NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่759 มู่เสี่ยวไป๋มาแล้ว

บทที่759 มู่เสี่ยวไป๋มาแล้ว

ซือถูเฟยขัดขืนไปมาแต่ไม่เป็นผล

ซือถูเฟยไม่อยากจะเชื่อ เขาเคยเรียนต่อสู้ แม้ไม่เก่งนักแต่รับมือหลี่ฝางได้

ยังไงซะตลอดเวลาที่ผ่านมาหลี่ฝางก็ต่อสู้ไม่เป็น ระดับการต่อสู้เป็นได้แค่อันธพาลกระจอกๆที่ไม่ได้มาตรฐาน

แต่ตอนนี้ซือถูเฟยที่ถูกหลี่ฝางบีบคออยู่ กลับไม่มีทางเลือกอื่นเลยแม้แต่น้อย

หลี่ฝางรู้สึกร่างกายเต็มไปด้วยพละกำลัง ก่อนหน้านี้หลี่ฝางยังคิดว่ามันแค่รู้สึกหลอนไปเอง แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องจริง

ความรู้สึกแบบนี้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ

หลี่ฝางยิ้มกว้าง:“แค่ผมคนเดียว คนทั้ง4ตระกูลใหญ่ ก็ไม่คิดจะปล่อยไป”

“หนี้เลือดในอดีต แน่นอนว่าวันนี้ต้องชดใช้ด้วยเลือด”

หลี่ฝางออกแรงแล้วโยนซือถูเฟยกระเด็นลอยออกไป

“นี่มัน……”

ตอนนี้ไม่ใช่แค่ซินปา แม้แต่ถังหยู่ซวนก็ตกตะลึงด้วย

แต่สีหน้าของโหจื่อไม่ได้ดูตกใจเท่าไหร่ เหมือนเดาออกมาก่อนแล้ว

“ลูกพี่ใหญ่สำเร็จแล้ว”

โหจื่อสีหน้าดูซับซ้อน เขาขมวดคิ้ว เห็นหลี่ฝางแข็งแกร่งขึ้น แต่กลับไม่ดุดีใจ

“อาจารย์ เสี่ยวฝางเป็นอะไรไป?”

ถังหยู่ซวนถามด้วยความตกใจ:“ผ่านไปแค่ไม่กี่วันเอง แต่เขาเปลี่ยนไปเหมือนคนละคน หรือว่าเขาก็……”

โหจื่อส่ายหน้าพลางพูด:“คุณชายเขาไม่ใช่”

“งั้นเสี่ยวฝางแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไงกัน?”ถังหยู่ซวนถามต่อ

โหจื่อเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น:“มันเป็นการสืบทอดของเลือด เมื่อก่อนเคยมีสมมุติฐานแบบนี้ แต่นี่เป็นแค่ทฤษฎีและสมมติฐานเท่านั้น ยังไม่เคยมีใครลองมาก่อน”

“เอาเถอะ ต่อไปก็จะรู้เอง ไม่ต้องถามแล้ว”เพราะยังไงก็อยู่ต่อหน้าหลี่ฝาง โหจื่อไม่อยากพูดอะไรมาก กลัวหลี่ฝางจะรู้ความจริง

ถังหยู่ซวนไม่ถามอย่างรู้จักวางตัว แต่พอเห็นหลี่ฝางแข็งแกร่งขึ้น ถังหยู่ซวนดีใจกับเขาด้วยใจจริง

หลอซ่าและส้าวส้วย เป็นสองคนที่ดัดแปลงพันธุกรรมได้ประสบความสำเร็จมากที่สุด

และคนที่เคยดัดแปลงพันธุกรรม สิ่งแรกที่เปลี่ยนไปคือเลือดของเขา กล่าวคือเลือดของพวกเขาเป็นพื้นฐาน

หลอซ่าเจาะเลือดตัวเองเหลือไว้ส่วนหนึ่งเพื่อให้หลี่ฝาง ลูกชายแท้ๆของตน และจากการแพร่กระจายของเลือดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เลือด กระดูก กล้ามเนื้อ และส่วนต่างๆในร่างกายหลี่ฝาง ได้รับการชำระล้างด้วยยาปรับปรุง

ดังนั้นพละกำลังที่หลี่ฝางมีในตอนนี้ พูดได้ว่าล้วนสืบทอดมาจากหลอซ่า

หลี่ฝางพูดกับซินปา:“พาซือถูเฟยไปชั้นบนสุดของไนทท์คลับ แล้วโยนลงไป”

“คุณชาย ยิงหรือแทงเขาให้ตายในคราเดียวก็พอแล้ว ถ้าโยนลงมาจากชั้นบนสุดจริง มีผลกระทบกับธุรกิจของไนต์คลับเราแน่ และยังทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็นอีกมาก”ซินปาโน้มน้าว

หลี่ฝางจ้องซินปา:“ทำตามที่ฉันบอก”

“จำเอาไว้ ฉันต่างหากที่เป็นเจ้านาย”

ตอนนี้หลี่ฝางต้องการแก้แค้น แต่ที่ซินปาเห็นคือธุรกิจ

ซินปาถอนหายใจ แม้รู้สึกว่าหลี่ฝางทำไม่ถูกต้อง แต่ก็ทำได้เพียงทำตามที่สั่ง

วินาทีที่ซือถูเฟยถูกโยนลงมา มีคนเห็นจำนวนไม่น้อยเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของทั้ง4ตระกูลใหญ่

มู่เสี่ยวไป๋และมู่หรงฉางเฟิงที่นั่งอยู่ในรถ เมื่อได้ยินเสียงดังปัง ทั้งสองก็ลงจากรถ

“รีบไปดู เกิดอะไรขึ้น?”มู่หรงฉางเฟิงถาม

ทันใดนั้นมีลูกน้องคนหนึ่งมารายงาน:“คุณชาย เป็นคุณชายซือถูครับ เขาโดนโยนลงมาจากชั้นบนสุด”

“ฮ่าๆ เจ้าน่าเศร้าผู้นี้”มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะเบาๆ สีหน้าไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย

“ทำให้ตระกูลตงฟางไม่พอใจ สมน้ำหน้า”

มู่หรงฉางเฟิงพูด

“พี่มู่หรง ตระกูลตงฟางนี่ตกลงเป็นมายังไงกันแน่ ยังไงซือถูเฟยก็เป็นทายาทตระกูลตระกูลซือถู แค่มีเรื่องกับตระกูลตงฟาง ถึงกับต้องตายเลยเหรอ?”

“เป็นตระกูลใหญ่ทั้ง4เหมือนกัน ทำไมถึงได้ต่างกันขนาดนี้?”มู่เสี่ยวไป๋ถามด้วยความสงสัย

“นายจะไปรู้อะไร?จำเอาไว้ ตระกูลตงฟางเป็นตระกูลที่อย่ามีเรื่องด้วย ตอนนั้นที่ทำให้หลอซ่าหนีไปก็เป็นตระกูลตงฟาง ตระกูลตงฟางบัญชาการทั้งนั้น”

มู่หรงฉางเฟิงพูด:“ถ้าให้พูดว่าเมืองเอกมีแค่ราชาคนเดียว นั่นก็ต้องเป็นผู้นำตระกูลตงฟางแล้วล่ะ”

“เป็นแบบนั้นแล้ว ถ้าตระกูลตงฟางบอกให้หลี่ฝางตายวันนี้ งั้นหลี่ฝางก็ต้องตายวันนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย?”มู่เสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างร้ายกาจ

“ใช่นะสิ ครั้งนี้ทำให้ตระกูลตงฟางเดือดมาก ฉันได้ยินมาว่าไม่กี่วันก่อนที่วิลล่าจูเซียน ตงฟางหวั่นเอ๋อตายแล้ว เธอเป็นถึงลูกสุดที่รักของตระกูลตงฟาง และจนถึงตอนนี้ เธอเป็นเพียงคนเดียวในตระกูลตงฟางที่เผยหน้าต่อหน้าเรา เธอตายแล้วตระกูลตงฟางต้องแก้แค้นแน่นอน”

“และคนที่ทำให้ตงฟางหวั่นเอ๋อต้องตาย แน่นอนว่าเป็นตระกูลหลี่”

มู่หรงฉางเฟิงมองมู่เสี่ยวไป๋พลางพูด:“ถ้าคืนนี้แกฆ่าหลี่ฝางได้สำเร็จ นายจะได้เป็นคนของ4ตระกูลใหญ่อย่างเป็นทางการ เมื่อถึงตอนนั้นนายจะระดมคนและพลังที่นายมองไม่เห็นได้มากมาย”

“จางกงหมิงจับพ่อแม่นายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?พอกลายเป็นคนของ4ตระกูลใหญ่ แน่นอนว่าจะมีคนจำนวนมากไปช่วยพ่อแม่นาย”

มู่หรงฉางเฟิงพูด

มู่เสี่ยวไป๋พยักหน้าพลางพูดด้วยความตื่นเต้นสุดๆ:“ผมจะเด็ดหัวหลี่ฝางให้ได้”

พูดจบมู่เสี่ยวไป๋ก็นำคนเดินเข้าไปในไนต์คลับ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท