“ทะเลาะได้ จะทุบตีจะด่าว่าก็ได้ แต่ผมรับไม่ได้กับสงครามเย็น แล้วก็ยิ่งรับไม่ได้กับการเข้ามาของชายอื่น ผมว่าคุณเป็นผู้ชาย น่าจะเข้าใจเหตุผลนี้นะ”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว ส่ายหน้าพูดว่า:“วิธีนี้ ผมรับไม่ได้ที่สุด ทะเลาะกัน ก็เอาผู้ชายอื่นมาปลอบใจตัวเอง?”
“ตอนนี้ผมไม่กล้าคิดเลย ลู่หลุ่ยกำลังทำอะไรอยู่ ไปที่นั่น ……”
หลี่ฝางนึกถึงหนังเรื่องหนึ่ง ที่ชื่อFleet of Time ตอนนั้นพระเอกนางเอกทะเลาะกัน จากนั้นนางเอกก็โมโห ไปหาผู้ชายมาคนหนึ่ง แล้วไปเปิดห้องด้วย
คิดขึ้นมาแล้ว สมองของหลี่ฝาง ก็ชาทันที
“อย่าคิดเหลวไหล ผมให้เหมิงเหมิงติดต่อเธอแล้ว ถ้ามีข่าว จะรีบแจ้งคุณทันที”หลี่ซ่วยซ่วยเข้ามาตบไหล่หลี่ฝาง พูดว่า:“ผู้หญิง ต้องการใช้เวลาไปปกป้องดูแล ลู่หลุ่ยไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ถึงแม้คุณจะมีเงิน แต่เธอไม่ได้ชอบเงิน ตอนนี้คุณสองคนอยู่ในช่วงรักร้อนแรง คบกันเพิ่งไม่นาน ต้องอยู่ข้างๆกัน วันนั้นที่พวกเรากินข้าวด้วยกัน ลู่หลุ่ยดื่มไปไม่น้อย ตอนนั้นเธอบ่นกับผมว่า คู่รักคนอื่นๆ ล้วนแต่เป็นคู่รักที่มีความสัมพันธ์ดีในโรงเรียน แต่พวกคุณ ปกติแค่วิดีโออันหนึ่ง ก็ยังเปิดได้ไม่ถึงนาที เห็นได้ชัดว่าอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เมืองเดียวกัน แต่ทำเหมือนกับรักทางไกล”
“ปกติลู่หลุ่ยจะพูดน้อย เงียบมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ต้องการอะไร”
หลี่ซ่วยซ่วยพูด:“หลี่ฝาง พูดตรงๆนะ ความใส่ใจและปกป้องต่อลู่หลุ่ย คุณมีให้น้อยไป คุณรู้ไหมคุณให้ความรู้สึกพวกเราอย่างไร?ในมุมมองของคนนอกแล้ว คุณกำลังมีหญิงอื่นอยู่ข้างนอก”
“ผมกับหวางเสี่ยวโก๋เคยถกเถียงกัน แต่ว่า พวกเราอยู่ต่อหน้าลู่หลุ่ย ไม่หยุดพูดชมคุณ คิดหาเหตุผลทุกอย่างให้คุณหลุดพ้น”
“ลู่หลุ่ยเป็นผู้หญิงที่ดี ตอนที่คุณเสียเธอไปจริงๆ จะต้องเสียใจแน่”หลี่ซ่วยซ่วยพูด
หลี่ฝางพยักหน้า เข้าใจเหตุผลนี้ทันที
ถ้าพูดถึงเลิก หลี่ฝางไม่ยอมเห็นด้วยแน่ ยังไงนี่ก็คือการเข้าใจผิด
สำหรับตอนนี้ หลี่ฝางจะเอาลู่หลุ่ยกลับมา และตอนนี้ หลี่ฝางก็ได้รับสายของเหมิงเหมิง เหมิงเหมิงพูดที่ปลายสาย:“หลี่ฝาง ลู่หลุ่ยเกิดเรื่องแล้ว”
“เกิดเรื่อง?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว รับสายไป ก็เดินไปที่ห้องของเหมิงเหมิงไปด้วย
มาที่ห้องของเหมิงเหมิง หลี่ฝางถามต่อหน้า:“รีบบอกผมมา ลู่หลุ่ยเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“ลู่หลุ่ยประสบอุบัติเหตุ”
เหมิงเหมิงพูด:“นี่คือตำแหน่งของเธอ”
หลี่ฝางแย่งโทรศัพท์ของเหมิงเหมิงมา มองดู แล้วจากนั้นก็ยื่นให้หลี่ซ่วยซ่วย ถามว่า:“รู้ไหมที่นี่ที่ไหน?”
“รู้”
ขณะที่หลี่ซ่วยซ่วยพยักหน้า หลี่ฝางก็ดึงแขนของเขา มาที่รถแล้วเข้าไป ส่วนถังหยู่ซวนเห็นหลี่ฝางออกไป ก็รีบวิ่งเข้ามา
“ไปทำอะไร?”ถังหยู่ซวนถาม
“ลู่หลุ่ยเกิดเรื่องนิดหน่อย ผมต้องรีบไปจัดการ”หลี่ฝางพูด
“ผมจะไปกับคุณด้วย”ถังหยู่ซวนก็เข้าไปในรถ
เวลานี้ ผู้หญิงที่ดูอายุไม่น้อยแล้วก็วิ่งเข้ามา ตะโกนอยู่หลายครั้งติดกัน หลี่ฝางไม่ทันได้หยุดรถ พอขับออกไป หลี่ซ่วยซ่วยจึงพูดอย่างรู้สึกผิดหน่อยๆ:“นั่นแม่ผมเอง”
“ขอโทษนะ ซ่วยซ่วย รอจบเรื่องนี้ไป ผมจะไปบ้านคุณเอง แล้วไปขอโทษกับแม่คุณ”หลี่ฝางพูด
หลี่ซ่วยซ่วยหัวเราะ บอกว่าไม่ต้องๆ ส่วนหลี่ฝางตอนนี้ก็เร่งความเร็วรถ แล้วเปิดแผนที่นำทางในโทรศัพท์ แล้วเริ่ม หลี่ซ่วยซ่วยที่อยู่ข้างๆ ก็ชี้ไปที่ถนนเล็กๆ บอกว่าถนนสายนี้ใกล้กว่า
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง หลี่ฝางกับหลี่ซ่วยซ่วยและคนอื่น มาที่สถานที่เกิดเหตุ และระหว่างทาง หลี่ฝางก็ส่งข้อความให้ลู่หลุ่ย โทรคอล แต่ลู่หลุ่ยไม่รับสาย
แน่นอนว่า หลี่ฝางใช้โทรศัพท์ของเหมิงเหมิง
ถึงสถานที่เกิดเหตุ หลี่ฝางมองไปทั่ว ก็ยังไม่เห็นร่องรอยของลู่หลุ่ย หลี่ฝางหยุดรถลง โทรหาลู่หลุ่ย
โทรติด หลี่ฝางจึงถามว่า:“คุณอยู่ไหน ลู่หลุ่ย?”
“ผู้ชาย?เหอะเหอะ ผู้ชายชื่อเหมิงเหมิงเนี่ยนะ นี่ตั้งชื่ออะไรกันเนี่ย ช่างเถอะ ……ผมถามคุณหน่อย คุณคือเพื่อนของสาวน้อยคนนี้ใช่ไหม สาวน้อยคนนี้กับแฟนของเธอเพิ่งขับรถชนพ่อแม่ผม คุณรีบเอาเงินห้าหมื่นมาให้ผม ไม่อย่างนั้น ผมจะแจ้งความ”
อีกฝ่ายพูด
หลี่ฝางขมวดคิ้วทันที:“สถานที่”
อีกฝ่ายบอกสถานที่ไป พอพูดสถานที่นี้มา สีหน้าของหลี่ซ่วยซ่วย ก็ตื่นตระหนกทันที
“แย่แล้ว พวกเขาถูกต้นตุ๋น”
“ถนนสายนี้ เป็นทางเดียวที่จะขึ้นทางด่วน ลูกน้องของแมงป่องส่วนหนึ่ง ชอบนั่งหมอบอยู่ตรงนี้ จากนั้นก็ทำการต้มตุ๋น โดยเฉพาะกับทะเบียนรถที่มาจากต่างพื้นที่”
หลี่ซ่วยซ่วยพูด:“ลู่หลุ่ยจะต้องถูกคนกลุ่มนี้จ้องไว้แน่”
“พวกเขาอยู่ข้างๆนี่แหละ”หลี่ซ่วยซ่วยพูด:“พวกเขาแค่จะเอาเงิน วางใจเถอะ”
หลี่ฝางตอบอือ จากนั้นตามหลี่ซ่วยซ่วย มาที่ร้านขายเนื้อที่หนึ่ง ธุรกิจขายเนื้อหมูนี้แย่มาก ไม่มีใครมาซื้อเนื้อเลย และที่ขายเนื้อ ก็เป็นคนแก่กับคนหนุ่ม
จากข้อมูลที่หลี่ซ่วยซ่วยบอก คนแก่นี้ รับหน้าที่ต้มตุ๋นโดยเฉพาะ ชื่อว่าเฮียขายหมูหรง เป็นนักเลงที่อยู่ภายใต้ของแมงป่อง และมีลูกน้องอีกสองสามคน ขายเนื้อเป็นเพียงแค่การเสแสร้ง แต่ที่จริงแล้ว พวกเขาทำการต้มตุ๋นเป็นแก๊ง
หลี่ฝางมาที่แผงขายหมู เฮียขายหมูหรงเหลือบมองหลี่ฝาง:“ไง พ่อหนุ่ม ซื้อเนื้อเหรอ”
“เนื้อหมูของร้านเรา สดที่สุดแล้ว ต้องการกี่กรัมล่ะ?”
เฮียขายหมูหรงถือมีดวิบวับขึ้นมา เดินไปที่แผงขายหมู หลี่ฝางพยักหน้า พูด:“เอาเงินห้าหมื่นมา”
เฮียขายหมูหรงได้ยินคำนี้ สายตาก็ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที
“เงินห้าหมื่น?เหอะเหอะ พวกคุณมาไวมาก ดูเหมือนสาวน้อยคนนั้นจะเตือนพวกคุณล่วงหน้าแล้วสินะ”
เฮียขายหมูหรงตะโกนไป จากนั้นข้างในห้อง ก็มีวัยรุ่นสามคนปรากฏตัว ในมือของวัยรุ่นทั้งสามยังถือไพ่สองสามใบ ชัดเจนว่าเล่นไพ่มาจากในห้อง
ส่วนชายแก่ที่เดิมทีนั่งตากแดดนั้น ตอนนี้จู่ๆก็นอนลงไปที่พื้น แกล้งทำเป็นตกใจ
“ดูสิ พ่อผมเพิ่งถูกเพื่อนคุณชน คุณดูสิพ่อผมอายุมากขนาดนี้แล้ว ถึงแม้จะไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็ต้องใช้เงินมาก ที่สำคัญคือการตรวจนี้ ก็ไม่แน่ว่าจะตรวจเจอโรคกี่โรค แบบนี้ไหม พวกคุณเอาให้ผมห้าหมื่น เรื่องนี้ พวกเราเก็บไว้เป็นส่วนตัว ว่าไง?”
เฮียขายหมูหรงมองหลี่ฝาง แล้วหัวเราะหึหึ
หลี่ฝางถาม:“เพื่อนผมล่ะ?”
เฮียขายหมูหรงชี้ไปที่ข้างๆ หลี่ฝางเห็นรถสีดำ ข้างในรถสีดำนี้ ที่นั่งอยู่ เป็นลู่หลุ่ยกับเฉินเสี้ยว
แค่เฉินเสี้ยวในตอนนี้ ถูกคนจับแขนขาไว้
“เพื่อนคุณไม่เป็นไร ผมกลัวพวกเขาหนี เลยมัดแขนขาพวกเขาไว้ แต่ว่า ถ้าคุณไม่ให้เงินล่ะก็ พวกเขาสองคน……”
เฮียขายหมูหรงหัวเราะหึหึ:“ผลที่ตามมาคุณน่าจะเข้าใจ”
“ช่างเถอะ แบบนี้ละกัน พ่อของคุณดูแล้วเจ็บหนัก แบบนี้ไหม พวกเราเรียกรถพยาบาลก่อน จะได้ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต คุณกับผมคงรับผิดชอบไม่ไหว”หลี่ฝางพูดไป ก็เริ่มโทรเบอร์120
เฮียขายหมูหรงในตอนนี้กลับขมวดคิ้ว เข้ามาแย่งโทรศัพท์ของหลี่ฝาง:“คุณมันโง่จริงๆแม่เอ๊ย ยังแกล้งทำเป็นงงกับผมอีก”
ความตั้งใจของเฮียขายหมูหรง แสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
และเมื่อกี๊ชายแก่นี้ยังดีๆ จู่ๆกลับล้มลง คนโง่ยังดูออกว่า นี่คือการเสแสร้ง
พวกเขาแทบจะแสดงตัวเองออกมาโดยใช้การปฏิบัติจริงๆ นั่นก็คือแก๊งต้มตุ๋น
หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“คุณสะใจหน่อยดีกว่าไหม พูดไปตรงๆว่า ถนนสายนี้เป็นของคุณ อยากเข้าไป ก็ต้องจ่ายค่าผ่านทางห้าหมื่น”
“เหอะเหอะ หลายปีมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นว่า มีนักเลงเล่นแบบนี้ด้วย”หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย
“น้องชาย ฟังน้ำเสียงคุณแล้ว คุณไม่คิดจะให้เงิน แต่คิดจะเล่นกับพวกเราเหรอ?”
เฮียขายหมูหรงหัวเราะอย่างเย็นชา:“รู้ไหมเราเป็นนักเลงกับใคร พูดแล้ว กลัวคุณจะตกใจได้!”
“พี่ชายผมชื่อสวีเจ๋ และสูงสุด ก็คือแมงป่อง เหอะเหอะ ทั้งอำเภอหลิน คุณรู้ไหมเชื่อใครที่สุด?ก็ลูกพี่แมงป่องพวกเราไงที่พูดอะไรก็ตามนั้น ดังนั้นไม่ใช่ว่าผมขู่คุณนะ เพื่อนคุณอยู่ในมือของผม ก็ต้องยอมรับชะตากรรม”
“เอาเงินมาให้ดีๆ ผมรับรองว่าพวกเขาจะปลอดภัย ไม่อย่างนั้น เห็นจุดจบของพ่อผมไหม ถ้าคุณไม่ให้เงิน นี่ก็จะเป็นจุดจบของเพื่อนคุณ”
เฮียขายหมูหรงพูดเบาๆ:“แน่นอน พ่อผมเสแสร้ง แต่เพื่อนคุณ ผมจะรับประกันว่าพวกเขาจล้มไปที่พื้น ยืนไม่ขึ้นมาอีก”
“สวีเจ๋?”หลี่ฝางยิ้มให้:“ที่ปล่อยเงินกู้ระบบไหม?”
“คุณรู้จักพี่เจ๋?”ทันใดนั้น สีหน้าของเฮียขายหมูหรง ก็เปลี่ยนทันที
“เคยทำธุระกับเขาอยู่น่ะ”
หลี่ฝางพูดเบาๆ ส่วนสีหน้าของเฮียขายหมูหรง ก็กังวลหน่อยๆ เขาแค่นักเลงตัวเล็กๆ เล็กจนไม่อาจเล็กกว่านี้ได้แล้ว ปกติแล้ว เขาก็แค่รังแกคนที่ไม่มีทางสู้
เดือนหนึ่ง โดยเฉลี่ยเขาจะต้มตุ๋นสักสองครั้ง หมายความว่าครึ่งเดือนถึงจะเจอเหยื่อสักราย
ไม่ง่ายที่เขาจะเจอลู่หลุ่ยกับเฉินเสี้ยว ชายหนุ่มหญิงสาววัยรุ่นที่อ่อนประสบการณ์แบบนี้ ตอนที่คิดจะหลอกเอาเงินก้อนหนึ่ง ใครจะไปคิดว่า จู่ๆหลี่ฝางจะบอกเขาว่า รู้จักสวีเจ๋
หรือว่า เรื่องนี้ต้องจบลงอีกแล้วแม่เอ๊ย
เฮียขายหมูหรงขมวดคิ้ว พูดอย่างเซ็งๆ:“เดี๋ยวก่อน ตอนนี้ผมจะโทรหาพี่เจ๋ น้องชาย คุณชื่ออะไร?”
“คุณแค่โทรบอกสวีเจ๋ ว่าผมคือคนที่เมื่อคืนให้เงินเขาที่เคเอฟซี ก็พอแล้ว”
หลี่ฝางพูดเบาๆ
พูดจบ หลี่ฝางก็เดินไปทางด้านลู่หลุ่ย
มาข้างหน้ารถ หลี่ฝางมองลู่หลุ่ยแวบหนึ่ง สีหน้าของลู่หลุ่ย ที่จริงตื่นตระหนกมากๆ แต่หลังจากเห็นหลี่ฝาง ก็ดูซับซ้อนขึ้นมาทันที
รู้สึกผิดหน่อยๆก่อน จากนั้นก็เย็นชาและโมโหอีก
“ลู่หลุ่ย เหมาะสมไหม?เราสองคนแค่เข้าใจผิดกันเล็กๆน้อยๆ คุณก็ให้ไอ้ระยำมารับคุณตั้งไกลแสนไกล”หลี่ฝางถามอย่างระงับความโกรธไว้:“ผมทำอะไรนอกลู่นอกทาง ทำให้คุณไม่สามารถให้อภัยได้เหรอ?คุณเลยไปจากผม ไปอยู่กับเขา?”
หลี่ฝางถามจบ ก็ดึงเทปกาวที่ปากของลู่หลุ่ยออก ส่วนลู่หลุ่ยหายใจเข้าสงที ก็พูด:“ตัวคุณทำอะไรไป คุณรู้ดีที่สุด”
“แล้วเรื่องอะไรล่ะที่คุณเรียกเหยนเสี่ยวน่าขับรถรับคุณได้ แล้วฉันให้เฉินเสี้ยวมารับฉันบ้างไม่ได้เหรอไง?ต่างกันตรงไหนเหรอ?”
ลู่หลุ่ยพูดไปตรงๆ
หลี่ฝางจุกหน่อยๆ เป็นลู่หลุ่ยที่เริ่มเอ่ยปากพูดเองจริงๆ เรียกเฉินเสี้ยวมารับเธอ
หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดว่า:“ผมกับเหยนเสี่ยวน่าไม่มีอะไรเลย”
“นี่ต้องถามคุณเอง”ลู่หลุ่ยไม่เชื่อหลี่ฝางเลย:“ดึกๆดื่นๆ พวกคุณชายหญิงอยู่ข้างนอกสองต่อสอง ไม่รับสายฉัน คนโง่ยังรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ถ้าผมมีอะไรกับเหยนเสี่ยวน่าจริง ทำไมต้องพาคุณมาด้วย?ลู่หลุ่ย คุณยังจำที่คุณพูดได้ไหม ระหว่างคนรักกันนั้น ที่สำคัญก็คือ ความเชื่อใจระหว่างกันของทั้งสองฝ่าย แต่ทำไมคุณจู่ก็ไม่เชื่อผมแล้วล่ะ”หลี่ฝางถาม
ถ้าลู่หลุ่ยสงสัยตัวเองกับฉินวี่เฟย ตัวเองก็จะยอม แต่ที่สำคัญ สงสัยตัวเองกับเหยนเสี่ยวน่า……
ปรักปรำชัดๆ
“เพราะคุณไม่คู่ควรให้ฉันต้องเชื่อใจ”ลู่หลุ่ยขมวดคิ้วพูด
หลี่ฝางไม่อยากหยุดความสัมพันธ์กับลู่หลุ่ยต่อแล้ว เขาเดินไปที่อีกด้านของรถ มาตรงหน้าของเฉินเสี้ยว ยื่นมือไปคว้าคอเสื้อของเขา ดึงเขาออกมาจากรถ
“คุณรู้ไหมลู่หลุ่ยมีแฟนแล้ว?”
หลี่ฝางปล่อยหมัดไปที่หน้าของเฉินเสี้ยว จนล้มลงพื้น ส่วนลู่หลุ่ยที่อยู่ในรถ ก็ตะโกนให้หลี่ฝางหยุด