารถเลือกตอบได้สองข้อ ระหว่างฉันกับชางสู่นายต้องเลือกแค่คนเดียว ชางสู่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตฉัน ส่วนฉันก็เช่นเดียวกัน เพราะแบบนั้นนายไม่มีทางจะทำตัวเป็นกลางในสงครามนี้ได้ เข้าใจหรือยัง?”

“ถ้านายอยากจะให้ฉันล้มเลิกที่จะจัดการกับชางสู่ หรือให้ชางสู่ไม่มาทำร้ายฉัน นายก็มีทางเลือกเดียวคือต้องไปโน้มน้าวให้ชางสู่หักหลังมู่เสี่ยวไป๋แล้วมารับใช้ฉัน เพียงแต่นายคิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหมล่ะ?”

หลี่ฝางพูดอย่างหงุดหงิด เขาจุดไฟบุหรี่มวนนึง

ความรู้สึกของหลี่ฝางตอนนี้ท้อแท้เป็นอย่างมาก ใครจะคิดว่าคนที่เขาอุ้มชูขึ้นมาได้ขนาดนี้กลับเลือกจะเดินจากเขาไป

วินาทีนี้หลี่ฝางควบคุมหวางเห้าต่อไปไม่ได้แล้ว

ตอนนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดของหลี่ฝาง ก็คือปล่อยให้หวางเห้าจากไป

สีหน้าของหวางเห้าเคร่งเครียดหนัก เขาหัวเราะแห้ง “เอาเถอะครับ ในเมื่อคุณชายหลี่พูดถึงขนาดนี้แล้ว ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร ยิ่งพูดไปก็มีแต่จะขายหน้ามากขึ้นเท่านั้น”

“คุณชายหลี่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาขอบคุณคุณมากที่คอยดูแล ถ้าไม่ใช่เพราะคุณก็คงไม่มีหวางเห้าในวันนี้”

“ส่วนศูนย์อาบน้ำเป็นความคิดของชางสู่ เพราะงั้นผมเลยตั้งใจจะคืนให้ชางสู่ ผมรู้ว่าในนั้นมีหุ้นของคุณอยู่ เงินก้อนนั้นผมจะหาวิธีเอามาคืนคุณให้ได้”

“ส่วนเรื่องส่วนแบ่งที่ผมแย่งมาจากเสือ เหอะๆ ความจริงผมก็แค่ฉวยโอกาสเสียบเข้ามาเท่านั้น ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสือ แต่เป็นส้าวส้วยต่างหากที่ล้มเสือได้ ผมก็เลยได้ส่วนแบ่งนี้มา เพราะฉะนั้นสัดส่วนของเสือในเมื่อส้าวส้วยเป็นคนแย่งมา ส่วนของเขาผมก็ไม่ขอรับ”

“ส่วนถนนบาร์ ผมเชื่อว่าพี่ซินปาจะดูแลได้ดี”

ได้ยินที่หวางเห้าพูดแบบนี้ หลี่ฝางก็นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย

ศูนย์อาบน้ำให้ชางสู่ ถนนบาร์ให้ซินปา สัดส่วนของเสือก็ยกให้ส้าวส้วย

หลี่ฝางขมวดคิ้วทันใด มองหน้าหวางเห้าแล้วถาม “แล้วนายล่ะ จะทำยังไงต่อ?”

“นายเล่นยกสัดส่วนทั้งหมดในเมืองเอกให้คนอื่น แล้วตัวนายจะทำยังไง?” หลี่ฝางมองหน้าหวางเห้าอย่างไม่เข้าใจนัก

หวางเขขยับหัวไหล่หลบพ้นมือหนา “คุณชายหลี่ ทั้งคุณทั้งชางสู่ล้วนก็เป็นคนที่ผมเคารพรัก จะให้ผมทำยังไง?”

“ผมยอมรับ สำหรับผมชางสู่สำคัญกว่านิดหน่อยก็จริง แต่จะให้ผมไปรับใช้มู่เสี่ยวไป๋แล้วเป็นศัตรูกับคุณ ผมทำไม่ลงจริงๆ”

“ยังไม่พูดว่าผมชอบขี้หน้าคนอย่างมู่เสี่ยวไป๋หรือเปล่า ต่อให้มองหน้าเขาได้ ผมก็ไม่อาจไปรับใช้เขาอยู่ดี ผมกับซินปาเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เราเพิ่งจะทำพิธีเป็นพี่น้องร่วมสาบานเมื่อไม่กี่วันก่อน ในขณะที่เฉินฝูเซิงก็มักจะมาดื่มที่บ้านผมบ่อยๆ เขาคนนี้ก็เป็นคนใช้ได้”

“ถึงผมจะไม่ได้สนิทกับหวางเสี่ยวหยวนมากขนาดนั้น แต่เราก็เคยพูดคุยกันเนิ่นนานอยู่ครั้งนึง”

“เหอะๆ ถ้าผมไปซบอกมู่เสี่ยวไป๋ ก็เท่ากับผมกลายเป็นศัตรูของพวกเขา เป็นศัตรูพี่น้องร่วมสาบาน เป็นศัตรูเพื่อนที่เพิ่งจะเริ่มทำความรู้จักกันเองเนี่ยนะ?”

“ผมทำไม่ได้ เชื่อว่าซินปา กับเฉินฝูเซิงเองก็คงทำไม่ได้เหมือนกัน”

“ทำไมผมต้องฝืนตัวเองเข้าไปอยู่ในห้วงความทรมานแบบนั้น?”

หวางเห้าหัวเราะ “เพราะงั้น สำหรับผมแล้ว การออกมาถึงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด”

“ถ้านายถอนตัว แล้วจะไปอยู่ที่ไหนต่อ?”

หลี่ฝางมองหวางเห้า แล้วถามต่อ “แล้วพวกพี่น้องที่เหลือของนายจะทำยังไง? หรือพวกนั้นยอมถอดเขี้ยวเล็บแล้วกลับไปทำนางั้นหรอ?”

“ครับ กลับบ้านเกิด…”

หวางเห้าฉีกยิ้มมุมปาก “ผมได้ยินว่าที่ตงไห่เกิดปัญหาใหญ่ ลูกพี่หลินประสบอุบัติเหตุ ลูกน้องคนสนิทแค่ไม่กี่คนก็พร้อมใจกันหักหลัง ตอนนี้ไม่รู้ว่าลูกพี่หลินจะเป็นหรือตาย ส่วนหมาจื่อก็ขึ้นรับตำแหน่งแทน แต่คนจำนวนมากไม่เชื่อฟังหมาจื่อนัก เพราะงั้นตงไห่ในเวลานี้กำลังเกิดความโกลาหลอย่างมาก เขตไฟแดงที่ผมเคยอาศัยอยู่ หลังจากที่ถูกตู้ต้าไห่กวาดซื้อที่แล้วสร้างขึ้นใหม่ ก็โดนเผาจนมอด ตู้ต้าไห่ตาย ลูกชายของเขาตู้เฟยก็หายตัวอย่างลึกลับ พื้นที่ตรงนั้นก็เลยเป็นที่ดินเปล่าไร้เจ้าของไป”

หวางเห้าหัวเราะ “ผมอยากจะกลับไปนั่น พาเหล่าพี่น้องไปเริ่มต้นใช้ชีวิตแบบวิถีดั้งเดิมของเรา ถึงจะหาเงินได้น้อย แต่ก็มีความสุขได้เหมือนกัน”

“เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ พะวงอันตรายได้น้อยหน่อย”

เมื่อหวางเห้าพูดจบ ในใจของหลี่ฝางก็แฝงความรู้สึกผิดอยู่นิดหน่อย

ลึกๆในใจของหลี่ฝาง ไม่อยากให้หวางเห้าจากไป…

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท